ละครใหม่ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Jan 2019 16:25:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 พีพีทีวี ยังทุ่มต่อ อัด 2 พันล้าน ปรับโหมดสู่ช่องบันเทิง ส่ง 10 ละครใหม่ลงผังสู้ศึกไพรม์ไทม์ช่องใหญ่ https://positioningmag.com/1209741 Wed, 23 Jan 2019 00:57:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1209741 หลังจาก พีพีทีวี เลือกกลยุทธ์ คว้ารายการดังจากช่องเบอร์ใหญ่มาอยู่ในมือ ไม่ว่าเดอะวอยซ์ จากช่อง 3 และ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” จากช่อง 7 ได้กลายเป็นรายการ “แม่เหล็ก” ดึงดูดผู้ชม ขยายฐานไปสู่กลุ่มแมส จนสร้างเรตติ้งให้ช่อง จากในปี 2561 ที่เคยอยู่อันดับ 12-15 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาติดอันดับท็อปเท็นในช่วงต้นปี

เร็วๆ นี้ พีพีทีวี เพิ่งไปคว้ารายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” รายการตลกเก่าแก่ของบริษัท โคเมดี้ ไลน์ ที่มี ธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” เป็นผู้ก่อตั้ง ออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 มาเป็นเวลา 20 กว่าปี มาเติมผังให้พีพีทีวีเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนดูในเมือง แม่บ้าน คนทำงานที่บ้าน โดยออนแอร์ในเดือนมีนาคม จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 10.00น-10.30 น

เมื่อตีตื้นขึ้นมาได้ แผนต่อไปของ พีพีทีวี ในปีนี้จึงต้องจัดหนักกว่าเดิม เพิ่มเดิมพันสูงขึ้น  ขยายคอนเทนต์บันเทิง มุ่ง “ละคร” เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อขยายคนดูไปในระดับแมส ต่างจังหวัดห่างไกล และกลุ่มผู้หญิง ซึ่งเป็นสนามเดียวกันกับช่องใหญ่ อย่างช่อง3 ช่อง 7 และช่องวัน

เป้าหมายของพีพีทีวีในปี 2562 คือการติดอันดับท็อป 10 และหากโชคดีก็อาจไปถึงท็อป 5 ได้

การผลิตละคร ถือเป็นการตัดสินใจสำคัญของพีพีทีวี ที่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องของทีมงาน เพราะละครเป็นการลงทุนระยะยาว มีรายละเอียดเยอะมาก ทีผ่านมาเน้นซื้อรายการจากต่างประเทศเป็นหลัก ทีมงานจึงไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ปีนี้ถือเป็นความท้าทายของคนพีพีทีวีมาก

พีพีทีวี เริ่มจุดพลุ “ละคร” ด้วยการดึงดาราดัง “ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” นางเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 7 เข้ามาอยู่ในสังกัดเป็นรายแรก ซึ่งการได้ดาราดังจากช่องอื่นๆ มาสังกัด ส่วนจะมี “ดารา” มาเพิ่มหรือไม่นั้น สุรินทร์บอกว่าขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

โดยละครจะเริ่มลงจอ 10 เรื่อง ออนแอร์ 6-7 เรื่อง เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป  ได้แก่ ละคร วุ่นรักนักข่าว ได้แอนดริว เกร็กสัน และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี แสดงนำ โดยบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิต ซึ่งเรื่องนี้พีพีทีวีซื้อเรื่องมาจากบริษัท เอ็นเดอโม่ เจ้าของฟอร์แมตรายการดังอย่าง รายการบิ๊กบราเธอร์ต่างประเทศ มาผลิตเป็นละคร

“แนวละครจะเน้นความหลากหลาย ซึ่งช่องใหญ่ก็ทำแบบนี้ เพื่อตอบโจทย์คนดูหลายกลุ่ม ส่วนความแตกต่างของเรา คือ การมีทีหลังจึงมีโอกาสเลือกทำงานกับคนที่มีความสามารถ ต่างจากช่องหลักที่มีทีมงานในสังกัดเท่านั้น แต่ของเราป้อนให้ตามความถนัด”

ผังรายการของพีพีทีวีในปีนี้จึงมีรายการแม่เหล็กมาลงผังไพรม์ไทมต่อเนื่อง เริ่มจากวันจันทร์ เดอะวอยซ์ ส่วนอังคาร กิ๊กดู๋ ดังนั้นละครจะมีเวลาออนแอร์ 5 วัน ตั้งแต่พุธถึงอาทิตย์ แต่ฟุตบอลเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจมาชนกับละคร

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด เจ้าของช่องพีพีทีวี บอกว่า หลังจากรายการ “กิ๊กดู๋” เป็นแม่เหล็กนำพาให้พีพีทีวีก้าวไปหาผู้ชมชนบทในท้องถิ่นมากขึ้นแล้ว การมีคอนเทนต์ละครเข้ามาเติมผัง จะยิ่งทำให้ช่องสามารถเปลี่ยน “ภาพลักษณ์” จากสถานีสปอร์ตและข่าวที่มีผู้ชมเป็นผู้ชายถึง 60% มาสู่ “ช่องวาไรตี้และบันเทิง” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขยายไปสู่ผู้ชมระดับแมสทั่วประเทศ และผู้หญิงเพิ่มขึ้นได้

โดยคอนเทนต์บันเทิงจะเพิ่มสัดส่วนจาก 30% เป็น 50% ส่วนกีฬาลดลงเหลือ 20% ซึ่งกีฬาจะรีรันเฉพาะแมตช์ใหญ่จริงๆ เท่านั้น ส่วนข่าว 30%   

ปีนี้ พีพีทีวี ใช้งบลงทุนคอนเทนต์ 2,000 ล้านบาท เท่าๆ กับปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ เป็นงบผลิตละคร 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำรายได้จากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว

“ช่องทีวีมีกำไรไม่กีช่อง ทีวีเป็นธุรกิจที่ลงทุนสูง การลงทุนเป็นพันล้านไม่ใช่เรื่องแปลก เป้าหมายของพีพีทีวีไม่ใช่เรื่องการประหยัดต้นทุน แต่ทำอย่างไรถึงจะมีคนดูเราต่อเนื่อง ซึ่งการจะมีรายการดีๆ ได้ก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนสูง”

สุรินทร์ มองว่า ธุรกิจทีวีหากจะไปได้ดี และแข็งแรง ควรมีไม่เกิน 10 ช่อง จะเป็นผลดีทั้งคนดู ไม่ต้องดูรายการซ้ำประเภทเดียวกัน เพราะเมื่อจำนวนช่องลดลง คู่แข่งน้อยลง การตัดสินใจลงทุนคอนเทนต์จะดีขึ้น.


อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง

]]>
1209741
ศึกละครใหม่ VS ละครรีรัน มาราธอนส่งท้ายปี 61 แบบไหน ฟันเรตติ้งมากกว่ากัน https://positioningmag.com/1205615 Fri, 28 Dec 2018 04:27:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1205615 เข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สำหรับปีนี้กลายเป็นปีแรกที่หลายๆช่องงัดกลยุทธ์ละครมาราธอนมาจัดใส่ในช่วงปลายปี เพื่อรับสถานการณ์รื่นเริง งบโฆษณาหด อีกทั้งยังได้ลดต้นทุนช่องได้อีกด้วย จัดมากันหมดตั้งแต่ช่อง 3, ช่อง 8 และช่องวัน ขาประจำ “มาราธอน”

ช่อง 3 เริ่มต้นแต่ไก่โห่ก่อนทุกช่อง แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำเอากลุ่มแฟนละครช่อง 3 มีอึ้งกับกลยุทธ์ละครรีรันกันพอสมควร โดยเริ่มตั้งแต่ 18 ธันวาคม ด้วยละคร “ลิขิตรัก The Crown Princess” วางไว้ในช่วงละครหลังข่าว และ “อังกอร์” ตั้งแต่ 20 ธันวาคมในช่วงละครเย็น

แม้ช่อง 3 ไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการวางละครรีรันในรูปแบบมาราธอนก่อนใคร แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อธิบายว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของการลดต้นทุนครั้งใหญ่ปลายปี ที่มีการคาดการณ์ว่า ผลประกอบการช่อง 3 ปีนี้ทั้งปี จะขาดทุนเป็นปีแรก

ในขณะที่ช่อง 7 ยังคงโชว์ความสตรอง ยืนหนึ่ง ด้วยการจัดละครใหม่ลงทุกช่วงเหมือนเดิม ได้ใจกลุ่มผู้ชมทีวียกใหญ่

สำหรับช่อง 8 นั้น เป็นครั้งแรกที่จัดละครมาราธอน ที่มาลงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยส่ง “สาปกระสือ” ละครไทยที่แรงที่สุดของช่องในปีนี้ มารีรันสร้างความต่อเนื่องละครไทยให้กับฐานผู้ชมช่อง ก่อนจะไปเริ่มใหม่ในต้นปีหน้า

ช่องวัน ช่องต้นตำรับ “มาราธอน” จัดละครรีรันมาราธอนถึง 4 เรื่อง แบ่งเป็น 1 เรื่องที่จบไปแล้ว “พรหมไม่ได้ลิขิต” และ 3 เรื่องที่กำลังออกอากาศ “สงครามนักปั้น, นางสาวไม่จำกัดนามสกุล และ หน้ากากแก้ว” ยิงยาวตั้งแต่ 25 ธันวาคม 2561 จนถึง 3 มกราคม 2562

เรตติ้งละครมาราธอนช่วงสัปดาห์แรกของช่อง 3 นั้น “ลิขิตรัก The Crown Princess” เปิดตัว 6 ตอนแรกเรตติ้งสวิงไปมาตามสถานะความแข็งแรงของคู่แข่งด้วย โดยได้เรตติ้ง 2.439, 2.531, 2.531 พอมาเจอละครบู๊สนั่น “จ้าวสมิง” ช่อง 7 ในช่วงปลายสัปดาห์ เรตติ้งเผ่นลงมาอยู่ที่ 1.825, 1.628 และ 1.709 และมารีบาวน์อีกครั้งในช่วงวันทำงาน 24- 26 ธันวาคม ด้วยเรตติ้ง 2.582, 2.820 และ 2.655 โดยยังรักษาพื้นที่ฐานที่มั่นในกรุงเทพฯ ไว้ได้ จากตัวเลขเรตติ้งในพื้นที่กรุงเทพฯ กลับคืนมาแข็งแรงเหมือนเดิม

แม้จะแพ้ช่อง 7 แทบไม่เห็นฝุ่น แต่ก็ยังมีเรตติ้งมากกว่าละครใหม่ของช่องวันในช่วงเดียวกันอย่าง “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล”

สำหรับ “ลิขิตรัก” มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 4.740 จากการออกอากาศครั้งแรก การนำมารีรันได้เรตติ้งเฉลี่ยเกินครึ่งของรอบแรก จึงยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังเป็นตัวเลขเรตติ้งระดับเดียวกับละครใหม่ที่ออกอากาศในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย

ในสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ เมื่อทั้งช่องวันและช่อง 8 จัดละครรีรันลงยกแผง ละครใหม่ช่อง 7 โดยเฉพาะละครเย็น “พ่อตาปืนโต ตอนหลานข้าใครอย่าแตะ” จึงทำเรตติ้งทิ้งห่างทุกช่อง แต่ละครหลังข่าวช่อง 7 ที่กำลังออกอากาศอยู่ เรตติ้งไม่เสถียร มี “จ้าวสมิง” ที่โกยเรตติ้งเป็นกอบเป็นกำเป็นหลักเท่านั้น

“อังกอร์” ละครรีรันช่วงเย็นของช่อง 3 เป็นอีกเรื่องที่นับว่าแน่พอสมควร จากเรตติ้งเฉลี่ยในการออกอากาศครั้งแรกที่ 5.311 มาออกอากาศในช่วงละครเย็น ชนกับละคร “พ่อตาปืนโต ตอน หลานข้าใครอย่าแตะ” จากช่อง 7 ก็ยังสามารถทำเรตติ้งขึ้นมาเรื่อยๆ อยู่ที่ 2.514 , 2.452 , 2.903, 3.290 และ 3.611

สำหรับช่องวัน เลือกเรื่อง “พรหมไม่ได้ลิขิต” ที่เพิ่งจบลงไป มาเปิดตัวมาราธอน แม้ละครดังแต่เพิ่งจบลงไปไม่นาน เรตติ้งรีรันรอบนี้จึงยังไม่สูงมากนัก เปิดตัวด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 1.442 , 1.519 และ 1.153

ส่วน “สงครามนักปั้น” ช่องวัน ที่กำลังออกอากาศอยู่ มาเริ่มรีรันตอนที่ออกอากาศไปแล้ว เรตติ้งอยู่ที่ 0.935, 0.777 และ 0.841

ในขณะที่ “สาปประสือ” ช่อง 8 เปิดตัวช่วงรีรัน ยาวต่อเนื่องจากช่วงเย็นและหลังข่าว ด้วยตอนแรก 0.713 และตอนที่ 2 ได้ 0.579

ช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี นอกเหนือจากละครไทยที่จัดมารีรันกันยาวๆ แล้ว คอนเทนต์ที่ออกอากาศในช่วงนี้ของช่องต่างๆ ยังมีรูปแบบรายการรวมมิตร รวมเรื่องตอนที่ได้รับความนิยม หรือจัดหนังทั้งไทยและต่างประเทศมาออนแอร์เป็นช่วงยาวๆ ตามงบและกลยุทธ์ของแต่ละสถานี ในช่วงเทศกาล ที่คาดว่าจะเป็นช่วงที่มีผู้ชมทีวีน้อยที่สุดช่วงหนึ่ง.

]]>
1205615