ฟุตบอลโลก (World Cup) ไม่เพียงเป็น Big Event ระดับโลก แต่คือ “โอกาสทอง” ของธุรกิจที่จะใช้จังหวะนี้ ขับเคลื่อนสินค้า สร้าง “ยอดขาย และแบรนดิ้งโปรดักส์” กันอย่างถ้วนหน้า เช่นเดียวกับ “ค่าย สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)” ในฐานะ Content Provider และผู้นำธุรกิจสิ่งพิมพ์กีฬาและสันทนาการรายใหญ่ของเมืองไทย ขยับตัวจัดทัพธุรกิจในเครือครั้งใหญ่ เพื่อขานรับกระแสฟุตบอลโลกอย่างเต็มอัตราศึก
“เทศกาลฟุตบอลโลกทุกครั้ง ธุรกิจหลักและในเครือสยามสปอร์ตฯเตรียมการรับกระแส และ Focus on ทั้งธุรกิจสิ่งพิมพ์ ทีวี วิทยุ ทั้งก่อนและระหว่างแข่งขันอย่างเต็มที่ เพราะช่วงเดือนฟุตบอลโลกจะเป็นช่วงของการสร้างยอดขาย (Turn Over) และอัตราเติบโตธุรกิจมากที่สุดแห่งปี” วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) คนล่าสุด (เพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อต้นปีทีผ่านมา)บอกกับ POSITIONING ในช่วงแรกของการสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองเมื่อไม่นานมานี้
6 ทำเลทอง Outdoor Event
สำหรับปีนี้ สยามสปอร์ตประเดิมรับกระแส เปิดตัวครั้งแรกราวเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในฐานะพันธมิตรผู้ได้รับลิขสิทธิ์จัด Outdoor Event จากค่ายทศภาค ผู้ได้รับลิขสิทธิ์การจัดกิจกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 อย่างเป็นทางการ ในโครงการ “สุดพลังฟุตบอลโลก 2006 กับสยามสปอร์ต” โดยการจัด “World Cup Stadium” กิจกรรมถ่ายทอดสดทุกนัด 3 แห่ง ได้แก่ ณ ลานด้านหน้า เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า, เดอะมอลล์ บางแค และโคราช จาก 6 ทำเลทองทั้งหมด (สยามดิสคัฟเวอรี่, เมเจอร์ รัชโยธิน และโรบินสัน รัชดาภิเษก)ที่ได้รับลิขสิทธ์จัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 9 มิ.ย. – 9 ก.ค.นี้
ควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การประกวดมิสเตอร์และมิสเวิลด์คัพ 2006 และจัดประกวด Singing Contest รวมทั้งกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ เพื่อเน้นสร้างบรรยากาศให้คึกคักได้มากขึ้น แตกต่างจากการชมการถ่ายทอดสดที่บ้าน “คาดว่าในแต่ละคืนจะมีผู้สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมนับหมื่นคน ในด้านรายได้ คาดว่าเพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านบาทไม่รวมกับธุรกิจปกติของสยามสปอร์ตที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม”
วิลักษณ์ บอกว่า “Outdoor Event เป็นกิจกรรมใหญ่ที่สยามสปอร์ตจัดติดต่อกันมา 2 สมัย โดยร่วมกับพันธมิตรรายอื่นๆ และในปีนี้ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปีอื่นๆ จัดต่อเนื่องกัน 30 วัน และถือเป็นกลยุทธ์ Below the Line ที่สำคัญ อันเสริมให้กลยุทธ์สื่อครบวงจรมากขึ้น สามารถขายเป็น Package ร่วมกับสื่ออื่นๆ เช่น สิ่งพิมพ์ ทีวี และอินเทอร์เน็ต”
Content สื่อปรับ – รับบอลโลก
นอกจากนี้ ในสื่อหลัก อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ อันมีหนังสือพิมพ์กีฬารายวัน 6 ฉบับ (สยามกีฬารายวัน, สตาร์ ซอคเก้อร์รายวัน, มวยสยามรายวัน, สปอร์ตพูล, สปอร์ตแมน, เจาะเกมส์) ได้ชูสยามกีฬา และสตาร์ซ็อคเกอร์ หนังสือพิมพ์ที่เน้นนำเสนอกีฬาฟุตบอลต่างประเทศ เป็นหัวหอกในการนำเสนอ Content เกี่ยวกับฟุตบอลโลก โดยสยามกีฬานั้น เน้นนำเสนอแง่มุมมองฟุตบอลโลกโดยรวม โดยเฉพาะกระแสฟุตบอลโลก ความเคลื่อนไหว Event ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ในประเทศ
ขณะที่สตาร์ซอคเก้อร์ มุ่งเน้นเจาะลึกเนื้อหาฟุตบอลโลกในเชิงกว้างและลึกโดยละเอียด ทั้งการรายการผลการแข่งขันแต่ละนัด และการวิเคราะห์เกมการแข่งขัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ออกนิตยสารเฉพาะกิจรายเดือนรายงานความเคลื่อนไหวก่อนเทศกาลฟุตบอลโลก ออกเป็นไกด์บุ๊กรายชื่อผู้เล่น โปรแกรม การวิเคราะห์เกมการแข่ง
นอกจากนี้ยังได้เปิดสำนักพิมพ์ “สยามสปอร์ตบุ๊คส์” สำนักพิมพ์น้องใหม่ พร้อมออกพ็อกเกตบุ๊ก 2 เล่มแรก “บอบู๋ นินทาบอลโลก’06” และ “สุดยอดตำนานฟุตบอลโลกโดย…Jackie” โดย 2 คอลัมนิสต์ชื่อดังของหนังสือพิมพ์สยามกีฬา และสตาร์ซอคเก้อร์รายวัน โดยมีสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ในเครือจัดจำหน่าย
ด้านสื่อทีวี สยามสปอร์ตในฐานะผู้ผลิตรายการป้อนฟรีทีวีหลายช่อง ก็ได้ผลิตรายการโทรทัศน์รองรับกระแสฟุตบอลโลก 2 รายการใหญ่ ได้แก่ “เจาะลึก ศึกฟุตบอลโลก 2006” ทางช่อง 7 และ “สยามกีฬาผ่าบอลโลก 2006” ทางโมเดิร์นไนท์ทีวี ดำเนินรายการโดย อิสรพงษ์ ผลมั่ง หรือ ต.โต้ง รูปแบบรายการนำเสนอลักษณะสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะของเกมและเปิดให้ผู้ชมทางบ้านร่วมสนทนาผ่านทางช่อง 9 อสมท ด้วย
ขณะที่สื่อวิทยุ “สปอร์ตเรดิโอ” มีการปรับปรุงรูปแบบรายการใหม่ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก เป็น “สปอร์ตเรดิโอ เวิลด์คัพ สเตชั่น” เน้นเพิ่มรายการเกี่ยวกับฟุตบอลโลก อาทิ การรายงานสดฟุตบอลโลก แบบสด รวดเร็ว ฉับไว จากทุกสนาม, ช่วง Behind the Match มีเจาะเบื้องลึก เบื้องหลังการแข่งขัน และกิจกรรมพิเศษ ค้นหากูรูบอลโลก เพื่อไปตะลุยเมืองเบียร์กับสปอร์ตเรดิโอ
“ปีนี้ สื่ออินเทอร์เน็ต โดยเว็บไซต์สยามสปอร์ตได้นำมาใช้ร่วมกับกระแสฟุตบอลโลกอย่างเต็มที่ โดยผู้ชมสามารถเข้าไปคลิกดูจาก http://www.siamsport.co.th/web_wc2006/default.html นำเสนอเรื่องราวของฟุตบอลโลกโดยเฉพาะ คาดว่าจะเป็น Website ที่จะมีคนเข้ามา Hit มากที่สุดในช่วงเทศกาลฟุตบอลไม่แพ้เว็บหลักสยามสปอร์ต” วิลักษณ์ บอกอย่างมั่นใจ
สำหรับพันธมิตรในปีนี้ ได้มีการตอบตกลงเข้าร่วมทำกิจกรรมและทำการตลาดในฟุตบอลโลกมาแล้วหลายรายอาทิ TOT, กระทิงแดง, ยามาฮ่า, ไวไวควิก, สแน็คแจ๊ค, กาแฟซูเปอร์, พานาโซนิค, แบนฟอร์เมนและสามารถ
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำมันแพง การเมืองยังไม่นิ่งพอ อีกทั้งผู้บริโภคในช่วงนี้ระมัดระวังใช้จ่ายมากขึ้น อาจส่งผลต่อกระแสตอบรับฟุตบอลโลก เขาแสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมา ว่า “กีฬาจัดว่าเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างได้เปรียบ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าเศรษฐกิจดี หรือไม่ดี การบริโภค (Consumption) สื่อกีฬาก็ยังเติบโตไปได้ เพราะเป็นสื่อที่เสพ เพื่อผ่อนคลาย (Relax) ได้ และยังเป็นกิจกรรมทางเลือกของคนกรุง ซึ่งในยุคนี้อาจเลือกซื้อสื่อเป็นหนังสือพิมพ์หัวสี 1 เล่ม และหนังสือพิมพ์กีฬา 1-2 เล่ม ควบคู่กัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก” วิลักษณ์ กล่าวสรุปตอนท้าย
Profile
สยามสปอร์ต บิ๊กบราเธอร์สื่อกีฬา
แวดวงสื่อสิ่งพิมพ์กีฬาน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักชื่อ สยามสปอร์ต ซินดิเคท เจ้าของอาณาจักรธุรกิจสื่อกีฬาและสันทนาการรายใหญ่ของเมืองไทย สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยหนังสือพิมพ์ฉบับแรก สยามกีฬารายวัน เมื่อปี 2527 ปัจจุบันกลายเป็นหนังสือพิมพ์กีฬาฉบับเดียวที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรวมและยังเป็นโปรดักส์ทำรายได้หลักบริษัท
ไม่เพียงแจ้งเกิดสยามกีฬาสำเร็จ แต่สยามสปอร์ตยังปลุกกระแสความนิยมกีฬาฟุตบอลรายแรกๆ
จนกลายเป็นเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์กีฬาฟุตบอลที่ครอบคลุกทุกไลน์ทุกเซ็กเมนต์ ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ และนิตยสารรายเดือน ที่โดดเด่นประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้แก่ สตาร์ซอคเก้อร์, สปอร์ตพูล, เจาะเกมส์, ฟุตบอลสยาม
รวมไปถึงการขยายไลน์ลงลึกตามชื่อสโมสร โดยเฉพาะ อาทิ นิตยสารแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นิตยสารลิเวอร์พูล นิตยสารอาเซนอล เป็นต้น
นอกจากฟุตบอลแล้ว สยามสปอร์ตยังปั้นคอนเทนต์กีฬายอดนิยมอื่น อาทิ กอล์ฟ บาสเกตบอล มวย ทั้งในและต่างประเทศแทบทุกประเภท จนปัจจุบันบริษัทมีสิ่งพิมพ์ในมือเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน 6 ฉบับ และ นิตยสารกว่า 10 ฉบับ
ขณะเดียวกัน ยังได้วาง Positioning ตัวเองเป็น Content Provider ผลิตรายการป้อนสื่อหลักจนมีเครือข่ายสื่อหลักครอบคลุมเกือบทุกประเภท ไม่ว่า สื่อทีวี สื่อวิทยุทำสปอตเรดิโอ ล่าสุดรวมไปถึงสื่ออินเทอร์เน็ต เน้นการให้ บริการข้อมูลด้านกีฬา รวมทั้งหนังสือพิมพ์บนอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงธุรกิจอีเวนต์ด้านกีฬา จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรายใหญ่ในธุรกิจเซ็กเมนเทชั่นนี้
ล่าสุด กล่าวได้ว่า อาจเป็นจุดเปลี่ยนบริษัทอีกครั้ง หลังจากสยามสปอร์ตได้ปรับทัพธุรกิจ และผู้บริหารครั้งใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรับปีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่หมุนเวียนมาครบ 4 ปี และคาดว่าปีนี้จะเป็นปีทองอีกครั้งหนึ่ง เพราะเม็ดเงินรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดจำหน่ายสิ่งพิมพ์และธุรกิจในเครือ ที่เกิดจากกระแสฟุตบอลโลก คาดว่ามีรายได้ในช่วงแข่งขันฟุตบอลโลกเข้ามาอีกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท จากนั้นอีก 2 ปีก็จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งเป็นบิ๊กอีเวนต์น้องๆ ฟุตบอลโลก จ่อคิวต่อเนื่อง
Did you know?
สยามกีฬารายวัน มีปริมาณผลิตจริงในปี 2548 จำนวน 11 ล้านฉบับต่อปี ส่วนสตาร์ซอคเก้อร์รายวัน ยอดผลิตในปีเดียว จำนวน 32 ล้านฉบับต่อปี
