การขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอาจทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สูญเสียรายได้ไป 1.1 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยบริษัทที่ปรึกษา AlixPartners คาดว่าจากวิกฤตดังกล่าวจะกระทบยอดการผลิตรถยนต์ 3.9 ล้านคัน
ปัญหาชิปได้ผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องออกนโยบาย “เชิงรุก” ในตอนนี้และสร้าง “ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชน” ในระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักในอนาคต โดยในอดีตผู้ผลิตรถยนต์มีข้อตกลงการจัดหาโดยตรงกับผู้ผลิตวัตถุดิบบางชนิดรวมถึงโลหะมีค่า เช่น แพลเลเดียมและแพลทินัมที่ใช้ในระบบท่อไอเสีย
“แนวทางดังกล่าวในการรักษาความปลอดภัยของวัสดุโลหะมีค่าได้เริ่มขึ้นหลังจากการหยุดชะงักของการผลิตและราคาที่ผันผวนในตลาด ทำให้ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์กำลังมองหาการพัฒนาความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์” Mark Wakefield ผู้นำร่วมของแนวปฏิบัติด้านยานยนต์ระดับโลกของ AlixPartners กล่าว
ในอดีตผู้ผลิตรถยนต์ไม่เต็มใจที่จะเซ็นสัญญาระยะยาวในการซื้อชิปเซมิคอนดักเตอร์หรือวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อลดภาระทางการเงินสำหรับข้อตกลงดังกล่าว Wakefield กล่าว แต่ตอนนี้ “ความเสี่ยงเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เคยเป็นแค่ความเสี่ยง” ที่จะสูญเสียกำลังการผลิตเนื่องจากการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ Ford Motor Co กล่าวว่า กำลังออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากชิปที่มีมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ว่า เดือน เม.ย. 2564 มีจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ 104,355 คัน ลดลงจากเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 35.79%