“ป๋าเปรม”ความพอเพียง ไม่เคยล้าสมัย

ปาฐกถาพิเศษของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งกล่าวขึ้นในงานสัมมนา “เศรษฐกิจพอเพียง สู่สังคมอยู่เย็น เป็นสุข” ของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2549 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น มีสาระสำคัญถึงแก่นแท้ของการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติใช้ อย่างพึงรับรู้ว่า แนวคิดพอเพียงนั้น ไม่เคยล้าสมัยเลย แม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

“คนไทยน่าจะพอระลึกได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งถึงแนวเศรษฐกิจพอเพียงมานานกว่า 20 ปี ในตอนแรก ๆ คนสนใจน้อยมาก บ้างเห็นว่าล้าสมัย บ้างพูดกันแต่จะพัฒนาประเทศให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ เพราะไม่เข้าใจพระราชประสงค์ที่ทรงดำริโดยแท้จริง แต่ก็ยังเป็นโชคดีมากๆ ของคนไทย และยังไม่สายเกินไปที่จะนำปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ใช้”

ปัจจุบันนี้ คนไทยทุกคน ทุกองค์กร และรัฐบาล ต่างก็เข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะตระหนักดีว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทุกองค์กรและทุกระดับ ประธานองคมนตรี กล่าวอีกว่า พระมหากษัตริย์องค์นี้ทรงกระทำทุกอย่างเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของคนไทย จึงเป็นที่รัก ที่เคารพ เทิดทูนบูชา อย่างหาที่สุดมิได้

เศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนนั้น คือ ปรัชญาการดำเนินชีวิต ปรัชญาการพัฒนาทุกด้าน ที่ต้องอาศัยหลักความพอดี ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดี โดยจะต้องอิงทั้งคุณธรรมและความรู้เป็นองค์ประกอบสำคัญ
ดังนั้น การสร้างสุขภาวะให้เกิดแก่บุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคม จำเป็นต้องอาศัยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะคนจะมีสุขภาพดี ครอบครัวอยู่เย็น สังคมจะเป็นสุข ก็ต้องเกิดขึ้นจากความพอดี ความพอประมาณ หรือความพอเพียง

นอกจากจะเป็นการให้คุณค่าของคนไทยทุกหมู่เหล่าอย่างเสมอกันแล้ว ยังเป็นการช่วยเกื้อกูล แลกเปลี่ยน เรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญที่สุดคือ การร่วมกันทำให้ทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกิดผลในทางปฏิบัติและขยายผลกว้างออกไป เป็นการแสดงความจงรักภักดีทางหนึ่งด้วย

“เราเชื่อกันว่าสุขภาพของคนเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นส่วนประกอบจำเป็นที่จะทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข เราเชื่อกันว่า คุณธรรมจะสร้างสุขภาวะให้สังคม ผมขอเชิญชวนให้ท่านทั้งหลาย มองคุณธรรมในเชิงสุขภาพ เราจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า สุขภาพของคุณธรรมของคนไทย โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงเสื่อมถอยลงมาก”

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณธรรมของคนไทยกำลังป่วย จึงน่าจะเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการนำนโยบายนี้มาใช้ จะมีส่วนเยียวยารักษาสุขภาพของคุณธรรมของคนไทยให้หายจากการเจ็บป่วย กลับแข็งแรงเหมือนเดิม โดยมาตรการใดมาตรการหนึ่ง และมาตรการที่ดีที่สุด คือ ความรู้จักพอเพียง” พล.อ.เปรม กล่าวทิ้งท้าย