บาร์บีกอน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 07 Oct 2025 12:08:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อย่าล้อเล่นกับระบบ! ดราม่า ‘Bar B Q Plaza’ เมื่อ ‘GON Figure Vol.2’ ถูกนำมาขายยก Box จนแฟนคลับรู้สึกถูก ‘หักหลัง’ https://positioningmag.com/1541641 Tue, 07 Oct 2025 09:07:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1541641 เกิดอะไรขึ้นกับแบรนด์ที่เรียกได้ว่ามี Brand Love แข็งแรงเป็นเบอร์ต้น ๆ ของไทยอย่าง บาร์บีคิว พลาซ่า (Bar B Q Plaza) ที่มักจะเล่าเรื่องและสื่อสารกับลูกค้าผ่านมาสคอตอย่าง บาร์บีก้อน จนทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างแคมเปญที่น่าจดจำมากมาย แต่จู่ ๆ ดราม่าก็บังเกิด เมื่อแบรนด์นำ GON Figure Vol.2 มาขายยก Box เสียอย่างงั้น ทำให้ลูกค้าที่ตามเก็บทุกสัปดาห์รู้สึกเหมือนโดน หักหลัง จากแบรนด์

นับตั้งแต่กระแสกล่องสุ่มอาร์ตทอย ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย ทำให้หลายแบรนด์ได้ออกมาทำ Collectible Marketing หรือ กล่องสุ่ม และของสะสมมาใช้ในการกระตุ้นยอดขาย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า 

โดยในปีที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าได้ออก OH MY GON! Collection มาเป็นคอลเลกชั่นแรก วางจำหน่ายในเดือนเกิดของพี่ GON ตั้งแต่วันที่ 2-30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีให้สะสมทั้งหมด 5 แบบ เงื่อนไขคือ รับ Figure 1 ตัว เมื่อสั่งอาหารชุด 1 ชุด ได้แก่ OH MY PORK! ราคา 799.- หรือ OH MY BEEF! ราคา 849.- ซึ่งจะออกแบบใหม่มาทุกสัปดาห์

ซึ่งหลังจากที่ OH MY GON! Collection เปิดตัว บาร์บีคิวพลาซ่าก็ได้ผลตอบรับอย่างล้นหลาม เกิดเป็นกระแส    ไวรัลบทโลกโซเชียลฯ ขณะที่ตัวสินค้าเองก็หมดเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะ ตัวสีทอง ที่สินค้าหมดภายในวันเดียว

ด้วยความสำเร็จดังกล่าว บาร์บีคิวพลาซ่าจึงต่อยอดด้วยการออก GON Figure Vol.2 มาจำหน่ายในวันที่ 9 ก.ย.-10 ต.ค. 2568 โดยครั้งนี้ไม่ได้มีแค่พี่ก้อน แต่มี Friends of GON เช่น คามะจัง, น้องกะหล่ำ และเบคอน เข้ามาด้วย รวมทั้งหมดมีให้สะสม 6 แบบ โดยเงื่อนไขยังเหมือนเดิมคือ รับ Figure 1 ตัว เมื่อสั่งอาหารชุด 1 ชุด ได้แก่ เพื่อนชอบหมู 829.- หรือ เพื่อนชอบเนื้อ! ราคา 899.- 

แต่แล้วดราม่าก็บังเกิดเมื่อ บาร์บีคิวพลาซ่าเปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อ GON Figure Vol.2 ได้แบบ ยก Box ครบ 6 ตัว รวมตัวซีเคร็ทด้วย ในราคา 1,950 บาท โดยจะเริ่มจำหน่าย 18.00 น. ในวันนี้ (7 ต.ค.68) แน่นอนว่าโปรโมชั่นดังกล่าวอาจเป็นผลดีกับลูกค้าบางคนที่ เก็บสะสมไม่ทัน เพราะสามารถเก็บได้ครบทุกแบบทันที หากพลาดสัปดาห์ไหนไป

แต่กับลูกค้าที่ ตามเก็บ อาจไม่โอเคกับโปรโมชั่นดังกล่าว ทำให้ลูกค้าแห่คอมเมนต์กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่รู้สึก ผิดหวัง เหมือนโดน หักหลัง เพราะที่ผ่านมาต้องตามไปทานทุกสัปดาห์เพื่อให้ได้ GON Figure บางคอมเมนต์ระบุว่า ถ้าจะขายก็ควร ขายแต่แรก ไม่ต้องให้สั่งอาหารเพื่อจะเอา GON Figure เพราะถ้าจะสะสมให้ครบ ต้องใช้งบถึง 4,000 บาท

เพราะถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ อาทิ Burger King ที่ออกกล่องสุ่มนารูโตะ ก็มีเงื่อนไขซื้อยก Box ตั้งแต่แรก รวมถึงแบรนด์ Sizzer ที่ให้ซื้อน้องชีสโทสต์แบบยก Box ได้ตั้งแต่แรกเช่นกัน ซึ่งแม้ว่าอาจทำให้นักสะสมที่รักในการลุ้นและล่าอาจหมดสนุก แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแฟนบางกลุ่มที่อยากเก็บให้ครบ ๆ ขณะเดียวกัน แฟน ๆ ก็ไม่รู้สึกว่าถูกหักหลังอะไร เพราะเป็นเงื่อนไขที่วางไว้แต่แรก

แน่นอนว่า หลังจากที่คอมเมนต์ส่วนใหญ่มองไปในทิศทางที่ผิดหวัง ทำให้ทางบาร์บีคิวพลาซ่า ได้ ยกเลิกการจำหน่าย GON Figure Vol.2 แบบยก Box พร้อมออกมาขอโทษลูกค้า โดยระบุว่า

“จากโพสต์การขายยกเซต GON Figure เมื่อเช้า บาร์บีคิวพลาซ่าขออภัยอย่างสูงที่ทําให้ลูกค้ารู้สึกผิดหวังในครั้งนี้ เรารับฟังและให้ความสําคัญกับทุกความคิดเห็นจากลูกค้าทุกคน จึงขอประกาศ *ยกเลิกการขายยกเซต GON Figure + หัวหน้าแก๊งตัวแรร์ แบบหน้าร้าน” เราเข้าใจว่าทุกการสะสม GON Figure ล้วนมีความหมาย และความตั้งใจของลูกค้าอยู่ในนั้น บาร์บีคิวพลาซ่าจะนําทุกความคิดเห็น ข้อเสนอแนะไปปรับปรุง และพัฒนาการดําเนินงานให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต เรายังคงตั้งใจมอบประสบการณ์ที่ดี และทําทุกมื้อให้ดีที่สุด เพื่อทุกคน ขอขอบคุณสําหรับทุกความรัก และทุกคําติชมที่มีให้กับเราเสมอมา ผู้บริหารและพนักงานบาร์บีคิวพลาซ่า”

แน่นอนว่า ดราม่านี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของบาร์บีคิว พลาซ่า เพราะจากที่แบรนด์ตั้งใจให้ ฟิกเกอร์เป็น สัญลักษณ์ของความทรงจําดี ๆ บนโต๊ะอาหาร ที่เชื่อมโยงแฟน ๆ กับแบรนด์ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ฟิกเกอร์ได้ทำให้แฟน ๆ รู้สึกผิดหวัง ในตัวแบรนด์ไปแล้ว ดังนั้น ต้องรอดูว่าทางแบรนด์จะออกมาตรการอะไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา นอกเหนือจาก คำขอโทษ

]]>
1541641
เจาะเบื้องหลัง ‘บาร์บีคิว พลาซ่า’ ทำไมลุยโมเดล ‘เปิดดึก-กินเดี่ยว’ https://positioningmag.com/1539045 Tue, 23 Sep 2025 03:38:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1539045 ยิ่งอยู่นาน ยิ่งต้องปรับตัว!! เบื้องหลัง ‘บาร์บีคิว พลาซ่า’ จับเทรนด์ผู้บริโภคลุยขยายโมเดลร้านรูปแบบใหม่ ๆ ทั้ง ‘เปิดดึก’ และ ‘กินคนเดียว’ รวมถึงเตรียมเพิ่มการขยายสาขา ‘กึ่งสแตนด์อะโลน’ ส่วนสาขาให้บริการแบบ ‘บุฟเฟต์’ ปัจจุบันยังไม่มีนโยบาย แต่จะจัดเป็นช่วง ๆ สร้างสีสัน

 

เพราะโจทย์สำคัญของ ‘เรืองชาย สุพรรณพงศ์’ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติองค์กร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด    ผู้บริหารบาร์บีคิว พลาซ่า คือ ต้องพา ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ ไปให้ไกลที่สุด โดย

 

  1. ต้องมีสาขาให้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
  2. ต้องจับกลุ่มคนหลากหลายทุกช่วงอายุ ตั้งแต่ 5-85 ปี
  3. การขยายสาขาในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนให้ครบทุกประเทศและมีการเติบโตแข็งแรง จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว

 

ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เปลี่ยนกระบวนการคิด

 

แม้บาร์บีคิว พลาซ่าจะอยู่ในตลาดมานาน 38 ปี แต่ด้วยโจทย์ดังกล่าว บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และธุรกิจอยู่ในยุคการแข่งขันดุเดือด ทำให้แบรนด์ไม่สามารถสร้างความสำเร็จด้วยการทำแบบเดิมได้ และจำเป็นต้องสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ ณ วันนี้แตกต่างและมีความต้องการไม่เหมือนกัน

 

“เมื่อก่อนมีแค่โมเดล standard อย่างเดียวก็โตได้ ทว่าตอนนี้ทุกอย่างยากขึ้น และห้างเองก็ปรับตัวตามลูกค้า ทำการบ้านหนักยิ่งขึ้น ไม่สร้างห้างแบบ Copy Paste เหมือนในอดีต การจะอยู่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ เราค้นพบว่า การเข้าใจและปรับตัวให้ทันผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด”

 

นั่นเป็นเหตุผลให้ทางบาร์บีคิว พลาซ่า ต้องเปลี่ยนแนวคิดในการสร้างโมเดลร้านใหม่จาก ‘One size fits all’ มาเป็น ‘One size fits one’ การสร้างโมเดลร้านให้เหมาะกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนความคิดตั้งแต่กระบวนการหลังบ้าน ไปจนถึงระบบหน้าบ้าน

เห็นชัดเจนกับสาขา ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’ ที่เปิดตัวไปเมื่อ ก.ค. 2568 ในคอนเซ็ปต์ Family Fun Flavorful โดย Family – สาขานี้ตะรองรับทุกเจเนอเรชันในครอบครัว ตามกลุ่มเป้าหมายของห้างที่วางไว้, Fun – เมนูมีความสนุก เช่น ของหวานที่บีบท็อปปิ้งได้เอง, Flavorful – เมนูต่าง ๆ จะคัดสรรแบบคราฟท์ อาทิ เนื้อวากิวนำเข้า แซลมอนซาซิมิ ฯลฯ และมี 12 เมนูพิเศษ เฉพาะสาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าเท่านั้น

 

มาถึง ‘สาขาเซ็นทรัล พาร์ค’ กับการเปิดตัวโมเดลใหม่ ‘Solo Dinning’ ที่ออกแบบให้ ‘นั่งกินคนเดียว’ ได้แบบไม่เขิน และมีเมนูจะเป็น Short Menu ให้ตัดสินใจได้ง่าย เช่น ชนิดเนื้อสัตว์จะจัดมาเป็นเซตเดี่ยว น้ำจะมีให้เลือกแค่จะรีฟิลหรือไม่รีฟิล ฯลฯ

 

โจทย์ของการพัฒนาโมเดลนี้ ตั้งต้นจากคอนเซ็ปต์ First in Thailand ของเซ็นทรัล พาร์ค ที่ ‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ต้องการทำอะไรไม่เหมือนใคร และวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนทำงาน 50% อีก 50% เป็นนักท่องเที่ยว

 

“ความรับผิดชอบของผมคือ ต้องพาบาร์บีคิว พลาซ่าไปให้ไกลที่สุด และเซ็นทรัล พาร์คจะเป็นพื้นที่ที่จะพิสูจน์ว่า เราจะอยู่ในกรุงเทพฯ ชั้นในได้อีกหรือไม่ เพราะค่าเช่าแพง อย่างที่นี้เรามีพื้นที่ 80 ตร.ม. จึงเป็นที่มาของการคิดโมเดลใหม่ที่ส่งมอบประสบการณ์บาร์บีคิว พลาซ่าให้ครบเหมือนได้รับจากสาขาอื่น เพิ่มเข้าไปคือ ทำอย่างไรให้เร็วขึ้นตอบโจทย์คนทำงาน”

หากโมเดล Solo Dinning ประสบความสำเร็จและไปต่อได้ มีโอกาสจะขยายเพิ่มอีก 10-15 สาขา ในโลเคชั่นที่ก่อนหน้านี้บาร์บีคิว พลาซ่าไม่เคยเปิดมาก่อน เช่น มิกซ์ยูส หรืออาคารสำนักงาน ฯลฯ

 

ส่วน‘เปิดดึก’ เป็นอีกโมเดลที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ ซึ่งเรืองชายยอมรับว่า ‘สุกี้ตี๋น้อย’ เป็นผู้สร้างตลาดของโมเดลนี้ขึ้นมา โดยบาร์บีคิว พลาซ่าได้เพิ่มโมเดลเปิดดึกในพอร์ตเมื่อปลายปี 2566 กับสาขาแรก ‘มาร์เก็ตเพลส    นวมินทร์’ ปัจจุบันสาขาปิดดึกมี 12 สาขา แบ่งเป็น ‘ปิดตี 2’ 9 สาขา และ ‘ปิดตี 5’ จำนวน 3 สาขา และภายในสิ้นปี 2568 จะขยายให้ครบ 16 สาขา ส่วนปีหน้าจะเพิ่มเป็น 20-25 สาขา

 

ขณะที่สาขารูปแบบ ‘สแตนด์อะโลน’ อยู่ระหว่างการศึกษา แต่ได้มีการทดลองเปิดสาขา ‘กึ่งสแตนด์อะโลน’ ไปแล้วสาขาแรกที่ ‘วิคตอเรียการ์เด้น ถนนเพชรเกษม’ และปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในต่างจังหวัด

สำหรับสาขาให้บริการแบบ ‘บุฟเฟต์’ ซึ่งตอนนี้ฮิตและแข่งขันกันอย่างดุเดือด เรืองชายบอกว่า ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายเปิดสาขารูปแบบนี้ เนื่องจากไม่ถนัดในการทำที่เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งซัพพลายเชน บุคลากร ฯลฯ แต่จะมีการทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์เป็นช่วง ๆ เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นความน่าตื่นเต้นให้ลูกค้า

 

ตอนนี้ร้านบาร์บีคิว พลาซ่ามีสาขา รวม 157 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 101 สาขา อีก 56 สาขาอยู่ในต่างจังหวัด 56 สาขา และวันที่ 23 ตุลาคม 2568 จะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ณ โรบินสัน มุกดาหาร

 

เดินหน้าสร้างลูกค้าใหม่-สร้างแฟนประจำให้มากขึ้น

 

นอกจากโมเดลธุรกิจใหม่แล้ว การทำความเข้าใจลูกค้ายังนำเสนอออกมาในรูปแบบของสินค้า บริการ และโปรโมชั่น ที่เน้นเรื่องสร้างประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าผ่านทุก Touch point เป้าหมายนอกจากทำเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่แล้ว อีกประเด็นสำคัญ คือ สร้าง ‘แฟนประจำ’ ให้มากขึ้น

 

ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้จะเริ่มเห็นทุกสาขาของบาร์บีคิว พลาซ่าจะมีสเตชั่นที่เรียกว่า ‘อุปกรณ์สุขใจ’ โดยสเตชั่นดังกล่าวจะมีเบาะเด็ก 3 ระดับสำหรับครอบครัวที่มาใช้บริการพร้อมเด็ก, มีหมวกคลุมผม, ที่วางโทรศัพท์ เป็นต้น

ส่วนการทำโปรโมชั่นนั้น เนื่องจากช่วงบุฟเฟต์คนที่ถูกทิ้งไว้ที่บ้าน เพราะพามาแล้วไม่คุ้ม ก็คือ เด็กและผู้สูงอายุ    จึงอยากให้ช่วงเวลาการมากินบาร์บีคิว พลาซ่า ทุกคนในครอบครัวสามารถมาได้ จึงจัดโปรโมชั่นให้ส่วนลด 50% สำหรับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หากคนอายุ 80 ปีขึ้นไป จะได้ ‘กินฟรี’ และเด็กสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร จะได้รับส่วนลด 50%

 

“ตอนนี้เรามีคนเป็นสมาชิก 3,050,000 ราย ซึ่งข้อมูลที่เรามีพบว่า ลูกค้าประจำไม่ได้ต้องการอะไรหวือหวา หรือสร้างประสบการณ์แบบ 6 ดาว แต่ต้องการความพิเศษเพิ่มอีกนิดเดียว และสิ่งที่เรา offer ล้วนมาจากการทำความเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคทั้งหมด”

 

เพราะสุดท้ายการจะอยู่รอดภายใต้สถานการณ์ที่แข่งขันรุนแรง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทุกอย่างมีความยากยิ่งขึ้น ‘การเข้าใจลูกค้า’ คือกุญแจสำคัญ และการนำเสนอโมเดลธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปกับการสร้าง Loyalty Program ยังเป็นโอกาสสำหรับสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับบาร์บีคิว พลาซ่า โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นโฟกัสของการทำธุรกิจในปี 2569

 

“เรายังมีจังหวัดที่ไม่ได้ไปอยู่ประมาณ 20 จังหวัดที่เป็นหัวเมืองรอง ดังนั้นอีกโจทย์นึงของเรา ทำอย่างไรให้เข้าใจลูกค้าต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น อยู่กับเขาทุกช่วงอายุบนความต้องการที่แตกต่างกัน ถ้าทำได้การไป 77 จังหวัด หรือไปหนึ่งจังหวัดมากกว่า 1 สาขา จะเป็นโอกาสเติบโตของเรา เป็นโจทย์ที่ท้าทายแต่อยากทำให้ได้” เรืองชายกล่าวทิ้งท้าย

]]>
1539045
ถอดบทเรียน ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ กับการปรับตัวให้ ‘อยู่รอด’ และ ‘เติบโต’ แม้จะมีคู่แข่งหน้าใหม่ตลอดเวลา https://positioningmag.com/1518231 Fri, 11 Apr 2025 09:08:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1518231 ตลาดร้านอาหาร ถือเป็นอีกตลาดสุดหินของใครหลายคน อ้างอิงข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ในแต่ละปี ประเทศไทยจะมีร้านอาหารเปิดใหม่ประมาณ 1 แสนร้าน และปิดตัวลงในจำนวนเดียวกัน ส่วนใหญ่ร้านที่เจ๊งอยู่ได้ไม่เกิน 3 ปี ในขณะที่การแข่งขันเข้มข้นสูง แต่ บาร์บีคิวพลาซ่า ถือเป็นอีกแบรนด์ที่แกร่งพอจะสามารถเติบโต โดย Positioning จะพาไปศึกษาถึงแนวคิด ที่มาที่ไปของแต่ละกลยุทธ์ ที่ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่ายังครองใจคนไทย และสร้างการเติบโต

ไม่ต้องใช้ท่ายาก แค่ทำให้ทุกอย่างมันง่าย

ที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าจะมีแคมเปญใหญ่ที่หลายคนรอคอย ก็คือ รีฟีล เพราะจัดปีละ 2 ครั้ง และแต่ละครั้งช่วยเพิ่มยอดขายเป็นเท่าตัว แน่นอนว่าแคมเปญรีฟีลก็คือ บุฟเฟต์ ตามที่หลายคนเข้าใจ แต่มันมีเหตุผลว่าทำไมบาร์บีคิวพลาซ่าถึงเลือกใช้คำว่ารีฟีล โดย รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เล่าว่า คำว่ารีฟีล ไม่ใช่แค่อยากสร้างความแตกต่าง แต่เป็นเพราะที่ร้านมี เซอร์วิส ให้บริการ

อย่างไรก็ตาม เพราะผู้บริโภคตอนนี้เขามองหา ความธรรมดาแต่พิเศษ ดังนั้น บาร์บีคิวพลาซ่าจึงพยายามทำให้ทุกอย่างมันง่าย ทำให้ปีนี้บาร์บีคิวพลาซ่าเลือกจะเปลี่ยนชื่อแคมเปญจากรีฟีลเป็น GON BUFFET เพื่อให้ ง่ายต่อการสื่อสาร และ จ่ายราคาเดียว ไม่มีบวกเพิ่ม จากเดิมอาจจะต้องบวกเพิ่มค่าน้ำ หรือข้าวเพิ่ม

เงินในกระเป๋าน้อยลง แคมเปญคุ้มค่ายังขาดไม่ได้

เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคต้องระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น บาร์บีคิวพลาซ่ายังคงการันตีว่าจะมีแคมเปญเกี่ยวกับ Value for money เช่น บุฟเฟต์ปีละ 2 ครั้ง แคมเปญ 3 แถม 3 หรือชุดอิ่มฟินิตี้เติมหมูเติมข้าวไม่อั้น ที่ทำมาเกิน 5 ปี และประสบความสำเร็จมาโดยตลอด แต่จากนี้จะเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และความคุ้มค่า ไม่ใช่แค่หมูไม่อั้น

“ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่ทุกแบรนด์การันตีเรื่องแวร์ลูฟอร์มันนี่ หลายแบรนด์ลดราคา บางแบรนด์ยอมมีต้นทุนสูงขึ้น แต่ไม่ลดราคา เราเองก็เช่นกัน และตอนนี้ต้องมีตัวเลือกอื่น แม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นก็ตาม”

ต่างพื้นที่ก็ต่างลูกค้า โปรฯ จะเหมือนกันไม่ได้

เพราะแต่ละโลเคชั่นกลุ่มลูกค้าต่างกัน บางพื้นที่กลุ่มลูกค้าเป็นนักเรียน-นักศึกษา ดังนั้น บาร์บีคิวพลาซ่าจึงทำ Local store marketing โดยบางสาขาจะมีโปรฯ สำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม รวมถึงการออกแบบ New Store Models ให้เหมาะกับคนในพื้นที่นั้น ๆ เช่น บางสาขามีเคาน์เตอร์ให้เซอร์วิสตัวเอง, บางสาขาปิดตี 5 เป็นต้น

ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าสามารถทำ Local store marketing ได้ก็คือ พลัง CRM ที่ทำให้มีข้อมูลลูกค้า ที่ปัจจุบัน Gon Member มีกว่า 3 ล้านราย เติบโตขึ้น 13% ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าพร้อมที่จะทำ Local store marketing และ Personalize Marketing ที่จะส่ง Personal Promotion ผ่านไลน์

ซึ่ง Gon Member ยังต้องสร้างการเติบโตต่อเนื่อง แต่ต้องโตอย่างมีคุณภาพ ปัจจุบัน Member จะใช้จ่ายประมาณ 1,100 บาท ซึ่งสูงกว่าลูกค้าทั่วไป 10-15% และมีความถี่ที่ 2 เดือนครึ่ง/ครั้ง

“คนมีความต้องการหลากหลายขึ้น เมื่อก่อนออกแคมเปญเดียวใช้เหมือนกันหมด แต่ตอนนี้ต้อง Many to Many ทำหลาย ๆ สิ่งเพื่อหลาย ๆ คน อย่างสาขาที่นวมินทร์ซิตี้ อเวนิว เราปิดตี 5 เพราะเราเห็นไลฟ์สไตล์คนแถวนั้น เราเลยลองทดสอบดู ซึ่งมันทำให้เราเรียนรู้ จนขยายสาขาที่ปิดตี 5 ไปเป็น 4 สาขา”

สร้างแบรนด์มานาน ถึงเวลาเก็บเกี่ยว

ในวันที่ผู้บริโภคมีความ Royalty (ความภักดี) กับแบรนด์ลดลง ดังนั้น การสร้างแบรนด์จนเกิด Brand Love จึงสำคัญ และสิ่งที่บาร์บีคิวพลาซ่าสร้างมาตลอดก็คือ บาร์บีก้อน มาสคอตที่อยู่คู่แบรนด์มาแล้ว 20 ปี โดยในช่วง 10 ปีแรกยังเป็นเพียง สัญลักษณ์ แต่ในช่วง 10 ปีหลัง บาร์บีก้อนกลายเป็น เอนเตอร์เทนเนอร์ ที่แบรนด์ใช้สื่อสารกับลูกค้า และปัจจุบัน บาร์บีก่อนกลายเป็น คน

“ทุกวันนี้คนมี Royalty ลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นความท้าทาย แต่เพราะเราไม่ได้ทำแค่โปรดักส์ หรือใช้กลยุทธ์ลดราคา เราหยอดกระปุกสร้างแบรนด์มาตลอด และตอนนี้มันคือเวลาเก็บเกี่ยว ดังนั้น ที่เราประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Brand Love และเราแสดงให้เขาเห็นว่าเขายังเชื่อมั่นกับแบรนด์ได้”

โดยการทำ Character Marketing จากนี้ จะมีการเพิ่มคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ได้แก่ คามะจัง และ น้องกะหล่ำ รวมถึงการจัดทำสื่อใหม่ ๆ เช่น หนังสือ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้เติบโตมากับแบรนด์ หรือการ คอลแลบ กับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อขยายโอกาสในการพบเจอกับแบรนด์ เช่น เลย์, ยาดมมังกรทอง เป็นต้น

เดลิเวอรี่ และ กินเดี่ยว ยังเป็นโอกาส

แม้หลังการระบาดของ COVID-19 การเติบโตของ เดลิเวอรี่ จะไม่พุ่งกระฉูด แต่ก็ยังเติบโตได้ โดยปีที่ผ่านมา ส่วนเดลิเวอรี่ของบาร์บีคิวพลาซ่าสามารถเติบโตได้ 20% โดยมีไฮไลต์เป็นการ ยืมเตา ดังนั้น เดลิเวอรี่ยังคงต้องทำต่อไปโดยจะเพิ่มเมนูอย่าง ก้อนสตรีทฟู้ด ในครึ่งปีหลัง จากเดิมที่มีเมนูพร้อมทานอยู่แล้ว

“เดลิเวอรี่มันยังเป็นโอกาส เพราะคนยังมีความขี้เกียจ ยังมีเวลาน้อย”

อีกโอกาสที่มองเห็นก็คือ กินเดี่ยว ในยุคนี้บางคนอาจมองว่าการกินปิ้งย่างก็กินคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องมากับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่ามีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 5-10% ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่ากำลังหาจุดสมดุลให้ระหว่างคนที่มาทานเป็นกลุ่ม และทานคนเดียว เช่น อาจทำ ไพรเวทโซน

“ตอนนี้ทุกสโตร์มีชุดอิ่มเดี่ยว แม้สัดส่วนลูกค้าจะยังน้อยอยู่ก็ตาม แต่เราเห็นว่ามันน่าจะโตได้อีก ความท้าทายตอนนี้คือ ทำอย่างไรให้เขาทานและยังได้บรรยากาศร้านอยู่ เราไม่อยากทำเป็นโซนบาร์ เพราะบรรยากาศมันไม่ใช่ เขามาเพราะอยากกินในร้าน อยากได้บรรยากาศ”

แค่เรื่องธรรมดาก็พิเศษได้

สุดท้าย สิ่งที่บาร์บีคิวพลาซ่าย้ำมาตลอดก็คือ ทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด แต่จากนี้เปลี่ยนใหม่เป็น ทำทุกมื้อให้ดีที่สุด เพื่อสื่อสารว่า จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น บาร์บีคิวพลาซ่าจะ เสริมสร้างประสบการณ์ธรรมดาให้พิเศษมากขึ้น คือทำเรื่องธรรมดาให้พิเศษโดย การันตีคุณภาพโปรดักส์ และเซอร์วิส

โดยทางทีม มีการทำหลังบ้านเพื่อให้ ลดขั้นตอนการทำงานของพนักงาน และมีกิจกรรม ฮีลใจพนักงาน เช่น วาเลนไทน์ที่ผ่านมาก็จัดกิจกรรมติดสติกเกอร์หัวใจให้ดาวแก่พนักงานระหว่างเซอร์วิส เพื่อเป็นกําลังใจให้กับพนักงาน

“เรื่องนี้เป็นโจทย์แรกของเราในปีนี้ เพราะถ้าพนักงานมีความสุข เขาก็จะบริการลูกค้าได้ดีขึ้น ดังนั้น เราจึงพยายามหาทางแบ่งเบาด้วยการลดความยุ่งยากของงาน”

อย่างน้อยขอโตเท่าตลาด

ปัจจุบัน บาร์บีคิวพลาซ่ามีสาขารวมทั้งหมด 157 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 101 สาขา ต่างจังหวัด 56 สาขา โดยในปีนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่ม 10 สาขา ซึ่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 6-8 ล้านบาท/สาขา และกำลังเริ่มมองพื้นที่ต่างจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่

“เรายังขยายสาขาอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ เมืองหลักและเมืองรอง แต่เพราะเทรนด์เปลี่ยนไปเราก็ต้องปรับตัว เช่น พื้นที่เริ่มเล็กลง เราก็ต้องปรับไซส์ตาม และตอนนี้เรากำลังมองหาพื้นที่เมืองรอง เพราะกำลังซื้อก็ไม่ได้น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ”

ในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้าย แม้ว่าจะเหนื่อยเพราะมีคู่แข่งรายใหม่ ๆ แต่บาร์บีคิวพลาซ่าสามารถเติบโตได้ +6% มีรายได้ 3,800 ล้านบาท และปีนี้ บาร์บีคิวพลาซ่าตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อย 6-7% เทียบเท่ากับตลาดปิ้งย่างที่มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท

]]>
1518231
ถอดรหัสแคมเปญ “อยู่ด้วยกันก๊อนนน!” ของ ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ กับหมุดหมายเปลี่ยนแบรนด์ให้เป็นเพื่อน Gen Z https://positioningmag.com/1422476 Thu, 09 Mar 2023 04:18:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1422476 ในตลาดปิ้งย่างที่มีการแข่งขันกันดุเดือด และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ถ้าอยากจะได้ลูกค้า ‘วัยรุ่น’ หรือคน ‘Gen Z’ ที่อาจยังมีกำลังซื้อไม่มากนักและต้องการความคุ้มค่าก็ต้องทำโมเดลแบบ  ‘บุฟเฟต์’ แต่ไม่ใช่กับ บาร์บีคิวพลาซ่า ที่จะทำบุฟเฟต์แค่เป็นแคมเปญปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น แต่การจะได้ใจคนรุ่นใหม่ในแบบของบาร์บีก้อนก็คือต้องทำตัวเป็นสะพานเชื่อมให้กับคนรุ่นใหม่

อยู่ด้วยกันก๊อนนน แคมเปญที่เล่นกับความกังวล

แม้ที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่า จะมีการใช้แมชชีน เลิร์นนิ่งแบ่งลูกค้าตามพฤติกรรมการได้มากกว่า 11 ประเภท แต่กลุ่มลูกค้าที่บริษัทต้องการจะมัดใจเพื่อให้อยู่กับแบรนด์ไปนาน ๆ นั้นหนีไม่พ้น Gen Z (12-26 ปี) ที่จะกลายมาเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ในอนาคต นี่จึงเป็นอีกโจทย์ของ รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด

แน่นอนว่าการจะจับกลุ่ม Gen Z ก็ต้องสื่อสารไปให้ตรงใจกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่าก็ได้หยิบเอา ความกังวล ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อดีต หรือ อนาคต มาใช้เพื่อสื่อสารให้คนหันมาโฟกัสกับปัจจุบันหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนเกิดเป็นแคมเปญ อยู่ด้วยกันก๊อนนน ที่ต้องการจะเตือนสติและชวนให้ทุกคนมาอยู่กับบาร์บีคิวพลาซ่า

“ความกังวลในอดีตหรืออนาคต โดยเฉพาะใน Gen Z ที่ต้องเครียดเรื่องเรียน เรื่องอนาคต ซึ่งมันทำให้ความสุขในชีวิตหายไป และเรามองว่าแบรนด์ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นกระบอกเสียง แต่ต้องเป็นสะพานเชื่อมให้กับคนรุ่นใหม่ด้วย” รัฐ ตระกูลไทย อธิบาย

สำหรับแคมเปญ อยู่ด้วยกันก๊อนนน จะแบ่งกิจกรรมเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  1. Be with Gon ที่เริ่มจากการสอบถามความกังวลและความสุขของพนักงาน พร้อมให้พนักงานเขียนคำที่ต้องการสื่อสาร เพื่อให้เกิด Inspiration กับคน ปัจจุบันมีข้อความกว่า 2,000 ข้อความ
  2. Gon with Me โดยจะเปิดพื้นที่ พูดคุยกันผ่านร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทิพย์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเชื่อมต่อหาเพื่อนคุย ยิ่งพูดคุยนานก็จะยิ่งได้ส่วนลด
  3. Kitchen of now การจัดนิทรรศการที่สามย่าน มิตรทาวน์ โดยจะแบ่ง 3 โซนหลัก พร้อมส่วนลดให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมนิทรรศการครบทั้ง 3 โซน โดยเริ่มตั้งแต่ 8-16 มีนาคม

นอกจากนี้ ยังมีการโปรโมตผ่านสื่อ Out of Home อย่าง รถตุ๊ก ตุ๊ก โดยจะติดข้อความต่าง ๆ เพื่อกระจายการรับรู้ถึงแคมเปญในวงกว้างและที่ขาดไม่ได้คือ โปรโมชัน ฮีลใจวัยรุ่น 299 บาท เริ่มตั้งแต่ 2 มีนาคม ถึง 2 เมษายน

“เรามองว่าตอนนี้สื่อมันมีอะไรให้เราเล่นมาก เพราะตอนนี้ผู้บริโภคมีทัชพอยต์เยอะขึ้น เราต้องเข้าให้ถึงทุกทัชพอยต์ แต่ต้องถูกเวลาอย่างการใช้ตุ๊ก ๆ มาโปรโมตช่วยให้คนเข้าถึง เราก็มองว่าคนออกมาใช้ชีวิตข้างนอกกันเยอะแล้ว”

แบรนด์ต้องเป็นเพื่อน

รัฐ อธิบายว่า แคมเปญ อยู่ด้วยกันก๊อนนน เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างแบรนด์เลิฟ ที่ไม่ได้แค่สื่อสารทางเดียว แต่ สร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในหลากหลายด้าน ซึ่งจะช่วยสร้าง ความไว้วางใจ (Trust) ให้เกิดขึ้นระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ เพื่อให้เกิด แบรนด์เลิฟ ใน Gen Z

“สิ่งที่เราต้องการคือ การเป็นแบรนด์ที่คนรัก เห็นบาร์บีก้อนเห็นแบรนด์เราแล้วยิ้ม ต้องการให้แบรนด์เป็นเพื่อนเขา เป็นสถานที่ที่ทำให้ทุกคนมาเจอกันแล้วมีความสุขร่วมกัน ซึ่งแคมเปญนี้จะสื่อสารกับคน Gen Z ได้ดีที่สุด”

นอกจากแคมเปญ อยู่ด้วยกันก๊อนนน บริษัทก็ต้องการที่จะผลักดัน บาร์บีก้อนให้เป็นมากกว่ามาสคอต แต่ต้องการให้เป็นเหมือนคนหนึ่งคน ที่จะเป็นเพื่อนกับลูกค้า

รัฐ มองว่า ที่ผ่านมาแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็น Top of Mind ในตลาด โดยสิ่งที่แบรนด์ทำได้ดีคือ การเป็นกระบอกเสียงให้ผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของแคมเปญต่าง ๆ เช่น การโหวตเลือกโปรโมชัน แต่แคมเปญ อยู่ด้วยกันก๊อนนน จะเป็นสเต็ปในการทำมาร์เก็ตติ้งของแบรนด์ เพราะปัจจุบันที่ตลาดแข่งขันสูง แบรนด์เองก็ต้องพยายามยึดจุดที่แบรนด์ทำได้ดี

“คนบอกว่าวันนี้อยากกินหมูกระทะ อีกวันอยากกินบาร์บีก้อน แสดงให้เห็นว่าเรามียูนีคเซลลิ่งพอยต์ที่ต่างจาก เราเองก็ต้องพยายามยึดจุดที่เราทำได้ดี

เป้าหมายของแบรนด์ในปีนี้คือการเพิ่ม Members จากประมาณ 2.1 ล้านรายเป็น 3 ล้านรายภายในสิ้นปี ซึ่งการทำการตลาดจากนี้จะต้องเป็น Personalize นอกจากนี้จะเน้นที่การเพิ่มยอดขาย Same Store ทั้ง 146 สาขา และมองหาโอกาสใหม่ ๆ จาก Gon Express ส่วนการเปิดสาขาใหม่ ๆ กำลังมองโอกาสจากพื้นที่นอกห้างฯ

]]>
1422476
คุยกับ ‘รัฐ ตระกูลไทย’ CMO ใหม่ ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ กับแนวคิด Marketer คือ “ปากเสียงของผู้บริโภค” https://positioningmag.com/1399513 Thu, 08 Sep 2022 10:57:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1399513 ปกติแล้วตำแหน่ง CMO จะย่อมาจาก Chief Marketing Officer หรือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด แต่สำหรับ รัฐ ตระกูลไทย CMO ใหม่ ของ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ที่รับผิดชอบในส่วนของแบรนด์ ‘บาร์บีคิว พลาซ่า’ กลับมองว่าตัว M ไม่ใช่ Marketing แต่เป็น Mysterious ทำไมรัฐถึงมองแบบนั้น แล้วทิศทางของบาร์บีคิวพลาซ่าจะเป็นอย่างไรในมือ CMO ป้ายแดงนี้ ไปติดตามกัน

นักการตลาด คือ ปากเสียงของผู้บริโภค

หากพูดถึงการตลาดของบาร์บีคิวพลาซ่า ชื่อของ บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ คงเป็นเหมือนภาพจำไม่ต่างจากมังกรบาร์บีกอน ไปแล้ว แต่สำหรับ รัฐ ตระกูลไทย ผู้ที่มารับช่วงต่อก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นหนึ่งในทีมกลยุทธ์การตลาดและ Marketing Calendar ที่ร่วมงานกันมาถึง 8 ปี และเป็นผู้ริเริ่ม Gon Gang Delivery

หนึ่งในแนวคิดแรกที่น่าสนใจของ รัฐ ก็คือนิยามของ CMO ที่เจ้าตัวมองว่ามันคือ Chief Mysterious Officer คือ เป็นตัวแทนลูกค้าลึกลับและหน้าที่ของ CMO ก็คือ เป็นปากเสียงให้กับลูกค้า ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ต้องเข้าใจลูกค้าก่อน เพื่อหาวิธีตอบสนองให้กับลูกค้า ซึ่งนี่คือ แนวคิดการทำงานเกือบ 20 ปี ที่รัฐยึดถือมาตลอด

CMO สมัยก่อนทำหน้าที่ชี้ทางองค์กร แต่สมัยนี้ CMO หรือ Marketer ถูกแปรสภาพต้องไม่มีตัวตน ต้องคิดแบบ Consumer เพราะถ้ามีตัวตนเมื่อไหร่เราก็จะมี Bias ดังนั้น การเข้าใจลูกค้าไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาที่เราเข้าใจ แต่มันอยู่ที่วิธีที่เราทำความเข้าใจ นี่คือสิ่งที่ทำให้เราชนะคู่แข่ง”

Data คือตัวช่วย ตัวตัดสินคือ ประสบการณ์

แรกเริ่มเดิมทีนั้น รัฐเคยเริ่มจบและทำงานสาย แบงก์ มาก่อน จากนั้นถึงได้เข้าสู่อุตสาหกรรมร้านอาหารที่ ยัม เรสเทอรองตส์ รับผิดชอบแบรนด์ KFC มาเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งจากพื้นฐานงานสายตัวเลข บวกกับช่วงที่อยู่กับยัม เรสเทอรองตส์ ที่เน้นไปในส่วนของการนำอินไซต์ของลูกค้ามาวิเคราะห์ ทำให้เรื่องดาต้าหรือ Consumer Insight จะกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบาร์บีคิวพลาซ่าจากนี้ต่อไป โดยจะเน้นหลัก 3E ได้แก่

  • Empathize รับฟังลูกค้าตลอดเวลาเพื่อให้เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
  • Engagement เชื่อในการมีส่วนร่วมของลูกค้า ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
  • Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

“สิ่งที่ได้ประโยชน์จากการทำงานกับแบรนด์ระดับโลกคือ รีเสิร์ช จำได้ว่าตอนอยู่ KFC ต้องการรีเสิร์ชปีละกว่า 300 ฉบับ มันก็ทำให้เราเข้าใจคน เข้าใจระบบ ต่อให้โลกเปลี่ยนไปเราก็แค่ศึกษาเพิ่ม”

ปัจจุบัน บาร์บีคิวพลาซ่าเริ่มมีความเข้าใจดาต้ามากขึ้น จนสามารถแบ่งลูกค้าได้เป็น 10 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม รัฐย้ำว่า ดาต้าเป็นส่วนที่ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เข้าใจผู้บริโภคลึกขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องอาศัยประสบการณ์และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

อิ่มไม่อั้น บทพิสูจน์การใช้ดาต้าชั้นดี

หนึ่งในแคมเปญที่ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าสามารถโกยยอดขายได้ในช่วงหลัง COVID-19 ที่เกิดจากการใช้อินไซต์และ Engage จากลูกค้าก็คือแคมเปญ อิ่มไม่อั้น และ อิ่มไม่อั้น มหาชน โดยจุดเริ่มต้นมาจากที่แบรนด์ได้ทำชาเลนจ์ช่วง เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยหากมีผู้ใช้สิทธิ์เกิน 2 ล้านคนแบรนด์จะจัดอิ่มไม่อั้นรอบสอง พร้อมกันนี้ ยังเปิดให้ลูกค้าโหวตด้วยว่าจะให้ จัดทันที แต่มีระยะเวลา 3 วัน หรือ จัดในอีก 2 เดือนข้างหน้า แต่ได้ระยะเวลา 14 วัน

แคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถเพิ่มยอดขายได้ 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ และทำให้ครึ่งปีแรก 2565 บาร์บีคิว พลาซ่าเติบโต 83% จากปีที่ผ่านมา จากที่ในไตรมาสแรกตลาดยังดรอป เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

อย่างไรก็ตาม แคมเปญดังกล่าวก็ถือเป็น ดาบ 2 คม เพราะจะได้รับการคาดหวังจากลูกค้า อีกทั้งคู่แข่งยังรู้กลยุทธ์ล่วงหน้าถึง 2 เดือน อย่างไรก็ตาม แคมเปญดังกล่าวบาร์บีคิวพลาซ่าจะจัดแค่ปีละ 1-2 ครั้งและใช้เวลาไม่นาน เพราะหากทำนานและบ่อยจะทำให้ แบรนด์เสีย นอกจากนี้ยังมีเรื่องข้อจำกัดด้านการจัดเตรียมวัตถุดิบอีกด้วย ดังนั้น จะจัดเป็นสีสันมากกว่า

“เราจะจัดแคมเปญนี้ในช่วงที่ตลาดนิ่งไม่ก็ตลาดกำลังขาขึ้น เพราะถ้าตลาดนิ่งเราก็ต้องกระตุ้น แต่ถ้าตลาดดีเราก็ต้องรีบโกย ดังนั้น แต่ละปีช่วงเวลาในการจัดแคมเปญจะไม่ตรงกัน”

3C เสริมความยั่งยืน

ในส่วนของกลยุทธ์สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนของแบรนด์ก็คือ Channels โดยปัจจุบันบาร์คิวพลาซ่า มีสาขา 144 สาขา แบ่งเป็น Gon Gang Delivery 95 ฮับ, Gon Express 3 แห่ง และ Gon ทัก หรือรถเคลื่อนที่ 4 คัน ซึ่งการขยายสาขาใหม่อาจไม่ใช่สิ่งที่โฟกัส แต่จะเน้นไปที่การปรับหน้าร้านให้เข้ากับผู้บริโภค เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต่างกันได้ สิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นคือ ความเป็นดิจิทัลและ Cashless

นอกจากนี้ Character Marketing ซึ่งเป็นคีย์ที่ประสบความสำเร็จของบาร์บีคิวพลาซ่า ด้วยการนำ บาร์บีกอน ไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อย่างล่าสุดมี ก้อนชู่ กล่องทิชชู่ที่เป็นตัวบาร์บีกอน สุดท้าย คือ CRM ที่จะช่วยให้รู้ว่าใครเป็นแฟนและมีข้อมูลลูกค้า ทำให้ตอบสนองลูกค้าได้อย่างชัดเจน

ฉลอง 35 ปีด้วยการเล่นกับซิกเนเจอร์โปรดักส์

ปีนี้ถือเป็นปีครบรอบ 35 ปีของบาร์บีคิวพลาซ่า แบรนด์ได้ออกแคมเปญ “ถึงต่างเจน ก็ BLEND เข้ากันได้บนโต๊ะนี้” เพราะเป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสารเนื่องจากบาร์บีคิวพลาซ่ามีอายุมานานเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกเจน ดังนั้นจึงออก ภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ พร้อมด้วยชุดอาหาร GONNIVERSARY และมี ซอสรสชาติใหม่ ได้แก่ บาร์บีคิวสไปซี่ และ บาร์บีคิวมัสตาร์ด โดยจะเสิร์ฟในถ้วยเดียวกันเพื่อแสดงถึงการผสมของ 2 เจน

โดยรัฐยอมรับว่า การที่ออกซอสใหม่ที่ผสมกับซอสบาร์บีคิวสไปซี่ซึ่งถือเป็น ซิกเนเจอร์โปรดักส์ นั้น ท้าทายมาก แต่ก็มองว่าเป็นโอกาสทางการตลาดเช่นกัน พร้อมย้ำว่า ที่แบรนด์กล้าจะเล่นกับซิกเนเจอร์โปรดักส์ไม่ใช่เพราะแค่อยากลองอะไรใหม่ ๆ แต่มีดาต้าและการทดสอบแล้วว่ามันดี

“แบรนด์เรากล้าเสี่ยงและชอบทำอะไรสนุก ๆ อยู่แล้ว และถ้าลูกค้ามาแล้วได้ประสบการณ์ใหม่ เราก็กล้าที่จะลอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราทำด้วยดาต้าที่มีไม่ใช่แค่ฟีลลิ่ง”

มั่นใจปิดปีเท่ากับก่อนโควิด

สำหรับภาพรวมของสถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันถือว่ามีสัญญาณบวก แม้ไตรมาสแรกจะดรอป แต่ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปีนี้ ธุรกิจร้านอาหารจะมีมูลค่ารวมประมาณ 3.78-3.96 แสนล้านบาท เติบโตเป็นบวก 5 – 9.9% จากปีที่ผ่านมา

ส่วนบาร์บีคิวพลาซ่าในช่วง 8 เดือนแรกทำรายได้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับรายได้ปีที่ผ่านมาทั้งปี ดังนั้น เชื่อว่าปิดปี 2565 บาร์บีคิวพลาซ่า จะสามารถปิดยอดจำหน่ายที่ 3,850 ล้านบาท เท่ากับช่วงเวลาก่อน COVID-19

รัฐทิ้งท้ายว่า บาร์บีคิวพลาซ่าในวัย 35 ปียังเป็นวัยที่สนุกกับการล้มการลอง และนำเอาประสบการณ์มาใช้ ยังไม่ยึดติดกับประสบการณ์ และแน่นอนว่าการรับตำแหน่งใหม่ของตนเองก็ท้าทายและกดดันจากตัวเองและจากองค์กรที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง มี DNA ที่แข็งแรง เราคงเปลี่ยนตัวตนแบรนด์ไม่ได้ เรามีหน้าที่ยกระดับจุดแข็งตรงนั้นมากกว่า

]]>
1399513
รายใหญ่ก็ไม่รอด! เมื่อ “เซเว่นฯ” ออก “น้ำจิ้มบาร์บีคิว” เหมือนแฝด “บาร์บีคิวพลาซ่า” https://positioningmag.com/1338967 Fri, 25 Jun 2021 05:52:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338967 กลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อมีเพจ “มนุษย์รีวิวเซเว่น” ได้เขียนรีวิวถึงสินค้าใหม่ของเซเว่น ก็คือ “น้ำจิ้มบาร์บีคิว” ตรา ซีพี พร้อมกับคำอธิบายว่าเหมือนน้ำจิ้มของพี่ก้อนมาก หรือร้าน “บาร์บีคิว พลาซ่า” นั่นเอง พร้อมกับคำเชิญชวนว่าถ้าเจอให้รีบซื้อ เพราะราคาคุ้มมาก 59 บาทเท่านั้น

จากนั้น “บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือเป็นมือทองการตลาดแห่งบาร์บีคิวพลาซ่า ได้แคปโพสต์ดังกล่าว แล้วไปแชร์ต่อ พร้อมกับตั้งคำถามมากมายแก่ “ซีพีออลล์” ครั้งหนึ่งเคยถูกชวนให้ทำน้ำจิ้มร่วมกัน แต่ได้ปฏิเสธไป ผลลัพธ์จึงออกมาแบบนี้หรือ?

จากโพสต์ของบุณย์ญานุช มีเนื้อหาประมาณว่า

“เมื่อเราอยู่ในโลกของนายทุนใหญ่
รายเล็ก รายย่อย รายกลาง (อาจ)ย่อมเป็นเหยื่อของรายใหญ่…
เห็น Product นี้ครั้งแรกก็ต้องพูดกับตัวเองว่า
“อ๋อ…แบบนี้เลยเหรอคะพี่”
การที่มาชวนเราทำแล้วเราไม่ทำ…
นี่คือผลตอบแทนของการไม่ศิโรราบพี่ใหญ่…
เราเดินกันคนละเกม เราทำธุรกิจกันคนละความคิด
ดีคะ…ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งมีแรงผลักดันให้ทำอะไรอีกหลายอย่าง…
เป็นกำลังใจให้รายเล็ก รายย่อยที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้
และเป็นกำลังใจให้ตัวเองและบริษัท
เราจะยังคงเดินหน้าสร้างความสุข ความอร่อยและแรงบันดาลใจให้ผู้คนให้ คิด ทำ สิ่งดี สร้างสรรค์และไม่ทำร้ายใคร..
อะไรที่มันไม่ใช่ มันก็คือ “ไม่ใช่”
อะไรที่มันไม่จริง มันเรียกว่า “ปลอม”
รักนะคะ…
ปลาเล็กทุกตัว…เชื่อดิว่าพวกเราทำได้…..
What doesn’t kill you, make you stronger
อะไรที่มันฆ่าเราไม่ได้…มันจะทำให้เราแกร่งขึ้น…

ทำให้หลายคนสามารถคาดเดาสถานการณืได้อย่างดีว่า ทางซีพีออลล์ได้ใช้กลยุทธ์เด็ดของตนเอง ในการพัฒนาสินค้าโดยอาจจะใช้แบรนด์อื่นเป็นแรงบันดาลใจ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้งทั้งก่อนหน้านี้จะพบเจอกับแบรนด์เล็ก แบรนด์ SME ที่อยากวางจำหน่ายสินค้าในเซเว่นฯ หรือแบรนด์ไหนที่ขายดีก็จะเกิดการพัฒนาสินค้าขึ้นมา

ด้วยสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมร้านอาหารต้องเจอศึกหนัก ยิ่งสำหรับร้านอาหารประเภทชาบู ปิ้งย่างที่ต้องอาศัยการนั่งทานในร้าน ทานเป็นกลุ่ม ยิ่งเจอความท้าทายหนัก ตั้งแต่ปีที่แล้วบาร์บีคิวพลาซ่าได้ปรับตัวมาตลอด ทั้งการออกแคมเปญกระตุ้น การจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ รวมถึงการไลฟ์ขายวัตถุดิบต่างๆ

แม้บาร์บีคิวพลาซ่าจะมีโปรขายวัตถุดิบต่างๆ ทั้งร้าน แต่ “น้ำจิ้ม” ที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ จะมีการขายพร้อมกับชุดอาหารเท่านั้น ไม่มีการขายแบบบรรจุขวด หรือขายแค่น้ำจิ้มอย่างเดียว ซึ่งทางแบรนด์เชื่อว่าตัวน้ำจิ้มนี่เองที่จะเป็นแม็กเน็ตสำคัญที่ยังดึงให้คนมาทานอาหารที่ร้าน

กรณีนี้ได้เกิดกับแบรนด์ร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ที่หลายคนรู้จัก แต่ก็ยังเจอปลาที่ใหญ่กว่า ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าทางซีพีออลล์จะมีทีท่าอย่างไร แต่ล่าสุดทางเพจมนุษย์รีวิวเซเว่นได้ลบโพสต์รีวิวน้ำจิ้มบาร์บีคิวดังกล่าวออกไปแล้ว พร้อมชี้แจงว่าเป็นการรีวิวส่วนตัว ไม่ได้ถูกจ้างแต่อย่างใด แต่ชาวเน็ตก็ยังไม่พอใจอยู่ดี เพราะเหมือนเป็นการโฆษณาให้เซเว่น

]]>
1338967
“พี่ก้อน” แท็กทีมพาร์ตเนอร์ร่วมฝ่าวิกฤต ให้สิทธิ์สมาชิกแลกซื้อกิจกรรมในราคา 1 บาท! https://positioningmag.com/1288649 Mon, 20 Jul 2020 10:33:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1288649 พี่ก้อนขอออกจากร้านอาหาร เดินหน้าสู่สายไลฟ์สไตล์ชั่วคราว จับมือกับพันธมิตร 5 แบรนด์ไลฟ์สไตล์ ให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิกในการแลกซื้อกิจกรรมต่างๆ ในราคา 1 บาท เป็นการแลกฐานลูกค้า และวินวินกันทั้ง 3 ฝ่าย

ร่วมกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้า

บาร์บีกอน นำทีมแบรนด์ในเครือฟู้ดแพชชั่น ทั้ง จุ่มแซ่บฮัท ฌานา และโภชา ร่วมสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม จับมือ 5 พันธมิตรแบรนด์ชั้นนำด้านไลฟ์สไตล์ ร่วมกระตุ้นธุรกิจเดินหน้าต่อ สู้สถานการณ์ COVID-19

ครั้งนี้เป็นการมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก GON and the Gang ในสายไลฟ์สไตล์ ทั้งเที่ยว นวด ตัดผม ดูหนัง และเสริมความงาม โดยสามารถนำคะแนนสะสม 199 คะแนน มาแลกซื้อสิทธิ์รับบริการต่างๆ ที่เข้าร่วมรายการในราคาเพียง 1 บาท จาก 5 แบรนด์พันธมิตร ได้แก่ Let’s Relax Spa, โรงภาพยนตร์ SF, สถานเสริมความงาม Romrawin, ร้านตัดผม Neversaycutz และสวนน้ำ Vana Nava ผ่าน Line@Gonandthegang เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 21 ส.ค. หรือจนกว่าจะครบตามสิทธิ์ที่กำหนด

ปัจจุบันฐานลูกค้าสมาชิกของแบรนด์ทั้งหมดในเครือฟู้ดแพชชั่น (Food Passion Corporate CRM) ภายใต้ชื่อ GON and the Gang ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้าของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท ฌานา และโภชา รวมกว่า  1 ล้านคน

บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานบริหารหน่วยธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า และงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือ Chief Possible Officer กล่าวว่า

“แนวคิดของการจับมือร่วมกับ 5 พาร์ตเนอร์เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าสมาชิก GON and the Gang ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่ฟู้ดแพชชั่นอยากจะมีส่วนสำคัญในการร่วมสร้างบรรยากาศให้ลูกค้าของเราได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม ประกอบกับเราพบว่ามีผู้ประกอบการหลายราย ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ของคน ต่างก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เช่นกัน ดังนั้น เราจึงมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ ไปพร้อมๆ กับกระตุ้นให้ลูกค้าอยากออกมาทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์นอกบ้านเหมือนเช่นเคยขึ้น

จากแนวคิดนี้เองจึงเกิดเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ ระหว่าง Gon and the Gang กับอีก 5 แบรนด์พันธมิตรที่ทำธุรกิจไลฟ์สไตล์ด้านต่างๆ ในรูปแบบของการนำเอาคะแนนสะสม ไปแลกซื้อเพื่อรับสิทธิพิเศษในรูปแบบบริการต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าของแบรนด์ในเครือของฟู้ดแพชชั่น ไปทำกิจกรรมผ่อนคลายนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งนอกจากลูกค้าของเราจะได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้รับแล้ว ยังเป็นการช่วยให้แบรนด์พันธมิตรทั้ง 5 ได้เข้าถึงฐานลูกค้าของเรา และนำไปต่อยอดในเชิงการตลาดในอนาคตได้”

ใช้ 199 คะแนน และ 1 สิทธิ์

สำหรับสิทธิพิเศษสมาชิก GON and the Gang ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท ฌานา และโภชา ซึ่งเป็นร้านอาหารในเครือฟู้ดแพชชั่น โดยจะได้รับคะแนนสะสม ผ่าน LINE@Gonandthegang โดยสามารถนำคะแนนจำนวน 199 คะแนน มาแลกซื้อสิทธิพิเศษรับบริการจาก 5 แบรนด์พันธมิตร ได้ในราคา 1 บาท!! จำกัดการแลกรับ 1 สิทธิ์ต่อ 1 แบรนด์ที่จะใช้บริการได้ 1 โค้ดต่อ 1 ครั้ง และไม่สามารถใช้สิทธิ์ซ้ำได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • Let’ s Relax Spa ได้สิทธิ์แลกซื้อ E-Voucher สำหรับทำ Treatment Back & Shoulder Massage 30 นาที มูลค่า 350 บาท ทุกสาขาทั่วประเทศ จำนวน 1,500 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 22 สิงหาคมนี้
  • Romrawin Clinic ได้สิทธิ์แลกซื้อคอร์ส Treatment P-White ฟรี มูลค่า 500 บาท ใช้ได้ทุกสาขายกเว้นสาขาชิดลม, พารากอน และเอ็มควอเทียร์ จำนวน 3,000 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 ธันวาคมนี้
  • โรงภาพยนตร์ SF Cinema ได้สิทธิ์แลกซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ ‘ซื้อ 1 ฟรี 1’ มูลค่า 480 บาท สำหรับที่นั่ง Deluxe Seat ทุกสาขา และที่นั่ง Premium Seat เฉพาะสาขา เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จำนวน 2,000 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม – 30 กันยายนนี้

  • Neversaycutz ได้สิทธิ์แลกซื้อ บริการตัดผมฟรี! มูลค่า 500 บาท (เฉพาะการตัด-สระเท่านั้น แต่ไม่รวมการโกนหรือกันหนวด) ทุกสาขายกเว้นสาขา เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จำนวนสิทธิ์ 2,000 สิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม – 30 กันยายนนี้
  • สวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน แลกซื้อสิทธิ์ ส่วนลด 25% สำหรับค่าบัตรเข้าสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล แบบ Day Pass และได้สิทธิ์ฟรี! VR Slide 1 ครั้ง มูลค่า 100 บาท (สำหรับบัตรผู้ใหญ่เท่านั้น) ใช้ได้ทุกวันไม่เว้นวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จำนวน 1,000 สิทธธิ์ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 30 กันยายนนี้

]]>
1288649
อยากได้เหรอ อุ้มกลับสิ! “บาร์บีคิว พลาซ่า” ให้ลูกค้าพา “พี่ก้อน” กลับบ้านได้ 7 มิ.ย. นี้ https://positioningmag.com/1282184 Fri, 05 Jun 2020 06:04:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282184 กระแสความนิยมของพี่ก้อน หรือบาร์บีกอนยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากบาร์บีคิว พลาซ่าได้นำมาเป็นเพื่อนนั่งทานอาหาร ตอนนี้ทางร้านเตรียมเปิดให้ลูกค้านำพี่ก้อนกลับบ้านได้แล้ว วันที่ 7 มิถุนายนนี้ วันเดียวเท่านั้น

ทานที่ร้านก็พาพี่ก้อนกลับบ้านได้!

หลังจากที่ก่อนหน้านี้บาร์บีคิว พลาซ่าได้สร้างเสียงฮือฮา ได้พา “พี่ก้อน” เป็นเพื่อนนั่งทานในร้านคลายเหงา ต้อนรับการเปิดร้านช่วงคลายล็อกระยะ 2 อีกทั้งยังมีการจำหน่ายพี่ก้อนผ่านทาง Facebook Live เพื่อสร้างความสุขให้แก่ลูกค้าเพิ่มเติมในราคาตัวละ 149 บาท

ตอนนี้บาร์บีคิว พลาซ่าได้เปิดให้ลูกค้าที่มาทานที่ร้านสามารถหิ้วพี่ก้อนกลับบ้านได้แล้ว เพียงทานอาหารที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า หรือใช้บริการซื้ออาหารกลับบ้าน (Take Home) ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ รับ “ก้อนกล้าหาญ” กลับบ้านฟรีทันที ทุกสาขาทั่วประเทศ

ลูกค้าสามารถอุ้มก้อนกล้าหาญที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะอาหารกลับบ้านได้ทันที เฉพาะในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เท่านั้น แจก 1 ตัว/ 1 โต๊ะ / 1 ใบเสร็จ รวมแจกทั้งสิ้น 3,167 ตัว ทั่วประเทศ เฉพาะในวันที่จัดกิจกรรมดังกล่าว หมดแล้วหมดเลย

แถมใจดีส่งต่อก้อนกล้าหาญ สำหรับเป็นสัญลักษณ์ Social Distancing ให้สถานศึกษาและโรงเรียน รวม 50 แห่ง 1,500 ตัว รับเปิดเทอม 1 ก.ค. ติดต่อขอรับได้ที่ Inbox Facebook Fanpage Bar B Q Plaza  ระหว่าง 8-12 มิถุนายนนี้

เพื่อให้โรงเรียนได้นำไปตั้งตามจุดต่างๆ อาทิ โรงอาหาร สนามเด็กเล่น หรือห้องเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้ก้อนกล้าหาญได้ช่วยทำหน้าที่ในการสร้างการตระหนักรู้และภาพจดจำของการปฏิบัติตนตามหลัก Social Distancing ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือเป็นการต่อยอดให้เกิดการใช้ก้อนกล้าหาญที่ร้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยโรงเรียนแห่งต่างๆ สามารถแจ้งความประสงค์รับก้อนกล้าหาญได้ทาง Inbox ของ Facebook Fanpage Bar B Q Plaza ตลอดระยะเวลาโครงการ หรือ ในระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายนนี้ และสามารถรับก้อนกล้าหาญได้ที่สาขาในพื้นที่ใกล้โรงเรียน

]]>
1282184
“บาร์บีคิว พลาซ่า” ปิ้งย่างยุค New Normal แม้มีพี่ก้อน แต่งด “รีฟิล-กระทะดำ” ไปยาวๆ https://positioningmag.com/1281320 Sun, 31 May 2020 16:02:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1281320 คลายล็อกดาวน์ระยะ 2 ได้ 2 สัปดาห์ สามารถเปิดศูนย์การค้า และร้านอาหารในห้างฯ ได้ “บาร์บีคิว พลาซ่า” งัดไม้เด็ดในการให้พี่ก้อน หรือบาร์บีกอนเป็นเพื่อนนั่งเวลาทานอาหาร ไม่ให้ลูกค้ารู้สึกเหงา แต่รายได้และกำไรที่น้อยลง อาจจะทำให้แบรนด์ต้องงดแคมเปญ “รีฟิล” และยกเลิกกระทะดำไปก่อนแบบยาวๆ เลย

ให้พี่ก้อนเป็นเพื่อนกิน

หลังจากที่มีประกาศจากรัฐบาลว่าให้ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเปิดทำการได้ในวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์ฯ ต่างได้คลายล็อกด้วยเช่นกัน สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องอยู่ในมาตรการ Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคมอยู่

ในตอนนั้นทำให้เกิดไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อ “บาร์บีคิว พลาซ่า” ได้ออกไอเดียนำเอามาสคอตของแบรนด์อย่าง “บาร์บีกอน” หรือเรียกติดปากกันว่าพี่ก้อน มานั่งในโต๊ะเดียวกันกับลูกค้า เพื่อไม่ให้รู้สึกเหงาที่ต้องนั่งทานคนเดียว

เบื้องหลังของแนวคิดนี้เรียกว่ามาจากต้องการให้ผู้บริโภคมีรอยยิ้มในการทานอาหาร ประกอบกับสถานการณ์รอบตัวที่พบว่าทุกร้านต้องจัดโต๊ะตามมาตรการของรัฐบาล การให้ลูกค้ามีประสบการณ์ใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้

โดยที่ “บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์” ประธานบริหารหน่วยธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า และงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือ Chief Possible Officer เริ่มเล่าว่า

“แคมเปญนี้คิดมาจาก Consumer First คิดว่าถ้าแบรนด์หายไปนานๆ ลูกค้าน่าจะคิดถึงเก้าอี้ที่เก่า แต่ถ้ามากินคนเดียวคงจะแปลกๆ อยากให้ลูกค้ามีความสุข และให้แบรนด์อยู่กับเขา อยากให้เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ลูกค้ากลับมาหลังเปิดห้างฯ หลายๆ แบรนด์อาจจะคิดว้าป็นการ Re-opening แต่เราคิดว่าเป็นการ New Opening คือการเปิดใหม่ของแบรนด์ และที่ผ่านมามีแต่ข่าวเครียดๆ จึงอยากให้ทุกคนมีรอยยิ้ม”

บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานบริหารหน่วยธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า และงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือ Chief Possible Officer
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานบริหารหน่วยธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า และงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือ Chief Possible Officer

หุ่นพี่ก้อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลูกค้านั้น เป็นอุปกรณ์ที่ของเหลือจากแคมเปญ “ก้อนกล้าหาญ” ตุ๊กตากระดาษจิ๊กซอว์ ที่นำมาประกอบต่อกันเป็นบาร์บีกอน พร้อมด้วยโควทคำพูดเก๋ๆ เป็นสีสันให้กับการทาน เช่น “ห่างกันแค่หลักเมตร แต่ได้นั่งเดทกับ GON ฟินเฟร่อ” และ “คำว่า โสด จะหายไป เพราะมื้อนี้ควง GON มาปิ้งด้วย”

ทุกสาขาทั่วประเทศจะมีวางพี่ก้อนทุกโต๊ะ สามารถสร้างความสนใจให้แก่ลูกค้าอย่างมาก จนในที่สุดทางบาร์บีคิว พลาซ่าก็ได้ตัดสินใจวางขายโมเดลพี่ก้อนผ่าน Facebook Live ตัวละ 149 บาท เพราะมีลูกค้าเรียกร้อง

ดีไซน์เมนูให้ทานคนเดียว

การเปิดให้บริการร้านอาหารอีกครั้งยังเต็มไปด้วยความท้าทายอันหนักอึ้ง จำนวนโต๊ะเก้าอี้ลดน้อยลง รับลูกค้าได้น้อยลง ทำให้รายได้น้อยลง ซึ่งบาร์บีคิว พลาซ่าเป็นร้านปิ้งย่างที่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาทานกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ทานกันเป็นกลุ่ม ชุดอาหารจึงได้ออกแบบเป็นเซตใหญ่ที่ทานแล้วคุ้มค่า

เมื่อต้องกลายเป็นปิ้งย่างยุค COVID-19 ก็ต้องทานแบบ New Normal ทำให้ 1 โต๊ะ นั่งได้แค่คนเดียว ทางแบรนด์จึงต้องดีไซน์เซตเมนูใหม่ให้เหมาะกับการทานคนเดียว

เกิดเป็นชุดอาหาร “ฉายเดี่ยว…เลี้ยวมา GON” สามารถเลือกได้ตามใจได้ 8 เมนู ออกแบบให้ครอบคลุมทั้งประเภทเนื้อสัตว์ คัดเมนูขายดีมาให้เลือกทั้งหมด 16 เมนู สามารถเลือกได้ 5 เมนู ประเภทผักต่างๆ 6 เมนู เลือกได้ 2 เมนู และประเภทคาร์โบไฮเดรต 3 เมนู เลือกได้ 1 เมนู

ชุดนี้มีราคา 262 บาท เป็นการตั้งราคาที่ได้จากข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าที่ส่วนใหญ่จะมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 300 บาท เป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้

รวมถึงการเสิร์ฟน้ำจิ้ม พริก กระเทียม กะหล่ำปลีก็ต้องปรับใหม่ให้พนักงานเสิร์ฟที่โต๊ะ ไม่มีการวางไว้บนโต๊ะ พนักงานจะกะในปริมาณที่เหมาะกับการทานต่อครั้ง ต่อคน เพื่อลดความถี่ในการให้พนักงานบริการ

ลาก่อนชุดรีฟิล-กระทะดำ (ชั่วคราว)

มาถึงแคมเปญที่เป็นฮีโร่ประจำร้านคงหนีไม่พ้นแคมเปญ “รีฟิล” หรือจะเรียกว่าบุฟเฟต์ก็ไม่ผิดมากนัก เป็นแคมเปญที่หลายคนตั้งตารอ เพราะในแต่ละปีจะจัดแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ยังคงจุดยืนความเป็นร้านปิ้งย่างแบบ A la carte เอาไว้อย่างเหนียวแน่น

เมื่อเจอวิกฤต COVID-19 ทำให้ร้านค้าต้องปิดตัว แถมยังต้องไปพึ่งพาการขายออนไลน์ และเดลิเวอรี่ ไม่สามารถครอบคลุมรายได้ที่หน้าร้านได้หมด แต่ก็เป็นวิธีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด แน่นอนว่าทุนหายกำไรหดกันไปตามๆ กัน

การที่ร้านสามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ได้เท่าเดิม ขายได้น้อยลง รับลูกค้าได้น้อยลง ยังคงต้องเน้นการขายออนไลน์ควบคู่ไปด้วย เรียกว่าร้านก็ยังไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ควร

การที่จัดแคมเปญรีฟิวของบาร์บีคิว พลาซ่าเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าโดยแท้ เพราะทางร้านได้กำไรแสนบาง เมื่อเจอวิกฤตในครั้งอาจจะทำให้ต้องหยุดแคมเปญรีฟิลไปอย่างไม่มีกำหนด อีกทั้งสถานการณ์ยังไม่เหมาะกับการทานบุฟเฟต์ หรือการอยู่ในร้านนานๆ ด้วย

ส่วนเรื่องของ “กระทะดำ” ที่แต่เดิมมีอยู่ 10 สาขา ก็ต้องทำการยกเลิกไปก่อน แล้วใช้กระทะทองเหลืองเหมือนกันทุกสาขา ด้วย 2 เหตุผลหลัก

  1. กระทะดำส่วนใหญ่จะอยู่ในสาขาพรีเมียม หรือสาขาที่มียอดขายสูง สามารถกำหนดเมนูพรีเมียมที่แตกต่างจากสาขาอื่นๆ ได้ ในตอนนี้ต้องทำเมนูให้เหมือนกันหมด
  2. ด้วยวิกฤตนี้ต้องมีการปรับวิธีการทำงาน ทางแบรนด์เองได้ปรับการบิรหารเป็นแบบ One Decision ทำให้ตัดสินใจได้ง่าย ตัดสินใจด้วยคนเดียว เพราะแต่เดิมจะมีผู้บริหารที่ดูแลสาขากระทะดำโดยตรง ทำให้ตอนนี้ต้องปรับให้เป็นรูปแบบเดียวกันหมด

ถอดบทเรียนครั้งใหญ่ สู้เพื่อความอยู่รอด

ถ้าถามว่าในวิกฤตครั้งนี้ บาร์บีคิว พลาซ่าได้ปรับตัวอะไรบ้าง และบุณย์ญานุชได้เรียนรู้อะไรบ้าง สามารถสรุปได้ ดังนี้

  • Social Commerce

เจ้าแม่แห่งบาร์บีคิว พลาซ่าบอกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เรียนรู้เยอะมาก ถึงแม้จะเป็นพี่ใหญ่ในตลาดร้านอาหาร แต่ยังเป็นน้องเล็กในตลาดเดลิเวอรี่ จึงต้องให้ความสำคัญทั้งการหารายได้ในระยะสั้นเพื่อต่อลมหายใจ และการทำในระยะยาวอย่างการแตกธุรกิจใหม่ๆ ทำ เช่น Facebook Live เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่พยายามทำกระตุ้น Social Commerce ใช้โมเดลนี้เป็นหลัก มีช่วง “อร่อยชัวร์ครัวพี่ก้อน” เป็นถังออกซิเจนช่วงเวลาสั้นๆ เป็นรถฉุกเฉินที่ได้ต่อยอดทำอะไรหลายๆ อย่าง เพิ่มแต่กำลังหา Success Model อยู่ ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

  • พัฒนาเดลิเวอรี่

ช่วงที่มีการปิดสาขาต้องมีการเน้นในส่วนของเดลิเวอรี่ ทางแบรนด์ได้เปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานใหญ่เป็นครัวกลาง Passion Kitchen เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งอาหาร

โดยที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ใช้ระบบ Agile ในการทำงาน มีทีมพัฒนาสินค้า พยายามพัฒนาชุด DIY เพื่อให้ได้ขนาดการสั่งซื้อที่ใหญ่ขึ้น

บุณย์ญานุช บอกว่าหลังจากที่ห้างฯ เปิดแล้ว บริการเดลิเวอรี่น่าจะน้อยลง แต่ก็ต้องสร้างซิกเนเจอร์ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ และมีแผนแตกสินค้าสำหรับ Take Home

  • องค์กรมีส่วนสำคัญ

วิกฤตครั้งนี้ได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จขององค์กรมาจาก Culture is King โชคดีที่บาร์บีคิว พลาซ่ามีวัฒนธรรมในองค์กรที่ไม่มีการเมืองใดๆ ผู้บริหารระดับสูงไม่มาคิดเรื่องการเมือง ทำให้ทีมงานมี Mindset ที่ดี สปิริตของทีมต้องพร้อมรบเสมอ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และมีแม่ทัพคอยวางกลยุทธ์

  • กระจายความเสี่ยง

สุดท้ายแล้ว การทำธุรกิจต้องกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทั้งในช่องทางใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ ต้องรู้ว่าเก่งเรื่องอะไร และโง่เรื่องอะไร ต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดี และกระแสเงินสดจะทำให้รอด หรือร่วง

บุณย์ญานุช ปิดท้ายว่า การที่แบรนด์ออกมาปรับตัว ปรับกลยุทธ์มากมายขนาดนี้ เพราะ “อยากเป็นส่วนหนึ่งให้ธุรกิจรีเทลไม่ล่มสลาย”

]]>
1281320
เตรียม CF! Bar B Q Plaza พร้อมจำหน่าย “พี่ก้อน” ให้เป็นเพื่อนกินข้าว ตัวละ 149 บาทแล้ว https://positioningmag.com/1279772 Wed, 20 May 2020 13:52:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1279772 ทนกระแสเสียงเรียกร้องไม่ไหว บาร์บีคิวพลาซ่า ประกาศข่าวดี ให้ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ “ก้อนกล้าหาญ” ได้แล้ว! โดยตัดสินใจนำ “พี่ก้อน” ออกมาวางจำหน่ายอีกครั้ง ผ่านงาน Live สด #อร่อยชัวร์ครัวพี่ก้อน ครั้งที่ 5 ทาง Facebook Fanpage Bar B Q Plaza Thailand   

นำพี่ก้อนมาให้แฟนๆ ได้ CF

หลังจากที่สร้างกระแสบนโลกออนไลน์ เมื่อ Bar B Q Plaza ได้นำมาสคอตอย่าง “บาร์บีกอน” มานั่งเป็นเพื่อนกินข้าว เมื่อต้องมีมาตรการ Social Distancing ทำให้ร้านอาหารต้องจัดโต๊ะแบบมีระยะห่าง แล้วต้องนั่งคนเดียว

ทำให้หลายคนอยากได้พี่ก้อนไว้ครอบครอง มีหลายกระแสได้สอบถามว่ามีจำหน่ายหรือไม่ เมื่อไปทานอาหารแล้วสามารถนำกลับได้หรือไม่ ตอนนี้ทางแบรนด์ได้ออกมาประกาศจำหน่ายพี่ก้อนให้ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกค้าแล้วเรียบร้อย

บาร์บีคิวพลาซ่า จัดงาน Facebook Live #อร่อยชัวร์ครัวพี่ก้อน ทาง Facebook Fanpage Bar B Q Plaza Thailand อีกหนึ่งช่องทางที่จะนำเสนอข้อมูลดีๆ สินค้าเด็ด Rare Item และสินค้าลดราคาพิเศษจากแบรนด์มานำเสนอ โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และนับเป็นการจัดครั้งแรกหลังมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

โดยไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ การเปิดจำหน่าย “ก้อนกล้าหาญ” ขวัญใจคนใหม่ของคนไทยทั่วประเทศ ที่บรรดาแฟนๆ ต่างเรียกร้องอยากจะได้เป็นเจ้าของ หลังจากสร้างกระแสความน่ารักและเป็นสีสันทำให้การทานปิ้งย่างไม่เหงาเปล่าเปลี่ยวอีกต่อไป วางจำหน่ายในราคา ตัวละ 149 บาท พร้อมค่าส่งออร์เดอร์ละ 50 บาท แต่ถ้าซื้อ 5 ตัวแบบยกลัง 745 บาท จัดส่งให้ฟรีทั่วประเทศ! สั่งซื้อได้เฉพาะช่วงเวลาที่ Live สดเท่านั้น! รีบเลยสินค้ามีจำนวนจำกัด

และอีกหนึ่งโปรโมชั่นเด็ด กับของแถมสุดคุ้มจาก Voucher “Bar B Gon & More” บัตรกำนัลเงินสด ที่ใช้ได้ทั้งร้านบาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท และฌานา จะใช้จ่ายทานในร้านหรือสั่งซื้อกลับบ้านก็ได้ มูลค่า 2,500 บาท แถมฟรี! Voucher 300 บาท หมอนบาร์บีกอน ลิมิเต็ด 329 บาท และถุงผ้าพี่ก้อนลดโลกร้อน 129 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 758 บาท จัดส่งให้ฟรีทั่วประเทศ สั่งได้ผ่าน www.foodpassionsales.com เฉพาะช่วงเวลา 11.00 -24.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคมนี้เท่านั้น บัตรกำนัลเงินสดนี้ใช้ได้ยาวๆ ถึงสิ้นปี 31 ธันวาคม 2563

นอกจากนี้ ในช่วงการ LIVE ยังเผยโปรโมชั่นพิเศษจากชุดเมนู “ฉายเดี่ยว…เลี้ยวมา GON” ที่ให้สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก “ก้อน แอนด์ เดอะ แก๊ง” รับส่วนลดสูงสุด 15% ทันที รวมทั้งยังมีเกมและของรางวัลให้ได้ร่วมลุ้นร่วมสนุกอีกมากมาย ดังนั้น ห้ามพลาดทุกนาทีกับทุกกิจกรรมของ #อร่อยชัวร์ครัวพี่ก้อน ครั้งที่ 5 ในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เวลา 11.00 น. ทาง Facebook Bar B Q Plaza Thailand 

]]>
1279772