“เราบอกคู่แข่งทางอ้อมว่า เขาลด เราก็ลด ลดเท่าไหร่ ก็ลดเท่านั้น เราหยุดถ้าเขาหยุด”
ความหมายชัดเจนเสียยิ่งกว่าชัดว่า “ไม่ยอม” แม้จะออกมาจากน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วนิ่มๆ ของ “ชำนาญ เมธปรีชากุล” ที่เพิ่งข้ามห้วยมาจากธุรกิจห้างสรรพสินค้า “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” เข้ารับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสได้เพียงเดือนเดียว แต่ด้วยถ้อยความที่กร้าวขนาดเพียงพอแสดงให้เห็นว่า “สงครามราคาค่าโทรศัพท์มือถือเริ่มระอุขึ้นอีกครั้ง”
ยุทธศาสตร์ของเอไอเอสตั้งแนวรบทั้งการหาลูกค้าใหม่ และสกัดเลือดที่กำลังไหลทะลักให้หยุด ด้วยการออกโปรโมชั่นเรียกขวัญและกำลังใจไม่ให้ลูกค้าเก่าเปลี่ยนใจย้ายไปอยู่ค่ายอื่น และหาลูกค้าใหม่เข้าเครือข่าย
“เหมือนกับคนเราเป็นแฟนกัน ที่เราไม่ควรคิดว่าจะเลิกกันเมื่อไหร่ดี แต่เราควรทำให้เกิดความรู้สึกรักกันมากขึ้นไม่ดีกว่าเหรอ”
“ชำนาญ” บอกตามแนวถนัด ที่มักเปรียบเทียบแผนการตลาดกับอารมณ์ความรู้สึกในเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวและความรัก แคมเปญที่ออกมาเพื่อรักษาฐานลูกค้า 16.5 ล้านราย หลังจากที่ความกลัวเป็นจริงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่ยอดลูกค้าวูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเพิ่มสุทธิเพียง 33,600 รายเท่านั้น จากปกติเคยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 แสนราย
เหตุผลที่ผู้บริหารเอไอเอสชี้แจงประกอบด้วย
- กระแสบอยคอตสินค้ากลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น
- การเมืองอึมครึม
- ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คนใช้โทรศัพท์น้อยลง และ
- คู่แข่งรุกทำตลาดอย่างหนัก
ช่วงต้นเดือนเมษายน หลังเลือกตั้งจบลง และพรรคไทยรักไทยได้คะแนนเสียงกว่า 16 ล้านเสียง เอไอเอสจึงเร่งเครื่องออกแคมเปญใหม่มาเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 แคมเปญเลยทีเดียว มีทั้งแบบโทรชั่วโมงละ 2 บาท เพื่อดึงลูกค้าใหม่เข้าเครือข่าย หรือแบบโทรนาทีแรก 3 บาท นาทีที่ 2 และ 3 นาทีละ 1 บาท จากนั้นไม่คิดค่าโทร หรือโทรเป็นชั่วโมงจ่าย 5 บาท สำหรับลูกค้าเก่า หวังพลิกยอดลูกค้าให้ขึ้นมาอยู่ในหลักแสนอย่างที่เคยเป็น
ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกของปี คู่แข่งทั้งดีแทคและทรูมูฟต่างมียอดลูกค้าอยู่ในระดับเดือนละหลักแสนราย โดยเฉพาะดีแทคที่อัดกิจกรรมเป็นระยะ เว้นช่วงบ้างในช่วงเดือนมีนาคม แต่ทุกครั้งที่ออกโปรโมชั่นใหม่ก็ต้องสร้างสีสันงานแถลงข่าวด้วยการให้ผู้บริหารออกมาร้องรำทำเพลง ในแบบที่ “ชำนาญ” บอกว่าไม่มีวันที่เขาจะเต้นแสดงอย่างที่คู่แข่งทำ เพราะจุดยืนของเขาคือต้องการแสดงความจริงใจมากกว่าการแสดงบนเวที สำหรับทรูมูฟก็ตัดราคาไว้ก่อน จนดึงแคมเปญบุฟเฟ่ต์มาอยู่ต่ำสุดที่ 199 บาท โทรได้ฟรี 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น
ทิ้งท้ายก่อนจบแถลงข่าว ทีมผู้บริหารเอไอเอสยังฝังทุ่นไว้ในสนามเพิ่มโดยบอกว่า “เอไอเอสจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะนี่คือการเริ่มต้นแผนรุกเท่านั้น”
ยอดลูกค้าเอไอเอส (จำนวนราย) | ||||
---|---|---|---|---|
เดือน | Postpaid | Prepaid | Total | เพิ่มขึ้น |
ธันวาคม 2548 | 1,999,700 | 14,409,200 | 16,408,900 | 115,100 |
มกราคม 2549 | 1,978,800 | 14,533,800 | 16,512,600 | 103,700 |
กุมภาพันธ์ 2549 | 1,953,000 | 14,593,200 | 16,546,200 | 33,600 |
เว็บไซต์