ซีอีโอ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 07 Feb 2025 07:18:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดภารกิจ ซีอีโอคนใหม่ OR กับความท้าทายเร่งฟื้นความเชื่อมั่น https://positioningmag.com/1509925 Fri, 07 Feb 2025 07:03:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1509925 “ตอน OR เข้า IPO ราคาหุ้น 30 กว่าบาท แต่ทำไมเรายิ่งพัฒนา หุ้นยิ่งตก และลดมากกว่า SET อีก นั่นหมายความว่า เขาไม่มั่นใจเรา ผมมีหน้าที่ทำให้ทุกคนในองค์กรมีเป้าหมายร่วมกัน ทำงานร่วมกันเพื่อให้คนภายนอกเชื่อมั่นและไว้วางใจ OR มากขึ้น ซึ่งท้าทายดี ถ้าจะให้กลับไปเหมือนเดิม”

 

‘ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่’ เล่าถึงภารกิจสำคัญเมื่อต้องมาดำรงตำแหน่ง ‘ประธานเจ้านหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR’ โดยเป้าหมายดังกล่าว จะต้องบรรลุให้ได้ภายในระยะเวลา 2 ปีกว่า ตามวาระที่เขาจะดำรงตำแหน่งนี้

 

แล้วจะเรียกความเชื่อมั่นและสร้างการเติบโตให้ OR ได้อย่างไร ?

 

ม.ล.ปีกทอง บอกว่า วิสัยทัศน์ของ OR ยังคงเดิม คือ ‘เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน’ โดยจะเน้นกลยุทธ์ธุรกิจไปที่ 3 แกนหลัก ได้แก่ Seamless Mobility- All Lifestyles- Global Market

1.Seamless Mobility – OR จะเป็นพาร์ทเนอร์ในการเดินทางของทุกคน (Mobility Partner) ด้วยการเน้นความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมัน ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station ที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศไทย โดยจะนำ Data Analytic มาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ

 

เป้าหมาย เพื่อดึงมาร์เก็ตแชร์ของธุรกิจน้ำมันที่ตกไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ให้กลับมาอยู่ที่ 38% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35-36 %

 

2. All Lifestyles – การสร้างให้ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ในกลุ่ม Non-oil ทำหน้าที่เป็น ‘แม่เหล็ก’ สำหรับเพิ่มทราฟฟิกและมาร์เก็ตแชร์ให้กับธุรกิจหลักของ OR นั่นคือ ธุรกิจน้ำมัน

 

-การปรับปรุงประสบการณ์ในร้าน Cafe Amazon ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งวางสินค้าที่ต้องทำให้ shelf life สั้นที่สุด เพื่อให้พื้นที่มีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

-การลงทุนใน OR Space ที่วางคอนเซ็ปต์รองรับการเปลี่ยนผ่านจากการใช้รถยนต์น้ำมันสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าของผู้คน โดยพยายามพัฒนาให้ OR Space เป็นพื้นที่น่าสนใจ และการลงทุน 30-40% ใน OR Space จะต้องเป็นโปรดักต์ของ OR

 

-การขยาย EV Station PluZ ซึ่งทางซีอีโอคนใหม่ของ OR มองเป็นโอกาสให้คนใช้เวลาภายในศูนย์บริการมากขึ้น เพราะเดิมการเติมน้ำมันจะใช้เวลา 5 นาที ขณะที่การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลา 30 นาที

 

“ธุรกิจน้ำมัน margin ไม่เยอะ ความหวังของเราจึงอยู่ที่ Non-oil ในกลุ่มไลฟ์สไตล์เพราะมี Profit Margin สูง 25-30% ทำอย่างไรในการพัฒนาให้ธุรกิจนี้เป็นแม่เหล็กดึงทราฟฟิกเข้ามาในสเตชั่น เพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ ขณะเดียวกันก็มีความร่วมมือชัดเจนกันใน ecosystem เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและบริการที่ดีให้กับลูกค้า”

3.Global Market – การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เพื่อให้ OR เติบโตได้มากกว่าเดิม โดยการโต ‘นอกประเทศ’ จะเป็นเอาความสำเร็จของ OR และใช้ไทยเป็น ‘ฮับเพื่อส่งออก’ ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ  เบื้องต้นโฟกัสการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ ‘กัมพูชา’ เนื่องจากมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และธุรกิจมีการสอดคล้องกัน

 

โดยทั้ง 3 แกน จะมี Digitization เป็นตัวเชื่อมของทุกสิ่ง เพื่อมาปรับกระบวนการทำงานให้ระบบต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการใช้ Data analytic ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจ oil และ Non-oil เพื่อเข้ามามีส่วนสำคัญในการหาโอกาสในการลงทุนและสร้างความสมดุลทั้งระบบ

]]>
1509925
ความเห็น ‘ซีอีโอ’ 45 กลุ่มอุตฯ หนุนรัฐเปิดประเทศปลายปี พักหนี้-หยุดดอกธุรกิจท่องเที่ยว https://positioningmag.com/1354224 Thu, 30 Sep 2021 07:45:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1354224 เปิดผลสำรวจความเห็นซีอีโอกว่า 150 คนจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 ...จังหวัด ส่วนใหญ่กว่า 78% หนุนรัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์เเละเปิดประเทศ .. – ..นี้ รับต่างชาติเเบบให้อยู่ในพื้นที่ Sandbox 14 วัน หากไม่พบเชื้อหลังจากนั้น สามารถเดินทางไปทั่วประเทศได้ โดยต้องเร่งฉีดวัคซีน 2 เข็มให้ประชาชนไม่ต่ำกว่า 70%

วันนี้ (30 ..64 )สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส... เผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 10 ในหัวข้อภาคอุตสาหกรรมพร้อมเปิดประเทศแล้วหรือยัง?”

พบว่าผู้บริหาร ส... ส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ในช่วงเดือนตุลาคมพฤศจิกายนนี้ โดยขอให้ภาครัฐดำเนินนโยบายที่มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้น และบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้

สำหรับข้อเสนอสำคัญ คือ ภาครัฐต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการพักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ภาคเอกชน ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวเพื่อให้ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิงเปิดให้บริการได้ 

พร้อมแนะภาคเอกชนเร่งปรับ Business Model ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงหลังโควิด-19

จากการสำรวจผู้บริหาร ส... (CEO Survey) จำนวน 150 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 10 จำนวน 7 คำถาม ได้ดังนี้

ท่านเห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในช่วงเดือนตุลาคมพฤศจิกายนนี้หรือไม่

เห็นด้วย 78.0%
ไม่เห็นด้วย 22.0%

ปัจจัยใดที่ต้องนำมาพิจารณาในการเปิดประเทศ

อันดับที่ 1 : อัตราการฉีดวัคซีน 2 เข็มให้แก่ประชาชนไม่ต่ำกว่า 70% 86.0%
อันดับที่ 2 : มาตรการคัดกรอง ตรวจติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศ 66.7%
อันดับที่ 3 : ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน 62.7%
อันดับที่ 4 : ความพร้อมด้านระบบสาธารณสุขในการรองรับผู้ติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ 59.3%

Photo : Shutterstock

ภาครัฐควรดำเนินนโยบายการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 และดูแลเศรษฐกิจอย่างไร

อันดับที่ 1 : ผ่อนคลายภาคธุรกิจและบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็น 73.3%
อันดับที่ 2 : เข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคทุกช่องทาง 14.0%
อันดับที่ 3 : เร่งเปิดประเทศ โดยให้ความสำคัญด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นสำคัญ 12.7%

แนวทางการเปิดประเทศแบบใดที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

อันดับที่ 1 : เปิดให้อยู่ในพื้นที่ Sandbox 14 วัน หากไม่พบเชื้อหลัง 14 วันสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ 44.7%
อันดับที่ 2 : เปิดให้เดินทางได้ทั่วประเทศในรูปแบบการจับคู่ระหว่างประเทศ (Travel Bubble) โดยไม่ต้องกักตัว 26.0%
อันดับที่ 3 : เปิดเฉพาะพื้นที่ Sandbox เท่านั้น ห้ามออกนอกพื้นที่ 16.7%
อันดับที่ 4 : เปิดให้เดินทางได้ทั่วประเทศ แต่ต้องผ่านการกักตัวในสถานที่กักตัว 14 วัน 12.6%

การเตรียมความพร้อมเปิดประเทศรัฐควรให้ความสำคัญในเรื่องใด

อันดับที่ 1 : การเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ Sandbox 70.0%
อันดับที่ 2 : การสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน 69.3%
อันดับที่ 3 : ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีในการติดตามและเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศ 67.3%
อันดับที่ 4 : ความพร้อมในการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR และการจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit 63.3%

หลังเปิดประเทศรัฐควรมีการส่งเสริมอย่างไร

อันดับที่ 1 : พักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ย สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นระยะเวลา 6 เดือน 76.0%
อันดับที่ 2 : ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว และผ่อนผันให้ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิงเปิดให้บริการได้ 74.0% อันดับที่ 3 : ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการจัดงาน Exhibition และการประชุมในประเทศ 54.0%
อันดับที่ 4 : ลดค่าน้ำ ค่าไฟ อุดหนุนค่าเช่า ให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง 50.7%

ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศอย่างไร

อันดับที่ 1 : ปรับ Business Model ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง 73.3%
อันดับที่ 2 : นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ 71.3%
อันดับที่ 3 : พัฒนาสินค้าและบริการที่ให้ความสำคัญด้านสุขอนามัย และการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค 66.0%
อันดับที่ 4 : ปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยง 57.3%

 

]]>
1354224
ช่วงวิกฤตโรคระบาด บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เลือก “ผู้หญิง” เป็น CEO แค่ 3% https://positioningmag.com/1307259 Mon, 23 Nov 2020 13:09:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307259 วิกฤตโรคระบาด กระทบโครงสร้างเเรงงาน ส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศมากขึ้น ในช่วง COVID-19 บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เลือกผู้ชายขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอมากกว่าผู้หญิง โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า มีผู้หญิงเพียง 3% ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น CEO ในบริษัทระดับโลก

Heidrick & Struggles บริษัทจัดหางานระดับผู้บริหารที่ร่วมงานกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เปิดเผยผลวิเคราะห์การจ้างงานที่น่าสนใจในช่วงวิกฤต COVID-19 ตั้งเเต่เดือนมี..ที่ผ่านมา ระบุว่า มีการจ้างงานผู้หญิงเข้าไปดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ “CEOในบริษัทชั้นนำเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งผลการศึกษานี้ไม่ได้พิจารณาปัจจัยด้านเชื้อชาติเเละชาติพันธุ์

ผู้หญิงและกลุ่มที่ด้อยโอกาสอื่น ๆ มีความเสียเปรียบในการเเข่งขันด้านอาชีพและเสี่ยงต่อการว่างงานมากกว่าผู้ชาย ในช่วงการแพร่ระบาด เนื่องจากผู้หญิงทำงานในอุตสาหกรรมหรือสายงานที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่า อย่างงานในภาคการท่องเที่ยวเเละบริการ

ขณะเดียวกัน ผู้หญิงจำนวนมากต้องเป็นฝ่ายที่ต้องลาออกจากงานในสัดส่วนที่มากกว่าผู้ชาย เพื่อไปทำหน้าที่ดูแลลูกที่อยู่ที่บ้าน ในช่วงล็อกดาวน์ที่ลูกยังไม่สามารถไปโรงเรียนหรือนำไปฝากเลี้ยงตามสถานดูแลเด็กได้

รายงานชิ้นนี้ ระบุถึงสาเหตุที่บริษัทส่วนใหญ่เลือกผู้ชายเข้าไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหารระดับสูงในช่วงวิกฤตว่า อาจเป็นเพราะสถานะของผู้ชายที่มีความพร้อมรับงานในฐานะผู้นำบริษัทมากกว่า

ข้อมูลของ Heidrick & Struggles ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงยังมีสัดส่วนขึ้นเป็นผู้บริหารระดับ CEO น้อยกว่าผู้ชายในอัตราค่อนข้างสูง เมื่อย้อนกลับไปดูในช่วงวิกฤตเเฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2008 บริษัทต่างๆ ก็เลือกผู้ชายเข้าไปทำหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงมากกว่า เเต่หลังจากนั้นผู้หญิงก็เริ่มมีเเนวโน้มได้ขึ้นเป็นผู้บริหารมากขึ้น จนกระทั่งมาเจอวิกฤต COVID-19

ก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเเรงงานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า ผู้หญิงชาวอเมริกันต้อง “ออกจากงาน” มากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า โดยมีผู้หญิงต้องออกจากงาน 617,000 คน ครึ่งหนึ่งอยู่ในช่วงอายุ 35-44 ปี ขณะที่มีผู้ชายออกจากงานเพียง 78,000 คน

เเม้ตอนนี้อัตราการว่างงานสหรัฐฯ จะลดลงเเล้วหลังคลายล็อกดาวน์ เเต่อัตราว่างงานของผู้หญิงทั้งประเทศอยู่ที่ 8% โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีเเละผู้หญิง Hispanic American (คนอเมริกันเชื้อสายเปอร์โตริโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ยิ่งมีอัตราว่างงานเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก

โดยปัญหาใหญ่ที่ตามมาในระบบโครงสร้างเเรงงาน คือ เเม้สถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลายมากขึ้น เเต่ผู้หญิงจำนวนมากที่ออกมาดูเเลบ้าน ไม่สามารถกลับเข้าไปสู่ “ตลาดเเรงงาน” อีกครั้งได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่น่าเป็นห่วงอย่างพ่อเเม่ “เลี้ยงเดี่ยว” ที่ต้องเเบกภาระค่าใช้จ่ายสูง เเละจะต้องดิ้นรนในภาวะเศรษฐกิจย่ำเเย่

 

ที่มา : Bloomberg

]]>
1307259