ฮีโร่ความเร็ว

“ความรวดเร็ว” ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ธนาคารกสิกรไทย หรือ “เคฮีโร่” นิยมชมชอบที่จะใช้มาเป็นแคมเปญทางการตลาด โดยเฉพาะการใช้กับสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะไม่กี่เดือนผ่านมาหลังจากประเดิมแคมเปญอนุมัติสินเชื่อด่วนจี๋เพียง 3 วัน จนสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการ ก็ดันแคมเปญความเร็วตัวใหม่ออกมาให้วงการหวั่นไหวอีกครั้ง

นัยของความรวดเร็ว เป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างแบรนด์ของเคฮีโร่ โดยเฉพาะการบุกตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเคแบงก์เอาจริงเอาจังกับธุรกิจนี้อย่างมาก ถึงขนาดแยกหน่วยนี้ออกมาบริหารงาน ปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ ลงทุนด้านไอทีหลายล้านบาท และมีเป้าหมายจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดสินเชื่อให้ได้ หรือเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากร้อยละ 23 ในปีที่แล้ว มาเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2551

งานนี้เคฮีโร่มั่นใจว่าจะท้าชนกับแบงก์บัวหลวง เจ้าตลาดสินเชื่อเบอร์หนึ่งในปัจจุบันให้ได้ โดยเชื่อว่า รูปแบบการบริการใหม่แบบใกล้ชิดแบบ “ไฟแนลเชียล โซลูชั่น” ทั้งรวดเร็วและเป็นกันเอง ผ่านศูนย์บริการสาขาทั่วประเทศ 575 แห่ง จะเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ซึ่งปีที่แล้วกสิกรมีลูกค้าเอสเอ็มอีกว่า 2 แสนราย มียอดอนุมัติสินเชื่อกว่า 40,000 ล้านบาท และจะขยายถึง 60,000 ล้านบาทในปีนี้

10 วันได้เงินเลย…แคมเปญตัวใหม่ที่ผู้บริหารเคฮีโร่บอกว่ารวดเร็วกว่าแคมเปญ 3 วันอนุมัติ และถือว่าเร็วที่สุดในวงการแบงก์ ซึ่งตามขั้นตอนต้องรอเงินก้อนอีก 1-2 เดือนกว่าจะได้ แต่ 10 วันได้เงินไปลงทุนทันทีเป็นกลยุทธ์ตัวใหม่ซึ่งจะมากระทุ้งตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยงานนี้เคแบงก์ลงทุนปรับทั้งระบบไอที และปรับบริหารจัดการใหม่ โดยเฉพาะลดขั้นตอนการขอสินเชื่อให้สั้นลง

“การแข่งกันเร็วอย่างเดียวไม่พอ ต้องเร็วและสม่ำเสมอด้วย เช่น ลูกค้าทุกคนที่ขอสินเชื่อต้องได้ 10 วัน เหมือนกันทุกคน ไม่ใช่คนนี้ได้ 10 วัน อีกคน 11 วัน 12 วัน ซึ่งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำต้องเร็วและมีความต่อเนื่อง เราจะอาศัยช่วงนี้ที่คู่แข่งรายอื่นดูเงียบๆ บุกตลาด” บุญทักษ์ หวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ทิ้งท้ายถึงกลยุทธ์การสร้างแคมเปญ

Did you know?

ธุรกิจเอสเอ็มอีมีมูลค่าถึง 2.9 ล้านล้านบาท หรือ 39.5% ของ GDP ในประเทศ มีอัตราการเติบโต 4.5-4.7% ต่อปี และ 65% ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อยู่ในธุรกิจประเภทบริการและค้าปลีก