ธุรกิจดาวรุ่งที่จัดว่ามาแรงแซงโค้ง ต้องยกให้ “โยคะ” เพราะงานนี้สาวน้อย สาวใหญ่ทั้งหลายแห่กันไปเรียนเข้าคลาสโยคะ เพราะต้องการฝึกบริหารกล้ามเนื้อ หายใจอย่างถูกต้อง และยังเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว อันส่งผล 2 เด้ง ทั้งลดความเครียดได้ชะงัด แถมยังสามารถรักษาหุ่นของผู้เล่นให้เฟิร์มฟิตตลอด
ส่งผลให้มี “ชั้นเรียนโยคะ” มีแทบทุกฟิตเนส บ้างเปิดสอนโยคะอย่างเดียว บ้างเปิดเป็นบริการเสริมในสถานออกกำลังกลาย ฯลฯ จนกลายเป็นธุรกิจเกลื่อนเมือง แถมยังแข่งขันกันดุเดือด เพื่อช่วงชิงลูกค้าโดยเฉพาะผู้หญิง
ปัจจุบันรูปแบบโยคะเมืองไทยหลากหลาย ตอบสนองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลายกลุ่ม ตั้งแต่โยคะ “ขั้นพื้นฐาน” โยคะแบบพิเศษ มีให้เลือกหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นโยคะร้อน (Hot Yoga) โยคะขั้นสูง (Advanced Yoga) แต่ละแห่งสร้างจุดขายที่ตัวหลักสูตร และครูผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมและได้รับประกาศนียบัตรจากสถาบันโยคะชั้นนำของโลก
แอริค มาร์ค เลอวีน ซีอีโอ ผู้บริหาร แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ บอกเหตุผลที่ตัดสินใจเปิดบริการโยคะในเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปลายปี 2547 ซึ่งเป็นกำลังเป็นที่นิยมของตลาดโลก ส่วนตลาดในไทยเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว จึงเพิ่มความหลากหลายให้กับ “ฟิตเนส เซ็นเตอร์” ให้มีความครบวงจรและทันสมัย มีโยคะร้อนภายใต้แบรนด์ Bikram และแพลนเน็ตโยคะ (Planet Yoga) จาก Team Bright Corporation Limited มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้หญิง
ปัจจุบันโยคะของแคลิฟฟอร์เนียร์ได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าผู้หญิงกว่า 60เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณผู้เล่นโยคะเฉลี่ย 5 พันต่อวันเปิดบริการวันละ 100 คลาสต่อวัน มีชั้นเรียนให้เลือก 24 ชั่วโมง หรือมีสาขาอยู่ในทุกสาขาของฟิตเนสเซ็นเตอร์ แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์
Key Success โยคะในเมืองไทย แอริค บอกว่า อยู่ที่การหาความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะผู้สอนระดับชั้นครูที่อิมพอร์ตจากอินเดีย สาขาตั้งอยู่ในทำเลดีที่สุด และบริการที่หลากหลาย ไม่ว่า จำนวนชั้นเรียน เวลาเรียน หรือห้องเรียนที่แตกต่างแต่ละประเภท
เขายกตัวอย่าง “บีกรัมโยคะ” ซึ่งแตกต่างจากโยคะทั่วไป ครูผู้สอนต้องเป็นระดับมาสเตอร์จากอินเดีย มีประสบการณ์ตรงมานานกว่า 20 ปี
“จะไม่เหมือนครูสอนโยคะทั่วไป โยคีบางเจนเนอเรชั่นถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคน โดยมีวิถีตนแบบอย่างเคร่งครัด ใช้ชีวิตประจำวัน และคิดแบบโยคีสั่งสมมานานนับสิบปี”
แอริคมองเทรนด์ปีนี้ว่า “แดนซ์โยคะ” เป็นกระแสใหม่ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายผู้เล่นโยคะเดิม เพราะเป็นสีสัน เพิ่มความสนุกให้กับการเล่นโยคะแบบเดิมๆ
“แอริคประเมินโอกาสธุรกิจโยคะว่ายังมีอีกมาก โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหม่ๆ เพราะเมื่อเทียบปริมาณผู้เล่นโยคะโดยเฉพาะผู้หญิง นับว่ายังน้อยมาก กับจำนวนประชากรโดยรวม (ในอเมริกามีผู้เล่นโยคะมากกว่า 15เปอร์เซ็นต์ กับประชากรหญิงโดยรวม)”



