สปอนเซอร์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 08 Jun 2023 05:01:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เก็บพลังจากบูท “กลุ่มธุรกิจ TCP” ในงาน THAIFEX 2023 โชว์เคสตอกย้ำว่าธุรกิจนี้มีมากกว่า “กระทิงแดง” https://positioningmag.com/1433379 Thu, 08 Jun 2023 10:00:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433379

ครั้งแรกที่ “กลุ่มธุรกิจ TCP” ร่วมออกบูทแบบเต็มรูปแบบ ขนทุกธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในเครือโชว์เคสภายในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ตอกย้ำความหลากหลายของธุรกิจที่มีมากกว่า “กระทิงแดง” จัดแสดงไลน์สินค้า-บริการหลายประเภทที่ขยายตลาดได้ในระดับโลก

งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 มีหนึ่งบูทจัดแสดงที่น่าสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เครือยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องดื่มอย่าง “กลุ่มธุรกิจ TCP” ร่วมออกบูทภายในงานแบบครบทุกไลน์สินค้าและบริการภายใต้ธีม Energizing a Better World for All” เป็นการโชว์ “พลัง” ในเครือที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน

โชว์เคสจากกลุ่มธุรกิจ TCP เริ่มต้นด้วยการแนะนำภาพรวมสินค้าในเครือบริเวณเวทีด้านหน้าบูท หน้าจอฉายภาพผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น “เรดดี้” “โสมพลัส” “สปอนเซอร์”  “ไฮ่ x DHC” “แมนซั่ม” “เพียวริคุ” “ซันสแนค” เพื่อสร้างภาพจำใหม่ให้กับผู้มาเยี่ยมชมว่า ไม่ได้มีแค่กระทิงแดงเท่านั้น

เข้าไปด้านในบูทจะพบกับโซน TCP’s Story จุดกำเนิดพลัง เล่าความเป็นมาของบริษัทที่เริ่มต้นจากการก่อตั้งบริษัทยา “T.C. Pharmaceutical” โดยคุณเฉลียว อยู่วิทยา เมื่อปี 2499 ก่อนจะกำเนิดแบรนด์ “กระทิงแดง” ครั้งแรกในปี 2518 ต่อจากนั้นเป็นเรื่องราวของการส่งออกต่างประเทศ การขยายไลน์ธุรกิจแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ “สปอนเซอร์” ตลอดจนการพัฒนาระบบจัดจำหน่ายภายใต้บริษัทเดอเบล

จนถึงวันนี้กลุ่มธุรกิจ TCP กลายเป็น “House of Great Brands” มีแบรนด์หลากหลายในพอร์ตโฟลิโอ และยังขยายตัวตั้งโรงงานในประเทศจีนและอีกหลายประเทศ เห็นความสำเร็จตลอดเส้นทางการเติบโต 67 ปีที่ผ่านมาของบริษัท

ถัดมาบริเวณด้านข้างเป็นโซน Product Showcase รวมพลังความสดชื่น จัดชมและชิมเครื่องดื่มที่สะท้อนการคิดค้นของกลุ่มธุรกิจ TCP เริ่มจากฝั่งสินค้าในประเทศ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงจะเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายในปี 2566 ได้แก่

  • Red Bull Energy Soda เครื่องดื่มเอเนอร์จี้โซดา อร่อยซ่ากลิ่นผลไม้ และไม่มีน้ำตาล มีให้เลือก 2 กลิ่น คือ กลิ่นองุ่นมัสแกตจับคู่แอปเปิ้ลเขียว และเกรปฟรุตกับสับปะรด
  • FarmZaa มะปี๊ดโซดา เครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ที่สนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกมะปี๊ดใน จ.จันทบุรี ส่งเสริมผลไม้ไทยให้มีตลาดกว้างขึ้น
  • Planett ครั้งแรกของโซดากลิ่นดอกไม้และผลไม้ของไทย และยังได้เป็น 1 ใน 50 สินค้านวัตกรรมด้านรสชาติของงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023
  • คอลลาเจนกัมมี่ DHC x Bestural นวัตกรรมคอลลาเจนรูปแบบกัมมี่ คอลลาเจนคุณภาพนำเข้าจากญี่ปุ่น ทานง่าย ไม่ต้องชงอร่อยด้วยน้ำสตรอว์เบอร์รี่แท้ๆ ผ่านการคัดเลือกและเป็นส่วนหนึ่งของโชว์เคสอาหารแห่งอนาคต (Future Food Product Showcase) ในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023)

อีกฝั่งหนึ่งถือเป็นไฮไลต์ที่ฮือฮาของงานเช่นกัน เพราะเป็นกลุ่มสินค้าจากต่างประเทศที่ขนมาให้ได้ลองชิมเพื่อสัมผัสรสชาติที่แตกต่างที่บริษัทคิดค้นและปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับคนท้องถิ่น  ได้แก่

  • Red Bull Gold เครื่องดื่มให้พลังงานกระป๋องสีทอง มีจำหน่ายในอีกหลายประเทศ เช่น กัมพูชา, เมียนมา, ลาว, เนปาล, อิสราเอล ฯลฯ
  • Red Bull Cold Brew Coffee เครื่องดื่มให้พลังงานรสกาแฟสกัดเย็น เป็นสินค้าที่ขายเฉพาะในเวียดนาม รสชาติกาแฟชัดเจน เสริมด้วยความซ่าและรสหวานที่คุ้นเคยของ Energy Drink ผลิตภัณฑ์นี้ฮิตมากในงานจนใครๆ ต่างเรียกร้องให้มีจำหน่ายในไทยบ้าง
  • Warrior Energy Drink อีกหนึ่งเครื่องดื่มให้พลังงานที่มีขายเฉพาะในเวียดนาม มี 2 รสชาติ คือ รสสตรอว์เบอร์รี่ และ รสองุ่น

มีสินค้าแล้วย่อมต้องมีระบบจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งจึงจะชนะในตลาดได้ ทำให้บูทของกลุ่มธุรกิจ TCP โซนหนึ่งยกให้กับกลุ่ม TCP Services พลังบริการครบวงจร ฉายให้เห็นภาพธุรกิจของบริษัท “เดอเบล” ซึ่งให้บริการตั้งแต่คลังสินค้า กระจายสินค้า และจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ครอบคลุมร้านค้าในไทยมากกว่า 170,000 ร้าน ด้วยพลังของคลังสินค้าถึง 23 จุดทั่วประเทศ และหน่วยรถจัดส่งและจำหน่าย 800 คัน

นอกจากบริการของเดอเบล ยังมีบริการของ “ไฮ-เกียร์” บริษัทผู้ให้บริการด้านการตลาดประเภทจัดอีเวนต์ โร้ดโชว์ แจกชิม ทั่วประเทศ รวมไปถึงบริการ “ที.จี. เวนดิ้ง” ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ และยังเปิดตัวเว็บไซต์ https://shop.tcp.com/ ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ใหม่ภายในงานครั้งนี้ด้วย

พูดถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว ที่ขาดไปไม่ได้คือการโชว์เคสสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากผลิตภัณฑ์ จึงมีโซน TCP Experience สัมผัสพลังรสชาติใหม่ ขึ้น โดยได้มิกซ์โซโลจิสต์ชื่อดัง “ธาดา แสงกำพล” มารังสรรค์เครื่องดื่มม็อกเทลที่ใช้องค์ประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP

ผลงานของธาดามีทั้งหมด 5 เมนูที่ให้ผู้เยี่ยมชมเลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น PASSIONATE SUNRISE จาก Red Bull Cold Brew Coffee, READY SET GO! จาก สปอนเซอร์และเรดดี้, CALAMANSI CRAZE จาก FarmZaa และเรดดี้, CHILLAX ELIXIR จาก Hopster และเรดดี้ และปิดท้ายด้วยเมนู GOLDEN WARRIOR จาก Red Bull Gold และ Warrior

อีกมุมหนึ่งของบูทเป็น International Business พลังระดับโลก การจัดโชว์อาณาจักรส่งออกต่างประเทศซึ่งรายได้ขององค์กรมาจากต่างประเทศเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% เพราะมีการส่งออกไป 14 ประเทศทั่วโลก มีประเทศที่ทำรายได้หลักให้บริษัท คือ จีน เวียดนาม มาเลเซีย และบริษัทยังมีการส่งออกนอกทวีปเอเชียได้ด้วยที่ประเทศอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา

ต่อกันที่โซน Sustainability พลังอนาคตที่ยั่งยืน โชว์เคสเป้าหมายภารกิจด้านความยั่งยืนของบริษัท และการลงมือปฏิบัติจริง 4 ด้านหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์และบริการรักษ์โลก (Product Excellence) ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Low Carbon Economy) การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (Water Sustainability) และบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่นำกลับมารีไซเคิลได้ (Circular Economy)

ในงานยังนำตัวอย่างด้านแพ็กเกจจิ้งมาแสดงด้วยว่ากลุ่มธุรกิจ TCP ปฏิบัติจริงอย่างไร เช่น “กระป๋อง” ลดความหนาตัวกระป๋องลง 10% และลดความหนาฝากระป๋องลง 7% ทำให้ลดการใช้วัสดุในการผลิต, “ขวดแก้ว” ลดน้ำหนักขวดลงได้ 10-20% ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานระหว่างขนส่ง, “ขวด PET” เปลี่ยนฉลากจากการใช้พลาสติก PVC มาเป็น PET

ปิดท้ายที่โซน Activity จุดปล่อยพลัง กับเกม TCP RUNNER และจุดถ่ายภาพที่ระลึก ให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำกิจกรรมสนุกสนานและได้ลุ้นรับของรางวัลพิเศษ

นับได้ว่าเป็นการออกบูทที่เต็มอิ่ม สัมผัสประสบการณ์ “พลัง”  ได้ครบเครื่องรอบด้าน ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมได้รู้จักผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีมากกว่า “กระทิงแดง” ทั้งสินค้าและบริการที่หลากหลายประเภทและพร้อมพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ สมที่เป็นผู้นำธุรกิจ F&B เอเชีย

]]>
1433379
ภารกิจใหม่ TCP ก้าวสู่ยอดขาย “9 หมื่นล้าน” ใน 3 ปี ส่งแบรนด์บุกนอกให้มากกว่า “กระทิงแดง” https://positioningmag.com/1383438 Fri, 29 Apr 2022 08:04:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383438
  • กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเป้าหมายใหม่ ก้าวสู่ยอดขาย “9 หมื่นล้าน” ภายใน 3 ปี (2565-67) เติบโต 2 เท่าตัว ดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์ Fulfilling, Growing และ Caring
  • เพิ่มพอร์ตสินค้าทั้งกลุ่ม Energy Drink และ Non-Energy Drink รุกตลาดต่างประเทศ โดยจะผลักดันแบรนด์อื่นนอกเหนือจาก “กระทิงแดง” (RedBull) ให้มากขึ้น
  • ตั้งงบลงทุน 12,000 ล้านบาท ลุยสร้างโรงงานใหม่ในจีน เพิ่มกำลังการผลิต ใช้เทคโนโลยีใหม่ลดต้นทุน
  • เป้าด้านสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2567
  • ย้อนไปเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่ “กระทิงแดง” ทำการรวมกลุ่มแบรนด์ในเครือให้อยู่ภายใต้ “กลุ่มธุรกิจ TCP” และมีการตั้งเป้าหมายที่ ‘aggressive’ อย่างมาก ต้องการจะเพิ่มยอดขายจากกว่า 30,000 ล้านบาทในขณะนั้น ขึ้นไปเป็น 3 เท่าตัว แตะ 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2565

    แต่ใครจะคาดถึงว่าระหว่างทางจะเผชิญวิกฤตร่วมกับทั้งโลก ตั้งแต่โรคระบาด COVID-19 สงครามความขัดแย้ง นำมาสู่ค่าพลังงานพุ่ง และเงินเฟ้อ ทำให้การเร่งตัวของ TCP ไม่เป็นดั่งใจนึก แต่ก็ยังเติบโตได้ดีจนปี 2564 ปิดยอดขายที่เกือบ 45,000 ล้านบาท

    TCP 9 หมื่นล้าน
    “สราวุฒิ อยู่วิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP

    หลังผ่านช่วงวิกฤต ในที่สุดบริษัทพร้อมจะลุยเต็มที่อีกครั้งโดย “สราวุฒิ อยู่วิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเป้าหมายใหม่กับภารกิจ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ต้องการทำยอดขาย 90,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2565-67) เติบโตเป็น 2 เท่าตัว โดยมีกลยุทธ์ที่จะใช้ 3 ด้าน คือ

    1. Fulfilling ปลุกพลังแบรนด์สินค้า
    2. Growing ปลุกพลังธุรกิจเติบโต
    3. Caring ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม

     

    ไม่ทิ้ง “กระทิงแดง” แต่ “แบรนด์ใหม่” ก็ต้องไปสู่ตลาดโลก

    กลยุทธ์แรกที่จะปลุกพลังแบรนด์สินค้า ในรอบ 3 ปี TCP จะมีการออกสินค้าใหม่ ดังนี้

    • “แบรนด์กระทิงแดง” จะเปิดสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 SKUs โดยจะสร้างความน่าตื่นเต้น ใหม่ทั้งด้านรสชาติ ส่วนผสม จุดขาย ภาพลักษณ์สร้างความทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เกิดความพรีเมียมในตลาด
    • “แบรนด์ใหม่” จะเปิดตัวใหม่อย่างน้อย 5 แบรนด์ โดยมุ่งเน้นในกลุ่ม Health & Wellness เพราะเป็นเทรนด์ของโลก
    แบรนด์ใหม่ โปรดักส์แบบใหม่ที่ออกมาทดลองตลาด ด้านซ้ายคือ “Hopster” เครื่องดื่มกลิ่นฮอปไม่มีแอลกอฮอล์ และขวาคือ “มายด์เบอรี่” เครื่องดื่มเยลลี่บำรุงความจำ

    ปัจจุบันกลุ่ม TCP ยังมี ‘ฮีโร่ โปรดักส์’ เป็นกลุ่ม Energy Drink อยู่ แบรนด์อย่าง กระทิงแดง (RedBull), เรดดี้, โสมพลัส, วอริเออร์ คิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของยอดขายรวม ขณะที่ Non-Energy Drink เช่น กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ สปอนเซอร์ กลุ่มฟังก์ชันนอลดริงก์ แมนซั่ม และ ไฮ่! x DHC กลุ่มชา เพียวริคุ หรือขนมขบเคี้ยว ซันสแนค ยังคิดเป็นเพียง 15% ในพอร์ต

    โดยเฉพาะ “กระทิงแดง” ที่เป็นที่รู้จักและแทบจะเป็นแบรนด์เดียวที่ทำยอดขายในต่างประเทศได้ แต่แผนใหม่ 3 ปีจากนี้บริษัทต้องการจะดันสินค้าอื่นให้โตในต่างประเทศได้เหมือนกัน

    “เราคิดว่าเราสามารถผลักดันให้แบรนด์อื่นประสบความสำเร็จในต่างประเทศได้เหมือนกัน เราไม่ควรติดยึดกับกระทิงแดงตัวเดียว”

    สราวุฒิเล็งเป้าหมายแบรนด์ที่จะดันไว้ที่ “สปอนเซอร์” กำลังทดลองตลาดว่าจะตอบรับกับชื่อแบรนด์นี้แค่ไหน โดยเห็นโอกาสทั้งจีน เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย แต่หากไม่เวิร์กจริงๆ ก็พร้อมที่จะปั้นแบรนด์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมของตลาด เหมือนอย่าง “วอริเออร์” ที่เข้าไปชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของเวียดนามได้ 5%

    “เราคิดว่าเราสามารถผลักดันให้แบรนด์อื่นประสบความสำเร็จในต่างประเทศได้เหมือนกัน เราไม่ควรติดยึดกับกระทิงแดงตัวเดียว” สราวุฒิกล่าว

    แบรนด์สปอนเซอร์ เครื่องดื่มที่มีโอกาสผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

     

    ลงทุน 12,000 ล้าน กันงบ 60% ตั้งโรงงานจีน

    กลยุทธ์ที่สองคือการลงทุนเพื่อเติบโต 3 ปีนี้ TCP จะลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็น

    • 60% ใช้ในการลงทุนโรงงานแห่งใหม่ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน
    • 20% ใช้เพิ่มกำลังผลิตโรงงานเดิม
    • 20% ปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ ใช้ระบบออโตเมชันเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพิ่มฟังก์ชันรักษาสิ่งแวดล้อม

    โปรเจ็กต์ใหญ่ที่สำคัญคือการตั้งโรงงานจีนนี้เอง โดยสราวุฒิท้าวความก่อนว่าแต่เดิม “กระทิงแดง” มีจอยต์เวนเจอร์สัญญา 20 ปีกับพาร์ทเนอร์ชาวจีน แต่เมื่อสัญญาหมดลง และพาร์ทเนอร์รายใหม่ไม่ราบรื่น ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าบริหารเองทั้งหมดมาตั้งแต่ปี 2561

    TCP 9 หมื่นล้าน
    พิธีวางรากฐานโรงงานแห่งใหม่กระทิงแดง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    จากเดิมที่มีโรงงานแห่งเดียวบนเกาะไห่หนาน บวกกับการจ้างโรงงาน OEM จีน 4 แห่ง ไม่เพียงพอตอบสนองตลาดจีนอีกต่อไป จึงมีโครงการสร้าง โรงงานแห่งที่ 2 มูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 1,100 ล้านหยวน กำลังผลิต 1,400 ล้านกระป๋องต่อปี เริ่มสร้างแล้วในมณฑลเสฉวน เพราะเป็นพื้นที่ที่สินค้าขายดี และรัฐบาลสนับสนุน อำนวยความสะดวก

    ตลาดจีนมีความสำคัญกับ TCP มาก เพราะขนาดตลาดใหญ่ เศรษฐกิจเติบโต มีโอกาสรออยู่สูง สราวุฒิประเมินว่าบริษัทต้อง ‘เพิ่มกำลังผลิตอีก 2 เท่า’ ถึงจะพอรองรับ และเชื่อว่าอนาคตจีนจะเป็นแหล่งรายได้อันดับ 1 ของกลุ่ม (ปัจจุบันอันดับ 1 คือไทย ตามด้วยเวียดนาม และจีน)

     

    เป้ารักษ์โลก ลดคาร์บอน รีไซเคิล คืนแหล่งน้ำ

    สุดท้ายคือการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสราวุฒิกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ ‘รอไม่ได้อีกแล้ว’ และต้องการให้เห็นว่ากลุ่ม TCP ทำจริง ไม่ได้ตั้งโครงการเพื่อใส่ไว้ในรายงานประจำปี เป้าหมายที่จะทำทั้งหมด ได้แก่

    • ลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2593
    • ต้องการเป็น Circular Economy ภายในปี 2567 บรรจุภัณฑ์ของกลุ่มจะรีไซเคิลได้ 100% โดยเริ่มทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และองค์กรระดับโลกแล้วเพื่อเปลี่ยนทั้งซัพพลายเชน
    • ต้องการเป็นบริษัท Water Net Positive ภายในปี 2573 เนื่องจากบริษัทมีการใช้น้ำเป็นวัตถุดิบในการผลิตมาก ดังนั้น บริษัทจะคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติให้ได้มากกว่าที่ดึงมาใช้ผลิต โดยจะช่วยผ่านการรักษาอนุรักษ์น้ำตามธรรมชาติ

    ทั้งหมดคือแผนและเป้าของ TCP ซึ่งสราวุฒิมองว่ายังเป็นแผนที่ ‘aggressive’ เช่นเคย ยังคงท้าทาย แต่มองเห็นความเป็นไปได้ ท่ามกลางปัจจัยลบที่กระหน่ำอยู่ในโลกขณะนี้

    “ถ้าเราตอบว่าเรามั่นใจกับสถานการณ์ภายนอกคือเราโกหก แต่เรามั่นใจกับแผนของเรา มีการพูดคุยกับซัพพลายเชนให้โตไปพร้อมกับเราได้ ปูพื้นวัฒนธรรมการทำงานของคนในองค์กรให้ตอบรับกับโลกยุคหลัง COVID-19 เราไม่ได้มั่นใจ 90-100% เหมือนในสมัยก่อนแล้วค่อยลงทุน เราต้องเดินต่อไป เพราะโลกทุกวันนี้คือการต้องลองทำไปก่อน” สราวุฒิกล่าวปิดท้าย

    ]]>
    1383438
    เฉลยแล้ว! “สปอนเซอร์” ดึง “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” นักเตะลิเวอร์พูลนั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ https://positioningmag.com/1266283 Fri, 28 Feb 2020 08:59:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1266283 สปอนเซอร์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ครั้งแรกในไทยกับการดึงสุดยอดนักฟุตบอลระดับโลก “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ 

    หลังจากที่มีปริศนากันมาหลายวัน เมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค นักเตะกองหลังจากสโมสรลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้โพสท์อินสตาแกรมด้วยภาษาไทยว่า “สวัสดี” อีกทั้งยังโผล่ในสื่อโฆษณาที่รถโดยสารประจำทาง แต่ยังไม่มีการฟันธงจากแบรนด์ว่าเป็นการร่วมงานในฐานะอะไร

     

    ล่าสุดได้มีการคอนเฟิร์มแล้วว่า “สปอนเซอร์” เครื่องดื่มเกลือแร่ในเครือกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ลงทุนคว้านักเตะดาวเด่นของโลก “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของสปอนเซอร์ เพื่อต้องการชูภาพลักษณ์ “เครื่องดื่มเกลือแร่ของนักกีฬาระดับโลก” พร้อมสโลแกน “สดชื่นทุกความท้าทายระดับโลก”

    ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า

    “ปัจจุบัน ตลาดสปอร์ตดริ้งค์ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท มีการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 8% ซึ่งสปอนเซอร์สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 90% ผนวกกับกลยุทธ์การใช้นักกีฬาชั้นนำของประเทศไทยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์โดยตลอด สำหรับในปีนี้เราต้องการยกภาพให้เป็นแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ที่นักกีฬาระดับโลกดื่ม จึงได้ร่วมงานกับเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค”

    ก่อนหน้านี้สปอนเซอร์ได้เดินเกม Sport Marketing มาโดยตลอด ในปี 2015 ได้เลือกนักฟุตบอลทีมชาติ 5 คน นำโดย “แมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสิทธิ์ , อดิศักดิ์ ไกรษร, กวิน ธรรมสัจจานันท์ , เกริฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และสารัช อยู่เย็นพร้อมกับ “โค้ชซิโก้” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอบรับกับกระแส “บอลไทยฟีเวอร์” ในช่วงนั้น

    ]]>
    1266283
    ภารกิจรีเฟรชแบรนด์ “สปอนเซอร์ แอคทีฟ” ขยายฐานคนรุ่นใหม่ ลบภาพเครื่องดื่มนักกีฬา https://positioningmag.com/1249009 Mon, 07 Oct 2019 13:26:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1249009 TCP หรือกลุ่มกระทิงแดงได้รีเฟรชแบรนด์สปอนเซอร์ แอคทีฟ ปรับรสชาติใหม่ เปลี่ยนฉลาก พร้อมเปิดตัว “เก้า สุภัสสรา” เป็นพรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงคนแรก หวังขยายฐานไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ 

    แม้เป็นเจ้าตลาด แต่ก็ต้องขยายตลาด

    ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ หรือสปอร์ตดริ้งค์ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดที่หินพอสมควร เพราะมีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง “สปอนเซอร์” จากค่าย TCP หรือกระทิงแดง ได้ครองส่วนแบ่งการตลาดไปแล้วกว่า 90% เพราะได้ทำตลาดมานานกว่า 30 ปี ยากที่จะมีแบรนด์ไหนมาโค่นลงไปได้

    แต่ตลอดเครื่องดื่มเกลือแร่ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้ไม่ได้หวือหวามากนัก ในปัจจุบันมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท เติบโต 15% เพราะด้วยเทรนด์ของคนออกกำลังกายมากขึ้น มีไลฟ์สไตล์อยู่นอกบ้านมากขึ้น อีกทั้งเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่มที่เติมความสดชื่นแก่ร่างกาย

    สปอนเซอร์ได้มีสินค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ สปอนเซอร์ ออริจินัล หรือที่เรียกกันคุ้นเคยว่าสปอนเซอร์สีเหลือง เป็นรสดั้งเดิม และสปอนเซอร์ แอคทีฟ เป็นสปอนเซอร์รสชาติใหม่ๆ เป็นเหมือนซับแบรนด์ที่มีการปรับชื่อมาหลายครั้ง จนล่าสุดได้ลงเอยที่ชื่อสปอนเซอร์ แอคทีฟ

    สำหรับการทำการตลาดของทั้ง 2 กลุ่มก็มีความแตกต่างกัน สปอนเซอร์ ออริจินัลจะเน้นที่กลุ่มคนออกกำลังกาย นักกีฬาเป็นหลัก มีพรีเซ็นเตอร์เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย ด้วยการกำหนดจุดยืนมาตั้งแต่แรกทำให้ยากที่จะปรับภาพลักษณ์ใหม่

    ทำให้โจทย์ใหญ่ของสปอนเซอร์คือการมีสินค้าใหม่ เปิดแบรนด์ใหม่ที่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ถึงแม้ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่เกือบกินทัง้ตลาดไปแล้ว แต่สวปอนเซอร์ยังคงขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง

    ปรับภาพลักษณ์ ไม่ได้สำหรับคนออกกำลังกายเท่านั้น

    หน้าที่ของการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ จึงเป็นหน้าที่ของแบรนด์สปอนเซอร์ แอคทีฟ โดยล่าสุดได้ทำการรีเฟรชแบรนด์ใหม่ มี 3 ราติ 3 สูตรด้วยกัน ได้แก่ สีเขียว สีแดง และสีฟ้า พร้อมปรับฉลากใหม่ ปรับสูตรให้น้ำตาลน้อยลง

    และได้ดึงเก้า สุภัสสรา ธนชาตเป็นพรีเซ็นเตอร์สาวคนแรกของแบรนด์ เพราะก่อนหน้านี้มีการใช้พรีเซ็นเตอร์ผู้ชายมาโดยตลอด และเก้าเองก็มีคาแร็กเตอร์ตรงกับแบรนด์ หวังใช้พูดคุยกับคนรุ่นใหม่

    ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP

    ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP เล่าว่า

    ครั้งนี้เป็นการรีลอนซ์แบรนด์สปอนเซอร์ แอคทีฟครั้งใหญ่ที่สุด มีการปรับสูตร ปรับฉลาก ปรับวิธีการสื่อสารใหม่ เพราะเห็นช่องว่างที่ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ยังเข้าไม่ถึงสปอร์ตดริ้งค์ จริงๆ ไม่ได้แค่คนออกกำลังกาย แต่ยังเป็นคนทำงาน มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟต่างๆ และต้องการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยมากขึ้นด้วย

    ศุภชัยยังเสริมอีกว่า ในอดีตเครื่องดื่มเกลือแร่ หรือสปอร์ตดริ้งค์มีการโฆษณาเน้นเรื่องการออกกำลังกายเป็นส่วนใหญ่ จึงทำการวิจัยว่าทำอย่างไรให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น มีการปรับสูตรให้น้ำตาลน้อยลง เพราะคนรุ่นใหม่กังวลเรื่องน้ำตาล และดึงเก้าเป็นพรีเซ็นเตอร์เพราะต้องการให้หลุดกรอบจากนักกีฬา

    ทำไมเครื่องดื่มเกลือแร่ต้องอยู่ในขวดแก้ว?

    อีกหนึ่ง Pain Point ใหญ่ของเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ทำให้เป็นกำแพงกับคนรุ่นใหม่ก็คือ แพ็กเกจจิ้งขวดแก้ว จะเห็นว่าหลายๆ แบรนด์เลือกใช้แพ็กเกจจิ้งนี้ในตลาดแต่คนรุ่นใหม่นิยมพกพาขวดพลาสติกหรือกระป๋องเสียมากกว่าเพราะสะดวกและดูทันสมัยกว่า

    แต่ทางศุภชัยบอกว่าขวดแก้วยังคงเป็นแพ็กเกจจิ้งสำคัญในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ เพราะขวดแก้วทำให้คงวิตามินของเครื่องดื่มได้ดี แม้จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงผู้บริโภค แต่ก็ไม่เปลี่ยนใจไปแพ็กเกจจิ้งอื่น เพียงแต่เพิ่มทางเลือกด้วยแพ็กเกจจิ้งแบบกระป๋องเข้ามาให้คนรุ่นใหม่เท่านั้นเอง.

    ]]>
    1249009