ปรุงแต่งโฉมลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เป็นวังหรูของเจ้าหญิง พร้อมห้องอาบน้ำกลางห้าง ตกแต่งเพื่อต้อนรับการเปิดตัวแคมเปญ “The Lux Princess…Privilege life only by Lux” โดยดาราลักส์คนใหม่ “ศรีริต้า เจนเซ่น” ที่มาพรีเซนต์แคมเปญและครีมอาบน้ำลักส์ 6 สูตรล่าสุด หวังให้เป็น Talk of the town
เหตุผลที่เลือกศรีริต้า เป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ วรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอกว่า เนื่องจาก Positioning ของลักส์ เป็น Beauty Brand ดาราลักส์จะต้องสวยและเป็น Big Star ทุกคน
วรรณิภาคาดว่าแคมเปญเจ้าหญิงลักส์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทนี้จะช่วยอัพเกรด Positioning ของลักส์ให้ดูพรีเมียมมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีและเปิดประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มี Consumer Insight “ฝันอยากเป็นเจ้าหญิง”
สาวผู้โชคดีจากการส่งชิ้นส่วนครีมอาบน้ำลักส์จะถูก Make Over เป็นเจ้าหญิง เฉิดฉายบนพรมแดง นั่งลีมูซีนคันงาม สวมใส่เสื้อผ้ามีระดับจากคำแนะนำของสไตลิสต์ มีเมกอัพอาร์ติสแต่งแต้มสีสันบนใบหน้า และเพอร์ซันนอล ช้อปเปอร์ มือโปรคอยแนะเทรนด์ อีกทั้งบัตเลอร์หนุ่มช่วยถือของ นับเป็นอีกแคมเปญการตลาดที่พยายามสร้างจุดต่างให้เหนือกว่าคู่แข่ง
ด้าน ปิยนุช ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและระงับกลิ่นกาย บอกถึงพฤติกรรมการการใช้สบู่เหลวว่า โดยมากจะพบในคนกรุงเทพฯ มากกว่าต่างจังหวัด เนื่องจาก ส่วนใหญ่เห็นว่าใช้สะดวก คำนึงถึงสุขอนามัย ไม่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น และมีความชุ่มชื้นมากกว่าสบู่ก้อน
นอกจากนี้ยังแยกย่อยเป็นวัยรุ่นที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่อาศัยหอพัก มักจะใช้ครีมอาบน้ำมากว่าสบู่ก้อน เนื่องจากตลาดครีมอาบน้ำยังมี Penetration ทั่วประเทศเพียง 52% ขณะที่ในกรุงเทพฯ มี 60% ยังนับเป็นตลาดที่ใหม่อยู่ ผู้บริโภคยังไม่มีพฤติกรรมแบบ Segmentation เมื่อเทียบกับตลาดสบู่ก้อนที่เริ่มแยกย่อยเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น สบู่ก้อนเพื่อการนวดผิว
ตลาดครีมอาบน้ำมูลค่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเฉลี่ย 15% ในปีที่ผ่านมา ลักส์มีส่วนแบ่งการตลาดปัจจุบัน 30%
มูลค่าตลาดสบู่โดยรวม 5,100 ล้านบาท
– สบู่ก้อน 3,300 ล้านบาท
– ครีมอาบน้ำ 1,800 ล้านบาท
Did you know
ปี 2004 คนไทยในเมืองใช้ครีมอาบน้ำ ประมาณ 2 ล้านครัวเรือน และในปี 2005 มีผู้ใช้ครีมอาบน้ำเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านครัวเรือน ส่วนใหญ่จะ Occasional User ซึ่งใช้เป็นบางโอกาสและ Lapse User ที่ใช้ทั้งครีมอาบน้ำและสบู่เหลว
