กรณีศึกษา ‘ชิลี’ ยังมีผู้ติดเชื้อพุ่ง 9,000 ราย แม้ประชากร 40% จะฉีดวัคซีน Sinovac แล้วก็ตาม

การรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 ของ ชิลี เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สูงสุดแห่งหนึ่งของโลก แต่การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เริ่มทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกินกว่าจะควบคุม ซึ่งมีทั้งปัจจัยจากการกลายพันธุ์ของไวรัส, การเดินทางที่มากขึ้น และการไม่เว้นระยะห่าง

ปัจจุบันเกือบ 40% ของประชากรทั้งหมดของประเทศแถบอเมริกาใต้ได้รับวัคซีน COVID-19 อย่างน้อยหนึ่งครั้งตามสถิติที่รวบรวมโดย Our World in Data ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งรวมถึงประเทศ ‘ชิลี’

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ชิลีกำลังเผชิญกับปัญหาผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายนมีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 9,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มขึ้น ซึ่งสูงกว่าจุดสูงสุดในปีที่ผ่านมาที่มีผู้ติดเชื้อ 7,000 ราย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดของประเทศส่วนหนึ่งเป็นเพราะไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังมีการผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ ประชาชนยังไม่ระวังตัวเอง โดยไม่เว้นระยะห่างและไม่สวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากวัคซีนทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย

ที่ผ่านมา รัฐบาลที่นำโดย ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา ได้สั่งปิดพรมแดนของประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายนของปี 2563 แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นเล็กน้อยก็ตาม และช่วงปลายปีที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็ได้เปิดพรหมแดนแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดร้านค้า, ร้านอาหาร และรีสอร์ตในช่วงวันหยุดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การเปิดตัวการฉีดวัคซีนของประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า แต่การแพร่กระจายของสายพันธุ์ที่รุนแรงมากขึ้น เช่น สายพันธุ์ P.1 ซึ่งพบครั้งแรกในนักเดินทางจากบราซิลทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน เนื่องจากการใช้วัคซีนของ CoronaVac เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท Sinovac ของจีน

โดยข้อมูลระยะสุดท้ายของวัคซีนโควิดของ CoronaVac นั้นแตกต่างกันไป โดยการทดลองของบราซิลพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพมากกว่า 50% ซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ Pfizer-BioNTech, Moderna และ Oxford-AstraZeneca ในขณะที่นักวิจัยชาวตุรกีรายงานว่ามีประสิทธิภาพสูงถึง 83.5%

ขณะที่การศึกษาที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยชิลีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมารายงานว่า CoronaVac ได้ผล 56.5% ในสองสัปดาห์หลังจากได้รับยาครั้งที่ 2 แต่การฉีดเพียง 1 ครั้ง จะมีประสิทธิภาพเพียง 3% เท่านั้น ส่งผลให้ชิลีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างกำลังพิจารณาที่จะฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 เข็ม

“วัคซีนจะไม่หยุดการแพร่ระบาดของโรคนี้ มันไม่เพียงพอที่จะปกป้องคนที่มีความเสี่ยง ดังนั้น ไม่ใช่แค่ต้องเร่งฉีดวัคซีน แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่ครอบคลุมและใช้มาตรการด้านสาธรณสุขที่ได้ผล” Carissa Etienne ผู้อำนวยการ PAHO กล่าว

(Photo by Andressa Anholete/Getty Images)

เมื่อวันที่ 14 เมษายนทวีปอเมริการายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 1.3 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 36,000 คน ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตามข้อมูลที่รวบรวมโดยหน่วยงานด้านสุขภาพของสหประชาชาติ จนถึงปัจจุบัน ทวีปอเมริกามีผู้ป่วย 58.8 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.4 ล้านคนทำให้เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดในโลก

นอกเหนือจากข้อจำกัดที่ผ่อนคลายในบางพื้นที่แล้ว Etienne ยังกล่าวอีกว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่และสามารถแพร่เชื้อได้สูง ปัจจุบัน บราซิล, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา, เปรู และบางพื้นที่ของโบลิเวียกำลังมีอัตราการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น ส่วนปารากวัย, อุรุกวัย, อาร์เจนตินา และชิลีกำลังประสบกับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ป่วย COVID-19

Source