คุณจำให้ดีว่า เมืองไทยประกันชีวิต นะ! ไม่ใช่ ไทยประกันชีวิต…คำพูดนี้ล่ะที่ สาระ ล่ำซำ ซีอีโอ เมืองไทยประกันชีวิต พยายามย้ำหนักย้ำหนา เพราะที่ผ่านมาลูกค้าใหม่และเก่าบางรายสับสนกับคำชื่อบริษัทดังกล่าว ทำให้บางคนถึงขนาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบริษัทเดียวกัน
ทำให้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา สาระ ล่ำซำ ซีอีโอเมืองไทยประกันชีวิต พยายามรีแบรนด์ใหม่ โดยเฉพาะการใช้ “สีชมพู” มาเป็นตัวสื่อสารในการทำหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เมืองไทยประกันชีวิต
มาถึงปีนี้ เมืองไทยประกันชีวิต เป็นปีที่สาระบอกว่าเป็นช่วง Recode อย่างหนัก โดยเน้นการรุกทั้งทัพหน้า จากการขยายสาขาและสำนักตัวแทนเพิ่มขึ้นเป็น 22 แห่ง ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตมีสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 170 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับการสร้างบุคลากรใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“เราตั้งเป้าว่ากลุ่มเลือดใหม่จะเข้ามาประมาณ 20% ซึ่งปัจจุบันเรามีตัวแทนฝ่ายขายทั้งหมดประมาณ 12,000 คน”
ขณะเดียวกันการรุกด้วยทัพหลัง บุกโฆษณาตัวใหม่ ทั้งสปอตวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และที่ไฮไลต์สุดๆ คือ ภาพยนตร์โฆษณา ที่ชื่อว่า “สุนัขอ้วน” และ “แมวอ้วน” โดยจ้าง JWT เป็นผู้ผลิตโฆษณา ที่เน้นความสนุกและการจดจำได้ คือ ถ้าคุณเป็นตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต คุณจะมีรายได้สูง ซึ่งจะทำให้คุณมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบายและกินดีอยู่ดีขึ้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้าน ก็พลอยอ้วนท้วนสมบูรณ์ไปด้วย
“ปีนี้เราอัดงบโฆษณา 40 ล้านบาท พยายามเน้นสื่อสารให้เห็นถึงความสนุกสนาน ผมมั่นใจว่า สุนัขอ้วน และแมวอ้วนที่ออกมาโยกย้ายส่วยสะโพกนี้ จะทำให้คนทั่วไปจดจำเมืองไทยประกันชีวิตได้ชัดเจนขึ้น”
เป้าหมายของเมืองไทยประกันชีวิตปีนี้ ตั้งเป้าโตกว่าเดิมถึงร้อยละ 20 จากลูกค้าในปัจจุบันประมาณ 8 แสนคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะปีนี้ซีอีโอแห่งนี้บอกว่า จะรุกไปกลุ่มลูกค้าระดับล่างหรือรากหญ้ามากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่แม้มีรายได้น้อย แต่มีความประสงค์อยากจะมีระบบการคุ้มครองชีวิต หากได้รับความรู้และการเข้าถึง โดยโครงการแรกที่จะส่งเข้าไปทำตลาด คือ โครงการเมืองไทยยิ้ม
Did you Know?
คนไทยประมาณ 60 – 70 ล้านคนทั่วประเทศ มีการประกันชีวิตประมาณ 16 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มระดับล่างหรือรากหญ้า เป็นกลุ่มที่มีการทำประกันชีวิตน้อยที่สุด