“เสี่ยปู่” ให้ซื้อหุ้นโตเร็ว

“เสี่ยปู่” เป็นชื่อฉายาของ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เซียนหุ้นอายุ 55 ปี ที่โด่งดังในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ราว 4 ปีที่แล้ว ในฐานะ “รายใหญ่” ที่เข้าไปจับหุ้นตัวไหนก็สร้างความร้อนแรงของราคาและปริมาณซื้อขายไว้ที่นั่น และด้วยประวัติการเล่นหุ้นมาถึง 20 ปี และสร้างฐานะในตลาดหุ้นล้วนๆ จากเงินเริ่มต้นเพียงไม่กี่แสนจนมาเป็นหลายร้อยล้านบาทอย่างปัจจุบัน

และแม้จะมีชื่อเสียงในวงการ และถูกสื่อติดตามขอความเห็นอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังรักษาความเป็นส่วนตัว สงวนหน้าตาไว้เป็นความลับต่อไป

สำหรับปี 2550 “เสี่ยปู่” คาดว่า SET Index ยังต่ำ โอกาสขึ้นยังมี ต่างชาติขายหนักก็เป็นแค่เรื่องชั่วคราว ถือว่าราคาหุ้นไทยที่ยังถูกอยู่แล้ว ก็ยิ่งถูกลงไปอีก น่าสนใจซื้อลงทุน

“เสี่ยปู่” มองว่าไม่มีกลุ่มไหนน่าสนใจทั้งกลุ่ม ควรดูเป็นรายตัวรายบริษัทมากกว่า เช่น MINT (ธุรกิจอาหารและโรงแรมของเครือไมเนอร์), AMATA (นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร), AOT (การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย) และ PRIN (หมู่บ้านปริญสิริ) ซึ่งเป็น 4 ตัวที่มีกำไรเติบโตสูงต่อเนื่อง มีฐานะการเงินดี แม้ราคาเทียบกำไรต่อหุ้น (P/E) จะสูงแต่ก็น่าลงทุนรอรับการเติบโตต่อๆ ไป

แต่ทั้งนี้ควรเป็นการซื้อถือเพื่อลงทุนระยะยาวสักหน่อย โดยมองที่เงินปันผลก่อน แล้วจึงมองส่วนต่างราคาเป็นผลพลอยได้ ไม่เก็งกำไรสั้นๆ แบบแห่ตามกระแส

ส่วนกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงนั้น “เสี่ยปู่” ไม่ได้วิเคราะห์เจาะจงเอาไว้ ในสายตาเขาจะคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจไว้เท่านั้น ไม่ได้จับตาหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงไว้อย่างที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต้องทำ

จากเก็งกำไร สู่นักลงทุน…

ก่อนจะเข้ามาสู่ตลาดหุ้นครั้งแรกในปี 2530 เมื่ออายุ 36 ปีนั้น สมพงษ์เป็นข้าราชการที่สภาพัฒน์ฯในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วางแผนและนโยบาย หลังจากนั้นเริ่มศึกษาตลาดหุ้นและเริ่มลงทุนอย่างเต็มตัว ถึงขนาดลาออกจากราชการด้วยเงินลงทุนราว 5 แสนบาท พบเหตุการณ์ BLACK MONDAY บวกการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรผิดวิธี จึงขาดทุนเหลือทุนเพียง 2 แสนบาท

แต่ต่อมาก็เรียนรู้และแก้ไขจนกระทั่งสิบกว่าปีผ่านไป พอร์ตการลงทุนขยายขึ้นมาเป็น 100 ล้านบาท แล้วเปลี่ยนหันมาเลือกเล่นหุ้นพื้นฐานดี P/E ต่ำ นักเก็งกำไรไม่ให้ความสนใจ

ฉะนั้น 3 ปีที่ผ่านมานี้ เขาใช้วิธีทยอยซื้อแล้วถือลงทุนระยะยาวมุ่งหวังเงินปันผล โดยหากได้กำไรส่วนต่างราคาก็ถือเป็นผลพลอยได้ แค่ขอให้ราคาไม่ตกลงก็พอ ตามตำราของปรมาจารย์การลงทุนโลกที่เขาได้อ่านมามาศรัทธาอยู่คือ Warren Buffet

เงินต่างชาติไม่น่าห่วง…

สำหรับกระแสเงินทุนจากต่างชาติ ที่ถอนตัวครั้งใหญ่ในวันเดียวเมื่อ 19 ธันวาฯ ที่ผ่านมา จากมาตรการเข้มของแบงก์ชาตินั้น “เสี่ยปู่” มองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น เมื่อแบงก์ชาติยกเว้นให้เงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นก็ถือว่าปัญหาจบไปแล้ว ต่างชาติน่าจะยังเข้ามาลงทุนหุ้นไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2550 โดยเฉพาะช่วงต้นปีเป็น January Effect อย่างที่เคยทำประจำ

สมพงษ์บอกกับ POSITIONING ถึงบทเรียน และขอฝากไปถึงผู้อ่านว่า “ถ้าตลาดดีดๆ จะเก็งกำไรมันก็ได้ แต่ถ้าตลาดผันผวน หรือลง เก็งกำไรสั้นๆ มักจะเจ็บตัวเสมอ หาหุ้นลงทุนถือไว้จะปลอดภัยกว่า อย่างเช่นวันที่ 19 ธันวาฯ ที่ผ่านมาหุ้นผมก็ตก แต่พอรุ่งขึ้นราคาก็ขึ้นกลับมาที่เดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”