คอลเกต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 13 Jun 2022 05:40:57 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 มาม่า เนสกาแฟ ดัชมิลล์ คอลเกต ติดโผ “แบรนด์แห่งทศวรรษ” จัดโดย Kantar https://positioningmag.com/1388496 Mon, 13 Jun 2022 03:19:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388496 รางวัล Brand Footprint Awards 2022 ประเทศไทย ทำการคำนวณจากมาตรวัด Consumer Reach Points (อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค) ซึ่งเป็นวิธีคำนวณเฉพาะของ Kantar ครอบคลุม 570 แบรนด์ FMCG สำหรับประเทศไทย สะท้อนเสียงจากผู้บริโภค 26.2 ล้านครัวเรือน โดยปีนี้มีการมอบรางวัล 4 แบรนด์ในดวงใจผู้บริโภค “มาม่า เนสกาแฟ ดัชมิลล์ คอลเกต” เป็นแบรนด์แห่งทศวรรษ

Brand Footprint Awards 2022 ประเทศไทย โดย Kantar ปีนี้รางวัลจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

  • Brands of The Decade รางวัลแบรนด์แห่งทศวรรษ ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด ต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน
  • Most Chosen Brands รางวัลแบรนด์ยืนหนึ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด
  • Top Growing Brands รางวัลแบรนด์ดาวรุ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตสูงสุด
  • Top Outstanding Brands รางวัลแบรนด์ม้ามืด ที่มีความโดดเด่น
  • Top Outstanding Retailer รางวัลค้าปลีก ที่มีความโดดเด่น

การวัดจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG ได้แก่ กลุ่มอาหาร, กลุ่มเครื่องดื่ม, กลุ่มผลิตภัณฑ์นม, กลุ่มทำความสะอาดบ้าน, กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล และ กลุ่มบิวตี้ รวมไปถึง กลุ่มร้านค้าปลีก ด้วย

Brands of The Decade รางวัลแบรนด์แห่งทศวรรษ

มอบให้กับแบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุดในปี 2021 และต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่มอาหาร – มาม่า อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 172 ล้านครั้ง
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์นม – ดัชมิลล์ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 168 ล้านครั้ง
  • กลุ่มเครื่องดื่ม – เนสกาแฟ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 126 ล้านครั้ง
  • กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล – คอลเกต อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 106 ล้านครั้ง

 

Most Chosen Brands รางวัลแบรนด์ยืนหนึ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด

แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุดในปี 2021 ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่มทำความสะอาดบ้าน – ไฮยีน อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 106 ล้านครั้ง
  • กลุ่มบิวตี้ – การ์นิเย่ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 29 ล้านครั้ง

(ทั้งสองแบรนด์เป็นแชมป์เก่าตั้งแต่ปีก่อนในหมวดสินค้าของตนเอง)

 

Top Growing Brands รางวัลแบรนด์ดาวรุ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตสูงสุด

แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตมากที่สุดในปี 2021 ในแต่ละกลุ่มและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่มเครื่องดื่ม – วิตอะเดย์ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 35 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 12.6 ล้านครั้ง
  • กลุ่มอาหาร – เลย์ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 159 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 10.4 ล้านครั้ง
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์นม – นมตราหมี อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 25 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 6.2 ล้านครั้ง
  • กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล – เทพไทย อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 17 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านครั้ง
  • กลุ่มทำความสะอาดบ้าน – ไฟน์ไลน์ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 53 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านครั้ง
  • กลุ่มบิวตี้ หมวดหมู่สกินแคร์สำหรับใบหน้า – จุฬาเฮิร์บ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 10 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านครั้ง
  • กลุ่มบิวตี้ หมวดหมู่เครื่องสำอางเมกอัพ – Merrezca อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 4.5 แสนครั้ง เพิ่มขึ้น 2.3 แสนครั้ง

(เทพไทย เคยได้รางวัลทั้งกลุ่มแบรนด์ดาวรุ่งและแบรนด์ม้ามืดเมื่อปี 2020 มาแล้ว)

 

Top Outstanding Brands รางวัลแบรนด์ม้ามืด ที่มีความโดดเด่น

รางวัลนี้จะอิงโดยพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้บริโภคในปี 2021 ซึ่ง Kantar มองเห็น 5 เทรนด์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน, การทำอาหารทานเองที่บ้าน, สุขอนามัย, การปรับเปลี่ยนให้เกิดความเรียบง่ายและเลอค่า และการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดในแต่ละหมวด มีดังนี้

  • หมวดหมู่บิสกิตและเค้กรสชาติหวาน – ยูโร่ อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 29 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 5 ล้านครั้ง
  • หมวดหมู่อาหารแช่เย็นและแช่แข็ง – อีซี่โก อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 12 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 8 ล้านครั้ง
  • หมวดหมู่ทำความสะอาดพื้น – มาจิคลีน อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 14 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 1 ล้านครั้ง
  • หมวดหมู่บิวตี้ระดับพรีเมียม – Estee Lauder อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 2.1 แสนครั้ง
  • หมวดหมู่บิวตี้ประเภทเวชสำอาง – Eucerin อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 1 ล้านครั้ง
  • ประเภท E-retailer ค้าปลีกออนไลน์ – 7-eleven Online อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 3 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านครั้ง

แบรนด์แห่งทศวรรษ

สำหรับเทรนด์ FMCG ในประเทศไทยนั้น “โฮวาร์ด ชาง” กรรมการผู้จัดการประเทศไทยและมาเลเซีย Kantar, Worldpanel Division กล่าวว่า กำลังใช้จ่ายต่อครัวเรือนนั้นเริ่มเล็กลงเพราะขนาดครัวเรือนที่เล็กลง อีกทั้งนักช้อปยังลดจำนวนแบรนด์ FMCG ที่เลือกซื้อจาก 25 แบรนด์ เหลือ 22 แบรนด์ต่อครัวเรือน ซึ่งทำให้โอกาสเติบโตของแต่ละแบรนด์ยากขึ้น ยกตัวอย่างในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 2 ใน 50 แบรนด์ระดับโลกที่ยังสามารถเติบโตได้

กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของ FMCG จึงเป็นการหา “นักช้อปหน้าใหม่” ให้เข้ามาเลือกซื้อแบรนด์ตนเองมากขึ้น ซึ่งเกิดจากความเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภคและนำมาดึงดูดให้เกิดการซื้อจริง

งานประกาศรางวัล Brand Footprint Awards 2022 ประเทศไทย มีเวทีเสวนา โดยมีตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ ที่น่าสนใจเข้าร่วมให้ความรู้ เช่น คอลเกต ที่ระบุถึงการเติบโตได้แม้เป็นช่วง COVID-19 เนื่องจากการมุ่งเน้นการขายออนไลน์ และเข้าใจการใช้กลยุทธ์ Personalized ในช่องทางนี้

ขณะที่ทาง Kao เจ้าของแบรนด์ “มาจิคลีน” ระบุถึงการรับมือกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อว่า แบรนด์จะเน้นเรื่องความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ เน้นทำโปรโมชันที่ดึงดูดลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์เพื่อรักษาฐานตลาดเดิมไว้ มากกว่าจะลงไปเล่นสงครามราคา เป็นจุดสำคัญที่บริษัทจะยังรักษาไว้

 

อ่านข่าวเกี่ยวกับสินค้า FMCG ที่น่าสนใจ

]]>
1388496
“คอลเกต” ชวนคนไทย #ยิ้มสู้ ให้กับทุกปัญหา ก้าวข้ามข่าวร้ายไปด้วยกัน https://positioningmag.com/1306434 Tue, 17 Nov 2020 12:00:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306434

เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของการตลาดในยุคนี้ ที่ไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยมากนัก กับภาพโฆษณาแบบบิ๊กไซส์เต็มหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์แบบปังๆ สามารถสร้างการรับรู้ได้อย่างไม่เคยมีแบรนด์ไหนทำมาก่อน

“คอลเกต” ได้สร้างเซอร์ไพร์สครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้นในวงการโฆษณา และการตลาด สร้างเสียงฮือฮาด้วยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 แค่ 1 หน้าใหญ่ก็ว่าปังแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ธรรมดาตรงที่เป็นโฆษณาขนาดไซส์ใหญ่เต็มหน้ากระดาษ จำนวน 5 หน้าแบบเต็มๆ ซึ่งต้องบอกว่าไม่เคยเห็นแบรนด์ไหนทำมาก่อน

ไอเดียของโฆษณาชิ้นนี้ได้ถูกดีไซน์ด้วยการจัดวางเลย์เอาท์ให้อยู่ท่ามกลางข่าวสารบ้านเมือง ซึ่งมีทั้งข่าวดี และข่าวร้ายผสมปนเปกันไป แต่ในปีนี้ค่อนข้างที่จะเอียงไปทางข่าวร้ายเสียมากกว่า เมื่อโลกรอบตัวได้ถูกล้อมรอบด้วยข่าวร้ายๆ ทำให้คนไทยเริ่มเกิดความเครียด วิตกกังวล ไปจนถึงการมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ

โฆษณาชิ้นนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “ยิ้มสู้” ที่ทางคอลเกตได้เปิดตัวมาสักพักใหญ่ เริ่มต้นจากโฆษณาในโทรทัศน์ และออนไลน์ ใจความสำคัญของแคมเปญนี้เพื่อต้องการให้คนไทยยิ้มสู้เผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นชะตาของชีวิต รวมไปถึงหลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่มีแต่ข่าวร้ายรอบๆ ตัว ในครั้งนี้ก็ได้ปรับให้เข้ากับบริบทของสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้น

คอลเกตประเดิมโฆษณาหน้าใหญ่ด้วยพื้นสีแดงสะดุดตา มีเพียงแค่ข้อความประโยคที่ว่า

“เราจะเหลือทางเลือกอะไร ในวันที่ต้องเผชิญแต่ข่าวร้าย”

แม้จะเป็นแค่ประโยคเดียวในหน้านั้น แต่ก็สร้างอิมแพ็คได้มากมายเหลือเกิน เป็นการสะท้อนความจริงของสังคมในยุคนี้ ที่บางคนเผชิญกับเรื่องราวไม่ดีมาในแต่ละวัน เขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง

สิ่งที่คอลเกตต้องการสื่อสารในข้อความนี้ก็คือ ในปี 2563 เป็นปีที่เจอข่าวร้ายมากเป็นพิเศษตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไฟป่า ภัยพิบัติจากโลกร้อน รวมไปถึงโรคระบาดไวรัส COVID-19 ที่เล่นงานไปทั่วโลก จนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกเช่นกัน

แต่คอลเกตเชื่อมั่นในพลังในการมองโลกในแง่ดี พลังที่ช่วยให้เราไม่ชะงักอยู่กับความผิดหวัง การมองโลกในแง่ดีไม่ใช่การบิดเบือน แต่เป็นการยอมรับความจริงอย่างที่เป็น และลงมือทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นไปในทิศทางที่ดีกว่า

การยิ้มสู้กับปัญหา และอุปสรรค เป็นอีกหนึ่งพลังบวกที่ช่วยทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น สามารถใช้ชีวิตต่อไปมั่นคงมากขึ้น

โดยที่คอลเกตได้เปิดตัวแคมเปญยิ้มสู้บนโลกออนไลน์ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นไวรัลกินใจ สร้างความประทับใจอย่างมาก

แคมเปญนี้ได้พูดถึงบุคคล 3 คน ที่มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน เจอสถานการณ์ และโชคชะตาในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ทั้ง 3 คนได้เลือกที่จะยิ้มสู้กับปัญหา แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เริ่มต้นที่ “ป้าเจี๊ยบ” นงลักษณ์ ชัยฤทธิไชย อดีตผู้ป่วยมะเร็ง สู่นักกีฬาลองบอร์ดทีมชาติไทยวัย 63 ปี คลิปวิดีโอนี้สามารถโกยยอดวิวได้ถึง 24 ล้านวิว

ชีวิตของป้าเจี๊ยบถูกมองว่าเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ยอมทำตัวสมวัย ดูเผินๆ ดูเหมือนว่าเป็นคนแก่ที่อยากทำอะไรวัยรุ่น แต่จริงๆ แล้วชีวิตของป้าเจี๊ยบเป็นคนที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ไม่หยุดชีวิตไว้ที่คำว่า “กลัว” แต่สร้างความแตกต่างให้ตัวเอง และมีจิตใจเข้มแข็ง เป็นแรงใจให้คนอื่นยิ้มสู้ไปด้วยกัน

ทางด้านของ “ครูบอลลี่” ธีรพงศ์ มีสัตย์ ครูผู้ใช้การแต่งหน้า ให้การศึกษาสนุก สามารถโกยยอดวิวไปได้ถึง 26 ล้านวิว

ครูบอลลี่เป็นครูที่สร้างความแตกต่างในการสอนนักเรียนด้วยการสร้างความสุขให้นักเรียน ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเข้าใจ การสอนของครูบอลลี่จะประกอบไปด้วยการแต่งหน้า พร้อมกับเทคนิคการสอนแบบเฉพาะตัว สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับนักเรียนของครูอย่างเต็มที่ แต่บุคคลภายนอกกลับเห็นต่างออกไป เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา

แต่ครูบอลลี่ก็เลือกที่จะ “ยิ้มสู้” กับทุกปัญหา ก้าวข้ามพลังลบจากที่ถูกคนอื่นตีตรา ยืนหยัดเข้มแข็งกับสิ่งที่ทำ เป็นครูให้ดีที่สุดในแบบของตัวเองเพื่อนักเรียนของเขา เพราะครูบอลลี่มองว่าสิ่งที่ได้รับจากเด็กมันเป็นความสุข ความสุขของคนเป็นครูคือ เด็กเรียนแล้วเข้าใจ แค่นั้นก็พอแล้ว

สุดท้ายกับ “กรรณิการ์ ศรวิจา” พยาบาลคนแรกของไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่บนวีลแชร์

กรรณิการ์ หรือยิว เป็นพยาบาลที่ก้าวข้ามขีดกำจัดของตัวเอง สามารถดูแลผู้ป่วยได้แม้ตนเองจะอยู่บน “วีลแชร์” ก็ตาม หลายคนดูถูกเธอว่าจะดูแลคนอื่นได้อย่างไร แต่ยิวก็ยิ้มสู้ เพราะเขามองว่า สิ่งที่เธอสูญเสีย มันน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้

จะเห็นได้ว่าชีวิตของทั้ง 3 คนนี้ เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ของคนในสังคมเท่านั้น แต่ก็สะท้อนให้เห็นได้ว่า ไม่ว่าคนเราจะเจอเรื่องราวร้ายดีมากมายขนาดไหน โชคชะตาจะเล่นตลกมากแค่ไหน หรือในปีนี้ หรือปีหน้าจะต้องเจอข่าวร้ายอีกสักเท่าไหร่ แต่เราจะต้อง “ยิ้มสู้” กับปัญหา

ทำให้เราเห็นว่าไม่ว่าเราเจอสถานการณ์อะไร เราก็ต้องยิ้มสู้เหมือนกับ 3 คนนี้ให้ได้ คอลเกตจะเป็นกำลังใจให้คนไทยฟันฝ่าอุปสรรคอันเลวร้ายนี้ไปด้วยกัน

หากใครสนใจที่จะชมเรื่องราว “ยิ้มสู้” ติดตามได้ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เชื่อว่าจะสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้อย่างแน่นอน ซึ่งในโฆษณานี้ได้มี QR Code ให้ได้สแกนเพื่อชมเรื่องราวของทั้ง 3 คนแบบเต็มๆ

]]>
1306434