ขึ้นราคา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 05 Apr 2024 13:21:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “Spotify” เตรียมขึ้นราคา! นำร่อง 5 ประเทศภายในสิ้นเดือนนี้ หลังถูกบีบให้เร่งทำกำไร https://positioningmag.com/1469261 Fri, 05 Apr 2024 06:54:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469261 สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า “Spotify” จะปรับขึ้นราคาใน 5 ประเทศที่เป็นตลาดหลักภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และจะปรับขึ้นในตลาดสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายต่อไป คาดเป็นความเคลื่อนไหวหลังบริษัทถูกบีบให้ทำกำไร

ราคาหุ้นของ Spotify พุ่งขึ้นทันที 8% หลังมีการรายงานว่า สตรีมมิ่งเพลงชื่อดังเจ้านี้เตรียมจะปรับขึ้นราคาในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย

Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าววงในที่เกี่ยวข้องว่า Spotify จะขึ้นราคาใน 5 ประเทศหลัก เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ปากีสถาน โดยจะขึ้นประมาณ 1-2 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ก่อนที่จะขึ้นราคาในตลาดสหรัฐฯ เป็นประเทศต่อไปภายในปีนี้

สาเหตุที่ Spotify จะใช้ในการขึ้นราคา คือเรื่องต้นทุนการจัดการ “หนังสือเสียง” (Audiobook) ที่สูงขึ้น โดยปัจจุบัน Spotify ถือเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ในตลาดหนังสือเสียงรองจาก Audible

แพ็กเกจราคาสมาชิกพรีเมียม Spotify ในสหรัฐฯ เพิ่งจะปรับขึ้นมารอบหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ขณะนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หากมีการปรับขึ้นราคาน่าจะทำให้ขึ้นมาอยู่ที่ 11.99-12.99 เหรียญต่อเดือน แพ็กเกจราคานี้ลูกค้าสมาชิกจะสามารถฟังเพลงและพอดคาสต์ได้ไม่จำกัด ส่วนหนังสือเสียงมีโควตาให้ฟังได้ 15 ชั่วโมงต่อเดือน

รายงานข่าวยังแจ้งด้วยว่า Spotify อาจจะมีการเพิ่มแผนแพ็กเกจใหม่ด้วย โดยเสริมแผนราคาสมาชิก 11 เหรียญต่อเดือน เป็นแพ็กเกจกลุ่มราคาที่ไม่ได้รับโควตาฟังหนังสือเสียง ฟังได้เฉพาะเพลงและพอดคาสต์

ในตลาดสตรีมมิ่งเพลงและเสียง Spotify ต้องแข่งขันกับคู่แข่งหลักอย่าง Apple และ YouTube Music และสภาวะเบื้องหลังการทำธุรกิจ คาดกันว่าบริษัทได้รับแรงกดดันสูงมากจากนักลงทุนว่าจะต้องเริ่ม “ทำกำไร” ให้ได้ ทำให้ปีที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคาไปแล้วครั้งหนึ่งจากที่ไม่ได้ปรับมาหลายปี รวมถึงมีการเลย์ออฟพนักงานเพื่อลดต้นทุน

นอกจากการเพิ่มราคาและลดต้นทุนแล้ว มีรายงานข่าวด้วยว่า Spotify จะเริ่มเข็นแพ็กเกจ “ซูพรีเมียม” ออกมาในเร็วๆ นี้ แพ็กเกจนี้เป็นการสตรีมมิ่งเพลงแบบคุณภาพสูง หรือ Lossless Streaming โดยมีผู้ใช้ Spotify บางรายสังเกตเห็นว่าแอปฯ เริ่มทดลองติดโลโก้ Dolby Atmos แล้ว ทำให้คาดกันว่าจะมีแพ็กเกจระดับสูงออกมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการฟังเพลงผ่านเครื่องเสียงหรือหูฟังคุณภาพ

ที่มา: CNBC, The Verge

]]>
1469261
Coca-Cola และ PepsiCo ส่งสัญญาณเงินเฟ้อ หากต้นทุนพุ่งสูง อาจปรับขึ้นราคา https://positioningmag.com/1373780 Sat, 12 Feb 2022 06:28:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373780 สองผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ของโลกอย่าง Coca-Cola และ PepsiCo ส่งสัญญาณเตือนถึงแรงกดดันต่อผลกำไรในปีนี้ หลังตุ้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจมีการปรับขึ้นราคา 

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ตั้งแต่กระป๋องอะลูมิเนียมไปจนถึงค่าแรงและค่าขนส่ง ท่ามกลางการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกในวิกฤตโรคระบาด ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารบรรจุหีบห่อ (packaged food) ต้องรับมือกับการขึ้นราคา

ด้วยต้นทุนที่ยังคงเพิ่มขึ้นบวกกับปัญหาคอขวดของอุปทาน ที่มีสัญญาณผ่อนคลายลงเพียงเล็กน้อยนั้น นักวิเคราะห์เตือนว่า การขึ้นราคาอาจจะไม่เพียงพอที่จะรองรับกับอัตรากำไรของอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มที่

Hugh Johnston บอกกับสำนักข่าว Reuters ว่าบริษัทอาจปรับขึ้นราคาได้อีกในปลายปีนี้ หากต้นทุนสูงขึ้นเกินคาด และไม่ได้ตัดขาดสินค้าบางรายการออกอย่างไรก็ตาม จะมีการควบคุมห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อประคับประคองสถานการณ์

ด้านคู่เเข่งรายสำคัญอย่าง Coca-Cola ก็เริ่มส่งสัญญาณไปในทิศทางเดียวกันว่า กำลังพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วในไตรมาสที่ 4 ของ Coca-Cola ลดลงเหลือ 22.1% จาก 27.3% ในปีก่อนหน้า ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วของ PepsiCo ลดลง 183 basis points 

PepsiCo รายงานรายรับสุทธิในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 12.4% เป็น 2.525 หมื่นล้านดอลลาร์ เเละคาดการณ์กำไรหลักของปีงบประมาณ 2022 ที่ 6.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 6.73 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของ IBES จาก Refinitiv

Coca-Cola คาดการณ์กำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วทั้งปีจะเพิ่มขึ้น 5% เป็น 6% จาก 2.32 ดอลลาร์ในปี 2021 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 6%

ก่อนหน้านี้ เชนร้านกาเเฟรายใหญ่ของโลกอย่าง Starbucks ก็วางเเผนจะปรับขึ้นราคาในปีนี้ เพื่อชดเชยเงินเฟ้อ ต้นทุนที่สูงขึ้น เเถมเจอปัญหาซัพพลายเชนเเละการขาดแคลนแรงงาน

หลังจากที่เคยปรับขึ้นราคาเมนูมาเเล้วเมื่อเดือนต..ปีที่เเล้ว และเดือนม..ปีนี้ ทาง Starbucks ก็เตรียมปรับขึ้นราคาเมนูอีกครั้งในช่วงปี 2022 พร้อมลดใช้จ่ายบางส่วน อย่างด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย เพื่อชดเชยต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบต่างๆ ที่พุ่งสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการเเพร่ะบาดของโควิด-19

โดยปัจจัยต่างๆ ทั้งภาวะเงินเฟ้อ การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน เเละปัญหาขาดแคลนแรงงาน ได้ส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

 

ที่มา : Reuters 

]]>
1373780
สายหวานเตรียมตัว! ช็อกโกแลตเครือ Hershey กำลังจะขึ้นราคายกแผง https://positioningmag.com/1372897 Fri, 04 Feb 2022 11:33:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1372897 ปีนี้ขนมและช็อกโกแลตในเครือ Hershey ทั้งหมดจะปรับขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่สูงขึ้น รวมถึงแผนการเติบโตเชิงรายได้ของบริษัทด้วย

“การปรับราคาจะเป็นประโยชน์สำคัญกับเรามากในปีนี้ และคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักต่อการเติบโตของเรา” มิเชล บั๊ก ซีอีโอ Hershey กล่าวในงานแถลงผลประกอบการบริษัท เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2022

จากการคาดการณ์รายได้ปี 2022 ของบริษัท Hershey จะมีการปรับราคาขนมขึ้นในทุกๆ เซ็กเมนต์ เพื่อดันการเติบโตของตัวเลขยอดขาย

การขึ้นราคายังจะช่วยให้เกิดสมดุลกับต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรง โดยวัตถุดิบที่ขึ้นราคาแล้วมีทั้งน้ำตาล ผลิตภัณฑ์นม วัสดุแพ็กเกจ และวัตถุดิบพิเศษที่บริษัทใช้

ทั้งนี้ Hershey เป็นเจ้าของแบรนด์หลากหลาย เช่น Reese’s, Hershey’s, Kisses, Kit Kat (*), Cadbury (*) เป็นต้น

(*Hershey ผลิต Kit Kat เฉพาะที่จำหน่ายในสหรัฐฯ สำหรับประเทศอื่นทั่วโลก Nestle เป็นผู้ผลิต เช่นเดียวกับ Cadbury ที่ Hershey เป็นผู้ผลิตในสหรัฐฯ ส่วนประเทศอื่นๆ Cadbury ยังเป็นผู้ผลิตอยู่)

แบรนด์ในเครือ Hershey

แม้ว่าจะเตรียมปรับขึ้นราคา แต่ที่จริงแล้วในช่วงโรคระบาด 2 ปีที่ผ่านมา Hershey ได้รับอานิสงส์เชิงบวก เพราะดีมานด์ขนมและของหวานพุ่งสูงขึ้น จากการที่ผู้บริโภคต้องการ “ทานของหวานแก้เครียด” เมื่อต้องอยู่แต่ในบ้าน ตัวอย่างเช่น ขนมแบรนด์ Reese’s ทำยอดขายสูงขึ้น 25% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ยอดขายของแบรนด์กลุ่มนำของบริษัทเติบโตเฉลี่ย 12% เมื่อปี 2021 และยอดขายทั้งบริษัทโต 10.1% เมื่อปีก่อน

บั๊กมองว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่ซื้อขนมติดบ้านมากขึ้นน่าจะเป็นพฤติกรรมถาวร เพราะที่ทำงานหลายแห่งเริ่มอนุญาตให้ทำงานระยะไกลได้แล้ว เท่ากับคนจะอยู่บ้านมากขึ้นไปอีกยาวนาน

ส่วนการขึ้นราคาขนมนั้น ที่จริงมีการปรับขึ้นไปบ้างแล้วเมื่อไตรมาส 4 ปีก่อน โดยบั๊กกล่าวว่า ตลอดประวัติศาสตร์บริษัทมีการปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง และผู้บริโภคยอมรับได้เพราะมีลอยัลตี้ต่อแบรนด์ “พวกเขาไม่ต้องการเปลี่ยนไปทานยี่ห้ออื่น” บั๊กกล่าว “แต่เราก็จะระมัดระวังในการขึ้นราคา เพราะอาจจะมีผลกระทบร่วมจากปัญหาเงินเฟ้อในภาพรวมที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค”

เฉพาะในสหรัฐอเมริกา อัตราเงินเฟ้อขึ้นมาแล้ว 7% เมื่อปีก่อน และทำให้สารพัดแบรนด์กำลังขึ้นราคาสินค้า เช่น Starbucks ที่เพิ่งประกาศว่าจะมีการขึ้นราคาอีกปีนี้ ขณะที่ McDonald’s ปรับราคาขึ้นไปแล้ว 6% เมื่อปีก่อน เพราะต้นทุนวัตถุดิบ แพ็กเกจ และค่าแรงขึ้น

Source

]]>
1372897
ภาวะเงินเฟ้อ! ‘Netflix’ ประกาศขึ้นราคาในสหรัฐฯ และแคนนาดา https://positioningmag.com/1370508 Sun, 16 Jan 2022 07:56:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1370508 เปิดต้นปีมาทั่วโลกก็ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อทำให้ข้าวของต่าง ๆ ปรับราคาขึ้นกันหมด แต่ที่หลายคนคงไม่คาดว่าจะขึ้นราคาก็คือ ‘Netflix’ (เน็ตฟลิกซ์) บริการวิดีโอสตรีมมิ่งเบอร์ 1 ของโลก ที่ขึ้นราคาค่าแพ็กเกจในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา

Netflix ขึ้นราคาแพ็กเกจรายเดือนในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา โดยสำหรับแพ็กเกจพื้นฐานปรับจาก 8.99 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 9.99 ดอลลาร์, แพ็กเกจมาตรฐานเพิ่มขึ้นจาก 13.99 ดอลลาร์เป็น 15.49 ดอลลาร์ และแพ็กเกจพรีเมียมเพิ่มขึ้นจาก 17.99 ดอลลาร์เป็น 19.99 ดอลลาร์

“เรากำลังปรับปรุงราคาของเราเพื่อให้เราสามารถเสนอตัวเลือกความบันเทิงคุณภาพที่หลากหลายต่อไป” โฆษกของ Netflix ยืนยันการปรับราคา

การปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้หุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ปิดที่ 525.69 ดอลลาร์ โดยเหตุผลที่ทำให้หุ้นของ Netflix ขึ้นมาจากการขึ้นราคาของ Netflix ที่ยังสะท้อนถึงความมั่นใจว่าบริการของ Netflix ผูกติดอยู่กับชีวิตของลูกค้า และจะไม่ยกเลิกหรือเนื่องจากการขึ้นราคา

ทั้งนี้ การที่ Netflix ได้ขึ้นราคาถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท โดยนับตั้งแต่ปี 2014 Netflix มีการขึ้นราคามาแล้วถึง 6 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Netflix กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่มากขึ้นกว่าที่เคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสตรีมเมอร์ใหม่ ๆ เช่น Disney+, HBO Max, Prime Video ของ Amazon และ Apple TV+ ด้วยเหตุนี้ Netflix จึงลงทุนอย่างหนักในการผลิตเนื้อหาสำหรับบริการของตน และคาดว่าจะใช้จ่ายเงิน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564

Source

]]>
1370508
‘IKEA’ ก็ไม่เหลือ ประกาศ ‘ขึ้นราคา’ สินค้าทั่วโลก 9% เพราะต้นทุนวัตถุดิบและขนส่งแพง https://positioningmag.com/1369271 Mon, 03 Jan 2022 04:06:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1369271 ‘IKEA’ (อิเกีย) ก็เป็นเหมือน ๆ กับหลายบริษัททั่วโลกที่กำลังดิ้นสู้ปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชนทั่วโลกที่กำลังทำพิษ ทำให้ในปี 2565 นี้ IKEA ประกาศว่าจะขึ้นราคาสินค้าทั่วโลกเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

ที่ผ่านมา IKEA พยายามจะลดต้นทุนด้วยนโยบายการบริการตัวเอง เพื่อลดจำนวนพนักงาน และแม้ว่าค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด แต่ร้าน IKEA ส่วนใหญ่รักษาราคาให้ทรงตัว แต่เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าขนส่งยังคงพุ่งสูงขึ้น โดยบริษัทกล่าวว่า ไม่สามารถรับความเสียหายนั้นต่อผลกำไรของบริษัทได้อีกต่อไป ทำให้ในปี 2565 นี้ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นทั่วโลกเฉลี่ยประมาณ 9% เพื่อชดเชยการขนส่งและต้นทุนวัตถุดิบที่สำคัญ

“น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่ต้นทุนที่สูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เราจึงจำต้องผลักภาระส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นไปยังลูกค้าของเรา” โทลกา ออนคู ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการค้าปลีกของอิเกีย รีเทล กล่าว

ออนคู กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะทำให้ IKEA มี “ความสามารถในการแข่งขันและความยืดหยุ่น” แต่เสริมว่า “ความสามารถในการจับจ่ายของลูกค้าจะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับเราเสมอ”

ทั้งนี้ IKEA ได้เห็นความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์จัดเก็บ และรายการเกี่ยวกับโฮมออฟฟิศในช่วงการแพร่ระบาด มากจนไม่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้เสมอไป โดยบริษัทกล่าวว่า กำลังพยายามบรรเทาผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากปัญหาซัพพลายเชน เช่น ความล่าช้าในการขนส่งเพื่อจะคงไว้ซึ่งราคาที่เข้าถึงได้สำหรับลูกค้า

Source

]]>
1369271
เกียมหาคนหารเพิ่ม ‘Netflix’ ประกาศอัพราคาแพ็กเกจเพิ่มหลังผู้ใช้เริ่มอิ่มตัว https://positioningmag.com/1303956 Sat, 31 Oct 2020 17:50:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303956 หลังจากตัวเลขการเติบโตในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของ ‘Netflix’ แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยมีผู้สมัครสมาชิกใหม่เพียง 2.2 ล้านราย ซึ่งถือเป็นสัญญาณของจุด ‘อิ่มตัว’ ของจำนวนผู้ใช้ใหม่ ส่งผลให้มีข่าวลือว่าจะมีการ ‘ขึ้นราคา’ แพ็กเกจ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโต

แต่ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง โดย Netflix เตรียมขึ้นราคาแพ็กเกจในสหรัฐอเมริกาจากราคาแผนมาตรฐาน (Standard) เป็น 13.99 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 12.99 ดอลลาร์สหรัฐ และแผนแบบพรีเมียม (Premium) ก็ได้ปรับขึ้นราคาเป็น 17.99 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 15.99 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจากการขึ้นราคาแพ็กเกจส่งผลให้หุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้น 5%

สำหรับราคาใหม่จะมีผลทันทีสำหรับสมาชิกที่สมัครใหม่ ในขณะที่สมาชิกปัจจุบันจะได้รับแจ้งว่าจะมีการปรับราคาค่าสมาชิกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“เราเข้าใจว่าผู้คนมีทางเลือกด้านความบันเทิงมากขึ้นกว่าเดิม แต่เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับสมาชิก โดยเรากำลังอัปเดตราคาเพื่อให้สามารถนำเสนอรายการทีวีและภาพยนตร์ได้หลากหลายมากขึ้น” โฆษกของ Netflix กล่าวในแถลงการณ์

อย่างที่รู้กัน การขึ้นราคาของ Netflix ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนัก เนื่องจาก Netflix ใช้จ่ายเงินหลายพันล้านไปกับคอนเทนต์ ขณะที่การเติบโตของผู้ใช้ใหม่เริ่มอิ่มตัว ดังนั้นนี่เป็นวิธีที่จะเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าอาจส่งผลเสียกับ Netflix มากกว่า เพราะพวกเขาพร้อมจะ ‘ยกเลิก’ บริการ

“เราคิดว่าในปี 2021 การเติบโตของสมาชิกจะยิ่งชะลอตัวลงอย่างมาก ดังนั้น แนวโน้มปีหน้าจะท้าทายมากขึ้นสำหรับ Netflix นอกจากนี้ เราได้ทำการสำรวจตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งและผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่าพวกเขาจะยกเลิก Netflix หรือลดจำนวนเดือนที่สมัคร Netflix หากขึ้นราคาเพิ่มขึ้นเพียง 1-2 ดอลลาร์สหรัฐ”

ทั้งนี้ Netflix ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการขึ้นราคาเเพ็กเกจในประเทศอื่น ๆ อีกหรือไม่

Source

]]>
1303956