หลังจากที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดผู้ใช้งานกว่า 33 ล้านรายในประเทศไทย เป็นแชทแอปยอดนิยมของคนไทย ทำให้ไทยรั้งอันดับ 2 ของโลกที่มีผู้ใช้ LINE มากที่สุด ยังเป็นเครื่องมือการตลาดของไลน์ เปิดตัว 2 บริการใหม่ กระตุ้นรายได้จากแบรนด์ หลังจากออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์และการออกสติกเกอร์ของแบรนด์เริ่มนิ่ง
ณัทธร ชัยนาม หัวหน้าฝ่ายธุรกิจองค์กร ไลน์ ประเทศไทย (LINE ประเทศไทย) บอกว่า เวลานี้ มีแบรนด์ต่างๆ ที่มาเป็น LINE Official Accounts และได้ออกสติกเกอร์ของตัวเอง อยู่ประมาณ 130 ราย
โดยพบว่าเทรนด์ในการออก Stickers นั้นเปลี่ยนไปจากจากเดิม เพราะในปัจจุบันแบรนด์จะหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับการคุณภาพของ Stickers มากขึ้น เพราะ Stickers เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์ที่จะถูกแชร์และส่งต่อ สามารถสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค ถึงแม้ว่ามีผู้ที่โหลดสติกเกอร์แล้วบล็อก Official Accounts เป็นจำนวนไม่น้อยก็ตาม แต่ Stickers ของแบรนด์ก็ยังสื่อสารกับผู้บริโภค ได้รับการส่งต่อและถูกแชร์ในจำนวนมาก
สำหรับเทรนด์ของสติกเกอร์ที่มาแรงในขณะนี้คือ สติกเกอร์ที่มีเสียงและสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยสติกเกอร์ที่มีการส่งต่อมากที่สุด มีจำนวน 1,100 ล้านครั้ง คือสติกเกอร์จากบริษัทในกลุ่ม ปตท.
ล่าสุด LINE ยังได้เปิดตัว 2 เครื่องมือใหม่ LINE Business Connect และ LINE Brand Spot เป็นเครื่องมือที่มาต่อยอดจากบริการออฟฟิเชียล แอ็กเคานต์ ไลน์เองก็หวังว่าเครื่องมือใหม่นี้จะมาเพิ่มรายได้ให้กับ LINE อีกด้วย
LINE Business Connect เป็นบริการสำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการส่งข้อความสื่อสารลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ในรูปแบบที่ต้องการ
ณัทธร ยกตัวอย่าง ไทยรัฐทีวี ลูกค้ารายแรกของ LINE Business Connect ที่ให้ผู้ชมโทรทัศน์ทางบ้านแสดงความคิดเห็นออกสื่อสาธารณะโชว์บนหน้าจอทีวีช่อง “ไทยรัฐทีวี” ผ่านแอปพลิเคชัน Thairath LINE Official Account (@thairath) เพื่อเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสารและเพิ่มยอดคนดูให้กับไทยรัฐทีวี โดยผู้ใช้ไลน์ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการส่งข้อความและสติกเกอร์ขึ้นหน้าจอไทยรัฐทีวีทุกช่วงรายการสด
LINE Business Connect ถือเป็นเครื่องมือเสริม ต่อยอดจาก Official Accounts โดย Official Accounts นั้นจะเป็นการสื่อสารแบบ One-way แต่ LINE Business Connect นั้นจะทำให้แบรนด์ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยบริการ LINE Business Connect นั้นมีราคาแพ็กเกจอยู่ที่เดือนละ 150,000 บาท
ในส่วนของ LINE Brand Spot นั้น เป็นอีกหนึ่งบริการที่ทาง LINE ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดย LINE Brand Spot เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ผลิตแอปพลิเคชัน หรือทำซอฟต์แวร์ต่างๆ โดยจะมีบริการ Free Coins (แจกเหรียญฟรี) สำหรับแบรนด์ที่ต้องการดึงดูดให้โหลดแอปพลิเคชัน หรือร่วมสนุกกับแบรนด์โดยการมีรางวัลเป็น Free Coins สำหรับนำไปแลกสติกเกอร์ได้
นอกจากนี้แบรนด์ยังสามารถลงคลิปโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้าและจัดทำโปรโมรชั่นให้กับลูกค้าได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ผงซักฟอก โอโม่ ที่มีโปรโมชัน Free Coins ให้กับลูกค้าที่ดูคลิปโฆษณาจนจบ เป็นต้น ซึ่งสำหรับเครื่องมือ LINE Brand Spot นั้น ปัจจุบันจะใช้ได้เพียงระบบแอนดรอยด์เท่านั้นยังไม่สามารถใช้กับระบบ iOS ได้
สำหรับ LINE Business Connect และ LINE Brand Spot เป็นกลุ่มเครื่องมือที่ LINE นำเข้ามาเพื่อให้บริการลูกค้าสำหรับแบรนด์หรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งทาง LINE คาดว่า 2 บริการนี้จะทำให้ LINE มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการทำ Official Accounts, Line Stickers ที่ค่อนข้างมีรายได้ทรงตัวในปีที่ผ่านมา