กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ นายแบงก์หญิงคนใหม่

หากการแข่งขันของแบงก์ เปรียบได้ดั่งสงคราม สตรีคนนี้ก็คือ “แม่ทัพหญิง” คนใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ …สตรีที่จะต้องปกครองกองทัพขนาดใหญ่เกือบหมื่นคน ดูแลสาขาหน้าด่านเกือบ 800 แห่ง ต้องคิดกลยุทธ์การต่อสู้อีกนานัปการ ใช่, ภารกิจนี้ท้าทายผู้นำหญิงคนนี้ยิ่งนัก

1.
นิตยสาร POSITIONING พบ “กรรณิกา ชลิตอาภรณ์” ในช่วงก่อนได้ขึ้นรับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยพาณิชย์ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.พ. เพียงไม่กี่วัน

มองจากบุคลิกภายนอก “กรรณิกา ชลิตอาภรณ์” เป็นสตรีที่มีบุคลิกดี มีสัญชาตญาณของนักสู้อยู่เต็มตัว แม้วัยจะเกือบหกสิบปี แต่เธอยังดูกระฉับกระเฉง ยิ้มแย้มเสมอ เวลาตอบคำถามโดยเฉพาะเรื่องรีเทลตัวเลขแบงกิ้งแม่นยำเป็นพิเศษ

“ไม่หนักใจนะ” คำพูดแรกของกรรณิกา กับภารกิจการเป็นผู้นำของธนาคารแห่งนี้ เพราะตอนอยู่ยูนิลีเวอร์ ดูแลเรื่องการสร้างแบรนด์ ออกสินค้าใหม่ๆ การตลาด เป้าหมายก็คล้ายคลึงกับแบงก์ คือ ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า การจัดการ เป็นหลัก เพียงแต่งานสองอย่างสเกลแตกต่างกันเท่านั้น

ไทยพาณิชย์ถือเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ของไทย มีพนักงาน 9,000 กว่าคน ขณะที่ยูนิลีเวอร์มีพนักงาน 1,000 กว่าคน แม้ภาระจะดูใหญ่กว่า แต่เมื่อมีระบบที่ดี มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีระบบรองรับ ย่อมไม่แตกต่างกันมาก

“ภูมิใจมากกับการขึ้นเป็นผู้นำ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ ไทยพาณิชย์นับเป็นธนาคารเก่าแก่ของไทย มีอายุ 100 ปีแล้ว แต่ดิฉันจะทำให้ยิ่งแก่ ต้องยิ่งสาวขึ้น”

คำเปรียบเปรย ยิ่งแก่ ต้องยิ่งสาว ของกรรณิกาหมายถึง การสร้างแบรนด์ให้ไทยพาณิชย์มีความสดใสมากขึ้น มีอะไรใหม่ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้า โดยเฉพาะสาขาการบริการลูกค้าต้องเป็นอันดับหนึ่งในใจลูกค้าให้ได้

นี่คือเป้าหมายไทยพาณิชย์ เธออธิบายอีกว่า จากจำนวน 800 สาขาบริการของไทยพาณิชย์ ในแต่ละแห่ง แต่ละเคาน์เตอร์บริการต้องขายโปรดักส์ได้มากกว่าหนึ่ง ไม่ใช่ขายแค่บัญชีเงินฝาก แต่จากนี้ไปต้องขายได้ทั้งสินเชื่อ ประกันชีวิตไปในตัวด้วย

“โปรดักส์มากกว่าหนึ่งชิ้น” เป็นวิธีการตลาดที่กรรณิกาเชื่อว่า จะเป็นมูลค่ารายได้สำคัญต่อไปของไทยพาณิชย์

มองจากคำอธิบายของกรรณิกา ย่อมเห็นบางอย่างที่เด่นชัดว่าเธอคือมือการตลาดอย่างแท้จริง สมกับคำร่ำลือ ที่ว่า “ไทยพาณิชย์ยุคใหม่เป็นยุคของมือการตลาด”

2.
กรรณิกา ถือเป็นผู้บริหารระดับมือโปรทางการตลาดคนหนึ่งของเมืองไทย ฝากฝีไม้ลายมือและผลงานให้กับยูนิลีเวอร์มานานกว่าสามสิบปี “เข้ามารับตำแหน่งกรรมการ และรองผู้จัดการใหญ่ เมื่อเดือน ม.ค. 2546 โดยคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ และดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ เป็นคนติดต่อเข้ามา ตอนนั้นเกษียณอายุจากยูนิลีเวอร์พอดี”

ตอนเกษียณจากยูนิลีเวอร์ ตำแหน่งสุดท้าย คือ รองประธานและกรรมการอำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ดูแลสินค้าแชมพู ยาสีฟัน วันนี้มาบริหารการเงิน เธอบอกว่าไม่แตกต่างกัน เพราะธุรกิจการเงินก็เหมือน โปรดักส์อย่างหนึ่ง หลักการตลาดของเงิน คือ ทำอย่างไรให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอล (หนี้เสีย) น้อยที่สุด และรายได้เติบโต

“ดิฉันใช้เวลาเรียนรู้เรื่องรีเทลแบงก์ไม่นานนัก แต่สิ่งหนึ่งที่รู้เรียนได้จากคุณหญิงชฎาคือความใจเย็นมากๆ บางครั้งนำมาช่วยปรับอารมณ์ได้บ้าง ตรงนี้ดีมากๆ”

สไตล์ของกรรณิกา เป็นผู้บริหารที่มองสิ่งใหญ่ๆ ก่อน แล้วค่อยไปสนใจในเล็กๆ เธอเปรียบเปรยว่า ถ้ายังจับปลาตัวใหญ่ไม่ได้ ก็ถือว่าล้มเหลว จับปลาตัวเล็กก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าจับปลาตัวใหญ่ได้ ตัวเล็กก็จะตามมาเองอย่างเช่น มีโปรดักส์ 10 ตัว ให้ดูแล กับมีโปรดักส์ 2 ตัวใหญ่ เธอขอเลือกจำนวนน้อยๆ แล้วทำให้ดีมากกว่า ที่จะเน้นปริมาณ

นี่เป็นตัวอย่างที่กรรณิกาบอกถึงหลักการบริหารงาน แต่สิ่งหนึ่งในวงการแบงก์จับตา คือ ไอเดียทางการตลาดของเธอ กล่าวกันว่า ไทยพาณิชย์ถึงยุคมาร์เก็ตติ้งอย่างแท้จริง หลังจากที่ผ่านมา ระบบการทำงานของแบงก์ไทยพาณิชย์มักยึดติดกับระบบศักดินา ผู้บริหารเข้าหายาก สื่อมวลชนสัมภาษณ์ยาก

แต่วันนี้หลายคนเชื่อว่า ไทยพาณิชย์ในมือของกรรณิกาอาจมีอะไรใหม่ๆ ที่เซอร์ไพรซ์ และเขย่าวงการแบงก์เมืองไทยได้ในอนาคต

3.
นอกเหนือชีวิตการทำงาน อีกฟากหนึ่งของผู้หญิงที่ชื่อกรรณิกา เธอมีครอบครัวที่อบอุ่นมากครอบครัวหนึ่ง มีลูก 3 คนเรียนจบกันทุกคนแล้ว โดยเรียนจบที่บอสตัน ยูนิเวอร์ซิตี้ สหรัฐอเมริกากันทุกคน

ลูกสาวสองคนตอนนี้เปิดร้าน ซีเครต การ์เดน แถวสาทร ขายอาหารและเบเกอรี่ ส่วนลูกชายทำงานที่ นิวยอร์คไลฟ์ ประกันชีวิต ซึ่งเป็นบริษัทที่ไทยพาณิชย์ถือหุ้นใหญ่

“งานของดิฉันทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีเวลา เพียงแต่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ลูก เพราะการทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ต้องบริหารให้ดีด้วย”

กรรณิกา เป็นคนจริงจังกับงานมากขณะอยู่ออฟฟิศ จะอยู่ดึก อยู่ค่ำเธอลุยได้เต็มที่ แต่เมื่อกลับจากออฟฟิศเธอมักจะไม่เอางานกลับบ้าน เพราะเธอบอกว่า จะทำให้ยิ่งเครียด และทำงานในวันรุ่งขึ้นไม่ค่อยได้ดีนัก สู้ปล่อยให้จิตใจสบายๆ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มสู้กันใหม่

ไลฟ์สไตล์ของกรรณิกา เวลาอยู่บ้านพักผ่อน ส่วนใหญ่เลี้ยงหลาน (ลูกของลูกสาวคนโต) เล่นกับสุนัขที่บ้านบ้าง ซึ่งเลี้ยงไว้หลายตัว หากไม่ติดภารกิจ เสาร์อาทิตย์ เธอมักจะไปพักผ่อนที่หัวหิน มีคอนโดมิเนียมเล็กๆ ไว้ที่นั่น เธอ บอกว่าชอบไปเพราะสามีเธอชอบมาก อยู่ที่หัวหินอากาศที่นั่นทำให้สุขภาพดี ได้พักผ่อนไปในตัวด้วย

“เป็นผู้หญิงเก่ง ไม่จำเป็นต้องทำงานบริษัท ผู้หญิงเก่งได้หลายอย่างได้หลายด้าน แต่อย่างดิฉันก็ต้องแลกกับเวลา ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง จึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากนัก”

กรรณิกาทิ้งท้ายว่า ถ้าจะให้ดี งานและครอบครัวจะต้องสมดุลกัน แม้ในความเป็นจริง ผู้ที่เป็นผู้นำองค์กรจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลง แต่ต้องพยายามใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดให้ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุดด้วย

Profile:

Name : กรรณิกา ชลิตอาภรณ์
Age : 59 ปี
Education :
– ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ จาก University of Colorado ประเทศสหรัฐอเมริกา
– หลักสูตรพิเศษ Advance Management Program จาก Harvard University
– ม.ศ.7-8 โรงเรียนมาแตร์ เดอี
– ม.ศ.1-6 โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
Career Highlight :
– ปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)
– 2546 กรรมการและรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)
– รองประธาน และกรรมการอำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้งส์ จำกัด
Prize นักธุรกิจสตรีดีเด่นในปี 2542
Work Philosophy ทำผิดพลาดได้แต่ต้องเรียนรู้ เพื่อไม่ทำผิดซ้ำสอง
Family มีลูก 3 คน ลูกสาว 2 คน และลูกชาย 1 คน เรียนจบหมดแล้ว จากบอสตัน สหรัฐอเมริกา
Life Style เสาร์- อาทิตย์ ถ้าไม่ติดงานจะไปพักผ่อนที่หัวหิน เพราะมีคอนโดมิเนียมเล็กๆ อยู่ที่นั่น ส่วนวันว่างจะเล่นกับสุนัขที่บ้าน ซึ่งเลี้ยงไว้หลายตัว เลี้ยงหลาน