ศรีสุวรรณ จรรยา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 27 Jul 2023 11:47:31 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คดี “แอชตัน อโศก” ศาลปกครองสูงสุดตัดสิน ก่อสร้าง “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” สั่งเพิกถอนใบอนุญาต https://positioningmag.com/1439287 Thu, 27 Jul 2023 11:47:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439287
  • เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินในคดี “แอชตัน อโศก” ให้ยืนตามศาลปกครองกลาง ตึกแอชตัน อโศกทำการก่อสร้างโดย “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และ “สั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง”
  • ทางอนันดาฯ ออกแถลงการณ์บริษัท ร้องหน่วยงานรัฐต้องเยียวยาความเดือดร้อน เพราะเป็นผู้อนุมัติทำให้เกิดการก่อสร้างโครงการได้ และจะร่วมกับลูกบ้านขอเข้าพบผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ รฟม. เพื่อทวงถามความรับผิดชอบ
  • ข้อมูลจาก บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เปิดเผยผลคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด จากคดีฟ้องร้องประเด็นการให้ใบอนุญาตคอนโดมิเนียม “แอชตัน อโศก” ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากแอชตัน อโศก มีการใช้ที่ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นทางเข้าออกโครงการ (อ่านที่มาที่ไปโดยละเอียดได้ที่นี่)

    เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ศาลปกครองกลางมีคำตัดสินออกมาว่า คดีนี้ รฟม. มีการอนุญาตให้แอชตัน อโศกใช้ที่ดินเป็นทางเข้าออกโดย “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ซึ่งมีผลต่อเนื่องทำให้อนันดาฯ ไม่สามารถใช้ที่ดินของรฟม.ไปใช้ประกอบการขออนุญาตก่อสร้างตึกได้ และพิพากษาให้ “เพิกถอน” ใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์ก่อสร้างทั้งหมด 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับอาคารนี้ โดยมีผลย้อนหลัง

    หลังจากนั้นคดีนี้มีการอุทธรณ์ต่อไปยังศาลปกครองสูงสุด และล่าสุดในวันนี้ (27 กรกฎาคม 2566) อนันดาฯ แจ้งว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่ง “ยืนตาม” คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยมีรายละเอียดที่ส่งแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ดังนี้

    “เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคําพิพากษาในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องผู้อํานวยการเขตวัฒนา ที่1 , ผู้อํานวยการสํานักการโยธา ที่ 2 , ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ที่ 3 , ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 4 , คณะกรรมการผู้ชํานาญการ พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ที่ 5 (ผู้ถูก ฟ้องคดี) และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จํากัด “บริษัทฯ” ซึ่งไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องคดีโดยตรง แต่ถูกเรียกเข้ามา ในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากผลแห่งคดี ในฐานะผู้ร้องสอด ในคดีหมายเลขดําที่ อส 67/2564 หมายเลข แดงที่ อส.188/2566

    โดยศาลปกครองสูงสุด ได้มีคําพิพากษา ยืนตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง บริษัทฯขอน้อมรับและ เคารพในคําพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามที่ได้วินิจฉัยไว้”

     

    เรียกร้อง “หน่วยงานรัฐ” รับผิดชอบ ในฐานะผู้ให้อนุญาต

    ในแถลงการณ์ดังกล่าวจากอนันดาฯ ยังมีข้อความต่อเนื่อง ทวงถามถึงความรับผิดชอบ เนื่องจากอนันดาฯ มองว่า การก่อสร้างอาคารแอชตัน อโศกเกิดขึ้นได้ มาจากการให้อนุญาตของหน่วยงานรัฐเอง เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้จึงมองว่าหน่วยงานรัฐควรจะเป็นผู้เยียวยาความเดือดร้อนของลูกบ้าน

    รวมถึงอนันดาฯ ยังแจ้งว่ากำลังประสานกับเจ้าของร่วมคอนโดฯ แอชตัน อโศกเพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อทวงถามความรับผิดชอบภายใน 14 วัน

    โดยข้อความฉบับเต็มจากอนันดาฯ มีดังนี้

    “กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ได้วินิจฉัยไว้ในประเด็นสําคัญที่ว่า ที่ดินของ รฟม.ไม่อาจนํามาให้บริษัท ฯ หรือ เอกชนใช้ในการทําโครงการได้ จึงทําให้หน่วยงานของรัฐไม่อาจออกใบอนุญาตในการก่อสร้าง จึงมีผลให้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น บริษัท ฯ เห็นว่า ศาลปกครองซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ และหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ กับ เอกชน เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งเพื่อวางแนวหรือสร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติราชการให้ถูกต้องชอบธรรม อีกทั้ง ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ รวมถึงฉบับปัจจุบันพุทธศักราช 2560 ในส่วนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของรัฐ ในกรณีที่รัฐจะอนุมัติหรืออนุญาตให้ผู้ใดทําการได้ก็จะต้องดําเนินการไปตามกฎหมายโดยรัฐมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องใช้อํานาจและทําหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ประมาทเลินเล่อ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับประชาชนหรือผู้ประกอบการ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการกระทําที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังเกิดขึ้นเป็นคดีนี้แล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและทําการเยียวยาในความเดือดร้อน เสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า

    ดังนั้น ผลแห่งคําพิพากษาที่เกิดขึ้นดังกล่าว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ต่อเจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัทฯ เพราะ หากหน่วยงานราชการผู้มีอํานาจหน้าที่ไม่เห็นชอบและอนุมัติแล้วโครงการนี้จะไม่สามารถก่อสร้างได้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงอย่างที่เป็นอยู่

    ทั้งนี้ บริษัทฯจะเร่งรีบดําเนินการในการเรียกร้องค่าเสียหายกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่เจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัท ฯ โดยเร็ว รวมทั้งบริษัทฯ จะดําเนินการประสานงานคณะกรรมการนิติบุคคลแอชตัน อโศก และท่านเจ้าของร่วม เพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อทวงถามความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายใน 14 วัน (สิบสี่) นับแต่วันนี้

    บริษัทฯ ใคร่ขอยืนยันว่า การทําโครงการแอชตัน อโศก นั้น ได้มีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมาย รวมทั้งข้อกําหนดที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่างๆ รวมทั้งสภาพที่ดินของโครงการอย่างรอบคอบรัดกุม อีกทั้ง การพิจารณาอนุมัติในการทําโครงการต่าง ๆ ยังได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติ และภายใต้การกํากับ ควบคุม จากหน่วยงานของรัฐไม่ตํ่ากว่า 8 หน่วยงาน จึงเป็นที่เห็นประจักษ์และยืนยันได้ว่า บริษัทฯ ได้ดําเนินการไปด้วย ความสุจริต และชอบด้วยกฎหมายอย่างชัดแจ้งแล้วทุกประการเท่าที่บริษัทฯจะทําได้ด้วยความเชื่อถือโดยสุจริตว่าการอนุมัติของหน่วยงานราชการทุกฝ่ายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว บริษัท ฯ จึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขป้องกันมิให้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังเช่นคดีนี้ได้เกิดขึ้นอีก และเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็วด้วย”

    ข้อความจากโพสต์บน Facebook ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก (ผู้ฟ้องคดี)

    คดีนี้ถือเป็นคดีที่ร้ายแรงในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย เนื่องจากโครงการนี้ก่อสร้างเสร็จ โอนกรรมสิทธิ์ และเจ้าของร่วมได้ย้ายเข้าอยู่จริงมาแล้วกว่า 4 ปีก่อนที่จะมีคำตัดสินอันเป็นที่สุดของศาลดังกล่าวนี้ ต่างจากคดีอื่นๆ ที่มักจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือ EIA ในช่วงที่โครงการยังก่อสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย จึงกระทบเฉพาะบริษัทเจ้าของโครงการ

    ขณะที่คดีนี้คำตัดสินจะกระทบกับลูกบ้านกว่า 600 ครอบครัวที่ยังคงอาศัยอยู่ในคอนโดฯ และหลายรายผ่อนสินเชื่อบ้านกับธนาคาร ซึ่งลูกบ้านเคยถามคำถามล่วงหน้ามาแล้วตั้งแต่ปี 2564 ว่า “หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามเดิม และอาจมีคำสั่งให้ทุบอาคารตามมา ผู้ซื้อจะยังต้องผ่อนสินเชื่อบ้านกับธนาคารต่อไปจนครบหรือไม่ ทั้งที่ห้องชุดกลายเป็นอากาศไปแล้ว”

     

    อ่านข้อมูลย้อนหลังคดีแอชตัน อโศก

    • ลูกบ้าน “แอชตัน อโศก” ขอรับการเยียวยา ผลกระทบเกิดทันที รีไฟแนนซ์-ขายต่อไม่ได้
    • ผู้ซื้อ “แอชตัน อโศก” เรียกร้องอย่าทิ้งกันไว้กลางทาง “ศรีสุวรรณ” มีคดีฟ้องคอนโดฯ อีกเพียบ
    ]]>
    1439287
    ผู้ซื้อ “แอชตัน อโศก” เรียกร้องอย่าทิ้งกันไว้กลางทาง “ศรีสุวรรณ” มีคดีฟ้องคอนโดฯ อีกเพียบ https://positioningmag.com/1350155 Fri, 03 Sep 2021 08:56:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1350155 ลูกบ้านกว่า 600 ครอบครัวใน “แอชตัน อโศก” ยังคงยืนอยู่ปากเหวโดยไม่มีเบาะรองรับ ล่าสุดกลุ่มลูกบ้านทำหนังสือขอให้ “อนันดาฯ” จัดประชุมรับฟังความเห็นภายใน 14 วัน เตรียมยกระดับข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานราชการและอนันดาฯ หากไม่ได้รับการตอบกลับ ด้าน “ศรีสุวรรณ จรรยา” โจทก์ฟ้องคดี ยื่นอุทธรณ์ ยืนยันโครงการมีการรุกล้ำทางสาธารณะ แย้มสมาคมฯ มีกรณีพิพาทกับคอนโดฯ อื่นอีกหลายแห่ง

    ติดตามความคืบหน้าโครงการ “แอชตัน อโศก” ที่พัฒนาโดย บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และถูกศาลตัดสินเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 ล่าสุด ตัวแทนลูกบ้านโครงการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 และจัดแถลงข่าวสาธารณะอีกครั้งเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา

    ประเด็นจากหนังสือแถลงการณ์ลูกบ้านแอชตัน อโศก ระบุความคืบหน้าของคดีว่า “พวกเราชาวลูกบ้านแอชตัน อโศกเข้าใจว่า บัดนี้หน่วยงานของรัฐและบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

    “แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีหน่วยงานราชการใดหรือผู้พัฒนาโครงการได้จัดให้มีมาตรการเยียวยา เพื่อบรรเทาผลกระทบจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้มีผลเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด” เป็นข้อความส่วนหนึ่งในแถลงการณ์

    ทางเข้า-ออกโครงการแอชตัน อโศก กว้าง 13 เมตร โดยขอใช้ทางผ่านที่ดินของรฟม. (ภาพจาก : Google Maps Streetview)

    แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ลูกบ้านได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 ส.ค. 2564 ไปยังบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด และบมจ.อนันดาฯ เพื่อขอให้มีการประชุมเพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมกับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

    โดยลูกบ้านกำหนดกรอบเวลาตอบกลับภายใน 14 วัน หากยังไม่มีการตอบสนอง “พวกเราชาวลูกบ้านแอชตัน อโศกกว่า 1,000 ชีวิตจากกว่า 600 ครอบครัวก็มีความจำเป็นต้องยกระดับข้อเรียกร้องของพวกเราต่อหน่วยงานราชการและ/หรือ ผู้พัฒนาโครงการในโอกาสต่อไป” (อ่านเอกสารแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ด้านท้ายบทความ)

    Positioning ได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้าคดีและแนวทางเยียวยาลูกบ้านไปยัง บมจ.อนันดาฯ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 64 โดยยังรอการตอบกลับอยู่ในขณะนี้

     

    ต้องเป็นหนี้ผ่อน ‘อากาศ’ ต่อไปหรือไม่?

    ลูกบ้านแอชตัน อโศกยังย้ำอีกครั้งถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือธนาคารต่างๆ ไม่รับรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านของผู้ซื้อห้องชุดโครงการนี้ ซึ่งทำให้ผู้ซื้อเสียโอกาสลดภาระดอกเบี้ยลง 2-3% คิดเป็นค่าเสียหาย 60-90 ล้านบาทต่อปี หากยังต้องรอการพิจารณาคดีอีก 5 ปี ค่าเสียหายส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 300-450 ล้านบาท

    • ลูกบ้าน “แอชตัน อโศก” ขอรับการเยียวยา ผลกระทบเกิดทันที รีไฟแนนซ์-ขายต่อไม่ได้

    และไม่เพียงแต่ความเสียหาย ณ วันนี้ ลูกบ้านยังมีความกังวลใจถึงอนาคต หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามเดิม และอาจมีคำสั่งให้ทุบอาคารตามมา คำถามของลูกบ้านคือ “ผู้ซื้อยังต้องผ่อนสินเชื่อบ้านกับธนาคารต่อไปจนครบหรือไม่ ทั้งที่ห้องชุดกลายเป็นอากาศไปแล้ว”

    (Photo : Shutterstock)

    กลายเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ เนื่องจากเหตุการณ์ลักษณะนี้น่าจะยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมาการระงับการก่อสร้างมักจะเกิดขึ้นก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้ผู้รับผิดชอบคือบริษัทผู้พัฒนาโครงการโดยตรง แนวทางการเยียวยามักจะเป็นการคืนเงินดาวน์ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย แต่กรณีนี้ลูกบ้านได้โอนกรรมสิทธิ์แล้ว และมีภาระหนี้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแตกต่างกันไปคนละสัญญา

    • ทำความเข้าใจคดี “แอชตัน อโศก” หลังอนันดาฯ เตรียม “อุทธรณ์” กู้ชื่อเสียง-มั่นใจทำถูกต้อง

     

    บริษัทไม่เคยแจ้งลูกค้าใหม่ว่ามีคดีพิพาท

    ย้อนกลับไปก่อนเกิดคำตัดสินของศาลปกครองกลาง หนึ่งในตัวแทนลูกบ้านซึ่งตัดสินใจซื้อผ่อนดาวน์ตั้งแต่ก่อนโครงการสร้างเสร็จ เล่าถึงประสบการณ์ในช่วงก่อนโอนกรรมสิทธิ์ว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2561 ที่กำลังจะถึงเดดไลน์ส่งมอบห้องตามสัญญา แต่บริษัทยังติดปัญหายังไม่ได้รับเอกสารใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.6) ทำให้โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้

    ในช่วงปี 2561 นั้น บริษัทได้ให้ข้อเสนอ 3 ทางแก่ผู้ซื้อคือ ขอขยายเวลาส่งมอบตามสัญญาออกไปก่อน หรือ รับคืนเงินดาวน์ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย หรือ แลกห้องชุดกับโครงการอื่นในเครืออนันดาฯ ซึ่งตัวแทนลูกบ้านรายนี้ได้เลือกทางเลือกแรก คือยอมที่จะรอต่อไป จนในที่สุดหลังขยายสัญญา 3 เดือนก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ จากนั้นก็เข้าอยู่เป็นปกติตลอดมาจนมารับทราบพร้อมลูกบ้านทุกคนเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 64 ว่าโครงการถูกเพิกถอนใบอนุญาต

    ขณะที่ตัวแทนลูกบ้านอีกรายหนึ่ง เป็นลูกค้าใหม่ที่เข้าชมและตัดสินใจซื้อโครงการหลังก่อสร้างเสร็จ ลูกค้ารายนี้เพิ่งโอนและย้ายเข้าอยู่เมื่อเดือนเมษายน 2564 เพียง 3 เดือนหลังจากนั้นก็เกิดเหตุคำตัดสินของศาล โดยเขายืนยันว่าทุกขั้นตอนการขายและทำสัญญาไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าโครงการมีคดีพิพาทในชั้นศาลอยู่

     

    “ศรีสุวรรณ” ยื่นอุทธรณ์ – มีอีกหลายคดีกับคอนโดฯ อื่นๆ

    ฝั่งโจทก์ของคดีนี้คือ “สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน” และผู้ฟ้องร่วม 16 คน ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลปกครองกลางเช่นกัน

    “ศรีสุวรรณ จรรยา” นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน

    ตามข้อมูลจากสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ “ศรีสุวรรณ จรรยา” นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า แม้จะเป็นผู้ชนะคดี แต่มีบางข้อตัดสินของศาลที่ต้องการอุทธรณ์กลับ เช่น ข้อฟ้องร้องว่าโครงการแอชตัน อโศกรุกล้ำถนนสาธารณะ ซึ่งศาลตัดสินว่าไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีทางสาธารณะ จึงให้ข้อฟ้องร้องนี้ตกไป ฝั่งโจทก์ยังยืนยันว่าเจ้าของที่ดินเดิมเคยตัดที่ดินบางส่วนเป็นทางสาธารณะและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแล้ว รวมถึงข้อฟ้องร้องอื่นๆ ที่ศาลไม่วินิจฉัย

    ศรีสุวรรณยังเปิดเผยด้วยว่า ต้องการจะให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐาน เพราะสมาคมฯ มีกรณีพิพาทกับคอนโดมิเนียมอีกหลายแห่ง ทั้งที่อยู่ระหว่างฟ้องร้องในศาลปกครองกลาง และที่กำลังจะนำเรื่องขึ้นฟ้อง

    ที่ผ่านมาสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่โครงการต่างๆ เคยฟ้องร้องคดีในลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้เคยชนะคดีโครงการ “มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส” ของ บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) (ชื่อบริษัทขณะนั้น) ของตระกูลเตชะอุบล โดยโครงการคอนโดฯ ลีสโฮลด์แห่งนี้ถูกเพิกถอนทั้ง EIA และใบอนุญาตก่อสร้าง เมื่อปี 2560 และ 2562 ตามลำดับ

    โครงการเอลลิโอ เดล เนสท์ อีกหนึ่งคอนโดฯ ที่เกี่ยวพันกับคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนฟ้องร้องผู้บริหาร กทม.

    ต่อจากนั้นเมื่อเดือนกันยายน 2562 สมาคมฯ พร้อมกับชาวบ้านใน ซ.สุขุมวิท 101 และ ซ.สุขุมวิท 103 ยื่นฟ้องผู้บริหาร กทม. หลายหน่วยงานต่อศาลปกครองกลาง กรณีปล่อยปละให้โครงการ “เอลลิโอ เดล เนสท์” ซอยอุดมสุข ที่พัฒนาโดย บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ก่อสร้างโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชน โดยร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนรายงาน EIA ทั้งนี้ โครงการนี้ก่อสร้างเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วเมื่อปี 2563

    ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 สมาคมฯ ร่วมกับชาวบ้านซ.สุขุมวิท 61 และเอกมัยซอย 1 เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) กรณีอนุมัติรายงาน EIA ให้กับโครงการคอนโดฯ IMPRESSION EKKAMAI พัฒนาโดย บริษัท เอเอชเจ เอกมัย จำกัด ทั้งที่ยังไม่มีการปรับแก้แบบโครงการตามข้อกังวลของชาวบ้าน เช่น โครงการเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษแต่ตั้งอยู่บนถนนเอกมัยที่มีความกว้างไม่ถึง 18 เมตร

    บริษัท เอเอชเจ เอกมัย จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กับทุนญี่ปุ่น เจอาร์ คิวชู และ ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ โครงการนี้เริ่มเปิดขายตั้งแต่ปี 2562

    มหากาพย์แอชตัน อโศกจึงอาจจะไม่ใช่โครงการสุดท้ายที่เกิดปัญหาต่อลูกบ้านติดตามมา ดังที่เห็นว่าเฉพาะสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนก็มีคดีหรือข้อร้องเรียนค้างอยู่อีกหลายโครงการ

    (เอกสารแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ของลูกบ้านแอชตัน อโศกฉบับเต็ม)

    ]]>
    1350155