ไพรม์ไทม์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 17 Jul 2019 03:09:05 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทีวีดิจิทัลเฮ! ได้ไพรม์ไทม์คืน คสช.ยุติศาสตร์พระราชาฯ ยาว 5 ปี ขยับผังด่วน โอกาส “ละคร” เรตติ้งดีขึ้น ขายโฆษณาเพิ่ม https://positioningmag.com/1239265 Tue, 16 Jul 2019 09:55:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1239265 หลังจาก คสช. ยึดผังทีวีดิจิทัลช่วงไพรม์ไทม์ ออกอากาศรายการคืนความสุขให้คนในชาติต่อมาเปลี่ยนเป็นรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 31 .. 2557 และได้ประกาศยุติออกอากาศในวันที่ 16 .. 2562 ระยะเวลากว่า 5 ปี 

รายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ของ คสช. กำหนดออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ โดยจันทร์-พฤหัสบดี และ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-18.20 น. วันละ 20 นาที และวันศุกร์ เวลา 20.15-20.45 น. วันละ 30 นาที ช่วงดังกล่าวเป็นเวลา “ไพรม์ไทม์” ที่มีผู้ชมดูมากทีวีมากที่สุด โดยเฉพาะต่างจังหวัด

ทีวีดิจิทัลปรับผังด่วนยืดเวลารายการเดิม

วานนี้ (15 ก.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอำลาตำแหน่งหัวหน้า คสช. และตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2562 เป็นต้นไป ได้ยุติการออกอากาศรายการศาสตร์พระราชาฯ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) รวมเวลาออกอากาศ 5 ปี นับตั้งแต่รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ”

ดังนั้นวันนี้ (16 ก.ค.) ทีวีดิจิทัลทุกช่อง จึงมีการปรับผังรายการใหม่แบบเร่งด่วน ส่วนใหญ่เป็นการขยายเวลารายการเดิมที่ออกอากาศอยู่ในปัจจุบันไปก่อน

เดียว วรตั้งตระกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด กล่าวว่า ช่องวัน ปรับผังวันจันทร์ – พฤหัสบดี ด้วยการเพิ่มเวลาออกอากาศรายการ “ดวลเพลงชิงทุน” จากเดิมที่เริ่ม 18.20-19.00 น. วันละ 40 นาที มาเริ่มเวลา 18.00-19.00 น. วันละ 1 ชั่วโมงแทน ส่วนวันศุกร์ ขยับเวลาละคร “สายลับจับกลิ่น” เร็วขึ้น ต่อจากข่าวในพระราชสำนัก วันเสาร์ ขยายเวลาออกอากาศรายการ “ศึกวันดวลเพลงซูเปอร์แชมป์” และวันอาทิตย์ รายการ The Duet ร้องล่าคู่ เพิ่มเป็น 1 ชั่วโมง

 “การได้เวลาไพรม์ไทม์คืนมาอีกวันละ 20 นาที ทำให้ทำธุรกิจหารายได้จากโฆษณาได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ละครและวาไรตี้”

ขณะที่ ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บอกว่าช่วงแรก “เวิร์คพอยท์” ปรับผังโดยใช้วิธีขยายเวลาที่เดิมออกอากาศหลังรายการศาสตร์พระราชาฯ เพิ่มขึ้นอีกรายการละ 10 นาที หรืออีก 1 เบรก เช่น วันจันทร์-พฤหัสบดี ขยายเวลารายการ “ไมค์หมดหนี้” และ “กล่องของขวัญ” วันศุกร์ ขยายเวลาข่าวเวิร์คพอยท์เพิ่มขึ้น ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ขยายเวลา “ไมค์ทองคำ 8” หลังจากนั้นเฉพาะวันศุกร์ ซึ่งรายการศาสตร์พระราชาฯ ออกอากาศ 30 นาที อาจจะใส่รายการใหม่เข้ามาแทน

เขมทัตต์ พลเดช

เช่นเดียวกับ เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงแรกใช้วิธีปรับผังช่อง MCOT 30 ด้วยการขยายเวลารายการกลุ่มข่าว ที่เดิมออกอากาศหลังรายการศาสตร์พระราชาฯ ขยับมาเร็วขึ้น  เช่น รายการ “เรื่องพลบค่ำ” วันจันทร์-พฤหัสบดี วันศุกร์ ขยายเวลาข่าวค่ำ

ช่วงนี้ยังไม่ปรับผังมากนัก เพราะจะมีปรับผังรายการใหม่อีกครั้งปลายเดือน ส.ค.นี้  โดยช่วงเช้า เน้นข่าวเศรษฐกิจทั่วไป ตลาดหุ้น และเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับปากท้องประชาชน ช่วงบ่าย เศรษฐกิจชาวบ้าน และกลุ่มสาระบันเทิง และเย็น รายการกีฬา ซีรีส์ต่างประเทศ และ ฮาร์ดทอล์ก

เอเยนซีชี้ “ละครค่ำ” เรตติ้งดีขึ้น

ปัจจุบันรายการทางช่องทีวีดิจิทัล ที่อยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับรายการศาสตร์พระราชาฯ เป็นรายการข่าว ละคร และวาไรตี้ ที่สามารถขยายเวลามาทดแทนได้อยู่แล้ว

ในมุมมองของมีเดียเอเยนซี ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI เชื่อว่าทีวีดิจิทัล ช่องละคร จะใช้วิธีขยับผังหลังรายการศาสตร์พระราชาฯ ขึ้นมาออกอากาศแทน โดยไม่เพิ่มเวลาละคร เช่น ช่อง 3 จะขยับตั้งแต่ ซีรีส์อินเดีย รายการข่าวแฟลชนิวส์ ละครก่อนข่าวค่ำ และละครหลังข่าวค่ำ ขึ้นมาเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ละคระหลังข่าวค่ำจบเร็วขึ้นอีก 20 นาที คือ ราว 22.30 น. จากเดิมจบเกือบ 23.00 น.

เช่นเดียวกับ ช่อง 7 ที่จะใช้วิธีขยับผังเดิมขึ้นมาแทน ทำให้ละคร 2 ช่วงหลัก คือ ละครก่อนข่าวค่ำ เวลา 18.45-19.53 น. และหลังข่าวค่ำเวลา 20.20-22.20 น.จบเร็วขึ้น

พฤติกรรมการดูทีวี ช่วงไพรม์ไทม์ 1 คือ 18.00-20.00 น. จะหนาแน่นที่สุด เพราะมีฐานผู้ชมต่างจังหวัด ส่วนไพรม์ไทม์ 2 คือ หลังข่าวค่ำ 20.00-22.00 น. เป็นช่วงที่คนกรุงเทพฯ กลับจากทำงานถึงบ้านเปิดทีวีดู ช่วงที่ผู้ชมมากสุดจะอยู่ที่ 3-4 เบรกแรก หลังจากนั้นฐานผู้ชมจากต่างจังหวัด นอนเร็วจะเริ่มลดลง ละครยิ่งจบดึก คนดูยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ

การได้เวลาไพรม์ไทม์คืนมาของทีวีดิจิทัลกลุ่ม Tier 1 ช่อง 3 และช่อง 7 จะทำให้ “เรตติ้ง” ละครโดยรวมดีขึ้น หากละครเรตติ้งดีก็มีโอกาสขยายเวลาเพิ่มขึ้นได้อีก

ที่สำคัญละครที่ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ มีราคาโฆษณาสูงสุดของสถานี หากมีเรตติ้งดีขึ้น โอกาสที่จะขายโฆษณาได้เต็มเวลาที่ออกอากาศก็มากขึ้นด้วย จากปัจจุบันต้องบอกว่ายังขายได้ไม่เต็มพื้นที่

ดังนั้นการปรับผังทีวีดิจิทัลที่ได้เวลาไพรม์ไทม์คืนมา น่าจะส่งผลดีด้านเรตติ้งผู้ชมและโอกาสการหารายได้โฆษณาของทีวีดิจิทัล.

]]>
1239265
พีพีทีวี ยังทุ่มต่อ อัด 2 พันล้าน ปรับโหมดสู่ช่องบันเทิง ส่ง 10 ละครใหม่ลงผังสู้ศึกไพรม์ไทม์ช่องใหญ่ https://positioningmag.com/1209741 Wed, 23 Jan 2019 00:57:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1209741 หลังจาก พีพีทีวี เลือกกลยุทธ์ คว้ารายการดังจากช่องเบอร์ใหญ่มาอยู่ในมือ ไม่ว่าเดอะวอยซ์ จากช่อง 3 และ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” จากช่อง 7 ได้กลายเป็นรายการ “แม่เหล็ก” ดึงดูดผู้ชม ขยายฐานไปสู่กลุ่มแมส จนสร้างเรตติ้งให้ช่อง จากในปี 2561 ที่เคยอยู่อันดับ 12-15 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาติดอันดับท็อปเท็นในช่วงต้นปี

เร็วๆ นี้ พีพีทีวี เพิ่งไปคว้ารายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” รายการตลกเก่าแก่ของบริษัท โคเมดี้ ไลน์ ที่มี ธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” เป็นผู้ก่อตั้ง ออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 มาเป็นเวลา 20 กว่าปี มาเติมผังให้พีพีทีวีเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนดูในเมือง แม่บ้าน คนทำงานที่บ้าน โดยออนแอร์ในเดือนมีนาคม จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 10.00น-10.30 น

เมื่อตีตื้นขึ้นมาได้ แผนต่อไปของ พีพีทีวี ในปีนี้จึงต้องจัดหนักกว่าเดิม เพิ่มเดิมพันสูงขึ้น  ขยายคอนเทนต์บันเทิง มุ่ง “ละคร” เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อขยายคนดูไปในระดับแมส ต่างจังหวัดห่างไกล และกลุ่มผู้หญิง ซึ่งเป็นสนามเดียวกันกับช่องใหญ่ อย่างช่อง3 ช่อง 7 และช่องวัน

เป้าหมายของพีพีทีวีในปี 2562 คือการติดอันดับท็อป 10 และหากโชคดีก็อาจไปถึงท็อป 5 ได้

การผลิตละคร ถือเป็นการตัดสินใจสำคัญของพีพีทีวี ที่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องของทีมงาน เพราะละครเป็นการลงทุนระยะยาว มีรายละเอียดเยอะมาก ทีผ่านมาเน้นซื้อรายการจากต่างประเทศเป็นหลัก ทีมงานจึงไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ปีนี้ถือเป็นความท้าทายของคนพีพีทีวีมาก

พีพีทีวี เริ่มจุดพลุ “ละคร” ด้วยการดึงดาราดัง “ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” นางเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 7 เข้ามาอยู่ในสังกัดเป็นรายแรก ซึ่งการได้ดาราดังจากช่องอื่นๆ มาสังกัด ส่วนจะมี “ดารา” มาเพิ่มหรือไม่นั้น สุรินทร์บอกว่าขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

โดยละครจะเริ่มลงจอ 10 เรื่อง ออนแอร์ 6-7 เรื่อง เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป  ได้แก่ ละคร วุ่นรักนักข่าว ได้แอนดริว เกร็กสัน และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี แสดงนำ โดยบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิต ซึ่งเรื่องนี้พีพีทีวีซื้อเรื่องมาจากบริษัท เอ็นเดอโม่ เจ้าของฟอร์แมตรายการดังอย่าง รายการบิ๊กบราเธอร์ต่างประเทศ มาผลิตเป็นละคร

“แนวละครจะเน้นความหลากหลาย ซึ่งช่องใหญ่ก็ทำแบบนี้ เพื่อตอบโจทย์คนดูหลายกลุ่ม ส่วนความแตกต่างของเรา คือ การมีทีหลังจึงมีโอกาสเลือกทำงานกับคนที่มีความสามารถ ต่างจากช่องหลักที่มีทีมงานในสังกัดเท่านั้น แต่ของเราป้อนให้ตามความถนัด”

ผังรายการของพีพีทีวีในปีนี้จึงมีรายการแม่เหล็กมาลงผังไพรม์ไทมต่อเนื่อง เริ่มจากวันจันทร์ เดอะวอยซ์ ส่วนอังคาร กิ๊กดู๋ ดังนั้นละครจะมีเวลาออนแอร์ 5 วัน ตั้งแต่พุธถึงอาทิตย์ แต่ฟุตบอลเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจมาชนกับละคร

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด เจ้าของช่องพีพีทีวี บอกว่า หลังจากรายการ “กิ๊กดู๋” เป็นแม่เหล็กนำพาให้พีพีทีวีก้าวไปหาผู้ชมชนบทในท้องถิ่นมากขึ้นแล้ว การมีคอนเทนต์ละครเข้ามาเติมผัง จะยิ่งทำให้ช่องสามารถเปลี่ยน “ภาพลักษณ์” จากสถานีสปอร์ตและข่าวที่มีผู้ชมเป็นผู้ชายถึง 60% มาสู่ “ช่องวาไรตี้และบันเทิง” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขยายไปสู่ผู้ชมระดับแมสทั่วประเทศ และผู้หญิงเพิ่มขึ้นได้

โดยคอนเทนต์บันเทิงจะเพิ่มสัดส่วนจาก 30% เป็น 50% ส่วนกีฬาลดลงเหลือ 20% ซึ่งกีฬาจะรีรันเฉพาะแมตช์ใหญ่จริงๆ เท่านั้น ส่วนข่าว 30%   

ปีนี้ พีพีทีวี ใช้งบลงทุนคอนเทนต์ 2,000 ล้านบาท เท่าๆ กับปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ เป็นงบผลิตละคร 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำรายได้จากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว

“ช่องทีวีมีกำไรไม่กีช่อง ทีวีเป็นธุรกิจที่ลงทุนสูง การลงทุนเป็นพันล้านไม่ใช่เรื่องแปลก เป้าหมายของพีพีทีวีไม่ใช่เรื่องการประหยัดต้นทุน แต่ทำอย่างไรถึงจะมีคนดูเราต่อเนื่อง ซึ่งการจะมีรายการดีๆ ได้ก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนสูง”

สุรินทร์ มองว่า ธุรกิจทีวีหากจะไปได้ดี และแข็งแรง ควรมีไม่เกิน 10 ช่อง จะเป็นผลดีทั้งคนดู ไม่ต้องดูรายการซ้ำประเภทเดียวกัน เพราะเมื่อจำนวนช่องลดลง คู่แข่งน้อยลง การตัดสินใจลงทุนคอนเทนต์จะดีขึ้น.


อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง

]]>
1209741
สงครามไพรม์ไทม์ 4 ช่องทีวีดิจิทัล ขย่มเรตติ้งละครช่อง 3, 7 https://positioningmag.com/1154707 Mon, 29 Jan 2018 00:15:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1154707 ต้องจับตากันชนิดตาไม่กะพริบ สำหรับทีวีดิจิทัล โดยเฉพาะช่วงเวลาไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม คือช่วงเวลาทองของทุกสถานี ที่หวังสร้างรายได้จากโฆษณาสูงสุด เป็นช่วงเวลาที่ช่อง 7 และช่อง 3 ผู้ประกอบการทีวีรายเก่าครองตลาดมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ทั้ง 2 ช่อง โดยเฉพาะช่อง 3 กำลังถูกท้าทายอย่างหนักจาก 4 ช่องน้องใหม่ “เวิร์คพอยท์ , โมโน, ช่อง8 , ช่องวัน” กำลังทุ่มงบ อัดฉีดรายการที่เป็นจุดแข็งของตัวเองเข้าสู้ ทำให้สถานการณ์การแข่งขัน ยิ่งดุเดือดมากขึ้น

โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ครองเรตติ้งอันดับ 2 ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างหนักจากคู่แข่งทีวีดิจิทัล ที่กำลังไล่ล่าเรตติ้งคนดูกันอย่างหนัก อย่างล่าสุด ช่องโมโน หลังจากทำเรตติ้งแซงหน้าเวิร์คพอยท์ ขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ก็ประกาศขอขึ้นเบอร์ 2

เท่ากับว่า ช่อง 3 ก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากไม่น้อยทีเดียว ไหนต้องรับมือกับแข่งขันอันร้อนระอุแล้ว หนำซ้ำ “ละคร” ช่วงไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม ในเดือนมกราคม 61 ก็ยังไม่สามารถทำเรตติ้งได้น่าพอใจ

ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ช่อง 3 เปิดด้วย ละครดราม่าร้อน ระเริงไฟ ของค่ายซิติเซ่น แคน “หน่อย บุษกร” ที่นำเอาสามี “เคน ธีรเดช“ และ ”นุ่น วรนุช” มาแสดงนำ, “เดือนประดับดาว” ของ ”โดนัส มนัสนันท์“ ที่จบไปแล้ว และต่อด้วย “เสน่ห์นางงิ้ว” ของค่ายแอ็ค อาร์ต ของธัญญา วชิรบรรจง และ ”ไข่มุก มังกรไฟ” ละครบู๊ของค่าย เป่า จิน จง “นพพล โกมารชุน”

“ระเริงไฟ” แม้ได้นักแสดงรุ่นใหญ่มาแสดง บทดราม่า เชือดเฉือน ร้อนแรง แต่ยังไม่ถูกจริตคนชมมากนัก อาจจะเพราะละครมีส่วนของความเครียดมากกว่าความบันเทิง จบไปโดยที่ได้เรตติ้งแบบไม่น่าประทับใจนัก จากข้อมูลเรตติ้งของ FB TV Digital Watch สรุปว่า ระเริงไฟ ได้เรตติ้งเฉลี่ยจากทั้งหมด 14 ตอน อยู่ที่ 2.801 เท่านั้น โดยเรตติ้งสูงสุด คือ 3.701 ในตอนจบที่แฮปปี้เอนดิ้งนั่นเอง เหมือนเป็นความเครียดที่อัดอั้นมานานและมาระเบิดแบบความสุขตามแบบฉบับละครไทยจนได้เรตติ้งพุ่งในตอนสุดท้าย

ส่วนละครวันพุธ พฤหัส เดือนประดับดาว จบลงไปตั้งแต่ 10 มกราคม ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยเพียง 2.431 และต่อมาด้วยเรื่องเสน่ห์นางงิ้ว ด้วยชื่อชั้นของค่าย แอค อาร์ต ยี่ห้อของ พงพัฒน์ วชิรบรรจง ที่กวาดรางวัลสร้างชื่อเสียงมามากมายจากเรื่อง “นาคี” เพียงแต่เรื่องนี้เป็นการกำกับโดยนักแสดงรุ่นใหญ่ “อู๋ ธนากร โปษยานนท์ “ เป็นครั้งแรก ช่อง 3 วางไว้รับเทศกาลตรุษจีนที่ค่อนข้างคาดหวังมากว่าจะสร้างเรตติ้งได้ดีแต่ปรากฏว่า หลังจากออกอากาศไปได้ 5 ตอน ได้เรตติ้งเฉลี่ยไปแค่ 1.74 ผิดมาตรฐานละครช่อง 3 เป็นอย่างมาก

ช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ไข่มุก มังกรไฟ” ละครบู๊ ออกอากาศไปแล้ว 9 ตอน ได้เรตติ้งเฉลี่ย 2.52 ส่งผลให้เรตติ้งของละครไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่มล็อตนี้ของช่อง 3 เรตติ้งดร็อปลงทั้งหมดอย่างเห็นได้ชัด

สวนคู่แข่งช่อง 7 ที่ เปิดลอตใหม่ของปี 2561 ด้วย “แม่อายสะอื้น” ละครดราม่ารีเมก ออกอากาศไป 2 ตอนเรตติ้งอยู่ที่ 4.80 , “มือปราบเหยี่ยวดำ” ละครบู๊ สร้างจากเรื่องจริงของนายตำรวจในปฏิบัติการไล่ล่า ”ตี๋ใหญ่” จอมโจรชื่อดังในอดีต ออกอากาศไป 4 ตอนได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.33  และ “คุณชายไก่โต้ง” ละครคอมเมดี้ ออกอากาศไป 6 ตอน เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.03

แม้ว่าสถานการณ์ของช่อง 7 จะไม่หนักหนาเท่ากับช่อง 3 แต่ทั้ง 3 เรื่องของช่อง 7 ยังมีเรตติ้งไม่สูงเท่ามาตรฐานของละครช่อง 7 ที่เคยได้เฉลี่ยสูงกว่านี้ หากดูจากตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ยของละครหลัง 2 ทุ่มของช่อง 7 ปี 2560 เคยได้สูงสุดอยู่ที่ 8.015 จากเรื่อง ”นายฮ้อยทมิฬ” และต่ำสุดคือเรื่อง ”วังนางโหง” อยู่ที่ 4.142

4 ช่องน้องใหม่-เวิร์คพอยท์ โมโน  ช่อง 8 ช่องวัน มายกแผง

เมื่อ 2 บิ๊กทีวี ช่อง 3 และช่อง 7 เรตติ้งลดลง ตรงกันข้ามกับเรตติ้งของ 4 ช่องน้องใหม่ เวิร์คพอยท์ – โมโน – ช่อง8 – ช่องวัน กำลังมาอย่างดีวันดีคืน

ที่พุ่งแรงที่สุดคือซีรีส์อินเดีย หนุมาน สงครามมหาเทพ ของช่อง 8 ที่ปูพรมเปิดตลาดซีรีส์อินเดียมาตั้งแต่ ”สีดาราม ศึกรักมหาลงกา” มาตั้งแต่ปลายปี 2558 ยาวถึงปี 2559 โดยวางผังออกอากาศเป็นสองช่วง คือไพรม์ไทม์ 19.00 และหลัง 20.00 เริ่มสร้างเรตติ้ง สร้างฐานคนดูมาก่อน จนกระทั่งมาบูมสุดๆ ที่ความน่ารักของหนุมานน้อย จนล่าสุดได้เรตติ้ง 4.499 ในวันที่ 25 มกราคม ในการออกอากาศช่วงที่ 2 หลัง 2 ทุ่ม ชนะ The Mask Singer3 รอบแชมป์เป็นของ ”หน้ากากหนอนชาเขียว” ที่ได้เรตติ้ง 3.95 แพ้เพียงละคร ”มือปราบเหยี่ยวดำ ช่อง 7 ที่ได้เรตติ้ง 5.431

ในวันเดียวกันนั้น ภาพยนตร์ต่างประเทศของโมโน “Deja Vu” ก็มีเรตติ้งอยู่ในระดับ 2.827 และละครไทย ซีรีส์ชุด ”เรือน” ของช่องวัน เรื่องที่ 3 ต่อจาก “เรือนเสน่หา และ ”เรือนร้อยรัก” จนมาเป็น “เรือนเบญจพิษ” ได้เรตติ้งดีขึ้นต่อเนื่อง ออกอากาศไป 10 ตอน เรตติ้งอยู่ที่  2.27

เมื่อ 4 ช่องน้องใหม่เรตติ้ง ”มา” พร้อมๆ กัน จึงต้องกระทบต่อช่อง 3 ที่อยู่ในอันดับ 2 อย่างเห็นได้ชัด ดูได้จากเรตติ้งในวันเดียวกันนี้ ”เสน่ห์นางงิ้ว” ช่อง 3 ได้ไปเพียง 1.803 อยู่ในอันดับ 7

ช่อง 3 วางละครล็อตใหม่ลงผัง หวัง “เงินปากผี” กระตุ้นเรตติ้ง

ช่อง 3 นั้น เมื่อเปิดเดือนแรกของปีมาด้วยเรตติ้งละครที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ก็ฝากความหวังไว้กับละคร เงินปากผี ที่จะออนแอร์ในวันจันทร์ที่  29 มกราคมนี้ ละครหลัง 2 ทุ่ม ช่อง 3 เป็นละครผี สุดสยองขวัญ ที่ช่อง 3 โดยมาเสียบแทนเรื่องที่วางไว้เดิม บ่วงรักซาตาน ละครแนวโรแมนติกดราม่าสไตล์ช่อง 3 เพราะประเมินแล้วว่า ด้วยแนวของเรื่องไม่น่าแรงพอที่จะช่วยกระตุ้นเรตติ้งในช่วงวิกฤตนี้ เท่ากับเงินปากผี

โดย “เงินปากผี” เป็นละครของ ค่ายกันตนา ที่หันมารับงานละครให้กับช่อง 3 ด้วย ครั้งนี้ได้ “สตางค์ ดิษย์ลดา” ลูกสาวของ “ตุ๊กตา จิตรดา” ทายาทกันตนา เป็นผู้จัด โดยผลิตละครผี ที่เป็นซิกเนเจอร์ของค่ายกันตนา ที่เคยประสบความสำเร็จมาหลายเรื่องแล้ว

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า ช่อง 3 เตรียมวาง บุพเพสันนิวาส ละครพีเรียด สมัยพระนารายณ์ ยุคกรุงศรีอยุธยา ได้ “โป๊ป ธนวรรธน์” และ ”เบลล่า ราณี” นำแสดง มาเตรียมออนแอร์ต่อจาก ”เสน่ห์นางงิ้ว” เพื่อฟื้นเรตติ้งด้วย

โมโน VS เวิร์คพอยท์ คู่ต่อกรอันดับ 3 ท้าชิงอันดับ 2

ทางด้าน เวิร์คพอยท์ โมโน ช่อง 8 ช่องวัน คือ 4 ช่องดาวรุ่งของวงการทีวีดิจิทัลในช่วงนี้ ที่เริ่มสตาร์ทปีนี้ด้วยรายการชุดใหญ่ จัดเต็มเพื่อลุยศึกชิงเรตติ้งจาก ช่อง 7 และช่อง 3 ที่เป็น 2 ช่องหลักในอุตสาหกรรมทีวีไทยมาอย่างยาวนาน

เรตติ้งของปี 60 เวิร์คพอยท์ที่อยู่ในอันดับ 3 ได้ 1.001 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 0.837 ตามมาคือ โมโน ได้ 0.702 เพิ่มขึ้นจากปี  2559 ที่ได้ 0.536, ช่อง 8 อยู่ในอันดับ 5 ได้ 0.569 สูงขึ้นจากปี 2559 ที่ได้ไป 0.437 ส่วนช่องวันได้ 0.537 เพิ่มจากปี 2559 ที่อยู่ที่ 0.406

ในขณะที่เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 7 ทั้งปี 2560 อยู่ที่  2.114 แม้ว่าจะยังอยู่ในอันดับ 1 ของช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด แต่ก็ลดลงจาก 2.315 ของปี  2559 ส่วนของช่อง 3 เรตติ้งรวมอยู่ที่ 1.384 ลดลงจาก 1.600 ในปี 2559

ยิ่งเมื่อดูจากเรตติ้งประจำสัปดาห์ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมาแล้ว จะเห็นว่า 4 ช่องใหม่นี้ยังรักษาฐานเรตติ้งของตัวเองเริ่มเขยิบกันยกแผงใกล้เคียงกับช่อง 7 และช่อง 3 แต่ที่ใกล้สุดๆ คือ โมโนและเวิร์พอยท์ ที่ไล่กันมาติดๆ

ปีนี้โมโนประกาศทุ่มงบลงทุน 800 ล้านสำหรับการซื้อคอนเทนต์ต่างประเทศ ตั้งแต่ภาพยนตร์และซีรีส์ พร้อมกับขึ้นค่าโฆษณา จาก 2.8 หมื่นบาทต่อนาที เป็น 4 หมื่นบาทต่อนาที และพุ่งไปถึง 1 แสนบาทต่อนาทีในช่วงไพรม์ไทม์ โมโนจึงไม่รอช้าที่จะประกาศว่า พร้อมชิงอันดับ 2 จากช่อง 3 ที่ดูเหมือนกำลังอ่อนแรง

แต่การใช้คอนเทนต์ต่างประเทศ แม้จะได้คอนเทนต์แปลกใหม่ ทันสมัย แต่ก็มีข้อจำกัดในการเอามารีรันได้ตามจำนวนครั้งที่ตกลงในสัญญา หากเกินจากข้อกำหนดจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก จึงต้องมีเงินทุนสายป่านยาวพอสมควร โมโนจึงต้องเริ่มผลิตรายการในประเทศเข้าไปเสริมผังด้วย เช่นละครไทย และรายการกีฬาบาสเกตบอลลีกในประเทศไทย

ส่วนเวิร์คพอยท์นั้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปรับหากลยุทธ์ ในการฟื้นเรตติ้งทั้งช่องขึ้นมาให้ได้เหมือนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 เวิร์คพอยท์เคยขยับเข้าใกล้ช่อง 3 ในอันดับ 2 มาแล้ว เพียงแต่ในครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว รายการวาไรตี้ใหม่บางรายการที่คาดหวังไว้ไม่เป็นไปตามเป้า

ล่าสุดเวิร์คพอยท์ จะนำซีรีส์อินเดีย ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ มาลงจอในช่วงเวลา  21.30 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เริ่ม 5 ก.พ.นี้ โดยเป็นการออกอากาศต่อจากรายการวาไรตี้เกมโชว์ของเวิร์คพอยท์ในช่วงไพรม์ไทม์ ที่เริ่มมีปัญหาบางรายการไม่ปัง เรตติ้งไม่มา

สำหรับรายการวาไรตี้หลักที่สร้างเรตติ้งเป็นที่จดจำของคนดูของเวิร์คพอยท์ ยังคงเป็น The Mask Singer ที่มาถึงซีซันที่ 3 แล้ว และ I can see your voice และรายการซีรี่ส์ ”ไมค์” ทั้งหมด สร้างเรตติ้งได้ในหลัก 2 ขึ้นไป ในขณะที่บางรายการเช่น “Diva Makeover เสียงเปลี่ยนสวย” รายการร้องเพลงที่มาพร้อมกับดราม่า ได้เรตติ้งล่าสุดวันที่ 22 ม.ค.ไปเพียงแค่ 1.76

กลยุทธ์การวางผังเช่นนี้ จะช่วยตรึงผู้ชมให้อยู่กับช่องยาวนานมากเช่นในวันพุธ หลังรายการ I can see your voice จบ วันหรือ พฤหัส หลังรายการ The Mask Singer3 จะได้ต่อเนื่องกับซีรีส์อินเดียทันที ซึ่งคาดว่าจะได้เรตติ้งสูงกว่ารายการเดิมที่วางไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้รายการเดิมที่อยู่ในผังช่วงนี้ได้แก่ “อีจันสืบสยอง“, ”คนอวดผี ปี 7””เลขอวดกรรม“ และรายการรีรีน เช่น ชิงร้อยชิงล้าน , และ Diva Makeover

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวิร์คพอยท์นำซีรีส์อินเดียมาออกอากาศ ในปี 2558 เวิร์คพอยท์เป็นทีวีดิจิทัลรายแรกที่นำเอา ”พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” เป็นซีรีส์อินเดียชุดแรกเข้ามาสร้างตลาดผู้ชมคนไทยมาแล้ว “ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์” ชุดนี้ จึงเป็นหนึ่งหมัดเด็ดของเวิร์คพอยท์ ที่หวังชิงเรตติ้งจากทุกช่องกลับมา

ซีรีส์อินเดีย คอนเทนต์ใหม่มาแรงของทีวีดิจิทัล

ครั้งหนึ่งซีรีส์เกาหลี คือรายการที่ช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้วงการทีวีไทย หลายๆ ช่องต่างซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศกันมากมาย แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา การดูซีรีส์เกาหลีจึงไม่จำเป็นต้องรอดูบนทีวีอีกต่อไป สามารถเลือกรับชมช่องทางออนไลน์ หรือสดพร้อมๆ กับเกาหลีได้เลย ทำให้ต้องมองหารายการต่างประเทศอื่นๆ เท่าเข้ามาทดแทน

JKN ในฐานะผู้นำเข้าซีรีส์อินเดีย เคยบอกไว้ว่า สาเหตุ์ที่ซีรีส์อินเดียเป็นที่นิยมในประเทศไทย เพราะศิลปวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันในการนับถือศาสนาพุทธ เรื่องส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา และคนไทยยังมีความคุ้นเคยกับตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น นางสีดา พระราม หนุมาน พระศิวะ รวมเข้ากับรูปแบบการนำเสนอสมัยใหม่ มีทั้งแฟนตาซี อภินิหาร ไม่ใช่วิ่งไล่จับกันข้ามวันข้ามคืนเหมือนสมัยก่อน จึงถูกจริตคนไทย กลายเป็นซีรีส์ยอดนิยมขึ้นมา

อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ชมเริ่มเบื่อพล็อตละครไทย การทำละครรีเมก จึงหันไปหาความแปลกใหม่ และซีรีส์อินเดียก็ตอบโจทย์ในแง่ความแปลกใหม่ แต่คุ้นเคยตัวละครได้มากที่สุด

ช่อง 8 เป็นช่องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสำหรับซีรีส์อินเดีย เริ่มปูพรมมาตั้งแต่ “สีดา ราม ศึกมหาลงกา“ ออกอากาศกันข้ามปี จากปี 2558 -2559 จนมาพีคที่สุดกับ “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ที่เคยทำเรตติ้งชนะ “วังนางโหง” ละครหลัง 2 ทุ่มที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่ำสุดของปี 2560 ช่อง 7 มาแล้วในช่วงสั้นๆ ของเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

ช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด 5 ช่อง ที่จัดซีรีส์อินเดียลงผังในขณะนี้ เริ่มตั้งแต่กลุ่มช่อง 3 มี “นาคิน” ลงช่อง 33 และ“อโศก มหาราช” ช่อง 13 ออกอากาศช่วงเย็นทุกวันจันทร์-ศุกร์ และกำลังจะมี ”มหาภารตะ” เพิ่มในผังอีกชนิดยิงยาวตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม, ช่องไบรท์ทีวี มี ​”ศิวะ พระมหาเทพ” ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ 3 ทุ่ม และอีก 4 เรื่องออนแอร์กันทั้งวัน และช่อง 8 ที่มีถึง 2 เรื่องคือ “หนุมาน” และ ”ลิขิตแค้นแสนรัก” ที่ออกอากาศยาวช่วงไพรม์ไทม์ในวันจันทร์-ศุกร์

สมรภูมิศึกชิงเรตติ้งครั้งนี้ น่าสนุก ลุ้น กันทุกวัน.

]]>
1154707
ไพรม์ไทม์เย็น-ค่ำเดือด “ช่อง 8- ช่องวัน” อัดผังเปิดศึกชิงฐานคนดูช่อง 3 https://positioningmag.com/1152272 Tue, 02 Jan 2018 09:07:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1152272 6 ช่องใหญ่ระเบิดศึกชิงเรตติ้งรับปีใหม่ช่วงเย็นถึงค่ำ เวลา 16.00-20.00 .  ช่อง 8 ส่งซีรี่ส์อินเดียลิขิตแค้น แสนรักเสริมทัพหนุมานฯส่วนช่องวันส่งซิทคอมดึงดาราดัง ป้อง ณวัฒน์, นุ่น วรนุช ลงสู้

ช่วงเวลา 16.00-20.00 . เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาทองของรายการทีวี ที่ต้องชิงฐานคนดู เปิดแช่ช่องต่อเนื่องยาวไปถึงช่วงไพรม์ไทม์หลังข่าวภาคค่ำ ทำให้ช่องที่มีเรตติ้งสูงในลำดับต้น 6  อันดับแรกแบ่งเป็น 2 ช่องเดิมอย่างช่อง 7 และช่อง 3 และช่องน้องใหม่อีก 4  ช่อง คือ โมโน เวิร์คพอยท์ ช่อง 8 และช่องวัน ต่างรับปีจอปรับผัง ลงละคร วาไรตี้ใหม่กันอย่างคึกคัก 

ช่อง  8 เริ่มตั้งแต่ 8 ..นี้ แบ่งสองช่วงเวลาจากรายการข่าวเย็นที่เดิมเริ่มต้นตั้งแต่  15.55 . จนถึง 18.00 มาให้สั้นลง จบในเวลา 17.10 .  แล้วต่อด้วยรายการวาไรตี้สดใหม่อย่างเกมเรียงเบอร์เกมที่ทำให้เบอร์มือถือมีลุ้นรางวัลหลักล้านทุกวัน ตามติดด้วยซีรี่ส์อินเดียดราม่าทันสมัยเรื่องใหม่ลิขิตแค้น แสนรักออกอากาศ ชนกับซีรี่ส์อินเดีย นาคิน” ของช่อง 3 ที่เรตติ้งดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขยับ หนุมานฯ ออกไป ออนแอร์ช้ากว่าเดิมไปเริ่มที่เวลา 19.20 .

อีกช่องที่จัดรายการลงผังใหม่คือช่องวัน เจ้าพ่อละครซิทคอม นำซิทคอมเรื่องใหม่ บ้านสราญแลนด์เรื่องราวความอลวนของ 4 ครอบครัวพร้อมก๊วนเพื่อนบ้านตัวจี๊ดที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่าบ้านสราญแลนด์แบ่งซอยย่อยเป็น 4 ตอนของ 4 ครอบครัวในวันจันทร์ถึงพฤหัสตั้งแต่ตอนศึกรักข้ามรั้ว”  สุภาพบุรุษ สุดซอย” “ชะนีหนีคาน” “รักล้นๆ คนเต็มบ้านได้นักแสดงหลักมาเล่นช่วงเย็นเพียบ ตั้งแต่ ป้อง ณวัฒน์, นุ่น วรนุช, บี น้ำทิพย์, มาร์ช จุฑาวุฒิ, เต๋า เศรษฐพงษ์, หนูนา หนึ่งธิดา และ ปั้นจั่น ปรมะ มาแสดงในแต่ละตอน ทั้งหมดนี้เริ่มวันที่ 8 ..เช่นกัน

การแบ่งช่วงรายการของทั้งช่อง 8 และช่องวัน ใกล้เคียงกับผังรายการของช่อง 3 ที่เริ่มต้นช่วงเย็นด้วยข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้  แล้วตามด้วยรายการวาไรตี้ดาวินซี่ต่อด้วยซีรี่ส์อินเดียนาคิน ที่หยุดออกอากาศในช่วงปีใหม่และออกอากาศต่อวันที่ 4 .. ต่อด้วยละครเย็นชุดใหม่สะใภ้กาฝาก  

ทั้งนี้ รายการข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้” ของช่อง 3 เป็นแชมป์เรตติ้งรายการข่าวในช่วงเย็นในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ส่วนช่องแชมป์เรตติ้งละคร วาไรตี้ช่วงเย็นอย่างช่อง 7 ยังคงผังเวลาเดิม เช่นเดียวกับช่องโมโนที่ยืนหยัดลงผังด้วยภาพยนตร์ต่างประเทศทั้งในช่วง Happy Family Time ต่อด้วยการ์ตูนเด็ก อย่างเช่น LEGO Ninjago ตัวต่อนินจา แสบซ่าส์มหากาฬ และภาพยนตร์ดังในช่วง Premium Blockbuster ในขณะที่เวิร์คพอยท์นำ Movie Time มาดักผู้ชมภาพยนตร์ตั้งแต่เวลา  15.30 .  โดยมีทั้งภาพยนตร์ต่างประเทศและรีรันรายการวาไรตี้เช่นชิงร้อยชิงล้าน ว้าว ว้าว ว้าวต่อด้วยเวลาข่าว บรรจงชงข่าวตามต่อด้วยรายการร้องเพลงซีรี่ส์ ไมค์ตั้งแต่ ไมค์หมดหนี้ไมค์หมดหนี้ ตั้งตัวในวันศุกร์ โดยมี ไมค์ทองคำ ในวันเสาร์อาทิตย์ และปิดช่วงค่ำด้วย ปริศนาฟ้าแลบ

**ไฮไลต์รายการเด่นทุกช่องเปิดรับศักราชใหม่

นอกจากนี้ยังมีรายการเด่นของแต่ละช่องในในช่วงเวลาอื่นๆ ตามผังรายการใหม่เดือนมกราคมที่ส่งให้กสทช.กัน

ช่องวันมีละครใหม่เมืองมายา ไลฟ์ละครถ่ายทอดสด จุดจบขึ้นอยู่กับคุณ ออกอากาศเวลา 21.30 . เริ่ม 3 ..นี้ นำแสดงโดย แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช, นุสบา ปุณณกันต์,  ตุ้ย ธีรภัทร ที่ช่องวันบอกว่าเป็น อินเตอร์แอคทีฟทีวี ให้ผู้ชมโหวตตอนจบได้ และจะเป็นการแสดงเหมือนแสดงละครเวที เล่นสด เทคเดียว โดยนักแสดงมีเวลาเตรียมตัวก่อนทำการแสดงเวลาประมาณ 3 ทุ่มเท่านั้น จะสนุก ลุ้น หรือถูกจริตผู้ชมหรือไม่ต้องลองติดตาม

นอกจากนี้ในวันเสาร์ เริ่มเสาร์ที่ 6 ..นี้ ช่องวันยังมีรายการใหม่  “The Wall กำแพงพลิกชีวิต  มี วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา เป็นพิธีกร นับเป็นรายการที่ 2 ของวู้ดดี้ ที่ออกอากาศทางดิจิทัลทีวีในช่วงปีใหม่นี้ ที่กลับมารับงานทีวีอีกหลัง หลังจากเคยประกาศว่าจะลงเล่นสนามออนไลน์มากกว่า อีกรายการของวู้ดดี้คือวู้ดดี้ เวิลด์ทางช่องเวิร์คพอยท์ในวันอาทิตย์ช่วงดึก 22.15 .เริ่ม 7 ..นี้

ส่วนช่องเครือญาติช่องวันอย่างช่องจีเอ็มเอ็ม 25  ได้ฤกษ์ปล่อยคลับฟรายเดย์ชุดใหม่รักปลอมปลอมในทุกวันเสาร์เวลา  20.30 . เริ่ม  6 ..นี้

ช่องแชมป์เรตติ้งละครอย่างช่อง 7 ก็มีละครใหม่ที่เตรียมออกอากาศคือ มือปราบเหยี่ยวดำ ในวันพุธและพฤหัสหลังข่าว ออกอากาศต่อจากวังนางโหงเร็วๆนี้  และคุณชายไก่โต้ง ประจำวันศุกร์อาทิตย์ เริ่ม  12 ..

ข่อง 3 ละครใหม่หลังข่าวเป็น เสน่ห์นางงิ้ว เริ่ม 11 ..และไข่มุกมังกรไฟ ในวันศุกร์อาทิตย์ เริ่ม 5 ..

ซีรี่ส์อินเดียพาเหรดกันมาเพียบ ช่องไบรท์ทีวี เป็นช่องข่าวที่มีซีรี่ส์อินเดียหลายเรื่อง จากความร่วมมือกับช่องทีวีดาวเทียม  JKN เจ้าของลิขสิทธิ์ซีรี่ส์อินเดีย มีเรื่องใหม่ที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนพ..ที่ผ่านมาอุบัติรัก นิรันดรทุกวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 20.25. และซีรี่ส์ รามเกียรติ์ที่ออกอากาศไปสักพักแล้ว มารีรันอยู่ในช่วงเวลา 17.00 .

ช่อง 9 อสมท เลือกไฮไลท์ซีรี่ส์จีนฉู่เฉี่ยว จอมใจจารชนเรื่องของจอมยุทธหญิงคู่แผ่นดิน ผู้กอบกู้ความยุติธรรม ทุกวันเสาร์อาทิตย์เวลา 14.00. , ช่องโมโน ช่องผู้นำภาพยนตร์ฝรั่ง นำเสนอหนังดังเรื่อง Deadpool  และ The Martian ในช่วง Premium Blockbuster , ส่วนทรูโฟร์ยู ขอเน้นละครซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาศรีอโยธยา ที่ทุ่มทุนไปกว่า  150 ล้านบาท ออกอากาศจันทร์อังคาร หลังข่าวค่ำ

ช่องที่เน้นรายการวาไรตี้อย่างเวิร์คพอยท์ มีรายการลูกแม่หล่อมาก หรือ Show me your son รายการเลือกคู่โดยฝ่ายหญิงจะเลือกผู้ชายผ่านแม่ฝ่ายชาย  ทุกวันเสาร์เวลา 21.15 ., My mom cooks เชฟไม่ทิ้งแถว รายการที่เอาแม่ลูกดารา 2 ทีมมาแข่งทำอาหาร แต่แม่ห้ามทำต้องให้ลูกที่ทำอาหารไม่เป็นทำตามที่แม่กำกับ ทุกวันเสาร์เวลา  13.30 .และ Diva Thailand เสียงเปลี่ยนสวย รายการร้องเพลง (อีกแล้ว) แต่ลูกผสมกับการทำศัลยกรรม โดยการหาคนร้องเพลงเสียงดีไปทำศัลยกรรมเพื่อเป็นดีว่า

รายการข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนของเพจอีจัน ที่ร่วมมือกับเวิร์คพอยท์อีจันสืบสยองมาทุกวันอังคาร เวลา 21.15 .เริ่ม 2 ..นี้

ส่วนค่ายเนชั่นทีวี ช่องข่าวก็มีรายการใหม่ปักหมุด จุดเกิดเหตุ สารคดีข่าวสืบสวนสอบสวน ทุกวันเสาร์เวลา  20.45 เริ่มวันเสาร์ที่ 6 ..

]]> 1152272