“ตลาดหุ้น” พุ่งอย่างพอเพียง

ภาคธุรกิจภาคหนึ่งที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้เลยกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือตลาดหุ้น เพราะจากการรับรู้ของสังคมวงกว้าง หรือแม้แต่นักเล่นหุ้น ก็คุ้นเคยและต้องการแต่เพียงว่า ”มากที่สุด” เท่านั้น

ในตลาดหุ้น ”มากที่สุด” ที่ต้องการ คือจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทนั้นๆ ยังต้องมีกำไรสูงสุด เพื่อจ่ายปันผล และทำให้หุ้นนั้นมีมูลค่าสูงเพื่อให้ได้ไล่ราคาขายได้กำไร ตลาดหลักทรัพย์เองก็ต้องการเป้าหมายให้การซื้อขายหุ้นคึกคัก ให้ได้ทั้งมูลค่าการซื้อขายจำนวนมาก และทั้งดัชนีที่ควรได้จำนวนมากจุดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนอย่างที่ช่วงหนึ่งในสมัยรัฐบาลที่แล้ว หวังเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไว้ที่ 800 จุด

แล้วเป็นไปได้หรือที่ ”ตลาดหุ้นจะพอเพียง” ลองฟังความเห็นจาก ”โสภาวดี เลิศมนัสชัย” ในฐานะรองกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“โสภาวดี” บอกว่า หลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการให้ทำอย่างมีเหตุผล และพอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอยู่บน 2 เงื่อนไข คือความรู้และคุณธรรม ซึ่งไม่ได้ขัดกับเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ แต่ที่มีการพูดถึงเป้าหมายดัชนี หรือ Index นั้นจริงๆ Index ไม่ได้ประกาศตั้งเป้า แต่ต้องการให้มีความคล่องตัวเพียงพอมากกว่า Index เป็นเรื่องนักวิเคราะห์ไปดูกันเอง

“ถ้าเข้าใจ ทางเราเองก็สื่อเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว เป็นเศรษฐกิจเสรีอยู่แล้ว ก็มีหลายครั้งที่ตลาดหลักทรัพย์ก็จัดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้นักธุรกิจฟัง เราไม่ได้ขัดกับเรื่องการทำธุรกิจ เศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้ตั้งแต่ตัวบุคคลก็ได้ ครอบครัวก็ได้ นักธุรกิจก็ได้ ไม่ใช่ใช้เฉพาะภาคเกษตรอย่างเดียว

ขณะนี้เราไม่มีการโตเกินตัว ไม่ได้ทำอะไรที่เกินพื้นฐานของตัวเอง ที่ผ่านมาวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะทุกคนทำอะไรเกินตัวเอง ใช้เงินมากเกินไป ไม่รอบคอบ ไม่ดูความเสี่ยง ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ต้องดูพื้นฐานว่าไม่เกินตัวมากเกินไป ดูความเสี่ยง ปรับตัวให้พร้อมกับความเปลี่ยนของโลก เรื่องของการโต ต้องดูพื้นฐานที่ตัวเองเป็นได้ เหมือนบ้านสร้างรับได้ 2 ชั้นเราก็คงไม่สร้าง 3 ชั้น เพราะพื้นฐานไม่ดีพอ”

แนวคิดนี้ “โสภาวดี” ยืนยันได้ว่าจะไม่ทำให้ตลาดหุ้นเงียบเหงาแน่นอน เพราะเราต้องทำอย่างมีความรู้ คู่คุณธรรม