ทดลอง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 20 Apr 2021 12:46:15 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 มีภูมิจริงหรือไม่? “อังกฤษ” เริ่มทดลองการ “ติดเชื้อซ้ำ” ของอดีตผู้ป่วย COVID-19 https://positioningmag.com/1328471 Tue, 20 Apr 2021 11:56:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328471 อีกหนึ่งคำถามสำคัญของโรค COVID-19 คือ คนที่เคยผ่านการติดเชื้อมาแล้ว จะมีภูมิคุ้มกันและไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกจริงหรือไม่ ทำให้นักวิจัยอังกฤษทำการทดลองนำเชื้อเข้าสู่มนุษย์ (Human Challenge Study) นำคนที่หายป่วยแต่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนมาลองรับเชื้อไวรัสโคโรนาอีกครั้ง

โครงการวิจัยของมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2021 เพื่อหาคำตอบว่า “คนเราสามารถติดเชื้อโรค COVID-19 ซ้ำอีกได้หรือไม่”

โดยงานวิจัยครั้งนี้เป็นการทดลองแบบนำเชื้อเข้าสู่มนุษย์ (Human Challenge Study) มีอาสาสมัครวัยหนุ่มสาวอายุ 18-30 ปี จำนวน 64 คน ซึ่งเคยติดเชื้อโรค COVID-19 มาก่อน แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน

คนกลุ่มนี้จะถูกนำมารับเชื้อไวรัสโคโรนาอีกครั้งหนึ่ง และกักตัวไว้ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Oxford อย่างน้อย 17 วัน เพื่อให้นักวิจัยศึกษาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

 

มีภูมิคุ้มกันแต่อาจจะไม่ 100%

ก่อนหน้านี้ วงการแพทย์มองว่าผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อมาแล้วจะไม่กลับมาเป็นโรคซ้ำอีก เพราะร่างกายจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา แต่ระยะหลังเริ่มมีตัวอย่างของคนที่เคยเป็นโรค COVID-19 แล้วกลับมาเป็นอีกได้

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาแบบเฝ้าสังเกตการณ์ ตีพิมพ์ในวารสาร Lancet เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้วิจัยเฝ้าสังเกตค่ายทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีคนหนุ่มสาวฝึกทหารอยู่ 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายวัย 18-20 ปี

Photo : Shutterstock

จากการเฝ้าสังเกต 6 สัปดาห์ พบว่า พลทหารที่เคยเป็นโรค COVID-19 มีการกลับมาเป็นซ้ำในอัตรา 10% แต่เทียบกับพลทหารที่ไม่เคยเป็นโรค COVID-19 มีอัตราการติดเชื้อ 50% เท่ากับว่า ผู้ที่เคยเป็นโรค COVID-19 แล้วยังมีโอกาสติดเชื้อซ้ำ แต่จะน้อยกว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อเลย

อีกหนึ่งงานวิจัยจากเดนมาร์ก เฝ้าสังเกตสถิติกลุ่มคน 4 ล้านคนในประเทศ พบว่า การผ่านการติดเชื้อจะทำให้ร่างกายคนวัยไม่เกิน 65 ปีมีภูมิคุ้มกันได้ราว 80% ในระยะเวลา 6 เดือนหลังการติดเชื้อ แต่สำหรับคนวัยมากกว่า 65 ปี อัตราการคุ้มกันจะลดลงเหลือ 47%

สำหรับการวิจัยแบบอังกฤษจะเป็นการวิจัยระบบปิดที่ควบคุมตัวแปรได้ วิธีการนำเชื้อเข้าสู่มนุษย์เพื่อทดสอบแบบนี้เป็นวิธีที่ทำกันมานาน เคยใช้เพื่อผลิตวัคซีนที่มีมานาน เช่น วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ และใช้เพื่อศึกษาโรคหลายชนิด เช่น ไข้มาลาเรีย ไข้หวัด ไทฟอยด์ อหิวาต์ เป็นต้น

Source: Forbes, Business Insider

]]>
1328471
Moderna เริ่มทดลองวัคซีนต้าน COVID-19 ‘สำหรับเด็ก’ อายุตั้งแต่ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 12 ปี https://positioningmag.com/1323794 Wed, 17 Mar 2021 11:02:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323794 Moderna ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก ประกาศเริ่มทำการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนแต่ไม่เกิน 12 ปี เเล้ว เพื่อขยายกลุ่มฉีดวัคซีน จากเดิมที่กำหนดอายุของผู้รับวัคซีนไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป

โดยจะเริ่มประเมินความปลอดภัยเเละประสิทธิภาพของวัคซีน ที่มีชื่อว่า “mRNA-1273” เเละวางเเผนทดลองวัคซีนในเด็กทั้งหมด 6,750 คนในอเมริกาและแคนาดา ซึ่งจะต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกัน 28 วัน

Moderna ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตยารายเเรกของสหรัฐฯ ที่จะทดลองวัคซีน COVID-19 ในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุไม่เกิน 11 ปี โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ทำการทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ไปเมื่อเดือน ธ..ที่ผ่านมา

วัคซีนของ Moderna ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในสหรัฐฯ เเละประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และอังกฤษ ในช่วงปลายปี 2020 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 94.5% และมีความสามารถในการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์จากอังกฤษเเละบราซิล

Stephane Bancel ซีอีโอของ Moderna กล่าวในงาน JPMorgan Healthcare Conference ตอนหนึ่งว่า ผู้คนทั่วโลกอาจจะต้องอยู่กับไวรัสชนิดนี้ตลอดไป มันจะไม่หายไปไหน

สอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดหลายคนที่มองว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ COVID-19 จะกลายเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ ที่สามารถพบได้ตลอดเวลา แม้ว่าตอนนี้มีอัตราการระบาดจะลดลงแล้วก็ตาม

สำหรับการกระจายวัคซีนให้ประชาชนที่เป็นเด็กทารกเด็กเล็กนั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่หรือ Herd Immunity ได้เร็วขึ้น เเม้ว่าผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีความเสี่ยงที่จะอาการหนักน้อยกว่าวัยผู้ใหญ่เเละผู้สูงอายุเเต่เด็กก็มีโอกาสเเพร่เชื้อไปสู่ผู้ใหญ่ได้เเละการติดต่อในหมู่วัยรุ่นก็รวดเร็วกว่าจากกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ใกล้ชิดกันต่างๆ

 

 

ที่มา : People , CNBC, Reuters 

]]>
1323794