โครงการวิจัยของมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2021 เพื่อหาคำตอบว่า “คนเราสามารถติดเชื้อโรค COVID-19 ซ้ำอีกได้หรือไม่”
โดยงานวิจัยครั้งนี้เป็นการทดลองแบบนำเชื้อเข้าสู่มนุษย์ (Human Challenge Study) มีอาสาสมัครวัยหนุ่มสาวอายุ 18-30 ปี จำนวน 64 คน ซึ่งเคยติดเชื้อโรค COVID-19 มาก่อน แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน
คนกลุ่มนี้จะถูกนำมารับเชื้อไวรัสโคโรนาอีกครั้งหนึ่ง และกักตัวไว้ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Oxford อย่างน้อย 17 วัน เพื่อให้นักวิจัยศึกษาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
ก่อนหน้านี้ วงการแพทย์มองว่าผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อมาแล้วจะไม่กลับมาเป็นโรคซ้ำอีก เพราะร่างกายจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา แต่ระยะหลังเริ่มมีตัวอย่างของคนที่เคยเป็นโรค COVID-19 แล้วกลับมาเป็นอีกได้
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาแบบเฝ้าสังเกตการณ์ ตีพิมพ์ในวารสาร Lancet เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้วิจัยเฝ้าสังเกตค่ายทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีคนหนุ่มสาวฝึกทหารอยู่ 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายวัย 18-20 ปี
จากการเฝ้าสังเกต 6 สัปดาห์ พบว่า พลทหารที่เคยเป็นโรค COVID-19 มีการกลับมาเป็นซ้ำในอัตรา 10% แต่เทียบกับพลทหารที่ไม่เคยเป็นโรค COVID-19 มีอัตราการติดเชื้อ 50% เท่ากับว่า ผู้ที่เคยเป็นโรค COVID-19 แล้วยังมีโอกาสติดเชื้อซ้ำ แต่จะน้อยกว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อเลย
อีกหนึ่งงานวิจัยจากเดนมาร์ก เฝ้าสังเกตสถิติกลุ่มคน 4 ล้านคนในประเทศ พบว่า การผ่านการติดเชื้อจะทำให้ร่างกายคนวัยไม่เกิน 65 ปีมีภูมิคุ้มกันได้ราว 80% ในระยะเวลา 6 เดือนหลังการติดเชื้อ แต่สำหรับคนวัยมากกว่า 65 ปี อัตราการคุ้มกันจะลดลงเหลือ 47%
สำหรับการวิจัยแบบอังกฤษจะเป็นการวิจัยระบบปิดที่ควบคุมตัวแปรได้ วิธีการนำเชื้อเข้าสู่มนุษย์เพื่อทดสอบแบบนี้เป็นวิธีที่ทำกันมานาน เคยใช้เพื่อผลิตวัคซีนที่มีมานาน เช่น วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ และใช้เพื่อศึกษาโรคหลายชนิด เช่น ไข้มาลาเรีย ไข้หวัด ไทฟอยด์ อหิวาต์ เป็นต้น
Source: Forbes, Business Insider
]]>โดยจะเริ่มประเมินความปลอดภัยเเละประสิทธิภาพของวัคซีน ที่มีชื่อว่า “mRNA-1273” เเละวางเเผนทดลองวัคซีนในเด็กทั้งหมด 6,750 คนในอเมริกาและแคนาดา ซึ่งจะต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกัน 28 วัน
Moderna ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตยารายเเรกของสหรัฐฯ ที่จะทดลองวัคซีน COVID-19 ในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุไม่เกิน 11 ปี โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ทำการทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา
วัคซีนของ Moderna ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในสหรัฐฯ เเละประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และอังกฤษ ในช่วงปลายปี 2020 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 94.5% และมีความสามารถในการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์จากอังกฤษเเละบราซิล
Stephane Bancel ซีอีโอของ Moderna กล่าวในงาน JPMorgan Healthcare Conference ตอนหนึ่งว่า ‘ผู้คนทั่วโลกอาจจะต้องอยู่กับไวรัสชนิดนี้ตลอดไป มันจะไม่หายไปไหน’
สอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดหลายคนที่มองว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ COVID-19 จะกลายเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ ที่สามารถพบได้ตลอดเวลา แม้ว่าตอนนี้มีอัตราการระบาดจะลดลงแล้วก็ตาม
สำหรับการกระจายวัคซีนให้ประชาชนที่เป็น ‘เด็กทารก–เด็กเล็ก’ นั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิด ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ หรือ Herd Immunity ได้เร็วขึ้น เเม้ว่าผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีความเสี่ยงที่จะอาการหนักน้อยกว่าวัยผู้ใหญ่เเละผู้สูงอายุเเต่เด็กก็มีโอกาสเเพร่เชื้อไปสู่ผู้ใหญ่ได้เเละการติดต่อในหมู่วัยรุ่นก็รวดเร็วกว่าจากกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ใกล้ชิดกันต่างๆ
]]>