น้ำผลไม้

ธุรกิจหน้าเก่าแต่เร้าใจ ต้องยกให้ “น้ำผลไม้” ที่ไต่กระแสสุขภาพ เบียดชาเขียวจนกลายมาเป็นดาวเด่นในปี 2550 นี้อย่างแน่นอน ตลาดมูลค่า 5,000 ล้านบาทมีแนวโน้มสดใส กับอัตราการเติบโตที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างคาดการณ์ไว้ที่ 20% ณ สิ้นปีนี้

ธุรกิจน้ำผลไม้ติดดาวได้เช่นนี้ เป็นเพราะปัจจัยผลักดันจาก “กระแสสุขภาพ” รวมถึงการทำตลาด โหมโฆษณาอย่างเต็มที่ของผู้เล่นรายใหญ่หลายราย

ความร้อนแรงก่อเค้ามาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นับจากบริษัทใหญ่ๆ ที่คร่ำหวอดในสนามเครื่องดื่มอื่นมาก่อน ได้แตกไลน์เปิดตัวน้ำผลไม้กันเป็นทิวแถว เช่น ทรอปิคานาจากค่ายเป๊ปซี่และเสริมสุข วาเลนเซีย มัลติฟรุ๊ต จากดัชมิลล์ เบอร์รี แบรนด์ดังจากออสเตรเลียของซานมิเกล การออก จูปิเตอร์ แบรนด์ใหม่ของทิปโก้ เซกิ ของโออิชิ รวมถึงการลุกขึ้นมาออก TVC เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของมาลี

ทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอกเหล่านี้ กรีฑาทัพขย่มตลาดเครื่องดื่มอื่นๆ ให้หมดสภาพ ไร้สีสันไปตามๆ กัน และได้ช่วงชิง เบียดพื้นที่ชาเขียวให้เหลือน้อยลง รวมถึงเครื่องดื่มตกเทรนด์อื่นๆ ให้หลุดไปจากสนามรบโดยปริยาย

สนามรบแบ่งออกเป็น 2 สนามใหญ่ สนามแรกเป็นของน้ำผลไม้ระดับพรีเมียม หรือน้ำผลไม้เข้มข้น 100% สนามที่สองคือระดับที่ต่ำกว่า 100% ซึ่งแบ่งออกได้อีกหลายเซ็กเมนต์ ทั้ง 40% 20% และต่ำกว่า 15% เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เกณฑ์ใด

ตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงคือน้ำผลไม้เข้มข้นต่ำกว่า 100% จะเห็นว่าการเข้ามาในตลาดของผู้เล่นรายใหม่ล้วนเปิดทางด้วยตลาดนี้ทั้งสิ้น

จับตาดูกันว่านอกเหนือจากจุดขายด้านรสชาติ การสร้างแบรนด์แล้ว ช่องทางจัดจำหน่ายเป็นสิ่งที่ต้องฟาดฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิง เกมรบนี้เหลืออีกหลายภาคให้ติดตามกัน