ภัทรียา เบญจพลชัย “เจ้าแม่ตลาดหุ้น”

ภัทรียา เบญจพลชัย ไม่เพียงเป็น “ลูกหม้อ” ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น เธอยังเป็นผู้จัดการตลาดหุ้นหญิงคนแรกของตลาดหุ้นไทย หลังจากที่องค์กรแห่งนี้ เคยมีแต่ผู้บริหารมืออาชีพชายจากภายนอกล้วนๆ

POSITIONING มีโอกาสพูดคุยกับ “ภัทรียา เบญจพลชัย” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ บนห้องทำงานชั้น 17 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นห้องขนาดกว้าง แต่ไม่โล่ง เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งถูกใช้วางโชว์กรอบรูปและของที่ระลึกจำนวนมากจากองค์กรหรือบริษัทต่างๆ สะท้อนถึงตลอดช่วงเวลาการทำงานของการเป็น “ลูกหม้อ” ตลาดหลักทรัพย์ และในฐานะของศูนย์กลางแห่งหนึ่งของเศรษฐกิจที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับหน่วยอื่นๆ มากมาย

ภัทรียา เล่าช้าๆ อย่างสุขุม ย้อนไปถึงความเป็น “ลูกหม้อ” ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คนแรกที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการคนแรก

“เมื่อองค์กรเติบโตมาได้สามสิบปี คณะกรรมการก็เห็นว่าคนในพร้อมที่จะเป็นผู้นำองค์กรได้ ด้วยอายุ ประสบการณ์ รู้งานภายในเป็นอย่างดี ประสานงานได้กับทุกฝ่าย”

“ในคณะผู้บริหารเรามีทั้งชายหญิงอย่างละครึ่ง ในแวดวงการเงินบ้านเรามีผู้หญิงเติบโตถึงระดับผู้นำอยู่มาก อาจจะด้วยคุณลักษณะที่เหมาะกับงานด้านนี้ที่ต้องละเอียดรอบคอบ แต่ที่แน่นอนก็คือวงการนี้ไม่มีการแบ่งแยกสนใจว่าเป็นหญิงหรือชายเลย ผู้ชายก็เติบโตก้าวหน้าได้ไม่ต่างกับผู้หญิงจะต่างกันบ้างก็เรื่องเกี่ยวกับงานบริหารความเสี่ยง ที่หญิงมักจะตัดสินใจไปในทางระมัดระวังมากกว่าชาย” ภัทรียาแจกแจงอย่างละเอียดรอบคอบถึงความเชื่อที่ว่า ผู้หญิงเหมาะกับการเงินหรือบัญชีมากกว่าผู้ชาย

“ได้รับการ Rotate ตลอด ทำงานมาเกือบครบทุกหน่วยงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ ” ภัทรียาย้อนกลับไปปีแรกๆ ของการทำงาน ซึ่งภัทรียาหอบปริญญาตรีทางบัญชี ต่อด้วย MBA จากธรรมศาสตร์ ย้ายจาก 6 เดือนที่กรมสรรพากรมาเริ่มงานเป็นนักวิเคราะห์ที่ ตลท.

ผลงานหลักๆ ของภัทรียา คือ การทำระบบเปิดเผยข้อมูลและงบการเงินของบริษัทในตลาด เช่นระบบที่ทุกอย่างต้องเป็นความลับ ก่อนจะถูกเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ในช่วงจังหวะที่เหมาะสม รวมทั้งการดูระบบบัญชีของบริษัทในตลาดให้มีมาตรฐาน งานกำกับตรวจสอบอื่นๆ

ต่อจากนั้นคือการขยายพัฒนาไปเป็นระบบที่ผลักดันให้ทุกบริษัทต้องมี Good Governance หรือ บรรษัทภิบาล ไม่ว่าจะเป็นการใช้ “ไม้แข็ง” ด้วยการมาตรการต่างๆ หรือการใช้ “ไม้อ่อน” อย่างการจัดกิจกรรมหรือการสัมมนาเพื่อปลูกฝังจิตสำนึก ทั้งหมดนี้ตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปัจจุบันเป็นงานมากมายที่ต้องทำไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะหลังจากวิกฤต 2540 เป็นต้นมา

บทบาทของภัทรียาโดดเด่นเป็นข่าวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ดัชนี SET index ลบถึง 140 จุดก่อนจะปิดลบที่ 108 จุด ดิ่งเป็นประวัติการณ์ วันนั้นทั้งวันเธอต้องยกหูโทรสอบถามทัศนะของผู้บริหารโบรกเกอร์ ผู้บริหารกองทุนต่างๆ ผู้บริหารบริษัทต่างๆ ในตลาด ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ เพื่อรวบรวมมาประกอบกับข้อมูลความเสียหายทั้งหมดไปเสนอให้ทางธนาคารชาติได้เห็นภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ผลกระทบต่อไปได้ ซึ่งทั้งหมดมีส่วนช่วยให้คืนวันนั้นมีการประกาศยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% ให้กับเงินนอกในตลาดหุ้นในที่สุด

“เรามีการยกหูเช็ก รับส่งแฟกซ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อมูลกับหน่วยงานอื่น กองทุน หรือบริษัทต่างๆ เป็นประจำ เช่นหลังวันปฏิรูปการปกครองฯ 19 กันยา ที่ตลาดหยุดซื้อขาย 1 วัน แต่พวกเรามาทำงานกันหมด และทำงานหนักด้วยเพื่อเตรียมการไว้รองรับภาวะต่างๆ เมื่อเปิดตลาดรุ่งขึ้น เพราะเราเป็นหน่วยงานตรงกลางของหน่วยงานอื่นๆ มากมายที่มาเกี่ยวข้องและมีผลกับเศรษฐกิจรวดเร็วมาก” ภัทรียาเล่าช้าๆ ถึงบทบาทหนักด้วยรอยยิ้มอย่างสุขุมตามสไตล์

นอกจากการต้องตรวจสอบข่าวสารเศรษฐกิจรอบด้านจากสื่อทั้งไทยและเทศเป็นประจำแล้ว หนังสือเล่มโปรดของภัทรียา คืองานเขียนของอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ Wallstreet ของสหรัฐฯ ที่เธอใช้ศึกษาว่าผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ระดับโลกอย่างนั้นจะได้พบได้แก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

ภัทรียา บอกกับ POSITIONING ถึงกิจกรรมที่เธอและสามี ซึ่งไม่มีบุตรด้วยกัน ทำร่วมกัน คือ การเลือกผ่อนคลายและสร้างสุขภาพด้วยการเล่นกอล์ฟร่วมก๊วนกับเพื่อนๆ ของครอบครัว ซึ่งทั้งสามีภรรยาคู่นี้เล่นกอล์ฟด้วยกันมาถึง 20 ปี ตั้งแต่ช่วงวัยสามสิบถึงทุกวันนี้

“ตีกอล์ฟ เป็นกีฬาเพื่อผ่อนคลายที่แท้จริง ไม่ใช่การเล่นอย่างผู้บริหารที่ต้องเจรจางานกันบนกรีนแต่อย่างใด”

Profile:

Name:ภัทรียา เบญจพลชัย
Age: 52 ปี
Education :
-ปริญญาตรีสาขาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-ปริญญาโท MBA คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-ประกาศนียบัตรบัณฑิตหลักสูตรผู้บริหาร University of Michigan zสหรัฐฯ
Career Highlight: 30 ปีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงปัจจุบัน