ซีคอน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 18 Sep 2024 13:27:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ซีคอนสแควร์’ ขอลองเดิมพันกับคอนเซ็ปต์ ‘ห้างสรรพศิลป์คราฟท์’ ใช้ศิลปะดึงทราฟฟิก ในวันที่ค้าปลีกฝั่ง ‘กรุงเทพตะวันออก’ ทวีความระอุ https://positioningmag.com/1490712 Wed, 18 Sep 2024 06:25:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1490712 อย่างที่รู้กันว่าโซน บางนา-ศรีนครินทร์ หรือที่เรียกว่า กรุงเทพตะวันออก ปัจจุบันได้กลายเป็น ทำเลทอง ของค้าปลีก และอสังหาฯ เนื่องจากการเติบโตของ กลุ่มกำลังซื้อสูง โดย ซีคอนสแควร์ (SEACON) หนึ่งในห้างฯ เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์มากว่า 30 ปี ก็ต้องปรับตัวรับกับการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

คู่แข่งรอบด้าน

เป็นเวลา 30 ปีแล้วที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ อยู่คู่ชาวศรีนครินทร์ และชาวกรุงเทพตะวันออก ด้วยพื้นที่กว่า 5 แสน ตร.ม. มีร้านค้ากว่า 500 ร้านค้า และยังถือเป็น ผู้นำ อะไรใหม่ ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการมี โรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์แห่งแรก หรือการมี โลตัส ภายในศูนย์การค้าก็อยู่ในซีคอนที่แรกเช่นกัน รวมถึง โยโย่แลนด์ สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำสถิตินิวไฮด์

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นที่ว่ามาในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่จุดแตกต่าง อีกต่อไป ทั้งการมาของ เมกาบางนา หรืออย่าง เซ็นทรัลบางนา ที่กำลังมีแผนจะรีโนเวตใหม่ ยังไม่รวมอภิมหาโปรเจกต์อย่าง แบงค็อกมอลล์ (Bangkok Mall) ของกลุ่มเดอะมอลล์ ที่ขนาดโครงการมีขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 1 ล้าน ตร.ม. มูลค่าลงทุนร่วม 40,000 ล้านบาท หรือฝั่งทุนจีนอย่าง ซามาเนีย กรุ๊ป ที่กำลังจะเปิด ซามาเนีย พลาซ่า โครงการค้าปลีกส่ง บนถนนบางนา-ตราด กม.26 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ

นอกจากนี้ยังมีอภิโปรเจกต์กับ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) จากเครือซีพี ที่จะเป็นโครงการ อสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ออฟฟิศและโรงแรม พร้อมด้วยโครงการรีเทล แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ (Happitat at The Forestias) เป็นศูนย์รวมรวมร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ 300 ร้านค้า พร้อมแบรนด์แฟชั่นและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ มีพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ที่จะเปิดให้บริการเฟสแรกในเดือน ก.ย.นี้

ใช้ศิลปะสร้างความแตกต่าง

อย่างไรก็ตาม จักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการสายงานสำนักสื่อสารการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า การจะปรับตัวตามการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกมัน ยาก ด้วยข้อจำกัด 5 ด้าน ได้แก่

  • โครงสร้างอาคารที่ยากหากจะปรับเปลี่ยนปรับปรุง
  • ค่าใช้จ่ายที่สูง
  • มีหลายภาคส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่จะสามารถตัดสินใจได้ทันที
  • คู่แข่งเก่ง
  • พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนเเปลงไป

นอกจากนี้ คำว่า ห้างสรรพสินค้า ที่แปลว่า มีทุกอย่าง ซึ่งในยุคนี้ ใคร ๆ ก็มีครบทุกอย่างได้ไม่ต่างกัน ดังนั้น จักรพล จึงต้องลองเสี่ยงกับคอนเซ็ปต์ ห้างสรรพศิลป์คราฟท์ โดยเป็นการรีโนเวตพื้นที่บริเวณฝั่งโรบินสัน ชั้น G, 2 และ 3 รวม 27,000 ตร.ม. จากพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมด 250,000 ตร.ม. หรือที่เรียกพื้นที่นี้ว่า MUNx2 (มันมัน)

จักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการสายงานสำนักสื่อสารการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับโซน MUNx2 เกิดมาได้ 5 ปี แล้ว โดยใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ในการแปลงโฉม โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จักรพล ก็ได้ลองผิดลองถูกจากการนำ Customer Experience มาเป็นตัวตั้ง ทำให้ที่ผ่านมามีการทำคอนเทนต์ตั้งแต่ แนวรักษ์โลก (Organic) ทำพื้นที่ให้ Startup มี Co-Working Space รวมถึงการแสดงงานศิลปะ 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดที่เห็นก็คือ งานศิลปะ ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาโปรเจกต์ MUNx2 ในคอนเซ็ปต์ ห้างสรรพศิลป์คราฟท์ ที่จะเป็นพื้นที่ Non-commercial โดยเปิดให้เป็นตลาดนัดงานอาร์ต แอนด์ คราฟท์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ด้วยการจัดแสดงงานศิลปะหลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกรสนิยมและความชื่นชอบ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงศิลปะได้ง่ายขึ้น และจะมีพื้นที่จัดกิจกรรมพิเศษที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทุกสัปดาห์ โดยแคมเปญแรกที่เปิดตัวคือ 1 วัน 1,000 อาร์ต

“เวอร์ชั่นแรกเราอยากให้เป็นคอมมูนิตี้ เป็นชุมชนที่คนชอบอะไรเหมือน ๆ กันมารวมกัน จนเรามาพบว่า กลุ่มศิลปะมีช่องว่างอยู่ เรียกว่าขาดแทบทั้งอีโคซิสเต็มส์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน พื้นที่แสดงออก ในมุมของผู้เสพก็มีหลากหลาย เราเลยอยากเป็น MUNx2 Arts Destination” 

ไม่ได้หวังเรื่องรายได้ ขอแค่ดึงคนเข้าห้างฯ

จักรพล ย้ำว่า ต้องการพัฒนาพื้นที่ MUNx2 ให้เป็น จุดขาย ที่แตกต่างจากคู่แข่งในย่าน ดังนั้น จะเป็นเหมือนพื้นที่ทางการตลาด ดังนั้น จึงไม่ได้โฟกัสที่การสร้างรายได้ แต่อยากให้มีลูกค้าเข้ามาที่ห้างฯ เพื่อมา จับจ่ายในพื้นที่ที่เหลือ ของซีคอน

“เราไม่อยากเปิดร้านให้เช่า เพราะถ้ามาแนวคิดมันจะอีกแบบ ดังนั้น โจทย์ที่เราตั้งแต่แรกคือ ต้องไม่ใช่พื้นที่ Commercial เพราะถ้าเราทำแบบเดิม ผลลัพธ์ก็จะเป็นแบบเดิม คนมองว่าดูเป็นการกุศล แต่เรามองว่ามันคือทางเลือกที่แตกต่าง ไม่มีใครทำ ดังนั้น จะล้มเหลวหรือดีก็ต้องลอง”

เบื้องต้น จักรพล ต้องการจะดึงคนในพื้นที่รัศมี 10 กิโลเมตร และคนที่มี กำลังซื้อ ซึ่งหลังจากที่เดินหน้าคอนเซ็ปต์ห้างสรรพศิลป์คราฟท์พบว่า 50% ของลูกค้าที่มา เป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมาซีคอน และส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Z ตอนปลาย และ Gen Y ตอนต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซีคอนต้องการเพิ่ม เพราะที่ผ่านมา ลูกค้าซีคอนส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม ครอบครัว

“ตอนนี้ลูกค้ามีความซับซ้อนขึ้น เราดูเรื่องพฤติกรรม และรสนิยมเป็นหลัก พอดูรวม ๆ คล้าย ๆ อยู่ในกลางเมือง เพราะแถวนี้กำลังซื้อสูง แต่การจะเข้าเมืองเป็นภาระเป็นอุปสรรค ดังนั้น จะทำยังไงให้เขามาหาเรา และจะดึงการกระจุกตัวในเมืองเข้ามาซีคอนได้ไหม นี่คือโจทย์”

ยั่งยืนไหมไม่รู้ แต่ตอนนี้ได้รับความนิยม

อย่างไรก็ตาม จักรพล ยอมรับว่า ไม่รู้ว่าการหยิบศิลปะมาเป็นตัวชูโรงจะ ยั่งยืนไหม แต่ปัจจุบันคนสนใจงานศิลปะมากขึ้น งานศิลปะเองก็เริ่มแมสมากขึ้น จับต้องง่ายขึ้นอย่างเช่น อาร์ตทอย แต่ในวันหนึ่งซีคอนก็ต้องตามไปกับเทรนด์โลก

“สิ่งที่ยืนยันในปัจจุบันนี้ คือ เราเห็นงานศิลปะเยอะขึ้น ทั้งแกลลอรี่ สตรีทอาร์ต อาร์ตทอย ซึ่งมันยังมีช่องว่าง ซึ่งเราอยากช่วยให้วงการนี้มันแมสมากขึ้น ก็เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน” 

จักรพล ทิ้งท้ายว่า คอนเซ็ปต์ห้างสรรพศิลป์คราฟท์ จะไม่ได้มาแทนที่ความเป็นห้างสรรพสินค้า ของซีคอนสแควร์ แต่จะเป็นภาพจำคู่ขนานกันไป ซึ่งในส่วนของพื้นที่ MUNx2 จะมีทีมแยกออกมาดูแล แยกจากซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ ตอนนี้มีทีมดูแล 60 คน 

“ความเป็นห้างฯ ครบจบที่เดียวทุกคนมีหมด แต่จะแตกต่างอย่างไรที่คนจะชอบ เพราะสุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าคนไปทุกห้างฯ แต่จะทำยังไงให้คนมาบ่อย ได้ประสบการณ์แปลก ๆ แต่ภาพของความเป็นซีคอนเดิมก็ต้องไม่เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น เราเลยต้องแยกออกมา”

สำหรับพื้นที่ห้างสรรพศิลป์คราฟท์จะแบ่งออกเป็น 3 คอนเซ็ปต์หลัก ได้แก่

  • Event Ground: ชั้น 1 เป็นพื้นที่กลางสำหรับจัดงานกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีสไตล์ ได้รับความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดงานระดับประเทศ อาทิ งาน CHEEZE FLEA SPIRIT MARKET ร่วมมือกับ Cheeze Magazine
  • MMAD – MunMun Art Destination: ชั้น 2 และ ชั้น 3 เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายเพื่อตอบสนองทุกรสนิยมและความชื่นชอบ โดยได้เชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและภาคสังคม ประกอบด้วย 12 ภาคีศิลปะ อาทิ BACC pop.up, HOP – Hub of Photography, MMAD MASS Gallery, Palette Artspace, Street Star, L.O.F, BACC รวมไปถึงห้องสมุดด้านศิลปะจาก TCDC COMMONS
  • MunMun Kitchen Club – Food & Coffee Community: ชั้น 3 ชุมชนของคนรักการทำอาหาร แหล่งความรู้ สร้างประสบการณ์และลงมือทำอย่างแท้จริง กับ Creative Food & Coffee Space ที่ตอบรับทุกกิจกรรมการทำอาหาร และกาแฟ ในทุกมิติ อาทิ ศูนย์ความรู้ และห้องสมุดด้านอาหาร จาก TCDC COMMONS: Creative Food, Service Kitchen ที่มีให้คุณเลือกถึง 3 ขนาด ทั้ง Kitchen Lab, Baker Lab และ Kitchen Studio รวมถึง Coffee Community ที่มีทั้งโรงเรียนด้านกาแฟระดับโลกอย่าง Espresso Academy และโรงคั่วกาแฟกลางห้างจาก Nana Coffee Roaster
]]>
1490712
“ซีคอน” หันมารับโปรเจ็กต์ก่อสร้าง “หมู่บ้านจัดสรร” ดันยอดขายไตรมาส 1/2567 โต 15% https://positioningmag.com/1470879 Wed, 24 Apr 2024 07:44:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470879
  • บริษัทรับสร้างบ้าน “ซีคอน” เปิดไตรมาสแรกปี 2567 กวาดยอดขาย 570 ล้านบาท เติบโต 15% อานิสงส์รับโปรเจ็กต์ก่อสร้าง “หมู่บ้านจัดสรร” ให้ดีเวลอปเปอร์อสังหาฯ 2 รายคือ “สิงห์ เอสเตท” และ “เนอวานา”
  • แผนการตลาดกับลูกค้าบุคคลปีนี้ลงทุน “มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง” หยิบเพลง “LIVE and LEARN” มาโปรดิวซ์และขับร้องใหม่ผ่านฝีมือ “บอย โกสิยพงษ์” และ “ปั่นไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ประกอบโฆษณาครบรอบ 63 ปีซีคอน
  • “มนู ตระกูลวัฒนกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 ของบริษัท กวาดยอดขายไปแล้ว 570 ล้านบาท เติบโต 15% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

    ปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทเติบโตได้ดี เกิดจากการรับงานรับเหมาก่อสร้างให้กับบริษัทผู้พัฒนาจัดสรรเสริมเข้ามา จากเดิมธุรกิจหลักคือการรับสร้างบ้านบนที่ดินส่วนตัวรายบุคคล ซึ่งปีนี้บริษัทได้เซ็นสัญญาก่อสร้างแล้ว 2 โครงการ คือ “เนอวานา คอลเล็กชัน กรุงเทพกรีฑา” บ้านระดับอัลตราลักชัวรีราคา 70-150 ล้านบาทของ บมจ.เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ และ “SHAWN วงแหวน-จตุโชติ” บ้านระดับไฮเอนด์ราคา 20-30 ล้านบาทของ บมจ.สิงห์ เอสเตท

    “มนู ตระกูลวัฒนกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด

    “ตอนนี้ปัญหาของภาคอสังหาฯ คือขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง ทำให้เราเข้าไปเป็นตัวเลือกในการจ้างงาน” มนูกล่าว โดยนอกจากซีคอนจะมีแรงงานแล้ว ยังมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนเสา-คานกึ่งสำเร็จรูปของตนเอง 2 แห่งที่อ่อนนุชและลำลูกกา มีกำลังผลิตรวมสูงสุดเทียบเท่าการผลิตบ้านได้ 1,000 หลังต่อปี ซีคอนจึงสามารถตอบโจทย์ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบพรีคาสท์ช่วยสร้างบ้านให้กับลูกค้ากลุ่มบริษัทพัฒนาจัดสรรได้

    มูลค่าของโครงการรับเหมาก่อสร้างให้หมู่บ้านจัดสรรที่เซ็นดีลแล้วรวมกว่า 300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15% ของเป้ายอดขายรวมปี 2567 ที่ซีคอนตั้งไว้ 2,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มนูระบุว่าบริษัทยังเจรจากับบริษัทอื่นๆ ต่อเนื่องเพราะศักยภาพยังสามารถรับลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มได้

     

    ปัจจัยลบ ‘ข่าว’ เศรษฐกิจฝืดทำมู้ดผู้บริโภคหด

    หากมองในกลุ่มลูกค้าหลักคือบุคคลธรรมดาที่จ้างสร้างบ้านบนที่ดินส่วนตัว มนูมองว่าปีนี้ตลาดน่าจะโตแค่ 3-5% ซึ่งปัจจัยลบมาจาก ‘ข่าว’ เศรษฐกิจฝืดที่แพร่สะพัดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน ทำให้ลูกค้าไม่มี ‘sentiment’ หรืออารมณ์ความรู้สึกมั่นใจที่จะสั่งสร้างบ้าน

    “คนไทยเราอยู่ด้วย ‘ข่าว’ ค่อนข้างมาก เช่น ถ้ามีข่าวสงครามเกิดขึ้นที่ไหนแม้จะห่างไกลกับเรา แต่ยอดขายบริษัทผมจะตกทันที” มนูกล่าว “อย่างเรื่องเศรษฐกิจผมคิดว่ามันไม่ได้ไม่ดีไปทุกภาคธุรกิจ ธุรกิจท่องเที่ยวตอนนี้ก็ดีมาก ธุรกิจส่งออกก็เริ่มดีขึ้น แต่เพราะภาพรวมข่าวบอกว่าเศรษฐกิจแย่ มันก็ทำให้ sentiment ในตลาดไม่ดีไปด้วย”

    ซีคอน
    ตัวอย่างบ้านจริงที่ซีคอนก่อสร้าง (แบบบ้าน Loft 372)

    เมื่อถามถึงมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในส่วนธุรกิจรับสร้างบ้านมีมาตรการสนับสนุนคือ ลูกค้าสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 – 31 ธันวาคม 2568 มนูมองว่าที่ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์ยังไม่เห็นผลชัดเจนต่อการตัดสินใจของลูกค้า แต่อาจจะต้องรออีกสักระยะในการประชาสัมพันธ์

     

    “มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง” ตอกย้ำการรับรู้แบรนด์

    ด้านการทำการตลาดของ “ซีคอน” ในปีนี้ มีการนำกลยุทธ์ มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง มาใช้งาน ด้วยความร่วมมือกับ “บอย โกสิยพงษ์” โปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง นำเพลง “LIVE and LEARN” มา rearrange ใหม่ในสไตล์ดนตรี Drum and Bass ที่ให้ความทันสมัยมากขึ้น และได้รับเกียรติจาก “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” นักร้องในตำนาน กับ “กลม เดอะวอยซ์” (อรวี พินิจสารภิรมย์) นักร้องคนรุ่นใหม่ มาร่วมกันขับร้องเพลงเวอร์ชันใหม่นี้ ประกอบ MV โฆษณาถ่ายทอดชีวิตของคนในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น

    โฆษณาและเพลงนี้ต้องการจะสื่อสารแบรนด์ซีคอน ที่เป็นธุรกิจรับสร้างบ้านอายุยาวนาน 63 ปี ก่อตั้งโดย “วิชัย ซอโสตถิกุล” และปัจจุบันส่งไม้ต่อจนมาถึงผู้บริหารรุ่นที่ 3 คือ “ไปรเทพ ซอโสตถิกุล” และ “มนู ตระกูลวัฒนกิจ” ที่สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการรับสร้างบ้านต่อเนื่องกันมานาน 6 ทศวรรษ

    ]]>
    1470879
    WFH-เรียนออนไลน์ ส่งผลธุรกิจ “รับสร้างบ้าน” โตพุ่ง 65% คนต้องการบ้านใหม่ใหญ่กว่าเดิม https://positioningmag.com/1371822 Wed, 26 Jan 2022 11:25:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1371822 “ซีคอน” ฉายภาพธุรกิจ “รับสร้างบ้าน” ปี 2564 ทั้งตลาดโตแรง 65% มูลค่าแตะ 20,000 ล้าน จากการ “ล็อกดาวน์” ทำให้สมาชิกครอบครัวอยู่บ้านพร้อมกัน ต้องการพื้นที่มากขึ้น บ้านหลังใหญ่เป็นที่นิยม ขณะที่สไตล์บ้านมินิมอลมาแรงจากรสนิยมคนรุ่นใหม่ ด้านธุรกิจรับสร้างบ้านตามแบบส่วนตัว “ซีคอนไอดี” อนาคตสดใส คนต้องการมีบ้านที่เป็นเอกลักษณ์

    ท่ามกลางวิกฤต มีธุรกิจที่ได้โอกาส ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจ “รับสร้างบ้าน” แม้จะสะดุดบ้างเมื่อปี 2563 แต่กลับมาฟื้นแรงในปี 2564 เพราะคนต้องการต่อเติมบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม

    “มนู ตระกูลวัฒนะกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านเมื่อปี 2563 ปีแรกที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 มีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ลดลงราว -5% จากปีก่อนหน้า แต่เข้าปี 2564 ตลาดกลับมาโตแรงกว่า 65% มูลค่าขึ้นไปแตะ 20,000 ล้านบาท

    “มนู ตระกูลวัฒนะกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด

    เหตุผลจากการล็อกดาวน์ทำให้สมาชิกครอบครัวอยู่บ้านพร้อมหน้ากัน พ่อแม่ทำงานจากบ้าน ลูกๆ เรียนออนไลน์ บางบ้านเป็นครอบครัวขยาย มีปู่ย่าตายายอาศัยอยู่ด้วย ทำให้พื้นที่ในบ้านไม่เพียงพอในการอยู่ร่วมกันทั้งวัน นำมาสู่การตัดสินใจต่อเติมบ้าน หรือสั่งสร้างบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเมื่อปีก่อน

    หากวัดเฉพาะบริษัทซีคอนเอง พบว่า บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ขึ้นไป ราคามากกว่า 7 ล้านบาท เติบโตถึง 85% ขณะที่การสั่งสร้างบ้านหลังเล็ก พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 200 ตร.ม. ลดลงมาก จนทำให้สัดส่วนบ้านใหญ่กลายเป็นสัดส่วนหลัก รายละเอียด ดังนี้

    • บ้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ขึ้นไป สัดส่วน 55%
    • บ้านขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอย 200-350 ตร.ม. ขึ้นไป สัดส่วน 32%
    • บ้านขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 200 ตร.ม. สัดส่วน 13%

    ซีคอนยังพบอีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือ “แบบบ้าน” นิยมสั่งสร้างสไตล์ “มินิมอล” มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจ้าของบ้านปัจจุบันเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น และคนรุ่นใหม่เติบโตเร็วในสายอาชีพ ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่อายุไม่เกิน 50 ปี รวมถึงมีกลุ่มนักลงทุน ‘รวยเร็ว’ จากตลาดคริปโตและตลาดหุ้น ซึ่งรสนิยมคนกลุ่มนี้จะเป็นแบบมินิมอล และแบบใหม่ๆ ที่ดูทันสมัย ทำให้ปีนี้ซีคอนมีการพัฒนาแบบบ้านสไตล์ “อะวองต์-การ์ด” มาให้เลือกด้วย

    เทรนด์บ้านสไตล์มินิมอลกำลังมาแรง

     

    ซีคอน ตั้งเป้าโต 30% ลุยธุรกิจสร้างตามแบบของลูกค้า

    สำหรับบริษัทซีคอน เมื่อปี 2564 ทำรายได้ไป 1,880 ล้านบาท เติบโต 26% ส่วนปี 2565 นี้ตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท เติบโต 30%

    เชื่อว่าน่าจะได้ตามเป้าเพราะเศรษฐกิจน่าจะเริ่มดีขึ้น และซีคอนมีกลยุทธ์การบุกหัวเมืองต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ อ.หัวหิน ซึ่งจะทำให้ได้ลูกค้ามากขึ้น รวมถึงมีธุรกิจ “ซีคอนไอดี” ที่กำลังมาแรงในพอร์ต

    ซีคอนไอดี เป็นบริการใหม่ของบริษัทที่เปิดเมื่อไตรมาส 2/2564 โดยบริการสร้างบ้านให้ตามแบบบ้านที่ลูกค้ามีดีไซน์มาเอง หรือรับปรึกษาทำแบบบ้านให้จากไอเดียความต้องการของลูกค้า จะต่างจากบริการปกติที่ซีคอนมีแบบบ้านสำเร็จรูปไว้ให้เลือก ลูกค้าสามารถปรับแต่งได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะยังไม่ถูกใจมากพอ

    รับสร้างบ้าน ซีคอน

    “สุรเชษฐ์ สายนุช” ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า ซีคอนไอดีเป็นที่นิยมมาก ปีก่อนทำรายได้ไป 180 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าที่ 500 ล้านบาท โตเกินเท่าตัว

    สาเหตุความนิยมมาจากความต้องการลูกค้ายุคนี้ต้องการบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองจริงๆ จึงนิยมจ้างสถาปนิกร่างแบบบ้านที่เป็นคอนเซ็ปต์ส่วนตัวและนำมาสั่งสร้าง มากกว่าการใช้แบบบ้านทั่วไป

    แม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายเล็กที่สร้างบ้านจำนวนน้อยหลังก็สนใจสั่งสร้างกับซีคอนไอดี เห็นเทรนด์นี้แล้วใน อ.หัวหิน ซึ่งมีการสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศมาก

    ปีนี้จะมีการโฆษณาธุรกิจซีคอนไอดีให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ซีคอนเข้าไปบุกตั้งแต่ปี 2562 ใช้กลยุทธ์การตลาดที่ไม่ ‘hard sale’ เช่น การเปิดรายการให้ความรู้เรื่องบ้าน “สุมหัวเรื่องบ้านๆ” ในแอปฯ Clubhouse พร้อมไลฟ์ผ่าน YouTube และ Facebook ซึ่งช่องทางออนไลน์นั้นสร้างยอดขายให้บริษัทแล้วกว่า 30%

    ]]>
    1371822