“บอลโลก” ปั๊มเม็ดเงินโฆษณา

ตลาดโฆษณาที่เคยเฟื่องฟู ด้วยยอดมูลค่าเติบโตสูงถึง 7.4% เมื่อปี 2004 แต่สัญญาณความซบเซาแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2005 ด้วยยอดเติบโตเพียง 4.9% และทำท่าเติบโตด้วยตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆ แต่ในปี 2006 อาการที่เคยทำท่าทรุดจะกระเตื้องขึ้น…แน่นอนด้วยมหกรรมฟุตบอลโลก 2006

บริษัท ZenithOptimedia บริษัทวิจัยข้อมูลทางการตลาดระดับโลก เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ที่ www.zenithoptimedia.com ระบุว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกช่วยกระตุ้นการใช้เม็ดเงินโฆษณาในปี 2006 รวมไปถึงการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตไปจนถึงปี 2008 หลังจากที่ตลาดโฆษณาซบเซามาหลายปี

ตัวเลขเปรียบเทียบระบุให้เห็นว่าในปี 2005 เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นจากปี 2004 จำนวน 4.9% แต่ปี 2006 จะเติบโตจากปี 2005 ถึง 6% จากการที่ธุรกิจต่างๆ ใช้กิจกรรมระดับโลกในการโปรโมตสินค้าของบริษัท แต่ในปีต่อๆ ไป คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะเริ่มเติบโตชะลอตัวลง โดยปี 2007 เติบโตเพียง 5.6% และปี 2008 ลดลงเหลือ 5.3% อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการเติบโตของมูลค่าโฆษณาจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ยังเป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่าจีดีพีของโลก ซึ่งคาดว่าเปอร์เซ็นต์การเติบโตจะสูงกว่าจีดีพีไปจนถึงปี 2008 โดยเม็ดเงินโฆษณาในปี 2005 ที่มี 404,108 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.96% ของมูลค่าจีดีพีโลก และคาดว่าปี2008 จะมีมูลค่า 476,276 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.99%

สำหรับมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ทั่วโลก ประกอบด้วย หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ โรงภาพยนตร์ สื่อกลางแจ้ง และอินเทอร์เน็ต ในปี 2006 อยู่ที่ 429,373 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภูมิภาคที่มีเม็ดเงินสูงสุด อยู่ที่อเมริกาเหนือ ด้วยมูลค่า 182,209 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนภูมิภาคที่มีอัตราเติบโตสูงสุด อยู่ที่ละตินอเมริกา อยู่ที่ 9.6% และแน่นอน ประเทศที่มีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 23,318 ล้านเหรียญสหรัฐ

ZenithOptimedia คาดว่าในปี 2005-2008 ประเทศที่มีอัตราการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 6 ใน 10 ประเทศ คือตลาดเกิดใหม่ คือ บราซิล จีน อินโดนีเซีย เม็กซิโก โปแลนด์ และรัสเซีย คาดว่าภายใน 4 ปี จะมีมูลค่า 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 27% ของมูลค่ารวมในตลาดโลก อัตราการเติบโต จาก 7.9% เป็น 10.8%

ประเทศจีน เป็นตลาดที่มีเม็ดเงินโฆษณาในส่วนแบ่งตลาดโลกอันดับ 7 เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 2008 จะอยู่ในอันดับ 5 แทนที่อิตาลีและฝรั่งเศส และคาดว่ารัสเซียจะเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับที่มีส่วนแบ่งตลาดมูลค่าโฆษณาสูงสุด โดยคาดว่าได้อยู่ในอันดับ 8 จากปี 2005 อยู่ในอันดับที่ 14 เท่ากับว่าตลาดรัสเซียจะเติบโตเกือบเท่าตัว

นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดโฆษณาในอินเทอร์เน็ตที่คึกคักขึ้น โดยปี 2008 คาดว่าจะดึงเม็ดเงินโฆษณามาได้ 6.5% ของมูลค่าตลาดรวม เพิ่มขึ้นจากปี 2005 ที่ได้ 4.5% เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อใหม่ที่ไม่เพียงตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญมากขึ้น แต่ในประเทศกำลังพัฒนาก็เริ่มสนใจ โดยสื่อที่ถูกอินเทอร์เน็ตแย่งเป็นส่วนใหญ่คือสื่อกลางแจ้ง รวมไปถึงดึงจากสื่อวิทยุอีกด้วย ซึ่งถูกคาดว่าส่วนแบ่งสื่อวิทยุจะลดลงในปี 2008 เหลือ 7.9% จากปี 2005 ได้ส่วนแบ่ง 8.5%

มาที่ประเทศไทย บริษัทอินนิทีเอทิฟว์ คาดการณ์ว่างบการโฆษณาในช่วงบอลโลก 2006 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ตามการเพิ่มขึ้นของค่าโฆษณาในปี 2006 (Media Inflation) เป็นหลัก ในแง่ของยอดรวมงบโฆษณาในช่วงฟุตบอลโลก 2006 นี้กระแสอาจจะไม่แรงเท่า ฟุตบอลโลกในปี 2002 ที่ผ่านมา

สาเหตุแรกมาจากมีการตัดช่วงเวลาบางส่วนของทางสถานีช่อง 3, 5, 7, 9 เพื่อมาถ่ายทอดการแข่งขันร่วมกับ ช่อง 11 และ ไอทีวี ทำให้รายการของทางสถานีในช่วงนั้นลดหายไป ในขณะที่ ปี 2002 มีเพียงช่อง 11 และไอทีวีเท่านั้นที่ถ่ายทอดสด ส่วนช่องอื่นๆ ขายโฆษณาได้ตามเวลาออกอากาศปกติ

นอกจากนี้ อาจเกิดจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ทองคำ และความผันผวนทางการเมือง ที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน