พรรณี ชัยกุล เกิดมาเพื่อเอเยนซี่

ไม่ง่ายนักสำหรับคนทั่วไปที่จะทำงานองค์กรเดียว และอยู่รวดเดียวอย่างต่อเนื่องนานถึง 20 ปี ชนิดไม่เคยเว้นวรรค หรือพักยก แต่สำหรับผู้หญิงที่ชื่อ “พรรณี ชัยกุล” เป็นเรื่อง “ไม่ยาก” เพราะเธอรู้จักคำว่า อดทน ใจรัก และรู้จักตัวเอง ปัจจุบัน พรรณี อายุ 48 ปีมีตำแหน่งเป็น Vice Chairman ซึ่งถูกแต่งตั้งเมื่อกลางปีที่ผ่านมาของโอกิลวี่ กรุ๊ป เอเยนซี่โฆษณาข้ามชาติชั้นนำจากอเมริกา

…จากพนักงานธรรมดาๆ ที่เริ่มต้นทำงานแผนก Account Service กลายมาเป็น Vice Chairman องค์กรข้ามชาติ ซึ่งต้องอาศัยฝีมือ จิตใจที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ดังนั้น “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” ที่เธอกลายเป็นผู้นำองค์กรอย่างเต็มภาคภูมิ

วันนี้ภารกิจหลักสำหรับเธอ คือ การนำพาโอกิลวี่ไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ทั้งในแง่บิลลิ่งและลูกค้า จึงเป็นงานท้าทายไม่น้อยสำหรับเธอ โดยเฉพาะธุรกิจเอเยนซี่ในห้วงเวลาที่ต้องเผชิญกับวิกฤตขาลง โดยเฉพาะงานโฆษณาสื่อแมสทั้งหลาย

“ในสถานการณ์เช่นนั้น เราต้อง Achieve เป้าหมายให้ได้ การเติบโตมีหลายแบบ ทั้งโตแบบไม่เสียลูกค้าเลย กับเติบโตแบบมีลูกค้าใหม่เพิ่ม ซึ่งเรา Plan ทุกปี แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเติบโตกับลูกค้าเก่า” บอสใหญ่โอกิลวี่บอก เมื่อ POSITIONING ถามเธอถึงสิ่งท้าทายในฐานะเป็นผู้นำใหม่คนหนึ่งขององค์กรข้ามชาติ

นอกจากต้องพาองค์กรเติบโต พรรณียังดูแลสารทุกข์ของชาวโอกิลวี่ ที่ปัจจุบันมีร่วม 300 คน ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสนุก และมีความสุขในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นทีม ซึ่งเธอมีหลักบริหารงานที่อาศัยทั้ง “พระเดช-พระคุณ” ควบคู่ไปกับการงาน “ทำด้วยใจ” ซึ่งเธอเองก็ทำตัวเป็นต้นแบบโอกิลวี่

“การเป็นผู้หญิงกับการบริหาร มันเป็นข้อได้เปรียบเหมือนกัน เพราะผู้หญิงเป็นเพศอดทน รู้จักรอคอย และเข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้ดี” พรรณีให้ทัศนะ

สำหรับการทำงานที่โอกิลวี่ร่วม 20 ปี และเป็นองค์กรข้ามชาติที่เธอบอกว่า ทำให้เรียนรู้ความเป็นมืออาชีพแบบอินเตอร์แบบครบถ้วน เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นจ้างคนที่มีสมอง ทำงานจริงจัง ไม่ฉาบฉวย ขณะเดียวกัน ต้องมีความอ่อนน้อม หรือ Gentle Man with Brian

“โอกิลวี่จะมีหนังสือชื่อ People ซึ่งเดวิด โอกิลวี่เขียน และ เป็นเหมือนคัมภีร์ของคนโฆษณา สำหรับคนโอกิลวี่ที่จะทำงานบริหารจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ และสิ่งหนึ่งที่โอกิลวี่ทำเสมอ คือ ฝึกอบรมโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะเชื่อว่าคนที่รักองค์กรจะอยู่ ถ้าไม่รักก็ไป และมันเป็นสัญญาใจ คนที่ลาออกไปส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับเงิน เพียงแต่เราไม่สามารถทำให้เป็นอาชีพที่ดี ในที่สุดคนต้องลาออก คนที่โอกิลวี่ลาออกไปเป็นซีอีโอ VP กันเยอะ เพราะบริษัทที่มีคนที่มีความสามารถ ถึงจุดหนึ่งมันตัน ในที่สุดต้องลาออกไป”

นอกจากตำราโอกิลวี่ พรรณียังมีบุคคลซึ่งเป็นอดีตประธานกลุ่มโอกิลวี่ฯ อย่าง “สุนันทา ตุลยธัญ” ที่เป็นยึดเป็นต้นแบบการทำงาน “ศรัทธา คุณสุนันทา ที่ถือเป็น Role Model ในการทำงาน เพราะเป็นคนจริงใจ หวังดีกับทุกอย่างที่ทำ นอกจากนี้ ยังเป็นคนรักองค์กร ทำงานเพื่อองค์กร ไม่คิดทำเพื่อตัวเอง ซึ่งเธอซึบซับมาเต็มๆ โดยเฉพาะทำงานด้วยใจ” เธอเล่าอย่างปลาบปลื้ม

นอกจากต้นแบบจากรุ่นพี่ที่ทำงาน ส่วนหนึ่งพรรณีค้นพบและเห็นแววตัวเองว่าอยากทำอาชีพ “ คนโฆษณา” มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งพรรณีเล่าย้อนวัยเด็กให้ฟังว่า

“เมื่อก่อนอยากเป็นเภสัชกร อยากมีร้านขายยา พอรู้ว่าตัวเองไม่ชอบเรียนวิชาเคมีคำนวณเลยเปลี่ยนทันทีไปเรียนนิเทศศาสตร์แทน ซึ่งพอมาเรียนก็พบว่า เป็นวิชาที่ง่ายสุด เพราะสิ่งที่อาจารย์สอนมันเป็นCommon Sense ในสมองเรา และอาจารย์ก็ชมว่าเขียนดี จึงรู้สึกว่าเป็นมันทางเราแล้ว”

หลังจากนั้น เธอสมัครเข้าทำงานเอเยนซี่โฆษณาคนไทยแห่งหนึ่ง ทำอยู่ 1 ปี จากนั้นบินไปศึกษาต่อด้านโฆษณาที่สหรัฐอเมริกาอีก 2 ปี และกลับมาทำงานที่แมคแคนฯ อีก 1 ปี จากนั้นลาออก และเข้ามาร่วมงานที่โอกิลวี่ แอนด์เมเธอร์ แผนกบริหารลูกค้าในปี 2528
จุดเปลี่ยนคนโฆษณา สำหรับเธอเกิดขึ้นเมื่อหลังจากทำงานเป็น Client Service อยู่ 13 ปี จากนั้นถูกย้าย ทำงานบุกเบิกงานด้าน Strategic Planner แผนกวางแผน และก้าวขึ้นเป็น Managing Directorโอกิลวี่ แอดเวอร์ไทซิ่ง ทำงานตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอยู่นานถึง 5 ปี ก่อนถูกโปรโมตให้เป็น Vice Chairman ของกรุ๊ป

“ตอนแรกถูกให้เป็น MD กลัวไม่เวิร์ค เพราะมีคุณแดงเป็นต้นแบบ และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และถือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับพี่ ว่า เราจะทำอย่างไรให้ Ogilvy อยู่อย่างแข็งแกร่งเหมือนสมัยคุณสุนันทาอยู่ และทำอย่างไรให้องค์กรอยู่เมื่อเราไม่อยู่ และแต่ละยูนิตยังครองความเป็นผู้นำอยู่ได้ ” เธอเผยความรู้สึกเมื่อครั้งขึ้นตำแหน่งบริหารเอ็มดีใหม่ให้ฟัง

สำหรับผู้หญิงแกร่งเช่นเธอ ความรู้สึกครั้งนั้นเป็นเพียงแวบแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็ฉลุย สอบผ่านการเป็นผู้บริหารที่ทำงาน ที่สำคัญทุกอย่างที่เธอลงในเนื้องาน ยังมาจากใจ ซึ่งเธอบอกว่า “ทำงานทุกอย่างด้วยใจ และไม่ได้ทำงานเพราะหน้าที่ ถ้าไม่มีใจก็ทำไม่ได้ ยิ่งเราต้องรับผิดชอบชีวิตคน ต้องดูแลรายได้ ผลตอบแทน บรรยากาศทำงาน Happy ซึ่งต้องใช้ใจ เพราะมีบางส่วนที่เกี่ยวพันกับงานโดยตรง กับคนที่อยู่”

“เมื่อให้งาน หน้าที่ความรับผิดชอบลูกน้อง อย่าไปแก้ไขความคิดของลูกน้อง แต่ให้ Support แทน โดยเฉพาะคนที่มีลูกน้องเป็นผู้ใหญ่ เพราะการบริหารกับงาน มันคล้ายกัน โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในงานได้ ก็สามารถมีเพื่อนร่วมงานที่ดี เพราะคน (ลูกน้อง) จะไม่มองเราแค่คนบริหาร ออกคำสั่ง แต่เห็นเรามากกว่านั้น เพราะเวลาที่เค้าทำงานก็จะเห็นเรายืนอยู่ด้วย ”

“เคยมีคนชวนไปทำงานใหญ่ 3 ครั้ง 1 ในนั้นเป็นฝ่ายมาร์เก็ตติ้งยูนิลีเวอร์ แต่ก็ไม่ไป เพราะอยากทำงาน Communication และมันไม่ใช่งานที่ใช่ พี่เลือกอาชีพนี้ (เอเยนซี่โฆษณา) แล้ว ไม่เคยคิดเปลี่ยนไปอาชีพอื่น อีกอย่างพี่เป็นคนไม่มีความสามารถพิเศษ อย่างกีฬา ก็วิ่งเป็นอย่างเดียว แต่ถ้ารักก็จะทำ เหมือนอย่างรักงานโฆษณา แม้ลำบากก็ทำ” เธอบอกอย่างถ่อมตน

นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักโฆษณามืออาชีพที่ยึด “จรรยาบรรณ” ในการทำงานค่อนข้างสูง แม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นนโยบายโอกิลวี่ใหญ่ก็ตาม แต่สำหรับเธอ มันเป็น “แกนอาชีพ” ข้อใหญ่ ซึ่งเธอบอกว่า “โฆษณาใดที่ไม่อยากให้ครอบครัวเราดู ก็จะไม่ทำ”

ไม่เพียงเป็นนักบริหารที่ยึดหลักการ แต่เธอยังผู้บริหารหญิงที่กระตือรือร้นในการทำงานสูง ส่วนหนึ่งมาจากบุคลิกที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะการพูดจาที่ฉะฉาน คล่องแคล่ว และที่สำคัญ เธอเป็นคนทำงานเร็วและชัดเจนมาก ซึ่งพนักงานโอกิลวี่ทั้งระดับบนและล่างรู้จักดี

“พี่เป็นคนชอบใฝ่รู้ ซึ่งสิ่งใดที่ไม่รู้ เธอจะถามผู้รู้ทันที อาจเป็นลูกค้า หรือคอนซูเมอร์ เพราะเธอเชื่อว่า หากเราไม่รู้ ก็ต้องหัดถาม ความรู้จึงจะเกิด”

ดังนั้น จึงไม่แปลกหากคนโอกิลวี่มักเห็นเธอมีไฟในการทำงานเสมอๆ เพราะทุกครั้งที่ลูกค้ามีโจทย์ใหม่ๆ เข้ามา “พลังแห่งเวิร์คกิ้งวูแมน” จะถูกจุดประทุให้ลุกโชน

“ตื่นเต้นนะ เวลามี Assignment ใหม่จากลูกค้า ส่วนมากจะไปหาข้อมูลก่อนไปคุยกับลูกค้า เพราะพี่เป็นคนมี Content เยอะ ไม่ใช่คนฉาบฉวย ถ้าหากต้องไปเจอลูกค้า จะถามว่า กินข้าว หรือประชุม เพราะชอบไปประชุมมากกว่า เพราะทำให้เรามีโอกาสได้คุย แสดงศักยภาพ ขณะที่การกินข้าวมันเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายองค์กร ซึ่งต้องกลับมาเป็นค่าใช้จ่ายลูกค้า” เธอบอกอย่างอารมณ์ดีในตอนท้าย

Profile:

ชื่อ : พรรณี ชัยกุล
อายุ : 48 ปี
การศึกษา : ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประสบการณ์การทำงาน :
2549-ปัจจุบัน รองประธาน บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
2545 กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
2543 ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
2542 ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานลูกค้า และกรรมการบริหาร บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
2528 แผนกบริหารงานลูกค้า บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
คติในการทำงาน : อุปสรรค ท้าทายความคิดสร้างสรรค์
สถานภาพ : สมรส
งานอดิเรก : ทุกวันศุกร์หลังเลิกงานไปบ้านพักชายทะเลที่ปราณบุรี เล่นกับสุนัขเลี้ยง 4 ตัว นวดตัว ทำเล็บ