แจ๊คกี้…ส่องกล้องมองเกม

“ไม่ว่างานเขียนหรืองานพากย์ ผมชอบมองเกมฟุตบอลหลายมิติ กีฬาไม่ใช่แค่การแข่งขันในสนาม แต่มันมีเรื่องของกองเชียร์ ป้ายต่างๆ ที่เขาชูกันมันเขียนว่าอะไร หมายถึงอะไร ตัวสนามเองมีที่มาเฉพาะตัวอย่างไร ลงไปจนถึงประวัตินักบอลแต่ละคน ทั้งหมดนี่มันโยงไปได้ถึงเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์” อดิศร พึ่งยา เจ้าของนามปากกา “แจ๊คกี้” บอกเล่า Positioning ของตัวเองผ่านสไตล์การทำงาน

นามปากกานี้มาจากชื่อ “Jackie Charlton” นักบอลระดับซูเปอร์สตาร์ของอังกฤษโด่งดังสมัยที่อดิศรยังไม่ลืมตาดูโลก แต่เหตุที่เขาเลือกชื่อนี้มาเป็นนามปากกาเพราะประทับใจในบทบาทของนักเตะคนนี้ในสมัยที่เขาสวมบทบาทเป็นโค้ช ในช่วงต้นทศวรรษ 1990

อดิศรเริ่มงานที่สยามสปอร์ตตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีครุศาสตร์เอกพละจากจุฬาฯ มาในปี 2535 หรือ 1992 ด้วยหน้าที่แปลข่าวจากรอยเตอร์และเอเอฟพี รวมถึงเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับฟุตบอลสเปนซึ่งเป็นลีกใหม่ที่คนไทยในขณะนั้นยังไม่คุ้นเคย ซึ่งทางสยามสปอร์ตก็ลงทุนส่งเขาไปเรียนภาษาสเปนที่จุฬาฯ เลยทีเดียว

จนกระทั่ง 4 ปีผ่านไปจึงได้รับเลือกให้เดินทางไปประจำที่ลอนดอน 2 ปี ตามระบบของสยามสปอร์ตที่จะส่งนักข่าวใหม่ไปทุกๆ ปี แต่อยู่คนละสองปี เหลื่อมเวลาเพื่อให้มีคนเก่าที่ลอนดอนอยู่สอนงานคนใหม่ได้ตลอด หน้าที่ประจำคือไปเข้า Press Conference ที่ผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลจะพบปะนักข่าวในทุกวันศุกร์ ดูเกมการแข่งขันในเกมวันเสาร์ และเข้าแถลงข่าวอีกครั้งหลังเกมจบ ส่วนเวลาอื่นๆ ที่เหลือไปเดินสายดูสนาม หรือเก็บข้อมูลอื่นๆ มารายงานผู้อ่านผ่านคอลัมน์ “ไดอารี่พรีเมียร์ชิพ” ในหนังสือพิมพ์สยามกีฬา

อดิศรอธิบายว่าเหตุผลที่สยามสปอร์ตส่งนักข่าวไปในสมัยก่อนเพราะไม่ต้องการรับข้อมูลจากรอยเตอร์และเอเอฟพีเพียงอย่างเดียว และยุคนั้นยังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่จะรับข้อมูลข่าวสารได้หลากหลายรวดเร็วเหมือนทุกวันนี้ แต่แม้ปัจจุบันที่มีอินเทอร์เน็ต บริษัทก็ยังคงนโยบายให้มีนักข่าวประจำในอังกฤษ เยอรมนี และอิตาลี อย่างเดิม เพราะจะสามารถเลือกเจาะเลือกเล่นประเด็นข่าวที่ต้องการได้เต็มที่

“ที่ผมชอบอ่านที่สุดคือประวัติคน และประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องฟุตบอลและอื่นๆ ผมเก็บหนังสือไว้เยอะมาก” ยามว่างของอดิศรในลอนดอน เขาจะตระเวนตามร้านขายหนังสือไม่ว่าเก่าใหม่เพื่อไล่เก็บประวัติที่มาของนักฟุตบอลดังๆ ไปจนถึงหนังสือประวัติศาสตร์อื่นๆ

เมื่อกลับมาถึงไทยไม่ทันไร อดิศรก็ข้ามไปช่วยงานรายการทีวีจนต้องกลับไปอังกฤษอีกครั้ง อยู่ 1 เดือนเพื่อตระเวนทำสารคดีทัวร์สนามแข่งดังๆ ของยุโรป เสริมคลังข้อมูลในตัวให้แน่นขึ้นไปอีก

“บอลไทยผมก็พากย์ จำชื่อนักบอลได้ไม่แพ้นักบอลอังกฤษ หลายๆ คนผมก็รู้จักพูดคุยกันอยู่” เหตุนี้เองทำให้เขามีงานเข้ามาเพิ่มเป็นเอ็มซีหรือพิธีกรในงานกีฬา ไปจนถึงอีเวนต์การตลาดต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอล

จากนั้นมาเขาก็รับหน้าที่ “นักพากย์ตัวรอง” ให้กับแมตช์ถ่ายทอดสดต่างๆ ทางช่อง 7 และยูบีซี คำว่า “ตัวรอง” ในที่นี้หมายถึงหน้าที่ให้ข้อมูลประกอบเกมการแข่งขัน ต่างจาก “ตัวหลัก” ที่จะบอกเล่าจังหวะลีลาของเกมด้วยน้ำเสียงและอารมณ์ต่างๆ ซึ่งหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของอดิศรนี้ ในต่างแระเทศอย่างอังกฤษจะใช้อดีตนักฟุตบอลหรือโค้ชดังๆ รับหน้าที่

“กล้องถ่ายทอดบอลเมืองนอกจะเก็บรายละเอียดมาก เดี๋ยวๆ ก็จับไปที่ป้ายต่างๆ ของกองเชียร์ หลายๆ ป้ายต้องคนที่เคยอยู่ที่นั่นถึงจะพอเข้าใจได้ บางทีก็แพนไปจับแขกวีไอพี จับคนนั้นคนนี้ คนพากย์ต้องอธิบายให้คนดูรู้เรื่องได้ทั้งหมดถึงจะสนุก”

“เหมือนในคอลัมน์ของผม จะมีเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฟุตบอลแต่เกี่ยวข้องกันให้อ่านบ่อยๆ เพราะถ้ารู้เรื่องพวกนี้แล้วจะดูฟุตบอลได้สนุกขึ้นมาก” แจ๊คกี้ เล่าทิ้งท้าย

Profile :

Name : อดิศร พึ่งยา
Age :37 ปี
Education :ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Career Hilights : 2535-ปัจจุบัน นักข่าวฝ่ายต่างประเทศ