มิตซูบิชิ มอเตอร์ส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 29 Sep 2023 12:42:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไม่ไหวไม่ฝืน ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส’ เล็งยุติการผลิตรถใน ‘จีน’ หลังยอดขายหดตัวหนักเพราะผู้บริโภคหันไปใช้รถอีวี https://positioningmag.com/1446245 Fri, 29 Sep 2023 10:36:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1446245 หลังจากที่ จีน พยายามจะผลักดันประเทศไปใช้งาน รถอีวี หรือ รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนั่นก็ทำให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นเจ้าตลาดรถยนต์เครื่องสันดาปมียอดขายลดลงอย่างมาก รวมไปถึง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ที่กำลังพิจารณาถอนการผลิตรถยนต์ในจีน เนื่องจากยอดขายที่ตกต่ำลง

ย้อนไปในช่วงเดือนธันวาคม 2022 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้พยายามที่จะพลิกยอดขายที่ซบเซาในตลาดจีนให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยได้เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นเรือธง Outlander ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นไฮบริด อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้รถอีวี 100% อย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้

ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์สได้ หยุดสายการผลิตรถยนต์ในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม เนื่องจากยอดขายลดลง ขณะที่ค่ายรถอีวีในประเทศจีนกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น มิตซูบิชิจึงวางแผนที่จะมุ่งเน้นทรัพยากรของตนไปที่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน โดยกำลังเจรจากับบริษัทจีนเกี่ยวกับโรงงาน

ที่ผ่านมา มิตซูบิชิได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์สันดาปในมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นโรงงานแห่งเดียวในจีนของบริษัท โดยโรงงานดังกล่าวเกิดภายใต้การร่วมทุนกับ Guangzhou Automobile Group

ทั้งนี้ มิตซูบิชิไม่ใช่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นเพียงรายเดียวที่ต้องดิ้นรนกับยอดขายที่ซบเซาในจีนแต่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ก็ปรับลดแนวโน้มยอดขายในจีนในปีงบประมาณ 2023 เหลือ 800,000 คัน จากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 1.13 ล้านคัน ขณะที่ผู้ผลิตรถบรรทุก ฮีโน่ มอเตอร์ส จำกัด วางแผนที่จะรวบรวมมาตรการเพื่อปรับปรุงยอดขายในประเทศในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้

ส่วน มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป ระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า ยอดขายของบริษัทในจีนในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ลดลง 17% จากปีก่อนหน้า แต่บริษัทยืนยันว่ายังไม่ได้พิจารณาที่จะถอนตัวออกจากตลาด

Source

]]>
1446245
สู้ไม่ไหว! รถยนต์ “Mitsubishi” ถอนโรงงานใน “จีน” หลังกระแสรถอีวีจีนเบียดจนยอดขายร่วง 60% https://positioningmag.com/1445862 Wed, 27 Sep 2023 14:25:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445862 “Mitsubishi Motors” ตัดสินใจถอนโรงงานผลิตรถในประเทศ “จีน” หลังยอดขายปี 2022 ร่วงลงถึง 60% เนื่องจากชาวจีนหันไปนิยมรถอีวีแบรนด์จีนมากขึ้น หลังจากนี้คาดว่า GAC พาร์ทเนอร์ร่วมทุนสัญชาติจีนของโรงงานนี้ จะทำการแปลงโรงงานไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทแทน

Nikkei Asia รายงานกระแสข่าวโดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งข่าวว่า ยอดขายของ Mitsubishi Motors ในจีนชะลอตัวลงมาพักใหญ่หลังจากชาวจีนหันไปนิยมรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์แบรนด์จีนมากขึ้น และไม่ได้มีเพียง Mitsubishi Motors เท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ ก็กำลังเผชิญปัญหาแบบเดียวกันในจีน

โรงงานของ Mitsubishi Motors ในจีนเป็นการร่วมทุนกับ Guangzhou Automobile Group (GAC) ลงทุนฝั่งละ 50% ตัวโรงงานตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน และมีข่าวการหยุดดำเนินการผลิตเพิ่มมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยโรงงานนี้เป็นโรงงานเดียวที่ Mitsubishi Motors มีในประเทศจีน

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานต่อไปว่า หลังฝั่งญี่ปุ่นถอนหุ้นออกไป คาดว่า GAC ที่ยังถือครองโรงงานแห่งนี้ จะเปลี่ยนโรงงานมาผลิตรถยนต์อีวีของบริษัท และจะพยายามรักษาการจ้างงานไว้ให้ได้มากที่สุด

สถานการณ์ของ Mitsubishi Motors แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2022 บริษัทมีการจำหน่ายรถยนต์ในจีนได้เพียง 38,550 คัน ต่ำลง 60% เมื่อเทียบกับปี 2021

ในช่วงปลายปีที่แล้ว บริษัทพยายามต่อสู้ในตลาดด้วยการส่งรถเอสยูวีรุ่น ‘Outlander’ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดลงสนามแข่งขัน แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี จนนำมาสู่การถอนโรงงานออกจากจีน

หลังจากนี้ คาดว่าบริษัทจะหันมาทุ่มทรัพยากรทั้งหมดกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียแทน เพราะภูมิภาคนี้ถือเป็นภูมิภาคทำเงินให้กับ Mitsubishi Motors ได้ถึง 1 ใน 3 ของยอดรวมบริษัท

จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ยอดขายรถอีวีในจีนเมื่อปี 2022 ขายได้ถึง 5.36 ล้านคัน พุ่งทะยานขึ้น 80% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในจีนเมื่อปีก่อน ทั้งนี้ Mitsubishi Motors ไม่ได้ถือสิทธิบัตรการพัฒนารถอีวีในประเทศจีน เนื่องจากจะทับซ้อนตลาดกับ GAC

ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดรถยนต์จีน แบรนด์ต่างชาติจะต้องแข่งกับแบรนด์ท้องถิ่น MarkLines บริษัทวิจัย ประเมินว่า ในจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ในจีน 23.56 ล้านคันเมื่อปี 2022 มีถึง 50.7% ที่เป็นแบรนด์จีนเอง สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเร็วมาก จากปี 2021 รถจีนยังมีสัดส่วนในตลาดที่ 45.5%

ส่วนรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นก็กำลังถูกตีตลาด เมื่อปี 2022 รถญี่ปุ่นมีสัดส่วนในจีน 18.3% เทียบกับปี 2021 ที่เคยมีสัดส่วน 21.1%

มาโกโตะ อุชิดะ ประธานและซีอีโอของ Nissan Motor เคยพูดถึงสถานการณ์ในจีนไว้ว่า “เรามาถึงจุดที่ไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะการแข่งขันลดราคาที่สาหัสในตลาด” เขากล่าว “เรากำลังพิจารณาตัวเลือกที่มี ซึ่งรวมถึงการพิจารณากลยุทธ์ในจีนกันใหม่ เช่น การเข้าร่วมทุนกับบริษัทอื่น”

Mitsubishi Motors เริ่มการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปยังประเทศจีนตั้งแต่ทศวรรษ 1970s และเริ่มเข้าไปลงทุนในประเทศตั้งแต่ปี 2006 ส่วนการตั้งบริษัทร่วมทุน GAC Mitsubishi Motors เริ่มต้นในปี 2012 โรงงานแห่งนี้เคยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ได้สูงสุด 140,000 คันเมื่อปี 2018

สำหรับประเทศไทย GAC ก็เริ่มเข้ามาทำตลาดครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้เอง โดยส่งรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์ AION Y Plus เข้ามาชิมลางในราคาเริ่มต้น 1,069,900 บาท และมีแผนจะมาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ใน จ.ระยอง เพื่อใช้ส่งออกไปในภูมิภาคนี้ด้วย

Source

]]>
1445862
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าอีก 2 ปี รถยนต์นั่งผลิต-จำหน่ายในไทยจะเป็น “xEV” ทั้งหมด https://positioningmag.com/1378093 Fri, 18 Mar 2022 10:14:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1378093 ถึงมาช้ากว่าแต่มาแน่! ค่ายรถญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าหมายปี 2567 รถยนต์นั่งที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นรถ “xEV” ทั้งหมด โดยยังไม่เร่งก้าวกระโดดเข้ารถยนต์ประเภทใช้ไฟฟ้า 100% เชื่อว่าประเทศไทยต้องปรับฐานแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้านรถรุ่นเรือธงของปีนี้ส่ง “New Xpander” ลุยตลาด ปรับโฉมใหม่และพัฒนาประสิทธิภาพ พร้อมเปิดจอง 22 มีนาคมนี้

ปล่อยให้รถยนต์ไฟฟ้าจีนเข้ามาตีตลาดไทยก่อน แต่ค่ายรถญี่ปุ่นที่ตั้งฐานในเมืองไทยมามากกว่า 3 ทศวรรษอย่าง “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” กำลังขยับเข้าตลาดเช่นกัน โดย “เออิอิชิ โคอิโตะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแผนในงานแถลงข่าวประจำปี 2565 บริษัทเตรียมบุกตลาดรถอีวีอย่างเต็มที่

เป้าหมายในปี 2567 รถยนต์นั่งที่ผลิตและจำหน่ายในไทยของ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” จะเป็นรถประเภท xEV ทั้งหมด โดยหมายรวมทั้งรถประเภท PHEV (Plug-in Hybrid EV รถยนต์ที่ใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและสันดาป) และรถประเภท BEV (Battery EV รถยนต์ไฟฟ้า 100%) ทั้งนี้ รถประเภทอื่น เช่น ปิกอัพ และรถยนต์นั่งที่ผลิตเพื่อส่งออก อาจจะยังมีรถประเภทสันดาปที่ผลิตอยู่

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
Mitsubishi Motors Outlander รุ่นนำร่องบุกตลาด PHEV ตั้งแต่ปี 2564

โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์สชิมลางตลาดรถอีวีไทยไปแล้วด้วยรุ่น “Outlander” ซึ่งเป็นรถ PHEV ออกจำหน่ายเมื่อเดือนมกราคม 2564

ปัจจุบันสายการผลิตรถ xEV ในไทยของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เออิอิชิกล่าวว่ามีไลน์แพ็กเกจจิ้งแบตเตอรี่แล้วที่โรงงานในแหลมฉบัง ส่วนการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าส่วนอื่นๆ มีเป้าหมายจะผลิตและใช้ซัพพลายในไทยให้มากที่สุดที่ทำได้ หากมีดีมานด์สูง อาจจะพิจารณาก่อสร้างโรงงานใหม่สำหรับรถอีวีโดยเฉพาะได้ในอนาคต

 

ขอสร้างฐานด้วย PHEV ก่อน

เออิอิชิกล่าวว่า บริษัทไม่กังวลแบรนด์ที่เริ่มบุกตลาดด้วย BEV แล้ว เนื่องจากการศึกษาตลาดของบริษัทเองกับผู้ทดลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย พบว่า แม้รถยนต์ BEV ที่วางคุณสมบัติให้สามารถขับขี่พิสัยไกลได้ถึง 400 กม. จะทำได้จริงตามที่โฆษณา แต่ไฟฟ้าเกือบจะหมดจนเหลือศูนย์ ท่ามกลางระบบนิเวศไทยที่ยังมีสถานีชาร์จไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ใช้ยังไม่มั่นใจนักหากจะขับรถ BEV ทางไกล

เรามองว่าการสร้างฐานตลาดจากรถ PHEV ก่อน เป็นการทำให้ฐานตลาดเข้มแข็งกว่าการกระโดดเข้าสู่ BEV เลยทีเดียว

มิตซูบิชิ มอเตอร์สจึงเห็นว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน รถยนต์ประเภท PHEV ยังมีความสำคัญ เพราะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้ไฟฟ้าเมื่อขับขี่ในเมือง และใช้เครื่องยนต์สันดาปสำหรับการขับขี่ระยะไกล คาดว่าในระยะแรก รถยนต์ BEV จะยังมีลักษณะเป็น “รถคันที่สอง” ของครอบครัว ไม่ใช่รถคันหลัก

“เรามองว่าการสร้างฐานตลาดจากรถ PHEV ก่อน เป็นการทำให้ฐานตลาดเข้มแข็งกว่าการกระโดดเข้าสู่ BEV เลยทีเดียว และขณะนี้รัฐบาลไทยก็เริ่มส่งเสริมตลาดแล้ว” เออิอิชิกล่าว

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ศึกษาการใช้งานรถ BEV ในไทย ผ่านการจับมือพันธมิตร ไปรษณีย์ไทย และ OR

ด้านการพัฒนารถ BEV ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งเซ็น MOU กับ “ไปรษณีย์ไทย” และ บมจ. ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก หรือ “OR” นำเข้ารถ “มินิแวน” รุ่น “มินิแค็บ มีฟ” ที่ใช้ไฟฟ้า 100% มาใช้ในการขนส่งพัสดุของไปรษณีย์ไทยจำนวน 2 คัน เพื่อทดลองการใช้งานในเส้นทางประจำระหว่างกรุงเทพฯ-ปทุมธานีเป็นเวลา 1 ปี ส่วน OR จะติดตั้งสถานีชาร์จ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย 2 แห่ง

โดยบริษัทเริ่มทดลองกับการใช้รถเชิงพาณิชย์ก่อนเพราะเห็นว่าจะเป็นตลาดที่สำคัญ และบริษัทจะมีโอกาสเก็บข้อมูลไปพัฒนารถให้เหมาะกับเมืองไทยซึ่งมีความต่างจากญี่ปุ่นหลายด้าน เช่น สภาพอากาศ

 

เรือธงปีนี้ส่ง “New Xpander” ลงตลาด

เออิอิชิกล่าวต่อถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของปีนี้ โดยต่อยอดจากความสำเร็จของรถรุ่น Xpander ที่สามารถครองตลาดรถประเภท MPV ได้ 60-70%

“เออิอิชิ โคอิโตะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉมใหม่ “New Xpander” เปิดขายจริงกลางเดือนเมษายน 2565

ปีนี้จะมีการออกรุ่น New Xpander ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอินโดนีเซียที่มีการเปิดขาย รุ่นนี้จะมีการปรับปรุงใหม่หลายๆ ด้าน ดังนี้

  • มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในให้มีความสปอร์ตสูงขึ้นในสไตล์รถ SUV เพิ่มอุปกรณ์ใหม่ทันสมัยกว่าเดิม
  • ปรับช่วงล่างให้ศักยภาพดีขึ้น โช้กอัพปรับให้เท่ากับรุ่น Pajero Sport ใช้ล้อแมกซ์ 17 นิ้ว รับน้ำหนักได้ดีขึ้น
  • ปรับ Ground Clearance (ความสูงจากพื้นถนน) สูงขึ้นเป็น 220 มม. แต่จะไม่โคลงเคลงในการขับขี่ โดยรวมแล้วทำให้การขับขี่แบบ off-road ทำได้ดี ตาม DNA ของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่เป็นรถสำหรับแข่งแรลลี่ ลุยได้แม้เป็นทางขรุขระ
  • เปลี่ยนจากเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นเกียร์ Eco Dynamic CVT รอบเครื่องหมุนน้อยลงเพื่อทำความเร็วเท่าเดิม ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานได้ 13% และยังทำให้การเร่งเครื่องจาก 0-100 กม./ชม. ลดเวลาลง 2 วินาที

ขณะนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์สยังไม่ประกาศราคา New Xpander แต่จะเปิดให้สัมผัสและทดลองขับคันจริงที่งานมอเตอร์โชว์ประจำปี 2565 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี อย่างไรก็ตาม จะเปิดจองผ่านดีลเลอร์ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมนี้ และเริ่มจำหน่ายจริงช่วงกลางเดือนเมษายน 2565 บริษัทยังแย้มด้วยว่า ผู้ที่สนใจและต้องการรถด่วนควรรีบจองก่อน เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังส่งผลต่อการผลิตอยู่ในขณะนี้

จำนวนการผลิตและการส่งออกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ปี 2564

ปิดท้ายที่ผลการดำเนินงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เมื่อปี 2564 เออิอิชิรายงานว่า ปีก่อนสถานการณ์ตลาดเริ่มดีขึ้นจากดีมานด์ต่างประเทศ ทำให้การผลิตและการส่งออกดีขึ้น โดยการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น 41.3% เป็น 318,000 คัน และการส่งออกเพิ่ม 54% เป็น 285,000 คัน

ฐานผลิตมิตซูบิชิ มอเตอร์สในไทยถือเป็นฐานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของแบรนด์ มีกำลังผลิต 400,000 คันต่อปี และมีการส่งออกสะสมแล้ว 4 ล้านคัน เป้าหมายต่อไป บริษัทต้องการจะส่งออกสะสมให้ได้ 5 ล้านคันเร็วๆ นี้

]]>
1378093