“…บัตรพลาสติกที่มีแถบแม่เหล็กดำๆ หมดยุคแล้ว นับจากนี้ ไมโครชิปบนบัตรเครดิตจะมาแทนที่…นี่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Electronic Banking” กฤษฎา ล่ำซำ รองเอ็มดีเคแบงก์ ให้คำตอบกับสื่อมวลชนในงานเปิดตัวบัตรเครดิตชิป
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งานจริง เคแบงก์จึงร่วมกับ 30 แบรนด์ดัง จัดแคมเปญ ช้อปปิ้งอย่างฉลาด (Smart Shopping)
ในงานเปิดตัว เคแบงก์ตั้งใจที่จะสื่อสารบัตรเครดิตชิปนี้ให้แขกและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานเห็นภาพแบบถึงลูกถึงคน เพราะตั้งแต่ลงทะเบียนเจ้าหน้าที่ก็แจกบัตรจำลอง สาธิตการรูดบัตรแบบไม่กลัวเสียเวลา และตลอดงานยังจัดบูธแบรนด์ร่วมรูดพร้อมแจกส่วนลด คูปอง ของพรีเมียมไม่อั้น เห็นได้จากเสร็จงานถุงกระดาษใบโตของเคแบงก์ที่เตรียมมาให้ติดไม้ติดมือแบบขาช้อปกันถ้วนหน้า งานนี้สร้าง Experience Marketing ไปเต็มเหนี่ยว
เจ้าบัตรเครคิตชิปนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการสะท้อนความพยายามของแบงก์ไทยที่จะพัฒนาศักยภาพบัตรเครดิตที่ปัจจุบันเป็นปัจจัย 6 สำหรับคนยุคใหม่ไปเสียแล้ว ให้เป็นบัตรที่มี Value ด้านข้อมูล เพราะสามารถเก็บสะสมรายการที่ใช้จ่ายผ่านบัตรตามแบรนด์ชั้นนำที่ร่วมเครือข่าย ที่สามารถนำไปบริหารจัดการลูกค้าหรือทำ CRMแบบ Royalty Program ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาและสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างแม่นยำ
กฤษฎา บอกว่า จุดเด่นของบัตรเครดิตชิป ภายใต้รายการ Smart Shopping เน้นความแม่นยำและปรับปรุงข้อมูลใหม่ล่าสุดแบบต่อเนื่อง Real Time นั่นหมายความว่า ทุกยอดใช้จ่ายที่ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยทุกครั้ง
ข้อมูลสินค้า ความถี่ ราคา และสถานที่ จะถูกนำบันทึกและอัพเดต เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการทำโปรโมชั่นรูปแบบต่างๆ แบบเฉพาะบุคคลได้ตรงกลุ่มและชัดเจนมากขึ้น
“Smart Shopping จะสร้างสีสันให้การช้อปปิ้งคนไทย และส่งผลให้การช้อปปิ้งของผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยมีอัตราเติบโตกว่า 5-10 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2007 ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจำนวนผู้ถือบัตรกสิกรเพิ่มเป็น 1.4 ล้านใบ (รวมการทำแคมเปญอื่นๆ ตลอดทั้งปีด้วย)”
“บัตรชิปการ์ด” เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มาแทนบัตรแถบแม่เหล็ก ก่อนหน้านี้ “ธนาคารกรุงเทพ” ได้เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2548 ที่ผ่านมา ตามมาด้วย “ซิตี้แบงก์” ยังได้ออกบัตรชิปการ์ดของบัตรแพลทตินัมเช่นกัน
Did you know
ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในช่วงปี 2545-2548 คนไทยเป็นหนี้บัตรเครดิต (ซึ่งก่อนยุคทักษิณเข้ามา) มี 2 หมื่นล้านบาท ได้เพิ่มเป็น 1 แสน 2 หมื่นล้านบาท
