ลูกค้ามั่งคั่งยังเนื้อหอมเสมอ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ’ยานพาหนะ’ ก็เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์อันหรูหรา และเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมไปพร้อมกับเทรนด์การลงทุนตามความหลงใหล หรือที่เรียกว่า ‘Passion Investment’
ตลาดยานยนต์ลักชัวรี่ทั่วโลก มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ หลังบรรดามหาเศรษฐีจำนวนมากมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในช่วงโรคระบาด ธุรกิจต่างๆ หันมาจับตลาดลูกค้ามั่งคั่งที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีลูกค้ามั่งคั่งคิดเป็น 1% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 700,000 ราย
‘ALPHA X’ ลีสซิ่งเช่าซื้อรถหรูน้องใหม่ จากค่ายไทยพาณิชย์เเละมิลเลนเนียม กรุ๊ป ได้มองเห็นศักยภาพของตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงนี้ เเถมยังเป็น Blue Ocean มีผู้เล่นเเบบครบวงจรอยู่น้อยราย จึงขอตั้งใจบุกตลาดสินเชื่อเพื่อสินทรัพย์ไลฟ์สไตล์ประเภทนี้โดยเฉพาะ โดยประกาศเปิดตัวไปเมื่อเดือนต.ค. ปีที่ผ่านมา เเละได้เริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางเดือนม.ค.ปีนี้
โดย ‘วศิน ไสยวรรณ’ ได้ขึ้นเป็นซีอีโอของ ALPHA X หลังเคยดำรงตำเเหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การปรับโครงสร้างองค์กรของยานเเม่ SCBX ที่ต้องการปลดล็อกข้อจำกัดเเบงก์ มุ่งสู่ธุรกิจฟินเทคที่หลากหลายยิ่งขึ้น
- 10 มหาเศรษฐีโลก “รวยขึ้น” 2 เท่า ในช่วง COVID-19 เพิ่มเฉลี่ย 1,300 ล้านเหรียญ/วัน
- ‘คนรวย’ ควักเงินซื้อ ‘ซูเปอร์ยอชต์’ สุดหรู เพราะอยากหนีโควิด ทำยอดขายพุ่งเป็นประวัติการณ์
โอกาสปล่อยสินเชื่อกลุ่มมั่งคั่ง
วศิน ให้ข้อมูลว่า ตลาดสินทรัพย์ลักชัวรี่ในไทยเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ ปี 2564 มีรถหรูจดทะเบียนรถใหม่ประมาณ 27,000 คัน หรือ 5% ของจำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ และคาดว่าปีนี้จะมีอัตราขยายตัวประมาณ 14%
“ภาพรวมตลาดรถหรู ทั้งรถเก่าและรถใหม่อยู่ที่ประมาณปีละ 65,000 – 70,000 คัน เเละมีการใช้สินเชื่อโดยเฉลี่ย 70-80% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าการใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินยังเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินทรัพย์ที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้”
เเม้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่งจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินมากนัก เเต่ส่วนใหญ่ก็เลือกใช้สินเชื่อ เนื่องจากเป็นการบริหารสินทรัพย์วิธีหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล โดยบางคนมองว่าสามารถหมุนเงินก้อนไปลงทุนอย่างอื่นได้ เเทนที่จะมาทุ่มซื้อของชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
หากดูตลาดสินเชื่อรถยนต์โดยรวม จะมียอดคงค้างอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ในส่วนนี้แบ่งเป็นกลุ่มรถหรูราว 10-15% มูลค่าตลาดราว 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่พอสมควรเเละมีฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง เครดิตดี
จึงเป็นโอกาสที่จะนำความเชี่ยวชาญ ความสามารถด้านการเงิน ตลอดจนความเข้าใจ และประสบการณ์ในการบริการกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง มาพัฒนาและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ทั้ง “รถหรู เรือยอทซ์ ริเวอร์โบ๊ท บิ๊กไบค์” ซึ่งมีบริการต่างๆ ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ลีสซิ่ง (Leasing) สินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance)
“เรากำลังอยู่ระหว่างขออนุมัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอใบอนุญาต ทำธุรกิจสินเชื่อธุรกิจจำนำทะเบียนรถ คาดว่ากลางปีนี้น่าจะได้รับการอนุมัติ”
หวังครองมาร์เก็ตเเชร์ 10% สินเชื่อรถหรู
กลุ่มเป้าหมาย ‘ALPHA X’ จะมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่มี รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งไม่ได้เเค่พิจารณาจากรายได้เท่านั้น เเต่ต้องดูส่วนอื่นๆ ประกอบด้วย โดยในจำนวนกลุ่มคนมั่งคั่งกว่า 700,000 รายในไทย บริษัทหวังจะดึงลูกค้ากลุ่มนี้มาให้ได้ 2,000 ราย
หากผลตอบรับดีจะทำให้รักษาดูเเลลูกค้าในระยะยาวได้ ซึ่งหวังไว้ว่าลูกค้าเก่ากว่า 50% จะกลับใช้บริการในผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ ของ ALPHA X อย่างต่อเนื่อง
หลังเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่กลางเดือนม.ค.กระเเสตอบรับค่อนข้างดีเเละเป็นที่พอใจ โดยลูกค้าเข้ามาใช้บริการสินเชื่อแล้วกว่า 200 ล้านบาท ทั้งรถเก่าเเละรถใหม่
“บริษัทตั้งเป้าตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมสิ้นปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท เเละภายใน 3 ปีจากนี้ ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% ของตลาดสินเชื่อยานพาหนะลักชัวรี่ทั้งหมด โดยจะพยายามคุม NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ให้ต่ำกว่า 1%”
สำหรับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ จะเป็นแบบลดต้นลดดอกอยู่ที่ราว 2% วางเงินดาวน์ ราว 30% เเละวงเงินปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ที่ 70% โดยเรตราคารถหรูจะที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
โดยจุดเด่น Key Drives ที่จะทำให้ ALPHA X เเตกต่างจากลีสซิ่งเจ้าอื่นๆ นั้น คือ การเน้นบริการโดยที่ปรึกษาส่วนตัว มี Relationship Manager (RM) ซึ่งมีความรู้ทางด้านการเงินและมีความเข้าใจในแวดวงยานยนต์ คอยให้ข้อมูลเเละรายละเอียดต่างๆ ดูเเลทั้งก่อนเเละหลังการขาย ต่อเนื่องไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ
นอกจากนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการ KYC และอนุมัติสินเชื่อ พร้อมพัฒนาโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น นำเสนอทางเลือกด้านการเงินและบริการให้หลากหลาย เพื่อเพิ่มบริการใหม่ๆ
วางไทม์ไลน์ 5 ปี เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
กลยุทธ์ต่อไปของบริษัท ก็คือการ ‘ขยายผู้แทนจำหน่าย’ หรือดีลเลอร์ให้ครอบคลุมเเละเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพราะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหาลูกค้าใหม่ เบื้องต้นจะทยอยร่วมมือกับดีลเลอร์ 100-200 รายในระยะข้างหน้า พร้อมประสานกับ SCB Private Banking เพื่อเสนอทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้า Wealth โดยเฉพาะ
ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าที่เคยใช้บริการเเล้วประทับใจเเละบอกต่อกันเเบบ ‘ปากต่อปาก’ มาจำนวนไม่น้อย ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญในทำกลยุทธ์การตลาด เเละจะมีการโปรโมตเเละประชาสัมพันธ์ในหลากหลายช่องทางต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด เคยประกาศว่ามีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 1 ปี ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และเอ็มจีซี-เอเชีย ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท
หากเป็นไปตามที่มุ่งหวังว่าพอร์ตสินเชื่อของ ALPHA X จะแตะ 2 หมื่นล้านบาท ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทอยู่ในจุดคุ้มทุนเเละมีกำไร มีการเติบโตที่เเข็งเเกร่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่ 4-5 ปีหลังจากนี้ จะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย…
- ตลาด Wealth โตพุ่ง SCB ปั้น Private Banking สู่เป้าพอร์ต 1 ล้านล้านบาท โอกาสทองจับ ‘เศรษฐีไทย’
- จัดการเงิน ‘กงสี’ ยุคใหม่อย่างไร ? KBank ปรับทิศทางบริหารพอร์ตครอบครัวเศรษฐี 1.2 แสนล้าน