Home 2021
Yearly Archives: 2021
LINE SHOPPING ส่งแคมเปญ “HugAnimals รักนะเจ้าสี่ขา” หนุนกำลังกลุ่มอาสาช่วยเหลือสัตว์จรจัด คนรักสัตว์ห้ามพลาด! แค่ช้อปก็ช่วยเหลือน้องเหมียวและเจ้าตูบจรจัดได้
LINE SHOPPING จัดแคมเปญ HugAnimals รักนะเจ้าสี่ขา ตั้งแผงรายการ LIVE จูงมือเน็ตไอดอลดังเปิดพื้นที่ขายของ นำทีมโดย บูม จากเพจ “เทย กะ ทะ” และอื่นๆ เชิญชวนคนรักหมา-รักแมวมาร่วมด้วยช่วยกันช้อปเพื่อเพื่อนซี้สี่ขาของเรา กับกองทัพสินค้าสำหรับน้องหมาและน้องแมวกว่า 150 ร้านค้า จัดเต็มตั้งแต่อาหารไปจนถึง ไอเทมเลี้ยงสัตว์ โดยรายได้ 5% จากยอดขายผ่านรายการ LIVE จะถูกส่งต่อไปยัง 4 กลุ่มอาสาช่วยเหลือสัตว์จรจัด ได้แก่ (1) Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด, (2) มูลนิธิรักษ์แมว, (3) Catster by Kingdom of Tigers และ (4) Soi Dog Foundation เพื่อสนับสนุนการดำเนินการช่วยเหลือสัตว์จรจัดหลังกลุ่มอาสาต่าง ๆ...
‘เกียรตินาคินภัทร’ ร่วมกับ ‘เจนเนอราลี่’ ออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คุ้มครองโรคร้าย-ค่าชดเชยนอนโรงพยาบาล คุ้มครองอย่างครอบคลุม
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ร่วมกับ เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต เดินหน้าออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมภายใต้สัญญาประกันชีวิต ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ กับ “KKPGEN CI CARE PLUS” สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครอง 32 โรคร้ายแรงและ “KKPGEN HB CARE PLUS” สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาล สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด...
พฤกษา โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน ยอดขายเติบโต 24% พร้อมเปิดศูนย์เบาหวาน รพ.วิมุต มุ่งสู่ระดับชั้นนำของประเทศไทย
พฤกษา เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2564 มียอดขาย 20,067 ล้านบาทเติบโต 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำรายได้ 19,192 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,364 ล้านบาท ลดสินค้าคงค้างไปได้ 57% ไตรมาส 4 ลุยเปิด 9โครงการใหม่ พร้อมจัดเต็ม อัดฉีดโค้งสุดท้ายปลายปี ด้วยแคมเปญ “ลดเด็ด ยกกำลัง 3” ส่งท้ายปี ! ใหญ่! ไม่งอก ! พิเศษ! ด้านรพ.วิมุต เผยความพร้อมผนึกเทพธารินทร์ รพ.ในเครือ ดันศูนย์เบาหวาน ชูจุดขายความเชี่ยวชาญพร้อมเทคโนโลยีใหม่ มุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมเรื่องการผ่าตัดแบบ Safe...
Netflix และ Red Notice ปลุกความเป็นนักล่าสมบัติในตัวคุณ กับภารกิจ “ไล่ล่าไข่คลีโอพัตรา” ชิงรางวัลมูลค่า 300,000 บาท
Netflix ปลุกความเป็นนักล่าสมบัติในตัวคุณ! ด้วยฝีมือฉกาจฉกรรจ์แบบนักโจรกรรมในภาพยนตร์ ‘RED NOTICE’ กับ ‘ภารกิจไล่ล่าไข่คลีโอพัตราใบที่ 4’ โดยผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว จะได้รับไข่ล้ำค่าพร้อมทองคำ มูลค่ากว่า 3 แสนบาทไปครอง
Red Notice คือ ภาพยนตร์แอ็คชั่นไล่ล่าข้ามโลก แบบที่ไม่รู้ว่าใครจะจับใคร เริ่มฉายเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ทาง Netflix และความสนุกของการเดินทางผจญภัยที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครหลักทั้งสาม ปลุกกระแสความเป็นนักล่าสมบัติล้ำค่าในตัวแฟน ๆ Netflix จึงตอบสนองด้วยกิจกรรม “ไล่ล่าไข่คลีโอพัตรา ใบที่ 4” ที่ต้องประลองไหวพริบกันแบบ Virtual Hunt!
กิจกรรมท้าทายเช่นนี้สำหรับแฟน ๆ Netflix ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น อ่านกติกาแและเงื่อนไขด้านล่าง เตรียมพร้อมรับคำใบ้ทางเฟซบุ๊กของ Netflix 17 - 20 พฤศจิกายนนี้ แล้วไปสนุกกับการโจรกรรมแบบ Virtual...
CRC ยกระดับการช้อปปิ้ง ให้คนไทยช้อปสบาย เร่งปรับโฉมร้านค้าและบริการ ดึงกำลังซื้อคนเดินห้างฯ พร้อมโชว์ยอดขายออมนิแชแนลโตกว่า 120 %
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าธุรกิจต้อนรับการเปิดประเทศ เร่งปรับโฉมห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และบริการต่าง ๆ รองรับการกลับมาเดินออฟไลน์สโตร์ของผู้บริโภคอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมสานต่อกลยุทธ์ Customer-Centric Omni-Channel Platform ผสานช่องทางจำหน่ายสินค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทยให้กับลูกค้าทุกคน ซึ่งสร้างสถิติการเติบโตของยอดขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 120 % ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2564 พร้อมเปิดตัวคลิปออนไลน์ “สบาย Shopper” ในแคมเปญ “ชอบสบาย ต้องช้อปสบายยย” ชูแพลตฟอร์มและบริการ “ออมนิแชแนล” ให้เหล่านักช้อปสามารถซื้อสินค้าได้ง่าย และสะดวกสบายกว่าที่เคย การันตีประสิทธิภาพการบริการ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดและครบครันที่สุด
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด...
คิมป์ตัน เดินหน้าขยายการเติบโตในประเทศไทย
Kimpton Hotels & Restaurants 1 ใน 6 แบรนด์ในฝั่ง Luxury & Lifestyle ของ IHG Hotels & Resorts มุ่งหน้าขยายการเติบโตในประเทศไทย วางแผนเปิดตัว คิมป์ตัน เขาใหญ่ ซึ่งนับเป็นคิมป์ตันแห่งที่สาม ที่ได้ลงนามเซ็นสัญญาในประเทศไทย ภายหลังการเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา
คิมป์ตัน เขาใหญ่ เตรียมเปิดให้บริการในปี 2567 ด้วยห้องพักสุดหรูกว่า...
“โรบินฮู้ด” ส่งแคมเปญ “ลาดพร้าว-ห้วยขวาง สตรีท ตำ ยำ แซ่บ” รวมฮิตความอร่อยจัดจ้านขึ้นแพลตฟอร์ม พร้อมแจกโค้ดส่วนลดทันที 50 บาท
“โรบินฮู้ด” แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย ส่งแคมเปญใหม่ล่าสุด “ลาดพร้าว-ห้วยขวาง สตรีท ตำ ยำ แซ่บ” ยกขบวนความแซ่บนัวถึงขั้วหัวใจจากร้านยอดฮิตย่านลาดพร้าว-ห้วยขวางมาไว้บนแพลตฟอร์ม เตรียมเสิร์ฟความอร่อยจัดจ้านส่งตรงถึงหน้าบ้าน พิเศษสุด! แจกโค้ดส่วนลด “LADPRAO50” ลดทันที 50 บาทสำหรับลูกค้าโรบินฮู้ดเท่านั้น! ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2564
นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ “โรบินฮู้ด” แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี กล่าวว่า “โรบินฮู้ด เดินหน้าปักหมุดพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดแผนกลยุทธ์ “Zoning Campaign” ตามเก็บร้านดังตามพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงทั่วกรุงเทพฯ มาไว้บนแพลตฟอร์ม โดยเราพบ Insight สำคัญว่าย่านลาดพร้าว-ห้วยขวาง...
ม.หอการค้าไทย จับมือ ตลท. เปิดหลักสูตร aMBA ปั้นนักวิเคราะห์การลงทุนหนุนเศรษฐกิจ พร้อมสิทธิพิเศษ จบโทพ่วงทุนสนับสนุนสอบ AISA
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดสอนหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ซึ่งร่วมพัฒนากับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเชื่อมโยงเข้ากับหลักสูตร AISA เพื่อสร้างมหาบัณฑิตที่มีองค์ความรู้สู่การเป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์การเงิน หลักทรัพย์ และการจัดการการลงทุน โดยบูรณาการองค์ความรู้จากนักวิชาการและผู้มีประสบการณ์จริง สร้างโอกาสในการก้าวสู่เส้นทางนักวิชาชีพการเงิน พร้อมรับทุนสนับสนุนการสอบ AISA ฟรี
ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หลักสูตร aMBA เกิดจากเจตนารมณ์ที่ ม.หอการค้าไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เห็นพ้องถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการลงทุน จึงผนวกรวมหลักสูตร AISA (Accredited Investment...
ผ่าเทรนด์ทรานส์ฟอร์มอสังหาฯ สู่ปี 65 จากงาน “TRANSFORMING REAL ESTATE THAILAND FORUM 2021” พลิกโครงสร้างสู่ Hybrid-นำ AI ยกระดับงานออกแบบ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สร้างการเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก ผู้คนตลอดจนภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากการใช้ชีวิตแบบวิถีปกติ สู่ชีวิตวิถีใหม่แบบ ‘New Normal’ มาจนถึง ‘Next Normal’ และในปี 2565 ก็จะเข้าสู่ยุค Now Normal ยุคที่ผู้คนต่างปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ และต่างมองหาประสบการณ์แบบครบวงจร
หากผู้ประกอบการไม่เตรียมพร้อมหรือปรับตัวเพื่อรับมือ การดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุค Now Normal อาจเป็นเรื่องยาก บริษัท พีเพิลสเคป จำกัด หรือ PEOPLESCAPE ในเครือ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จึงจัดงานสัมมนาออนไลน์ในรูปแบบ Free Webinar ภายใต้ชื่อ “Transforming Real Estate...
กลุ่มดุสิตธานีเผยผลงานไตรมาส 3 ธุรกิจโรงแรมกระเตื้อง อัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าปรับรูปแบบบริการ Dusit Graciousness สอดรับเทรนด์ท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
กลุ่มดุสิตธานีเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 302 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ (QoQ) และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่รายได้รวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 อยู่ที่ 896 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 2,618 ล้านบาท เผยธุรกิจโรงแรมดีขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ทำให้อัตราการเข้าพักสูงขึ้น พร้อมรับอานิสงส์จากกลยุทธ์การปรับโครงสร้างทรัพย์สิน (Asset Optimization) ส่งผลให้รับรู้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ยอมรับยังคงเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน พร้อมเดินหน้าปรับแผนธุรกิจ เน้นวางกลยุทธ์ระยะยาวปรับรูปแบบ Dusit Graciousness สอดรับเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการของกลุ่มดุสิตธานีในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคมถึงกันยายน) ปี 2564 แม้บริษัทฯ จะยังมีผลขาดทุนสุทธิ แต่ก็ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากธุรกิจโรงแรมที่กลับมากระเตื้อง หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ประชากรทั่วโลกได้รับวัคซีนได้อย่างทั่วถึงและกว้างขวางขึ้น พร้อมๆ กับการพัฒนายารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพขึ้น และการเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้มากขึ้น โดยในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ประเทศไทยได้เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ เป็นโครงการนำร่อง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จนกระทั่งสามารถเปิดประเทศได้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
“ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยของกลุ่มดุสิตธานีเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากการเปิดตัวโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญแล้ว เรายังเตรียมความพร้อมของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้มีอัตราการเข้าพักที่โรงแรมสูงขึ้นมาก นอกจากนี้ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จากภาครัฐในช่วงต้นเดือนกันยายน ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทาง ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เริ่มดีขึ้น สำหรับธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ในต่างประเทศในไตรมาส 3 ปี 2564 ยังคงมีอัตราการเข้าพักที่สูงกว่าอัตราการเข้าพักธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ในประเทศไทย และยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมดุสิตธานี มะนิลา โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ และโรงแรมอื่นๆ ที่บริษัทฯ รับจ้างบริหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว
ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ยังได้รับแรงสนับสนุนจากกลยุทธ์ปรับโครงสร้างทรัพย์สิน (Asset Optimization) ส่งผลให้กลุ่มดุสิตธานีสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการขายโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส เชียงใหม่ ให้กับนักลงทุน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและยังทำสัญญารับจ้างบริหารโรงแรมดังกล่าวต่อไปภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 3 ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักของธุรกิจการศึกษาและธุรกิจอาหาร เนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารที่ได้รับอนุญาติให้เปิดบริการตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงพฤติกรรมรับประทานอาหารที่บ้าน ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังจะเห็นการกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งสองธุรกิจในเร็วๆ นี้ หลังจากการเปิดประเทศ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวด้วยว่า แม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่บริษัทฯ จะยังคงเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มดุสิตธานีได้ดำเนินการนโยบายทางด้านการเงินอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด การลดสัดส่วนของต้นทุนและค่าใช้จ่ายคงที่ รวมถึงปรับแผนการลงทุนโดยชะลอการลงทุนใหม่ๆ ออกไป และการลดงบลงทุน (CAPEX)
รวมทั้งยังได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยมีแผนรับมือทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิเช่น การหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้ที่ไม่ใช่ห้องพัก (Non-Room Revenue) การเร่งพัฒนาแหล่งกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีธรรมชาติ ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับกิจกรรมที่หลากหลาย เรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติควบคู่ไปกับการได้รับบริการที่สะดวกสบายและปลอดภัย เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการเมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง รวมถึงการปรับวิถีการให้บริการอันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มดุสิตธานี หรือ Dusit Graciousness โดยให้ความสำคัญกับ 4 แกนหลัก คือ บริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service) บริการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) บริการที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและคนรอบข้าง (Locality) และบริการที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (Sustainability) เพื่อรองรับกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะทำให้กลุ่มดุสิตธานีสามารถสร้างการเติบโตไปกับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่จะเป็นเทรนด์หลักในอนาคต
“แม้เราจะเชื่อว่า การท่องเที่ยวได้ผ่านจุดที่ต่ำที่สุดไปแล้ว และสถานการณ์น่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ยากที่จะคาดการณ์ถึงผลกระทบในระยะต่อไป ดังนั้น สิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของเราในขณะนี้ นอกจากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เราจะเดินหน้าอย่างระมัดระวัง รวมถึงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นางศุภจีกล่าว









