หากวันนั้นเธอตัดสินใจเลือกเอนทรานซ์เพื่อเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ วันนี้ในวงการหมออาจมีคุณหมอที่ชื่อ ”รุ่งฟ้า เกียรติพจน์” แต่เพราะรู้ตัวเองว่าไม่ชอบอย่างแน่นอน การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของ ”รุ่งฟ้า” ในวันนั้น ทำให้วงการนักการตลาดมืออาชีพมีชื่อ ”รุ่งฟ้า” ติดอยู่ในทำเนียบผู้บริหารการตลาดแถวหน้าในปัจจุบัน
“ตอนเรียนโรงเรียนสายปัญญา เรียนสายวิทย์ และที่บ้านอยากให้เรียนหมอ แต่ตอนใกล้สมัครเอนทรานซ์ ก็ตัดสินใจว่าเราไม่อยากเรียนหมอ เพราะตอนเรียนมัธยม ต้องผ่ากบ เอากบมาขึง ยังเห็นเต้นตุบๆ อยู่เลย ก็ทนไม่ได้ เลยตัดสินใจไม่เรียนหมอ
เลยเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งสายวิทย์ที่เราเรียนมา ไม่ตรงกับข้อสอบ ก็เลยเอนฯไม่ติด โชคดีที่เก่งภาษาอังกฤษ ก็เลยสอบติดเอแบค เรียนจนจบ Marketing สวนทางกับคนอื่นๆ ในช่วงนั้นที่ส่วนใหญ่เรียน Finance ที่บูมในขณะนั้น”
หลักการคิดในแบบฉบับของตัวเธอเอง คือ ”คิดว่า Marketing ให้อะไรเยอะ การตลาดเป็นสิ่งที่ดี เพราะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะตัวเองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นคนอยู่เฉยไม่ได้”
เช่นเดียวกับเพื่อนๆ อีกหลายคนในยุคนั้น ที่ ”รุ่งฟ้า” บอกว่าคนรุ่นนั้นต้องเรียนต่อปริญญาโท หรือไม่ก็ไปเมืองนอก และ 95% ต้องไปเรียน MBA สำหรับ ”รุ่งฟ้า”แล้วไม่ใช่ 1 ใน 95 นั้น
“ตอนใกล้จบ ก็ไปปรึกษาอาจารย์ อาจารย์ก็บอกว่าบ้านเราขาดพวกวิศวกร และสายงานด้านการโฆษณา ในที่สุดก็เลือกไปเรียน ที่ Emerson เลือกเรียน Major จากพื้นฐาน Marketing ของเราเลยเรียนโฆษณา ส่วน Minor เรียนพีอาร์”
“รุ่งฟ้า” เล่าว่า 2 ปีกว่าที่อเมริกา ทำให้เธอได้เรียนรู้อย่างมากมาย ต่างจากที่อยู่เมืองไทย พ่อแม่ดูแลตลอด ไปที่อเมริกาต้องดูแลตัวเอง ทำอาหารเอง ได้ขับรถท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง จนเธอบอกว่า “ถ้า 2 ปี ไม่ไปอยู่เมืองนอก จะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดนี้”
หลังจากพกดีกรีปริญญาโทด้านการโฆษณาจากอเมริกากลับเมืองไทย “รุ่งฟ้า” ก็เข้าร่วมงานในบริษัทเอเยนซี่โฆษณาข้ามชาติในประเทศไทยอย่างมืออาชีพ โดยที่เธอเองไม่ได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานบ่อยนัก เริ่มจากที่ เจ.วอลเตอร์ ธอมสัน ไปที่แมคแคน อิริคสัน (ประเทศไทย) และที่ปัจจุบันในกลุ่มทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด
บนแวดวงเอเยนซี่ “รุ่งฟ้า” บอกว่า ”ทำงานหนัก แต่ก็สนุก เราชอบงานที่เราทำ ชอบความเปลี่ยนแปลง เป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องคิดตลอดเวลา ชอบงานโฆษณาเพราะว่าเราจะรู้คนแรกว่าอะไรจะมาในตลาดบ้าง”
ระหว่างเส้นทางมืออาชีพในเอเยนซี่ หลายงานที่ออกสู่สาธารณชนยังเป็นที่จดจำ ซึ่ง ”รุ่งฟ้า” บอกเล่าให้ฟังด้วยความประทับ ราวกับเพิ่งผ่านไปไม่นาน และที่สำคัญคือเครดิตที่เป็นใบเบิกทาง ทำให้เธอโดนใจผู้บริหารกลุ่มทรูฯ เลือกให้เธอมาเป็นผู้สร้างแบรนด์ออเรนจ์ในเมืองไทย
จากประสบการณ์จัดงานรีแบรนด์ให้กับโมโตโร่ล่า ด้วยอีเวนต์สุดอลังการ การเดินแบบที่ยาวที่สุด ที่เริ่มจากโรงแรมดุสิตธานี สีลม ไปบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่เพิ่งเปิดบริการไม่นาน สิ้นสุดที่ดิเอ็มโพเรียม มีผลทำให้ภาพลักษณ์ของโมโตโรล่าดีขึ้น ทันสมัยขึ้น และจากที่เคยจับงานเปลี่ยนชื่อแบรนด์ให้กับโทรศัพท์มือถือของดีแทค ทำให้ยิ่งการันตีว่าเธอใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเพียงพอที่จะสร้างแบรนด์ ”ออเรนจ์”
เมื่อร่วมงานที่ออเรนจ์แล้ว เธอได้โอกาสในการท้าทายความสามารถของตัวเองอีกครั้ง กับการยื่นเงื่อนไขพร้อมลาออกทันที หากการ Launch แบรนด์ ออเรนจ์ด้วยหนังและสื่อโฆษณาที่เธอนำเสนอแล้วไม่โดนใจผู้บริโภค
“ตอนนั้นก็บอกกับผู้บริหารออเรนจ์เลยนะว่าถ้าไม่สำเร็จ ก็พร้อมให้ไล่ออกได้ทันที”
ประโยคนี้ของ ”รุ่งฟ้า” พูดออกไปด้วยความมั่นใจ เพราะประสบการณ์ที่เคยมี ในการดูแลลูกค้า Global Brand ทำให้เข้าใจผู้บริโภค และทำให้เธอเชื่อมั่นว่าแคมเปญชุด Get Closer ต้องสำเร็จ และยังท้าทายผู้บริหารเครือซีพีผู้ถือหุ้นในออเรจน์อีกด้วยการใช้สีขาวดำเป็นตัวนำ
ปรากฏว่าโฆษณาชุดนี้ได้รางวัลมากมาย สร้าง Awareness ให้คนสนใจมือถือค่ายใหม่ได้ จำได้กับหนังซึ้งๆ ให้คนเข้าหาและพูดกันมาขึ้นตามที่นำเสนอด้วยสโลแกน “พูดกันมากขึ้น ฟังกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น” คุ้มค่ากับการทุ่มเทอย่างหนักเป็นเวลา 1 ปีก่อนถึงเวลา Lauch ออเรนจ์ลงสู่ตลาด ซึ่งการทุ่มเทของเธอนั้นมากมายอย่างคาดไม่ถึง เพราะเธอบอกว่าทำงานกลับหลังเที่ยงคืน ตลอด 365 วันหรือ 1 ปีเต็มๆ
จนถึงวันนี้ ออเรนจ์ ค่ายมือถือสีส้ม ได้กลายเป็นค่ายมือถือสีแดง “ทรูมูฟ” ผ่านการปรับเปลี่ยนของผู้ถือหุ้น จากออเรนจ์ฝรั่งเศสส่วนหนึ่ง กลายมาเป็นของค่ายทรูฯ อย่างเต็มตัว “รุ่งฟ้า” ยังคงมีภาระหน้าที่ดูแล และตอกย้ำแบรนด์ทรูมูฟมากยิ่งขึ้น ด้วยสูตรของธุรกิจค่ายทรูฯ ที่ปรับตัวสู่บริการแบบ Convergence ระหว่างบริการในเครือ ถือเป็นนักบริหารหญิงที่มีบทบาทสำคัญในทีมผู้บริหารกลุ่มทรูฯ
ความสำเร็จของ ”รุ่งฟ้า” ไม่เพียงแต่มาจากความสนุก และให้อย่างเต็มที่กับงาน แต่ยังมาจากการสามารถดึงพลังจากทีมงานมาร่วมสร้างสรรค์งาน ด้วยวิธีการดูแลอย่างเข้าถึงพนักงานแต่ละคน
“บางคนพี่เห็นกินยา ก็จะถามเขาเลยว่าเป็นอะไร เขาบอกไมเกรน พี่ก็จะบอกว่า ถ้างั้นก็ไปพักผ่อนก่อน ดีแล้วค่อยมาทำงาน ไม่อยากให้ใครต้องทนทรมานกินยา และทนทำงาน“
หากถามถึงวิธีการเติมพลังให้กับตัวเองนั้น “รุ่งฟ้า” บอกว่า ”เวลาได้พัก ก็จะไปต่างประเทศ เวลาไปก็ไปดู Billboard เก็บข้อมูลตลอดเวลา เห็นอะไรน่าสนใจก็เก็บไว้”
ถ้าบิ๊กบอส ได้ยินอย่างนี้คงต้องบอกได้คำเดียวว่า ”ปลื้ม”
Profile :
Name : รุ่งฟ้า เกียรติพจน์
Age : 41 ปี
Education :
มัธยมศึกษา โรงเรียนสายปัญญา
ปริญญาตรี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ปริญญาโท ด้านการสื่อสารการตลาด และโฆษณา
อีเมอร์สัน คอลเลจ สหรัฐอเมริกา
Career Highlights :
– 2534-2539 Account Executive เจ.วอลเตอร์ ธอมสัน
– 2539-2543 Account Director-กรรมการบริหาร แมคแคน อิริคสัน (ประเทศไทย)
– มีนาคม 2544 เริ่มงานที่บริษัททีเอ ออเรนจ์ (เครือทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด)
– ปัจจุบัน ผู้อำนวยการ ด้านแบรนด์ภาพลักษณ์องค์กร และการสื่อสารการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด
Status : สมรส (สามี : ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ บุตรสาว 2 คน)
Lifestyle :
ดื่มไวน์ เพื่อสุขภาพ
เสื้อผ้า เน้นความเหมาะสมกับกาลเทศะ
งานอดิเรกฟังเพลง ท่องเที่ยว
กีฬา -ว่ายน้ำ



