รถหรู – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 11 Jan 2024 04:43:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ยังโตได้อีก! ‘โรลส์-รอยซ์’ ทำยอดขายสูงสุดในรอบ 119 ปี ที่ 6,032 คันทั่วโลก https://positioningmag.com/1458342 Thu, 11 Jan 2024 02:55:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458342 เชื่อว่าในปีที่ผ่านมา คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักกับแบรนด์รถหรูอย่าง ‘โรลส์-รอยซ์’ (Rolls-Royce) กันมากขึ้น เพราะมีหนุ่มขับกระบะไปชนท้ายรถโรลส์-รอยซ์ แม้จะไม่ได้เสียหายอะไรมาก แต่ค่าซ่อมที่ประเมินก็กว่า 2 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้ราคาจะแพงแค่ไหน แต่สำหรับมหาเศรษฐีก็ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งร่วง

สำหรับ โรลส์-รอยซ์ หลายคนน่าจะพอรู้ราคาคร่าว ๆ ว่าเริ่มต้นในไทยนั้นมีไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมา มอเตอร์ คาร์ส ได้เปิดเผยว่า มีการส่งมอบรถยนต์ไป 6,032 คันทั่วโลก ซึ่งถือเป็นปริมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 119 ปีของแบรนด์ แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เทียบกับปีที่ผ่านมามีการส่งมอบเพิ่มขึ้น 11 คัน

โดยในปีที่ผ่านมา Cullinan SUV เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดและบริการสร้างรถสั่งทำพิเศษได้รับคำสั่งซื้อมากกว่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนรุ่น Spectre ที่เผยโฉมใน 2022 ก็ได้ส่งมอบให้กับลูกค้าบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา โรลส์-รอยซ์ได้มีการยกเลิกจำหน่ายรถยนต์ 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Dawn และ Wraith โดยทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ 6.6 ลิตร

สำหรับตลาดที่ขายดีสุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ตามด้วย จีน ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ ก็ยังสามารถเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง

“ปีที่แล้วเป็นอีกปีที่พิเศษสำหรับโรลส์-รอยซ์ ด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งในทุกภูมิภาคและกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด” คริส บราวน์ริดจ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ กล่าว

สำหรับโรลส์-รอยซ์ เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ BMW ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ของเยอรมนีในปี 1998 ปัจจุบัน รถยนต์ของโรลส์-รอยซ์ผลิตในเมืองกู๊ดวูด ทางตอนใต้ของอังกฤษ

Source

]]>
1458342
เงินเฟ้อไม่สะเทือน! มหาเศรษฐีจองซูเปอร์คาร์ “Bugatti” หมดเกลี้ยงถึงปี 2025 https://positioningmag.com/1398317 Tue, 30 Aug 2022 12:57:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398317 ซีอีโอ Bugatti เผย “ซูเปอร์คาร์” ของแบรนด์ถูกจองยาวไปจนถึงปี 2025 อัตราเงินเฟ้อพุ่งทั่วโลกไม่สะเทือนกระเป๋าตังค์เศรษฐี โดยก่อนหน้านี้ “Lamborghini” ก็เพิ่งประกาศเช่นกันว่ารถยนต์ของแบรนด์ถูกจองไปถึงปี 2024 แล้ว

สำนักข่าว CNBC รายงานข้อมูลจาก “Mate Rimac” ซีอีโอค่ายรถยนต์ฝรั่งเศส Bugatti (บูกัตติ) ซึ่งกล่าวว่า รถยนต์ของแบรนด์ทุกคัน “ถูกจองเกลี้ยงจนถึงปี 2025” และเขา “ไม่คิดว่าจะมีการขายช้าลง ณ ขณะนี้”

ดูเหมือนว่ากลุ่มมหาเศรษฐีของโลกจะไม่ชะลอการซื้อซูเปอร์คาร์ในเร็วๆ นี้ แม้ว่าทั่วโลกจะกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ Rimac ยืนยันว่าซูเปอร์คาร์ของบริษัททั้งกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปก็ยังคงมีดีมานด์ที่แข็งแรงเหมือนเดิม และอาจจะเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ

รถยนต์รุ่นล่าสุดของ Bugatti ที่เพิ่งเปิดตัวคือรุ่น W16 Mistral ซูเปอร์คาร์ 1,577 แรงม้า ขุมพลัง W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก รถยนต์รุ่นสุดท้ายของแบรนด์ที่จะเป็นสันดาปล้วน ก่อนเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า รถคันนี้จะผลิตเพียง 99 คันทั่วโลก สนนราคาคันละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 175 ล้านบาท)

Bugatti W16 Mistral

Bugatti W16 Mistral ถูกจองหมดภายในไม่กี่วัน หลังเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2022 ณ งาน Monterey Car Week รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา Rimac บอกกับ CNBC ว่า ตัวเขาเองก็ “แปลกใจเล็กน้อย” ที่รถขายหมดเร็วมาก โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีในสหรัฐฯ

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวแล้วเช่นกันคือรุ่น Rimac Nevera ซูเปอร์คาร์ 1,900 แรงม้า ราคาขาย 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 73.5 ล้านบาท) ก็ทำยอดขายได้ดีเช่นกันในสหรัฐฯ

ไม่ใช่แค่ซูเปอร์คาร์ที่สร้างรายได้ให้บริษัท ปัจจุบัน Rimac Group ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Bugatti เติบโตได้ดีจาก Rimac Technology บริษัทในเครือที่ขายแบตเตอรีและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าศักยภาพสูง มีลูกค้าทั้ง Porsche, Aston Martin, Hyundai ฯลฯ รวมถึงมีเทคโนโลยี “แท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ” ที่กำลังพัฒนา คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในปี 2024

ยอดขายรถและเทคโนโลยีอนาคตทำให้ นักลงทุนรายใหญ่ เช่น Goldman Sachs, SoftBank เข้าลงทุนรวม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) ใน Rimac Group เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทนี้ได้รับการประเมินมูลค่าสูงกว่า 2,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 70,000 ล้านบาท)

ด้านการเปิด IPO นั้น ซีอีโอ Rimac บอกว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าตลาดแต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ “เราต้องการเข้าตลาดเมื่อจังหวะถูกต้อง เมื่อบริษัทเรามีการเงินที่แข็งแกร่งมากก่อน และเราใกล้จะทำได้แล้ว ดังนั้น เราจะเข้าตลาดแน่นอนแต่จะเป็นอีก 3 ปี 5 ปี หรือ 6 ปี ผมก็ยังตอบไม่ได้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน”

Source

]]>
1398317
3 เหตุผลส่ง Rolls-Royce เป็นแบรนด์ “รถหรู” ของ “คนรุ่นใหม่” อายุผู้ซื้อเฉลี่ยลดเหลือ 43 ปี https://positioningmag.com/1371543 Tue, 25 Jan 2022 11:33:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1371543 Rolls-Royce เป็นแบรนด์ “รถหรู” ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “นั่งสบายดุจแพรไหม” ภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์เป็นรถสำหรับผู้บริหารชั่วโมงบินสูง แต่ปัจจุบันอายุเฉลี่ยผู้ซื้อรถยนต์แบรนด์นี้ทั่วโลกลดเหลือเพียง 43 ปี! น้อยกว่าแบรนด์รถหรูอื่น เช่น BMW, Mercedes-Benz หรือกระทั่ง Lamborghini ด้วยเหตุผลทั้งที่เกิดจากสภาวะในสังคมคนรวยเอง และการปรับกลยุทธ์ของแบรนด์ที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่มากขึ้น

เมื่อปีก่อน Rolls-Royce ประกาศยอดขายสถิติใหม่ สามารถขายได้ 5,600 คันทั่วโลกภายในปีเดียว และยังเปิดเผยอายุเฉลี่ยของผู้ซื้อที่ลดลงเหลือเพียง 43 ปีทั่วโลกและในสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าอายุของผู้ซื้อจำนวนมากจริงๆ แล้วอายุน้อยกว่าที่เราคิด อยู่ในวัยเพียง 20 กว่าจนถึง 30 กว่าปีเท่านั้น

ตัวเลขนี้ไม่ใช่เรื่องสามัญในกลุ่มรถหรู เพราะแบรนด์อื่นๆ เช่น Mini (อยู่ในเครือเดียวกับ BMW ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Rolls-Royce) มีอายุเฉลี่ยผู้ซื้อในสหรัฐฯ สูงถึง 52 ปี! ส่วนแบรนด์ BMW อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 55 ปี

IHS Markit บริษัทที่ปรึกษาค้นพบดาต้าที่สอดคล้องกันว่า Rolls-Royce มีผู้ซื้อที่อายุต่ำกว่า 45 ปีเป็นสัดส่วนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ เช่น Mercedes-Benz, Audi, Lexus หรือกระทั่ง Lamborghini

เหตุผลที่ทำให้แบรนด์ซึ่งเมื่อหลายทศวรรษก่อนเป็นแบรนด์ของคนวัยเกษียณ เป็นเครื่องแสดงฐานะของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ วันนี้กลายเป็นแบรนด์ยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ อายุผู้ซื้อเด็กลง สามารถแยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

1.ช่องว่างอายุระหว่าง “เศรษฐี” กับ “มหาเศรษฐี”

เนื่องจากรถ Rolls-Royce นั้นเป็นรถหรูราคาสูงมาก ในไทยจำหน่ายกันที่ 30 ล้านบาทถึงมากกว่า 50 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่ตัดสินใจซื้อจึงมักจะเป็นระดับมหาเศรษฐี

รถยนต์ Rolls-Royce ใน MV เพลง I Don’t Care ของ Ed Sheeran และ Justin Bieber

เมื่อเจาะลึกระดับความร่ำรวย Spectrem Group บริษัทที่ปรึกษาที่ศึกษาด้านนักลงทุน พบว่า ผู้ที่มีสินทรัพย์สุทธิระหว่าง 33 ล้านบาท – 825 ล้านบาท หรือกลุ่มเศรษฐีหลักสิบล้านถึงร้อยล้าน มีอายุเฉลี่ยที่ 62 ปี แต่กลับกัน กลุ่มมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 825 ล้านบาท หรือมหาเศรษฐีพันล้าน มีอายุเฉลี่ย 48 ปีเท่านั้น

นั่นทำให้สภาวะในสังคมเศรษฐีเปลี่ยนไปอยู่แล้ว โดย Martin Fritches ซีอีโอ Rolls-Royce อเมริกา เปิดเผยว่า กลุ่มมหาเศรษฐีซึ่งซ้อนทับกับผู้ซื้อ Rolls-Royce กลายเป็นกลุ่ม ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อีลีท นักกีฬา นักแสดง และกลุ่มนี้พร้อมจะใช้เงินตั้งแต่ยังเด็กเพื่อหาความสำราญจากสิ่งที่มี ไม่ได้รอลงทุนจนฐานะมั่นคงก่อนแล้วจึงซื้อเหมือนแต่ก่อน

 

2.การปรับสินค้าของ Rolls-Royce

รถหรูคันใหญ่ของ Rolls-Royce มีการออกรถรุ่นที่เล็กกว่า (แต่ก็ยังใหญ่กว่ารถทั่วไป) อย่างรุ่น Ghost และปรับดีไซน์ให้ทันสมัยมากขึ้น เท่ขึ้น ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ

Rolls-Royce รุ่น Cullinan Black Badge

นอกจากนี้ ยังมีการออกรถเอสยูวีเมื่อปี 2019 รุ่น Cullinan SUV ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เต็มๆ เพราะเหมาะกับการเป็นรถครอบครัว ดูเด็กลงกว่าเดิม และลักษณะรถไม่โดดเด่นออกจากรถคันอื่นบนถนนมากเกินไป ดูไม่โอ้อวดแสดงฐานะมากเกินควร

ผู้บริหารแบรนด์และดีลเลอร์รถยังมองด้วยว่า องค์ประกอบงานดีไซน์ใหม่ๆ ของ Rolls-Royce มีส่วนช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น เช่น Starlight Headliner ฟังก์ชันเพดานรถเป็นรูปหมู่ดาว ซึ่งสามารถปรับแต่งได้เอง (customize) ตามที่ต้องการ อาจจะปรับเป็นท้องฟ้าในคืนวันเกิดของตัวเองก็ได้ (ฟังก์ชันนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในรถรุ่น Phantom ที่ผลิตเมื่อปี 2003)

อีกงานดีไซน์ที่ฮิตมากในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวคือฟังก์ชัน Black Badge เป็นการสั่งทำดีไซน์รถให้เป็นธีมสีดำ ภายในห้องโดยสารจะมีกลิ่นอายของรถสปอร์ตมากขึ้น และเลือกตกแต่งห้องโดยสารได้เอง ทั้งที่ต้องจ่ายค่าสั่งทำเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท แต่มีการสั่งทำดีไซน์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

3.ปรับระบบ CRM ให้เป็นดิจิทัล

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Rolls-Royce ปรับลุคให้ทันสมัยได้ คือการพัฒนาแอปพลิเคชัน Whispers ขึ้นมาใช้เชื่อมต่อสัมพันธ์กับเจ้าของรถ เป็นคลับดิจิทัลที่มีเฉพาะผู้ครอบครองรถเท่านั้นที่จะเข้าร่วมได้ คอนเทนต์ในแอปฯ ก็จะคล้ายกับที่แบรนด์เคยใส่ลงในนิตยสารพิเศษที่สมัยก่อนส่งตรงไปให้เจ้าของรถ และจะมีโปรโมชันต่างๆ ที่คัดสรรมาให้คนในชุมชน Rolls-Royce เช่น แพ็กเกจท่องเที่ยวสุดหรู

คลับดิจิทัล Whispers เชื่อมต่อเฉพาะผู้ครอบครองรถ Rolls-Royce

เมื่อเป็นแอปฯ แล้วยิ่งทำให้แบรนด์ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าดีขึ้น และลูกค้าเองก็ใช้เป็นพื้นที่รู้จักกับคนอื่นๆ ซึ่งมีรสนิยมเดียวกัน อยู่ในฐานะสังคมใกล้เคียงกัน ใช้เป็นเครือข่ายหาคอนเน็กชันเพิ่มได้อีก ปัจจุบัน ลูกค้า Rolls-Royce ในสหรัฐฯ มีมากกว่า 25% ที่เข้าเป็นสมาชิก Whispers

เพื่อสรุปให้เห็นภาพว่าเจ้าของรถ Rolls-Royce ปัจจุบันเป็นคนแบบไหน CNN สัมภาษณ์เจ้าของรถวัย 30 ปี Maxie Kaan-Lilly ที่เป็นทั้งนางแบบและนายหน้าขายบ้าน เธอมองว่าการใช้รถ Rolls-Royce คือการแสดงถึงจุดสูงสุดของการประสบความสำเร็จ แถมยังเป็นการลงทุนที่ดีกับอาชีพ เพราะเธอมักจะใช้รถรุ่น Dawn ของเธอขับไปรับลูกค้าเพื่อไปชมบ้านซึ่งสร้างความประทับใจแรกได้ดีมาก รวมถึงใช้แอปฯ Whispers หาลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย

Source

]]>
1371543
เปิดตัว ‘ALPHA X’ ยานลูกในเครือ SCBX จับตลาดลักชัวรี ทำลีสซิ่งเช่าซื้อ ‘รถหรู’ เรือยอทช์ ริเวอร์โบ๊ท https://positioningmag.com/1355493 Thu, 07 Oct 2021 09:25:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355493
เปิดตัว ‘ALPHA X’ ลีสซิ่งเช่าซื้อรถหรู บิ๊กไบค์ เรือยอทช์ และริเวอร์โบ๊ท จากค่ายไทยพาณิชย์เเละมิลเลนเนียม กรุ๊ป เห็นโอกาสตลาดยังเป็น Blue Ocean มีผู้เล่นน้อย ตั้งเป้าเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท ใน 1 ปี 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และกลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย บรรลุข้อตกลง และลงนามในสัญญาร่วมทุนจัดตั้ง ‘บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด’ (ALPHA X Co., Ld.) เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี โดยมีบริการต่างๆ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ลีสซิ่ง (Leasing) สินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance)

งานนี้ได้ ‘วศิน ไสยวรรณ’ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ มานั่งเเท่นเป็นซีอีโอของ ALPHA X นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เชิงรุกรูปเเบบใหม่ ตามแผนการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งประกาศตั้ง SCBX ยานเเม่ใหม่ ปลดล็อกข้อจำกัดเเบงก์ เพื่อมารุกธุรกิจต่างๆ มุ่งสู่ฟินเทคเต็มรูปแบบ ไปเมื่อเร็วๆ นี้

วศิน บอกว่า ALPHA X เกิดขึ้นจากการรวมศักยภาพของไทยพาณิชย์ ในด้านนวัตกรรมทางการเงินและบริการทางการเงินครบวงจร เเละประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ากลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี มาอย่างยาวนาน ทำให้เข้าใจไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว กับประสบการณ์ของ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ครบวงจรของเมืองไทย รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดแนวทางในการให้บริการรูปแบบใหม่ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการใช้ศักยภาพทางด้านดิจิทัล (Digital Capabilities) มารองรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และระบบฐานข้อมูลแบบ Big Data รวมถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า มาให้บริการจัดหา และแนะนำยานยนต์ให้ลูกค้าที่ต้องการได้จากทุกแบรนด์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

โดยบริษัทจะเริ่มใช้ศักยภาพจากฐานลูกค้ากลุ่ม Affluent ของ SCB และ MGC-ASIA และจะขยายไปยังลูกค้าในกลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรีเพิ่มขึ้นต่อไป

สำหรับ ALPHA X จะดำเนินธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์กลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี ครอบคลุมรถยนต์ , บิ๊กไบค์ , เรือยอทช์ และริเวอร์โบ๊ท ซึ่งเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีจำนวนผู้เล่นน้อยราย มีแนวทางการให้บริการที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งจะสามารถเริ่มให้บริการลูกค้าได้ภายในปี 2564

บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด มีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 1 ปี โดยเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และเอ็มจีซี-เอเชีย ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท

]]>
1355493
จับตา ‘BMW’ กับการรักษาแชมป์ตลาดรถหรูปี 2021 ที่เปิดก่อนด้วย 5 รุ่นใหม่ https://positioningmag.com/1319537 Tue, 16 Feb 2021 07:05:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1319537 หลังจากที่ไม่สามารถขึ้นเป็น ‘เบอร์ 1’ ในตลาดรถยนต์พรีเมียมได้สักที เพราะมี ‘ก้าง’ ชิ้นใหญ่อย่าง ‘Mercedes-Benz’ ขวางอยู่ แต่ในปี 2020 ‘BMW’ ก็สามารถแซงและขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งตลาดรถหรู พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดที่ 51.2% อย่างไรก็ตาม การครองแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า แต่ BMW ก็ประกาศชัดว่าในปี 2021 จะยังคงรักษาตำแหน่งให้ได้

เบอร์ 1 ด้วยส่วนแบ่ง 51.2%

ภาพรวมตลาดรถนั่งปี 2020 ลดลงถึง 31% ขณะที่ตลาดรถหรูมีจำนวนทั้งสิ้น 24,263 คัน ลดลง 17.7% ซึ่งจะเห็นว่าตลาดรถหรูได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น้อยกว่าตลาดทั่วไป ขณะที่ BMW Group (นับรวมยอดขายรถ MINI) มียอดส่งมอบรวมทั้งหมด 12,426 คัน ทำให้แบรนด์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมที่ 51.2% จากในปี 2019 มีส่วนแบ่งตลาด 43.9% ทั้งนี้ แบรนด์ BMW ส่งมอบรถยนต์รวม 11,242 คัน ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ MINI มียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 1.7% ด้าน BMW Motorrad ที่เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์มีการส่งมอบที่ 1,224 คัน

ที่น่าสนใจคือ กลุ่ม BMW M หรือรถยนต์สมรรถนะสูง มียอดขายเติบโต 40% จากปี 2019, Plug-in Hybrid มียอดขายเติบโต 33.8% และรถยนต์มือสองเติบโต 43.4%

ส่งออกยังไปได้สวย

ส่วนด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มียอดการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรวมกว่า 32,052 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 23,177 คัน ลดลง 10% และยอดประกอบมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad ที่ 8,875 คัน เพิ่มขึ้น 43%

ส่วนในด้านการส่งออกนั้น มีการส่งออกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รวม 23,143 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24% โดยแบ่งเป็นรถยนต์ BMW กว่า 15,079 คัน เพิ่มขึ้น 3% และมีการส่งออกมอเตอร์ไซค์กว่า 8,064 คัน เพิ่มขึ้นถึง 97%

ช่องทางดิจิทัลที่เน้นยิ่งขึ้น

BMW Group Thailand ในปีที่ผ่านมามีการปรับปรุงกลยุทธ์ในหลายด้าน ทั้งผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่, การดูแลลูกค้าหลังการขาย การปรับตัวด้านดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจ โดยการนำระบบ Augmented Reality มาใช้เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์ รวมถึงการนำเสนอบริการผ่านช่องทางออนไลน์ในงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์ เอ็กซ์โป กับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย

“เมื่อชีวิตประจำวันในหลายด้านต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะ เราจึงขยายการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้นจากปีก่อน ๆ โดยรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลในสองงานใหญ่ประจำปี ทั้งบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 และมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 ควบคู่ไปกับการจัดแสดงรถยนต์หน้างานจริง” อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน BMW Thailand กล่าว

อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน BMW Thailand

เปิด 5 รุ่นใหม่รักษาแชมป์

สำหรับปีนี้ BMW Group ได้เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ยานยนต์ใหม่เพื่อรักษาแชมป์ในปี 2021 โดยในส่วนของแบรนด์ BMW มี 2 รุ่น ได้แก่ X7 xDrive30d M Sport ราคา 5.999 ล้านบาท ประกอบในประเทศโดยจะถูกกว่ารุ่นนำเข้าเมื่อปี 2019 ที่มีราคา 8.999 ล้านบาท โดยได้เครื่องยนต์เล็กกว่า ซึ่งราคาที่ถูกลงนั้นมั่นใจว่าจะช่วยในการดึงดูดลูกค้ามากขึ้น และอีกรุ่นคือ 330Li M Sport ราคา 2.899 ล้านบาท

ในส่วนของแบรนด์ MINI ก็เตรียมเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี ราคา 1.999 ล้านบาท, มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ราคา 2.529 ล้านบาทและ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ GP Inspired Edition ราคา 3.448 ล้านบาท รวมถึงจักรยานยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition ในตระกูลครูสเซอร์ ราคา 1.250 ล้านบาท

ด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ายังคงเดินหน้าต่อไป โดยที่ผ่านมาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่าง มินิ คูเปอร์ เอสอี พร้อมด้วยรถยนต์ PHEV อีกสี่รุ่นในตระกูลซีรีส์ 3 ซีรีส์ 7 X3 และ X5 ซึ่งมีสัดส่วนการขายมากกว่า 30% โดยในปีนี้จะยังคงมีแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow มีจำนวนหัวจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 111 หัวจ่ายใน 67 จุดบริการทั่วประเทศ

มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน

ที่น่าจับตาในปีนี้คงไม่ใช่แค่ BMW จะสามารถรักษาแชมป์ได้หรือไม่ แต่ Mercedes-Benz ที่เสียแชมป์ไปก็เป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตาว่าจะสามารถทวงตำแหน่งของตัวเองที่เคยทำสถิติเป็นเบอร์ 1 นานนับสิบปีได้อย่างไร

]]>
1319537
ทดลองใช้ชีวิตเศรษฐี! เปิดทำเนียบ 10 “รถหรู” ให้เช่าขับ “รายวัน” https://positioningmag.com/1256028 Fri, 06 Dec 2019 05:40:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1256028 รถยนต์ระดับลักชัวรีคือความฝันของใครหลายคน แต่ด้วยราคาและค่าบำรุงรักษาของ “รถหรู” กลุ่มนี้ การได้เป็นเจ้าของไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าหากมีบริการให้เช่ารายวันที่คุณจะได้ทดลองขับขี่รถยนต์ในฝันบ้างล่ะ?

บริษัท ริชคาร์เรนทัล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ RICHCARS เปิดโผ 10 อันดับรถหรูที่แพงที่สุดที่บริษัทมีให้เช่ารายวัน ด้วยราคาเริ่มต้นวันละ 7,900 บาท มีทั้งรถระดับซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคูเป้ ซีดานหรู และเอสยูวีให้เลือกใช้

บริษัทมองว่า บริการเหล่านี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่รถหรูช่วยเติมเต็มได้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด ใช้ขับขี่เพื่อไปติดต่อเจรจาธุรกิจ ใช้เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ หรือแม้แต่การเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคโดยเจ้าตัวไม่ต้องลงทุนหลักล้าน

ไปพบกับ 10 อันดับ “รถหรู” ให้เช่าขับ “รายวัน” กันเลย!

อันดับ 10 – Mustang ราคา 4 ล้านบาท

อันดับ 9 – BMW Z4 Roadster ราคา 4.9 ล้านบาท

อันดับ 8 – Mercedes Benz E200 Cabriolet AMG ราคา 5.2 ล้านบาท

รถหรู

อันดับ 7 – Mercedes-Benz S Class ราคา 6.3 ล้านบาท

อันดับ 6 – Porsche 981 Cayman ราคา 7.9 ล้านบาท

รถหรู

อันดับ 5 – New Porsche 718 Boxster ราคา 8.5 ล้านบาท

รถหรู

อันดับ 4 – Porsche Panamera S E-HYBRID ราคา 9.4 ล้านบาท

รถหรู

อันดับ 3 – BMW i8 ราคา 12 ล้านบาท

อันดับ 2 – Porsche 911 Carrera S ราคา 13 ล้านบาท

อันดับ 1 – Lamborghini Gallardo Superleggara ราคา 24 ล้านบาท

]]>
1256028
“รถหรู” แบรนด์ไหน โดนใจคนไทย https://positioningmag.com/1186424 Wed, 05 Sep 2018 23:00:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1186424 รถหรู ถือเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ แต่กลับมีการแข่งขันที่สูงไม่แพ้ตลาดอื่น มาดูกันว่าผ่านครึ่งปีมาแล้วมีอะไรน่าสนใจบ้าง

จากสถิติยอดจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พ.. 2561 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 19,599 คัน

เป็นยอดจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดงนับรวมแบรนด์หรูทุกยี่ห้อ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการและผู้นำเข้าอิสระ

เห็นได้ว่า เมอร์เซเดสเบนซ์ ยังคงเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ โดยในปีนี้ เบนซ์ มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่น แม้จะไม่ใช่รุ่นที่เป็นตัวสร้างยอดขายหลักแต่ก็สามารถเรียกความสนใจได้

แบรนด์รถสปอร์ตหรู อย่าง เฟอร์รารี่ มียอดจดถึง 40 คัน, มาเซราติ 26 คัน, เบนทลี่ย์ 15 และแอสตันมาร์ติน 7 คัน ลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีความเชื่อมันในแบรนด์และภาพรวมเศรษฐกิจ

ตรงกันข้ามกับแบรนด์ ลัมโบกินี่ ที่ตัวแทนจำหน่ายประสบปัญหาในเรื่องของคดีความตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้มียอดจดทะเบียนเพียง 3 คันเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน ลัมโบกินี่ได้เปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายจากนิชคาร์มาเป็นเรนาโซของผู้บริหารทายาทตระกูลดังอภิชาติ ลีนุตพงษ์.

Source

]]>
1186424