กวดวิชา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 27 Jun 2023 04:58:48 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เกาหลีใต้” เตรียมแก้ข้อสอบเข้ามหา’ลัยให้สอดคล้องกับการศึกษาของรัฐ ลดการทุ่ม “กวดวิชา” https://positioningmag.com/1435553 Mon, 26 Jun 2023 11:51:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435553 รัฐบาล “เกาหลีใต้” ประกาศแผนเพื่อลดการทุ่มเงิน “กวดวิชา” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกของแดนโสมขาวสูงที่สุดในโลก โดยรัฐบาลจะเริ่มจากการปรับแก้ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนของรัฐ เนื่องจากปัจจุบันข้อสอบเอนทรานซ์มักจะออกให้ยากและไม่มีสอนในหลักสูตรปกติ จนเด็กมัธยมส่วนใหญ่ต้องเข้าเรียนกวดวิชาเพื่อฝึกทำโจทย์นอกหลักสูตร

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศในวันที่ 26 มิถุนายน 2023 ว่า รัฐมีแผนที่จะลดการใช้จ่ายมหาศาลไปกับโรงเรียนกวดวิชาของพ่อแม่ผู้ปกครองชาวเกาหลี ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราการเจริญพันธุ์ของคนเกาหลีใต้ตกต่ำลงมาก

ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน “ยุน ซอกยอล” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพิ่งจะวิพากษ์วิจารณ์ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่ามีการตั้งโจทย์ที่ไม่สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอนของรัฐ โดยมีโจทย์บางข้อถึงขั้นถูกเรียกว่าเป็น “คำถามฆาตกร” เพราะมีความซับซ้อนสูงมากจนนักเรียนทั่วไปไม่สามารถแก้โจทย์ได้

“เราจะตัดวงจรของ ‘คำถามฆาตกร’ ในข้อสอบ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดการแข่งขันจนเกินพอดีในหมู่นักเรียนและผู้ปกครองภายในโรงเรียนกวดวิชา” ลี จูโฮ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้กล่าวในการแถลงข่าววันนี้

รัฐมนตรีลียังให้คำมั่นว่าจะกวาดล้าง “กลุ่มผูกขาด” ในตลาดการศึกษาภาคเอกชนเหล่านี้ และจะมีการสอดส่องการโฆษณาเกินจริงของโรงเรียนกวดวิชาเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ที่ผ่านมาสื่อมวลชนท้องถิ่นของเกาหลีใต้เคยรายงานข่าวว่า มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างอุตสาหกรรมโรงเรียนกวดวิชากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยความสัมพันธ์นี้นำไปสู่การออกข้อสอบเอนทรานซ์ที่ทำให้ต้องมีการ “ติว” หนังสือนอกโรงเรียนเท่านั้นจึงจะทำข้อสอบได้

รายงานจากกระทรวงศึกษาธิการและสำนักสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ระบุว่า เมื่อปี 2022 ชาวเกาหลีใต้ทั้งประเทศลงทุนกับการส่งลูกไปเรียนกวดวิชาคิดเป็นเม็ดเงินรวมกันกว่า 26 ล้านล้านวอน (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) ทั้งที่ประชากรวัยเรียนในประเทศกำลังลดจำนวนลง โดยนักเรียนเกาหลีใต้เกือบ 8 ใน 10 คนลงเรียนในโรงเรียนกวดวิชาที่เรียกกันว่า “ฮากวอน”

การที่ต้องพึ่งพิงการศึกษานอกโรงเรียนเช่นนี้ทำให้เกาหลีใต้มีค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูบุตรที่สูงที่สุดในโลก และมีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำติดอันดับโลกเช่นกัน

การที่ต้องส่งลูกเข้า “ฮากวอน” ก็เพราะข้อสอบเอนทรานซ์ที่มี “คำถามฆาตกร” คำถามที่ยากและไม่มีสอนในหลักสูตรปกติเช่นนี้ เปิดช่องให้โรงเรียนกวดวิชาทำหน้าที่สอนวิธีแก้โจทย์เหล่านี้แทน

สังคมเกาหลีใต้มองว่าคำถามที่ยากจะช่วยให้มหาวิทยาลัยได้คัดเลือกนักเรียนที่เก่งที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่แข่งขันสูง แต่ประธานาธิบดียุนกล่าวว่า การออกข้อสอบลักษณะนี้ “ไม่ยุติธรรม” เพราะไม่ใช่ทุกครอบครัวที่มีกำลังทรัพย์พอส่งลูกไปเรียนพิเศษนอกเวลาได้

Photo : Xinhua

ด้าน “ชิน โซยัง” นักกิจกรรมรณรงค์จากกลุ่ม The World Without Worry About Private Education (โลกที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเรียนกวดวิชา) กล่าวว่า แผนของรัฐบาลอาจจะยังไม่พอที่จะหยุดการแข่งขันด้านการศึกษาได้

“รัฐบาลจำเป็นต้องพัฒนาแผนที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้ ตอบคำถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดการแข่งขันเกินสมควรในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดไม่กี่แห่งของประเทศ” ชินกล่าว

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนนี้ มีนักเรียนและ ‘เด็กซิ่ว’ รวม 450,000 คนร่วมเข้าสอบเอนทรานซ์ในเกาหลีใต้ การจัดสอบที่มีขึ้นตลอดทั้งวันนั้นสำคัญกับคนเกาหลีใต้มาก จนมีการห้ามเครื่องบินขึ้นบินตลอดชั่วโมงที่ผู้เข้าสอบเข้าสู่ช่วงทำโจทย์ข้อสอบการฟังภาษาอังกฤษ

หลังรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศการกวาดล้างนี้ออกไป ทำให้ราคาหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการศึกษานอกโรงเรียนของเกาหลีใต้ตกต่ำลงเล็กน้อย โดยมีบริษัทเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้อง เช่น Woongjin Thinkbig, MegaStudyEdu, Multicampus Corp. เป็นต้น

Source

]]>
1435553
ตกงานอื้อ! หนึ่งใน “กวดวิชา” ใหญ่ที่สุดของจีนเตรียมเลย์ออฟ 40,000 คน หลังรัฐบาลกวาดล้าง https://positioningmag.com/1355536 Thu, 07 Oct 2021 10:52:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355536 New Oriental Education and Technology Group หนึ่งในบริษัทกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดของจีน เตรียมเลย์ออฟพนักงาน 40,000 คนภายในสิ้นปีนี้ ผลกระทบโดมิโนจากการกวาดล้างธุรกิจกวดวิชาโดยรัฐบาลจีน

New Oriental Education and Technology Group มีเป้าหมายจะปิดธุรกิจติวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้นทั้งหมด รวมถึงจะลดขนาดแผนกติวเตอร์ส่วนตัวด้วย หลังจากรัฐบาลมีข้อกำหนดการติวส่วนตัวทั้งระยะเวลาและราคา ทำให้จะมีการเลย์ออฟพนักงานประมาณ 40,000 คน

รัฐบาลจีนมีนโยบาย “กำกับควบคุมสถาบันกวดวิชา” ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จุดประสงค์คือเพื่อลดแรงกดดันต่อเยาวชนจากการถูกบีบให้ทำกิจกรรมเหล่านี้หลังเลิกเรียน รวมถึงความกดดันที่มีต่อพ่อแม่ด้วย

หลังจากรัฐมีคำสั่ง ทำให้สถาบันกวดวิชา จัดหาติวเตอร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งหลายต่างต้องลดขนาดธุรกิจลง และมีพนักงานถูกเลย์ออฟไปแล้วจำนวนมาก เช่น ByteDance (บริษัทแม่ของ TikTok) ประกาศลดขนาดแผนกการศึกษาลง ส่วนอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการคือ Juren Education ก็ประกาศจะปิดสาขาทั้งหมดของบริษัทลงทั่วประเทศ เนื่องจาก “ความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ”

สำหรับ New Oriental ก่อนหน้านี้มีพนักงานลาออกไปแล้วประมาณ 10,000 คนเพราะเห็นความไม่แน่นอนของบริษัท ทั้งที่เมื่อต้นปี 2021 บริษัทเคยมีพนักงานถึง 100,000 คน ซึ่งเป็นช่วงธุรกิจกวดวิชากำลังบูมสุดขีด

(Photo : Shutterstock)

เว็บไซต์ Sixth Tone รายงานบรรยากาศของสถาบันกวดวิชา New Oriental ในเซี่ยงไฮ้ พบว่า คลาสการเรียนเชิงวิชาการถูกยกเลิกเกือบทั้งหมด จะเหลือคอร์สเรียนวิชานอกหลักสูตรเป็นหลัก เช่น เขียนพู่กันจีน ออกแบบหุ่นยนต์ ค่ายศึกษาระบบนิเวศ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ยานยนต์ เป็นต้น

สถาบันกวดวิชาอื่นในเมืองเดียวกัน เช่น Xueersi ก็ต้องหยุดการติวส่วนตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ สามารถทำได้เฉพาะการติวออนไลน์ รวมถึงต้องจัดคลาสเฉพาะวันธรรมดา ไม่มีการจัดคลาสวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ว

คำสั่งของรัฐบาลจีนยังควบคุมการคิดค่ากวดวิชาด้วย โดยมีการกำหนดราคากลางจากรัฐ และสถาบันกวดวิชาห้ามคิดราคาแพงกว่าราคากลางเกิน 10% ทำให้หลายๆ สถาบันจะต้องคิดหาทางลดต้นทุนของตัวเองลงมาให้เหมาะสม

ค่ากวดวิชาของลูกๆ จะถูกลง จากเดิมราคาอาจจะอยู่ที่ 220 หยวน (ประมาณ 1,150 บาท) ต่อคลาส 90 นาที เมื่อถูกกำหนดให้เรียนออนไลน์แทนและถูกควบคุมราคา สถาบันกวดวิชาจึงคิดเพียง 130 หยวน (ประมาณ 680 บาท)

แต่ผู้ปกครองชาวจีนก็ไม่ได้พอใจเท่าไหร่ เพราะมองว่าการบีบให้เรียนออนไลน์ทำให้พ่อแม่กังวลเรื่องสุขภาพสายตาของลูก รวมถึงสภาพแวดล้อมของห้องเรียนจริงไม่สามารถถูกทดแทนได้ด้วยโลกออนไลน์

Source

]]>
1355536