ขาดแคลนชิป – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 12 Feb 2023 00:30:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กำไร ‘โตโยต้า’ ลดลง 18% เนื่องจากเจอปัญหา ‘ต้นทุน’ ทำพิษโดยเฉพาะชิปที่ขาดแคลน https://positioningmag.com/1418923 Fri, 10 Feb 2023 13:29:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418923 แม้ โตโยต้า (Toyota) จะยังรักษาแชมป์ค่ายรถเบอร์ 1 ของโลกปี 2022 ด้วยยอดขายเกือบ 10.5 ล้านคัน แต่ด้วยปัญหาขาดแคลนชิปที่ผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกต่างต้องเผชิญเหมือน ๆ กัน บวกกับปัญหาเงินเฟ้อและเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้นจนกระทบกับผลกำไร

แม้โตโยต้าจะรักษาอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ทั่วโลก 3 ปีซ้อน แต่เนื่องจาก เงินเยนที่อ่อนค่า ในขณะที่ ราคาวัสดุพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะ ชิปที่ขาดแคลน ได้ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของโตโยต้าอย่างมาก โดยผลประกอบการรวม 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ (เม.ย. 2022-ธ.ค. 2022) อยู่ที่ 27.5 ล้านล้านเยน เติบโตขึ้น 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

แม้รายได้จะเติบโตแต่กำไรกลับไม่โตตาม โดยโตโยต้ามี กำไรสุทธิ 1.89 ล้านล้านเยน ลดลง 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน นับเฉพาะไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค) กำไรลดลง 8% อยู่ที่ 7.27 แสนล้านเยน ลดลงจาก 7.91 แสนล้านเยนในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ โตโยต้ายังคงเป้ากำไรสุทธิทั้งปีงบประมาณ (ที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2023) ที่ 2.36 ล้านล้านเยน หรือ ลดลง 17.2%

“ผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ และโรงงานผลิตทำงานหนักภายใต้สถานการณ์ที่แผนการผลิตผันผวนอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และภัยธรรมชาติ กำลังรับภาระจากซัพพลายเออร์ของเราที่เกิดจากราคาวัสดุและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อให้กิจกรรมเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันได้” โตโยต้า ระบุ

เซอิจิ ซุงิอุระ นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว มองว่า โตโยต้ายังอยู่ในสถานะที่ดีกว่าแบรนด์คู่แข่ง เนื่องจากบริษัทนั้น มีอำนาจต่อรองสูง กับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน นอกจากนี้ การตัดสินใจของจีนที่จะยุตินโยบายปลอดโควิดและอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ถือเป็นปัจจัยบวกเช่นกัน ดังนั้น แนวโน้มยอดขายรถยนต์จึงเป็นไปในทิศทางที่ดี

ในเดือนมกราคมปี 2023 โตโยต้าตั้งเป้าหมายการผลิตที่มั่นใจที่ 10.6 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมา และสูงปี 2019 ที่มียอดผลิต 9 ล้านคัน ถึงจะวางเป้าไว้สูง แต่ปัญหาขาดแคลนชิปอาจทำให้ยอดการผลิตอาจหายไป 10% จากเป้าหมาย

]]>
1418923
‘SMIC’ บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของจีนฟัน ‘กำไร’ เป็นประวัติการณ์แม้โดนสหรัฐฯ แบน https://positioningmag.com/1373788 Sun, 13 Feb 2022 06:08:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373788 บริษัท เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชั่น หรือ SMIC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนรายงานรายรับและผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่แล้ว ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกแต่มีความต้องการสูง

SMIC บันทึกรายรับปี 2564 ที่ 5.44 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 กำไรอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ เติบโตถึง 138% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการเติบโตดังกล่าวนี้ แม้ว่า SMIC จะถูกขึ้นบัญชีดำการค้าของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า Entity List ในปี 2020 ก็ตาม

“การขาดแคลนชิปทั่วโลกรวมถึงความต้องการที่เพิ่มทำให้บริษัทมีโอกาสที่หายาก ในขณะที่ข้อจำกัดของการถูกขึ้นบัญชีดำ ได้สร้างอุปสรรคมากมายต่อการพัฒนาของบริษัท” SMIC กล่าว

SMIC เป็นโรงผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตชิปตามความต้องการของบริษัท และถือเป็นคู่แข่งกับ TSMCของไต้หวันและ Samsung ของเกาหลีใต้ แต่เทคโนโลยีของ SMIC นั้นยังตามหลังอยู่หลายรุ่น และการถูกขึ้นบัญชีดำของสหรัฐฯ ทำให้ SMIC มีอุปสรรคเพิ่มขึ้นในการพัฒนาชิปให้ล้ำหน้ามากยิ่งขึ้น

แต่เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้ลามไปถึงการต่อสู้เพื่อครองตำแหน่งผู้นำทางเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน และเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในพื้นที่เหล่านั้น โดยจีนถือว่าตามหลังสหรัฐฯ อย่างมากในอุตสาหกรรมชิปแต่ SMIC ถูกมองว่าเป็นกุญแจสู่ความทะเยอทะยานที่จะไม่ต้องพึ่งพาชิปจากต่างประเทศของจีน

อย่างไรก็ตาม SMIC ยังคงลงทุนอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง และบริษัทกล่าวว่ามีแผนที่จะใช้เงินทุน 5 พันล้านดอลลาร์ในเพื่อสร้างโรงงานใหม่ 3 แห่งจากพื้นดินในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองเซินเจิ้นทางตอนใต้ของจีน โดยบริษัทกล่าวว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2565 มากกว่าในปี 2564

Source

]]>
1373788
เกมเมอร์ทำใจ! Sony ประกาศลดกำลังผลิต ‘Ps5’ เหลือ 15 ล้านเครื่อง เซ่นปัญหาขาดแคลนชิป https://positioningmag.com/1362012 Mon, 15 Nov 2021 05:10:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362012 เป็นเวลา 1 ปีแล้ว หลังจาก Sony เปิดตัว Play Station 5 หรือ Ps5 ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ 13.4 ล้านเครื่องทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เครื่องเกมคอนโซลก็ยังเป็นของหายาก เพราะยอดขายที่มากกว่ากำลังการผลิตจะผลิตได้ เนื่องจากทั้งปัญหาการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อการผลิต และการขาดแคลนชิป

ก่อนหน้านี้ Sony ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้ซื้อชิปเซมิคอนดักเตอร์มามากพอที่จะบรรลุเป้าหมายยอดขายในปีงบประมาณปัจจุบันที่ 14.8 ล้านเครื่อง แต่บริษัทก็ยังได้ชี้แจงด้วยว่า เนื่องจากสถานการณ์ทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่การผลิตอาจต้องหยุดชะงักลง

อย่างไรก็ตาม รายงานโดย Bloomberg ได้อ้างว่าปัญหาด้านผลกระทบจาก COVID-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ Sony ยังต้องประสบปัญหาในการจัดหาชิปในการผลิต Ps5 สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน (ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2022) โดยก่อนหน้านี้ Sony หวังว่าจะผลิต PS5 ได้ที่ 16 ล้านเครื่องตลอดทั้งปี แต่ปัจจุบัน มีรายงาน Sony ได้ปรับตัวเลขให้ลดลงเหลือ 15 ล้านเครื่อง ซึ่งแทบจะเท่ากับเป้าหมายยอดขาย 14.8 ล้านเครื่อง

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิป ที่ส่งผลกระทบต่อแผนของบริษัท อย่าง Nintendo เพิ่งออกมาประกาศว่าจะไม่สามารถผลิต Nintendo Switch ได้มากเพียงพอต่อความต้องการในช่วงเทศกาลวันหยุด ขณะที่ Valve เพิ่งเลื่อนการออก Steam Deck เครื่องเล่นเกมพกพา ที่เกิดจากการร่วมมือกันกับทาง AMD ไปเป็นกุมภาพันธ์ 2022 ด้วยเหตุผลเดียวกัน ก่อนหน้านี้ Microsoft ยังระบุด้วยว่าการขาดแคลน Xbox Series X/S จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2022

ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง บริษัทต่าง ๆ เช่น Toshiba, Foxconn และ AMD ได้กล่าวว่า สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นภายในปี 2022 แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทาง Intel ได้ประเมินว่าปัญหาดังกล่าวอาจขยายออกไปยาวถึงปี 2023

Source

]]>
1362012
ปรับอีก! ‘โตโยต้า’ จำใจลดการผลิตอีก 4 แสนคัน เซ่นพิษโควิดและปัญหาขาดเเคลนชิป https://positioningmag.com/1351496 Mon, 13 Sep 2021 05:57:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1351496 ย้อนไปช่วงกลางเดือนสิงหาคม ‘Toyota’ (โตโยต้า) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของโลกได้ประกาศลดการผลิตทั่วโลกลง 40% ล่าสุด บริษัทจำใจต้องลดกำลังการผลิตในญี่ปุ่นและต่างประเทศอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ต้องหยุดสายการผลิต รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลก

หลังจากที่เดือนที่แล้ว โตโยต้าได้ประกาศลดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกในเดือนกันยายนลง 40% หรือคิดเป็นจำนวน 360,000 คัน ล่าสุด โตโยต้าจำใจต้องลดกำลังการผลิตลงอีก 70,000 คันในเดือนกันยายน และ 330,000 คันในเดือนตุลาคม และจากจำนวนการผลิตที่ลดลงครั้งนี้ ทำให้การผลิตประจำปีที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565 เหลือ 9 ล้านคัน

“เหตุผลหลักสำหรับการปรับการผลิต ได้แก่ การดำเนินงานที่ลดลงในซัพพลายเออร์หลายแห่ง เนื่องจากการแพร่กระจายของ COVID-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยืดเยื้อ และผลกระทบของเซมิคอนดักเตอร์” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าการลดจำนวนการผลิตดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์รายได้ทั้งปีจากการดำเนินงาน เนื่องจากเห็นว่ายังคงมีความต้องการที่แข็งแรง ทั้งนี้ แนวโน้มสำหรับเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงปีหน้าไปยังคง “ไม่ชัดเจน” โดยแผนการผลิตสำหรับเดือนพฤศจิกายนและหลังจากนั้นยังคงเป็นไปตามเดิมอยู่

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ประสบปัญหาในการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ไม่ใช่แค่โตโยต้าที่ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ทั่วโลกกระทบสายการผลิต และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยไมโครชิปเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์และขาดตลาดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

เมื่อเกิดโรคระบาด ผู้ผลิตรถยนต์ได้ลดขนาดคำสั่งซื้อ และผู้ผลิตชิปได้เปลี่ยนการผลิตไปใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากผู้คนใช้อุปกรณ์เพื่อทำงานและพักผ่อนที่บ้าน ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์อยู่ในสถานการณ์ตึงตัวเนื่องจากความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้น

Source

]]>
1351496
ดีลสำเร็จ! บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ TSMC – Foxconn ต่อรองซื้อวัคซีน 10 ล้านโดสให้ไต้หวัน เเก้เกมจีน https://positioningmag.com/1342005 Tue, 13 Jul 2021 10:40:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1342005 ต่อรองสำเร็จ! ‘TSMC’ และ ‘Foxconn’ บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ป้อนวงการเทคโนโลยีโลก บรรลุข้อตกลงกับ BioNTech จัดซื้อวัคซีนโควิดเเบบ mRNA ที่พัฒนาร่วมกับ Pfizer เพื่อนำมาฉีดฟรีให้ประชาชนชาวไต้หวัน 10 ล้านโดส ‘เเก้เกม’ ข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทเปและปักกิ่ง

สำหรับค่าใช้จ่ายการจัดซื้อวัคซีนของ BioNTech รวมไปถึงค่าบริการระบบการขนส่งและค่าประกันภัย จะอยู่ที่ไม่เกิน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.7 พันล้านบาท) ซึ่งทั้งสองบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด เเละจะนำไปบริจาคให้กระทรวงสาธารณสุขของไต้หวัน

ปกติเเล้ว BioNTech จากเยอรมนี ร่วมมือกับ Shanghai Fosun Pharmaceutical ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายวัคซีนชนิด mRNA ที่ได้พัฒนากับ Pfizer ในประเทศจีน

โดยรัฐบาลไต้หวัน อ้างว่าทางการจีนพยายามขัดขวางไม่ให้ไต้หวันจัดหาวัคซีนจาก BioNTech ซึ่งจีนยื่นข้อเสนอว่าจะบริจาควัคซีนป้องกันโควิดให้เอง เเต่ไต้หวันยืนยันปฏิเสธ

ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูง ไต้หวัน ต้องหาทางออกใหม่ โดยจับมือกับบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่มี ‘อำนาจการต่อรองทางธุรกิจสูง’ อย่าง Foxconn และ TSMC ให้ไปติดต่อกับ BioNTech และ Shanghai Fosun Pharmaceutical โดยตรงเพื่อจัดหาวัคซีนเเทนรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อตกลงใหม่ที่ว่า BioNTech และ Fosun ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายวัคซีนให้กับบริษัทเอกชน (มากกว่ารัฐบาลไต้หวัน) นั้น ทางรัฐบาลจีนก็คงยังมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

Terry Gou มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Foxconn โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการแทรกแซงจากทางการจีน เเละขอบคุณที่การเจรจาทางธุรกิจครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี

อย่างที่ทราบกันว่า ‘Foxconn’ เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเเบรนด์ดังต่างๆ ทั้ง HP, Dell , Lenovo เเละ Apple ส่วน TSMC เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตชิปให้ AMD, Apple และ Nvidia รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญของของสมาร์ทโฟนทั่วโลก

โดยฐานการผลิตของ Foxconn ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนเเละประเทศอื่นๆ แต่ฐานการผลิตของ TSMC ส่วนใหญ่ยังอยู่ในไต้หวัน

ที่ผ่านมา ไต้หวันได้รับการยกย่องว่ามีการควบคุมการระบาดใหญ่ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาระลอกใหม่ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 700 ราย ซึ่งปัจจุบันไต้หวันกระจายวัคซีนโควิด-19 โดสเเรกไปแล้ว 3.3 ล้านคน คิดเป็น 14% ของประชากรทั้งหมด

โดยทาง TSMC และ Foxconn ระบุว่า วัคซีนจาก ‘BioNTech’ จะถูกจัดส่งมาจากรงงานในเยอรมนี และจะนำเข้าไต้หวันได้เร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

 

ที่มา : The Verge , Financial Times

 

 

 

 

]]>
1342005
ฟื้นยาก! โรงงานผลิตชิปรายใหญ่สุดในไต้หวันปิดชั่วคราว หลังเจอ ‘คลัสเตอร์โควิด’ https://positioningmag.com/1335777 Mon, 07 Jun 2021 12:41:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1335777 ปัจจุบัน วิกฤตปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากดีมานด์ที่มีมากขึ้นของเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ ‘ไต้หวัน’ ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตชิปอันดับ 2 ของโลกต้องเผชิญกับปัญหา ภัยแล้ง ตั้งแต่ต้นปีซึ่งกระทบต่อสายการผลิต ล่าสุด โรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดก็ต้องปิดชั่วคราวหลังจากที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19  

ไต้หวันกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่มีประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 1% เท่านั้น ปัจจุบัน ไต้หวันมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 8,000 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 187 ราย ล่าสุด โรงงานผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปชั้นนำของไต้หวันจำต้องระงับการผลิตทั้งหมดในประเทศเป็นเวลาสองวันหลังจากรายงานพบการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวยิ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาการขาดแคลนชิปในปัจจุบัน

King Yuan Electronics ผู้ให้บริการทดสอบชิปชั้นนำของโลก กล่าวว่า บริษัทจะระงับการผลิตที่โรงงานในเหมียวลี่และซินจู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมชิปของเกาะ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของรายได้ทั้งหมด เนื่องจากบริษัทยืนยันว่าพนักงาน 77 คน ซึ่งรวมถึงแรงงานข้ามชาติ 73 คน ส่วนใหญ่มาจากฟิลิปปินส์ ติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยบริษัทกำลังเดินหน้าตรวจเชื้อพนักงานทั้งหมด 7,300 คน

“เราจะหยุดการผลิต เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทั้งหมดอย่างทั่วถึง แน่นอนว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการจัดการกับความกังวลที่เกิดขึ้นกับทั้งพนักงานและลูกค้าของเราเกี่ยวกับความปลอดภัยในการป้องกัน เราหวังว่ากำลังการผลิตจะค่อย ๆ ฟื้นตัวจากนี้” โฆษกของ King Yuan กล่าว

King Yuan หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ KYEC เป็นซัพพลายเออร์หลักของ Qualcomm, Intel, Nvidia, Mediatek และ Novatek ประมาณการว่าการระงับการผลิตจะส่งผลกระทบต่อรายได้และผลผลิต 4-6% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่บริษัทเองจะดำเนินการผลิตให้เข้มขึ้นมากขึ้นเพื่อชดเชยกับความสูญเสียดังกล่าว “จะมีผลกระทบต่อผลผลิตในเดือนมิถุนายนอย่างแน่นอน” AH Liu ประธานบริษัทกล่าว

ทั้งนี้ KYEC ถือเป็นซัพพลายเออร์ด้านเทคโนโลยีรายแรกของไต้หวันที่การผลิตได้รับผลกระทบเนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้เกาะต้องเพิ่มคำเตือนการแจ้งเตือนเป็นระดับ 3 ซึ่งห่างจากการล็อกดาวน์หนึ่งขั้นในกลางเดือนพฤษภาคม

ไม่ใช่แค่ King Yuan Electronics โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไต้หวันยืนยันกลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 อีก 9 รายที่ Greatek Electronics ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทดสอบชิปอีกรายซึ่งมีโรงงานผลิตหลักใกล้กับโรงงานของ KYEC ในเมืองเหมียวลี่ โดย Greatek จะเริ่มตรวจพนักงานทั้งหมดประมาณ 4,000 คน

ทั้งนี้ การระงับการผลิตของ KYEC อาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกแย่ลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เล่นจำนวนมากตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ไปจนถึงยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ขณะที่ผู้บริหารซัพพลายเออร์ของ Apple ให้ความเห็นว่า หากประชากรในไต้หวันไม่ได้รับวัคซีนในเร็ว ๆ นี้ อีกไม่นานจะมีบริษัทที่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะทำให้ต้องหยุดการผลิตเนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัส

ปัจจุบัน รัฐบาลไต้หวันกำลังส่งทีมสนับสนุนไปยัง King Yuan เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อและทดสอบ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อโดยได้จัดตั้งสถานีทดสอบแล้ว และจะทดสอบแรงงานอพยพประมาณ 4,000 คนจากทั้งหมด 10,000 คนในพื้นที่ภายใน 3 วัน ซึ่งไต้หวันมีแรงงานอพยพราว 700,000 คน ส่วนใหญ่มาจากเวียดนามและฟิลิปปินส์

Source

]]>
1335777
คาดอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกเสียหาย ‘1.1 แสนล้านเหรียญ’ เหตุวิกฤต ‘ขาดแคลนชิป’ https://positioningmag.com/1333447 Sun, 23 May 2021 06:17:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1333447 การขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอาจทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สูญเสียรายได้ไป 1.1 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยบริษัทที่ปรึกษา AlixPartners คาดว่าจากวิกฤตดังกล่าวจะกระทบยอดการผลิตรถยนต์ 3.9 ล้านคัน

ปัญหาชิปได้ผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องออกนโยบาย “เชิงรุก” ในตอนนี้และสร้าง “ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชน” ในระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักในอนาคต โดยในอดีตผู้ผลิตรถยนต์มีข้อตกลงการจัดหาโดยตรงกับผู้ผลิตวัตถุดิบบางชนิดรวมถึงโลหะมีค่า เช่น แพลเลเดียมและแพลทินัมที่ใช้ในระบบท่อไอเสีย

“แนวทางดังกล่าวในการรักษาความปลอดภัยของวัสดุโลหะมีค่าได้เริ่มขึ้นหลังจากการหยุดชะงักของการผลิตและราคาที่ผันผวนในตลาด ทำให้ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์กำลังมองหาการพัฒนาความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์” Mark Wakefield ผู้นำร่วมของแนวปฏิบัติด้านยานยนต์ระดับโลกของ AlixPartners กล่าว

ในอดีตผู้ผลิตรถยนต์ไม่เต็มใจที่จะเซ็นสัญญาระยะยาวในการซื้อชิปเซมิคอนดักเตอร์หรือวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อลดภาระทางการเงินสำหรับข้อตกลงดังกล่าว Wakefield กล่าว แต่ตอนนี้ “ความเสี่ยงเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เคยเป็นแค่ความเสี่ยง” ที่จะสูญเสียกำลังการผลิตเนื่องจากการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์

ทั้งนี้ Ford Motor Co กล่าวว่า กำลังออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากชิปที่มีมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ว่า เดือน เม.ย. 2564 มีจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ 104,355 คัน ลดลงจากเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 35.79% 

Source

]]>
1333447
‘หัวเว่ย’ โทษการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้เกิดปัญหา ‘ขาดแคลนชิป’ ทั่วโลก https://positioningmag.com/1328256 Mon, 19 Apr 2021 09:12:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328256 ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายแง่มุม แต่ ‘หัวเว่ย’ (Huawei) กลับโทษว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ยาว ๆ ไป! TSMC คาดตลาดชิปจะขาดแคลนจนถึงปี 2022

ความต้องการชิปเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เนื่องจากผู้คนหันมาเล่นเกมคอนโซล ใช้แล็ปท็อป และดูทีวีมากขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่โรงงานผลิตชิปมีจำนวนค่อนข้างน้อย และแถมยังมีการแข่งขันที่ไม่สูงมากจึงทำให้ชิปขขาดแคลนไปในที่สุด

แต่ถึงแม้จะมีปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด หัวเว่ยก็พยายามที่จะโทษเกี่ยวกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดย Eric Xu ประธานหมุนเวียนของหัวเว่ย กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรที่เกิดกับบริษัทในช่วงสองปีที่ผ่านมาเป็นสาเหตุ “ทำร้ายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก” เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก กักตุนชิป อย่างตื่นตระหนก

“พวกเขาบางคนไม่เคยกักตุนสิ่งของใด ๆ เลย แต่เนื่องจากการคว่ำบาตรทำให้พวกเขาต้องกักตุนสินค้า 3-6 เดือน”

ที่ผ่านมาภาคยานยนต์ต้องปิดสายการผลิตชั่วคราวอันเป็นผลมาจากปัญหาการขาดแคลนชิป โดยผู้บริหารบริษัทรถยนต์และผู้นำด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้มีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว ส่วนหัวเว่ยเองได้สร้างคลังชิปเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจอุปกรณ์โทรคมนาคมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม Xu กล่าวว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าฝ่ายบริหารของโจ ไบเดนจะเปลี่ยนแปลงกฎในเร็ว ๆ นี้ และบริษัทกำลังลงทุนในด้านใหม่ ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ, การทำฟาร์มและรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพยายามลดผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ

ที่ผ่านมา หัวเว่ยประกาศว่ามีแผนจะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในการวิจัยและพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองและรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมอ้างว่าเทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองของหัวเว่ยนั้นเหนือกว่า ‘Tesla’ โดยช่วยให้รถยนต์สามารถแล่นได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยที่มนุษย์ไม่ต้องยังคับ ขณะที่ยานพาหนะของ Tesla ไม่สามารถแล่นได้เกิน 800 กิโลเมตร และผู้ขับขี่ควรจับมือไว้ที่พวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย

เบื้องต้น หัวเว่ยจะร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ 3 รายใน ได้แก่ BAIC Group, Chongqing Changan Automobile Co และ Guangzhou Automobile Group โดยจะมีโลโก้ ‘HI’ (Huawei Inside) จะติดบนรถยนต์ในลักษณะเดียวกับที่โลโก้ของ Intel ติดบนคอมพิวเตอร์

“เมื่อประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนตัวเองเราสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ และเราคิดว่าในอนาคตอันใกล้ โอกาสและความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์” Xu

ภาพจาก shutterstock

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรหัวเว่ยหลังจากกล่าวหาว่าบริษัทแอบเก็บข้อมูลผ่านอุปกรณ์แล้วส่งไปยังพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยในปี 2019 หัวเว่ยถูกจัดให้อยู่ในบัญชีดำของสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า Entity List ทำให้บริษัทอเมริกันไม่ให้ส่งออกเทคโนโลยีบางอย่างไปยังหัวเว่ยได้ อาทิ Google ที่ยุติความสัมพันธ์กับหัวเว่ยทำให้ไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ Android บนสมาร์ทโฟนได้ และเมื่อปี 2020 สหรัฐฯ ได้แบนหัวเว่ยออกจากอุตสาหกรรมชิปที่จำเป็นสำหรับสมาร์ทโฟน โดยที่ผ่านมาหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ มาโดยตลอด

Source

]]>
1328256
ยาว ๆ ไป! TSMC คาดตลาดชิปจะขาดแคลนจนถึงปี 2022 https://positioningmag.com/1328070 Sun, 18 Apr 2021 06:23:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328070 Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ออกมาเตือนว่าการขาดแคลนชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การผลิตอัตโนมัติไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจขยายไปถึงปี 2565

ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องขาดชิปในการประกอบรถยนต์ ทำให้หลายแบรนด์ต้องเบรกสายการผลิต ไม่ว่าจะเป็น General Motors (GM) และ Ford Motor โดย TSMC ได้ออกมาเปิดเผยว่าลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์คาดหวังว่าปัญหาการขาดแคลนชิปจะคลี่คลายลงในไตรมาส 3 แต่จากปัญหาดังกล่าวคาดว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จะคงอยู่ตลอดปี 2564 และอาจลากยาวไปถึงปีหน้า

TSMC กล่าวว่า ตอนนี้่บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตแบบเกิน 100% ไปแล้ว และตอนนี้บริษัทได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มพื้นที่และอุปกรณ์การผลิต รวมถึงเพิ่มการจ้างงานพนักงานอีกจำนวนหลายพันคน เพื่อขยายความสามารถในการผลิตชิป นอกจากนี้ บริษัทเตรียมลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อการอัปเกรดและขยายกำลังการผลิตในปีนี้ จากเดิมที่จะลงทุน 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีข้างหน้าเพื่อขยายกำลังการผลิต

“เราเห็นว่าความต้องการยังคงสูงต่อไป และภายในปี 2566 เราหวังว่าเราจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนลูกค้าของเราได้ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเริ่มเห็นปัญหาด้านซัพพลายเชนคลายตัวทีละนิด”

จากความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น เวนเดลล์ หวาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้คาดการณ์ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ว่าจะอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้รายได้ทั้งปีเติบโตขึ้น 20%

Source

]]>
1328070
ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกโต ‘9%’ แม้จะขาดแคลนชิปสำหรับผลิต https://positioningmag.com/1326452 Fri, 02 Apr 2021 12:53:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1326452 Automakers ได้มีการรายงานยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ท่ามกลางตลาดที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการขาดแคลนชิปสำหรับการผลิตจนต้องหยุดไลน์ผลิตบางแห่ง หรือแม้แต่ปัญหาด้านการขนส่ง

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 8-9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2020 ซึ่ง COVID-19 ได้ระบาดหนักในช่วงเดือนมีนาคมจนทำให้ตัวแทนจำหน่ายและโรงงานผลิตรถยนต์ต้องปิดตัว โดยยอดขาย Volkswagen เติบโตขึ้น 21%, Toyota เพิ่มขึ้น 21.6%, Hyundai เพิ่มขึ้น 28%, Kia เพิ่มขึ้น 22.8%, Ford เพิ่มขึ้น 1% ส่วนยอดขายของ General motors (gm) เพิ่มขึ้น 3.9%

“เราเห็นการเติบโตขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่หยุดผลิตรถยนต์เนื่องจากทรัพยากรที่จำกัด” เจสสิก้า คาลด์เวลล์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของ Edmunds.com กล่าว

GM กล่าวว่า ยอดขายในส่วนของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 19% ในไตรมาสแรก ขณะที่ยาดขายลูกค้าองค์กรและภาครัฐลดลง 35% จากปีก่อนหน้า GM คาดว่าความต้องการของผู้บริโภคจะยังคงฟื้นตัวได้ตลอดทั้งปีนี้

“ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและการกลับมาเติบโตอีกครั้งของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง” อีเลน บัคเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ GM กล่าว

เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์และซัพพลายเออร์เริ่มเตือนของการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสวนทางกับความต้องการสำหรับยานพาหนะที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ โดยชิปเซ็ตถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งของยานยนต์รุ่นใหม่สำหรับระบบต่าง ๆ โดยในรถ 1 คันจำเป็นต้องมีชิปจำนวนมาก อย่าง Ford ประกาศแผนการลดกำลังการผลิตที่โรงงาน 6 แห่งในอเมริกาเหนือเนื่องจากปัญหานี้

“ปัญหาการขาดแคลนชิปนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคน เราหวังว่าหากในอีก 4-5 เดือนข้างหน้าสถานการณ์จะดีขึ้นบางที Q3, Q4 น่าจะฟื้นตัว” Jose Munoz ซีอีโอของ Hyundai North America กล่าว

บริษัทที่ปรึกษา AlixPartners ประเมินว่าการขาดแคลนชิปจะลดรายได้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกในปีนี้ถึง 60.6 พันล้านดอลลาร์ การลดการผลิตจากปัญหาการขาดแคลนชิปทำให้ยานพาหนะลดลง ทำให้รถรุ่นยอดนิยมอาจมีจำนวนที่ จำกัด โดย Edmunds ประเมินว่าจำนวนคลังรถใหม่ในตัวแทนจำหน่ายทั่วอเมริกาจะลดลง 36% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

“ปัญหาสินค้าคงคลังดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการแก้ไขในเร็ว ๆ นี้ และทุกอย่างจะส่งผลต่อยอดขายในปลายปีนี้” คาลด์เวลล์ กล่าว

Source

]]>
1326452