“สตาร์บัคส์” หอมกรุ่น อาจต้องเจอการแข่งขันหนักหน่วงอีกครั้ง และอีกภาคของธุรกิจ เมื่อฟาสต์ฟู้ดหลายแห่งเริ่มเดินตาม งัดแผนสร้างความรู้สึกอยู่ และใช้บริการกันไปนานๆ ผ่านบัตรเติมเงิน หรือบัตรที่สร้างความภักดีต่อสินค้า ที่เรียกว่า Loyalty Card
บัตรเติมเงินเพื่อซื้ออาหาร และซื้อสินค้า เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ลูกค้าหาซื้อเพื่อมาจับจ่ายใช้สอยด้วยตัวเองเท่านั้น แต่แนวโน้มใหม่ที่เกิดขึ้น คือเริ่มเป็นบัตรที่ให้เป็นของขวัญซึ่งกันและกันในหมู่ผู้บริโภคแล้ว ผู้ที่ลงมาเล่นในตลาดขณะนี้ ก็มี เวนดี้ส์ แมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์ คิง
จุดสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมบัตรเงินสดนี้ จากช่วงปลายปีที่ผ่านมา เทศกาลแห่งการช้อปปิ้ง สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มียอดช้อปโดยใช้บัตรของขวัญนี้มูลค่า 24,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,000 ล้านเหรียญ
สำหรับสตาร์บัคส์แล้ว แม้จะมียอดผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในอเมริกา และแคนาดาที่มีทั้งหมด 96 ล้านคนในปัจจุบัน ตั้งแต่เปิดบริการนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2001 แต่เริ่มมีเสียงบ่นจากลูกค้าแล้วว่าสตาร์บัคส์น่าจะมอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าบ้าง เช่น ได้แลตเต้สักแก้ว เมื่อซื้อครบ 10 แก้ว ไม่ใช่แค่ได้ความรู้สึกเท่เท่านั้น
เสียงบ่นนี้เอง ที่เน้นให้เห็นว่าสตาร์บัคส์อาจกำลังลำบาก เพราะคู่แข่ง ทั้งแมคฯ เบอร์เกอร์ คิง ดันกิ้งโดนัท ต่างก็พยายามปรับปรุงกาแฟให้อร่อย มีคุณภาพมากขึ้น และเน้นจุดขายที่ราคาถูกกว่าสตาร์บัคส์
สตาร์บัคส์การ์ด มีบริการอยู่ประมาณ 30 ประเทศ เช่น อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น สเปน เยอรมนี กรีซ ออสเตรเลีย และไทย โดยประเทศล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 คืออังกฤษ มีสาขาทั่วโลกอยู่ 8,000 สาขา ส่วนดันกิ้งฯ ในฐานะคู่แข่งสำคัญเวลานี้ มีสาขาทั่ว 6,000 สาขาทั่วโลกใน 30 ประเทศเช่นกัน