คำพูด “ฟันธง” ของ หมอลักษณ์ น่าจะเป็นวาทะที่มีอิทธิพลคำหนึ่งในวงการโหราศาสตร์ และกลายเป็นยี่ห้อประจำของหมอดูผู้นี้ไปแล้ว ยิ่งคำๆ นี้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะช่วงจังหวะการทำนายเหตุบ้านการเมือง และลิขิตของคนมายาในวงการบันเทิง ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาฟันธงของหมอลักษณ์มีพลังบางอย่างที่ทำให้หลายคนสนใจ
ไม่ใช่ว่าใครจะพูด “ฟันธง” เหมือนหมอลักษณ์ได้ ด้วยลีลาน้ำเสียงที่ดุดัน มั่นใจ ทำให้เขากลายเป็นหมอดูที่มีอิทธิพลต่อการตรวจดวงชะตามากที่สุดคนหนึ่ง
หมอลักษณ์ เล่าว่า คำว่า ฟันธง เป็นคำที่อยู่คู่สังคมมานาน เพียงแต่เขาหยิบมาใช้เพื่อเป็นประโยคฮิตของตัวเอง คล้ายกับคำฮิตของปัญญา นิรันดร์กุล ที่มักพูดว่า ถูกต้องนะคร้าบ หรือคำว่า คำตอบสุดท้ายของ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ ที่กลายเป็นประโยคประจำตัวไปแล้ว
การเริ่มต้นใช้คำนี้ เกิดขึ้นในช่วงปี 2544-2545 เมื่อเขาได้ไปทำรายการทางเคเบิลช่องหนึ่ง และมีความคิดว่าเวลาทำนายดวงชะตาคนดัง ควรจะมีธงปัก 3 อัน เพื่อสร้างสีสันให้ให้รายการในขณะทำนายดวง โดยธงผืนแรกสีแดง มีข้อความในผืนธงว่าชัวร์ป๊าบ 100% อีกผืนเป็นสีขาว เขียนว่า 50/50 และอีกธงเป็นสีดำ เขียนว่า มั่วนิ่ม
การหยิบธงและทำนายของหมอลักษณ์ในขณะนั้น ไม่มีใครคาดว่าจะกลายเป็นวลีฮิตติดปาก และกลายเป็นยี่ห้อหรือเอกลักษณ์ของเขา ตั้งแต่ครั้งนั้นหมอลักษณ์ได้ใช้คำนี้มาตลอด และพัฒนาการมาให้เหลือธงแดงผืนเดียว เพื่อชี้ชัดว่า สิ่งที่เขาทำนายนั้น มีเปอร์เซ็นต์ความถูกต้องแม่นยำสูง
ในยุทธจักรหมอดูชั่วโมงนี้ หมอลักษณ์ถือเป็นหมอดูที่บทบาทมาก ในการตรวจดวงชะตาบ้านเมือง และดูดวงชะตาคนดัง ทั้งดารา นักการเมือง เรียกได้ว่าเกือบทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดวิกฤต หรือเกิดมีคู่รักดาราเกิดใหม่ คนดังเกิดปัญหา ชื่อของหมอลักษณ์จะปรากฏตามสื่อ มีการสัมภาษณ์ถึงประเด็นเรื่องราวดังกล่าว
จะจริงหรือไม่จริงอย่างไรก็ตาม ในความรู้สึกของรักและคนชังในตัวเขา แต่หมอลักษณ์ก็ถือเป็นหนึ่งในหมอดูเมืองไทยที่ในขณะดูดวงและสื่อสารผ่านผู้ฟังมีจิตวิทยาบางอย่างที่ทำให้คนรู้สึกคล้อยตาม และหยุดฟัง ด้วยลีลาเสียงดัง ฟังชัด พร้อมๆ กับการใช้ฐานวิชาโหราศาสตร์มาผสมผสานการพูดคุย ทำให้น่าติดตาม
ความโด่งดังของเขาอาจปฏิเสธไม่ได้ เมื่อเขามาทำงานกับโพลีพลัส ของสะใภ้ไทยรัฐ นิด-อรพรรณ วัชรพล ในฐานะงานพิธีกรรายการ ตลาดสด สนามเป้า ทาง ททบ.5 และพิธีกรรายการศึก 12 ราศีทางช่อง 3 ถือเป็นสื่อสำคัญ คล้ายกับการแบรนดิ้งตัวเองให้เป็นที่รู้จักต่อผู้คนในทั้งประเทศ
“ตั้งแต่ผมทำสองรายการนี้ ทุกวันนี้ผมเหมือนคนดัง อาจเป็นดาราไปแล้วก็ได้ในความรู้สึกของคนบางคน ไปไหนมาไหนทั่วประเทศ ทำอะไร ก็จะมีคนเข้ามาคุย ถึงขนาดมีหนังสือดาราเอาผมไปเขียนแล้ว”
หมอลักษณ์เรียกช่วงชีวิตของเขาวันนี้ว่า น่าจะเป็นจุดสูงสุดของการทำงานแล้ว…
ความดัง อาจเหมือนภาพมายาที่ไม่ยั่งยืน หมอลักษณ์เชื่อว่าการทำหน้าที่ในแต่ละบทบาทที่ได้รับให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หมอดู หน้าที่พิธีกรที่ทำอยู่ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และยั่งยืนที่สุด เหมือนหมอดู ใครๆ ก็อาจเป็นได้ หากแต่เมื่อเป็นแล้วสามารถใช้วิชาโหราศาสตร์มาทำนายได้แม่นยำมากพอหรือไม่ ทำให้ทุกคนเชื่อถือได้หรือไม่ ถือว่ายากมาก
เส้นทางถึงวันนี้เกือบ 16 ปี นับตั้งแต่หมอลักษณ์ เริ่มศึกษาวิชาโหราศาสตร์อย่างเมื่อครั้งศึกษาชั้นปีที่1 เทอม 2 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อปี 2534 มาสู่วิชาชีพหมอดูนั่งประจำอยู่ที่โรงแรมชาลีน่า ซอยมหาดไทย และโรงแรมปริ้นเซส หลานหลวง เป็นจุดเริ่มต้น
“ชาลีน่า ช่วงนั้นเป็นที่ถ่ายทำละครหลายเรื่อง อย่างโรงแรมปริ้นเซส ก็เป็นสถานที่พบปะกันของนักการเมือง และมหาเศรษฐีชอบมานั่งทานอาหารกลางวัน เมื่อผมมีโอกาสได้ดูดวงดารานักแสดง และนักการเมืองหลายๆ คน ชื่อของเราก็เริ่มเป็นรู้จักมากขึ้น”
ชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของหมอลักษณ์ บ้านเขาเคยไฟไหม้หมดเนื้อหมดตัว ในขณะเพิ่งใช้ชีวิตหมอดูมาพักหนึ่ง แต่นั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้หมอลักษณ์ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากเปลว สีเงิน ไทยโพสต์ ทำงาน กินนอน ใช้ชีวิต เขียนคอลัมน์ที่นั่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขารู้จักสื่อหลายๆ แขนงๆ
นักการเมืองคนแรกที่เขาดูดวงให้ คือ จองชัย เที่ยงธรรม ส่วนประเด็นหน้าหนังสือพิมพ์ที่ปรากฏชื่อเสียงของเขาเริ่มตั้งแต่ในยุค “ชวน” ขาลง ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ฟันธง “บรรหาร” จะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนวงการบันเทิงที่ดูแล้วฮือฮาที่สุด คือ ทำนายเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย ขาลง แหม่ม-คัทลียา ท้อง และโดม-พลอย ไม่ใช่คู่แท้ จะเลิกกัน
วันนี้ของหมอลักษณ์ ในวิชาชีพหมอดู เขาเปิดสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ มีลูกศิษย์นับพันคน ดูทั้งลายมือ ลายเซ็น และวิเคราะห์ผ่านหลักดวงดาวของโหราศาสตร์ไทย และเปิดธุรกิจของตัวเองอีก 4 บริษัท ไม่ว่าจะเปิดบริษัททำพ็อกเกตบุ๊ก ทำทัวร์ ผลิตรายการทีวี และทำธุรกิจดูดวงผ่านเว็บไซต์
เป้าหมายของหมอลักษณ์ เขาบอกว่า จะทำงานไปอีก 5 ปี และจะออกจากวงการไปผลิตรายการที่เขาใฝ่ฝัน ในเชิงธรรมะ เช่น ท่องโลกไปดูวัดไทยในต่างแดน ไปดูสิ่งสักการะในอีกซีกโลกหนึ่ง เป็นต้น
Profile
Name : ลักษณ์ เรขานิเทศ
Age : 36 ปี
Education : ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
Career Highlights : – เจ้าของสถาบันพยากรณ์ศาสตร์
– เปิดบริษัทของตัวเอง 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท รศ.221 พับลิเคชั่น ผลิตพ็อกเกตบุ๊ก, บริษัท รศ.221 แทรเวล จำกัด ทำธุรกิจทัวร์ไหว้พระ, บริษัท รศ.221 เทเลวิชั่น จำกัด ผลิตรายการทีวี และบริษัท เดอะฟันธงดอทคอม จำกัด
– พิธีกรรายการ ตลาดสดสนามเป้า ทาง ททบ.5
– พิธีกรรายการ ศึก 12 ราศี
– จัดรายการฟันธงวันหยุด ทางยูบีซี