สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Feb 2022 01:09:54 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 UAE จะเริ่มเก็บ ‘ภาษีนิติบุคคล’ ครั้งเเรก ในปี 2023 กระจายเเหล่งรายได้ออกจากน้ำมัน https://positioningmag.com/1372597 Tue, 01 Feb 2022 12:45:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1372597 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เตรียมเก็บภาษีนิติบุคคลสำหรับผลกำไรทางธุรกิจเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยจะเริ่มตั้งเเต่ 1 มิถุนายน 2023 เป็นต้นไป

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการดึงดูดธุรกิจจากทั่วโลกมายาวนาน ด้วยการเป็นศูนย์กลางการค้าปลอดภาษี อย่างไรก็ตาม ภาษีนิติบุคคลของ UAE จะยังอยู่ในระดับไม่สูงมาก เพื่อให้ยังคงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้เช่นเดิม

กระทรวงการคลัง ระบุว่า ภาษีนิติบุคคลดังกล่าวจะครอบคลุมธุรกิจ องค์กรและกิจกรรมทางการค้าทั้งหมดในประเทศ ซึ่งจะเรียกเก็บในอัตรา 9% แต่จะคิดภาษีในอัตรา 0% หากมีกำไรทางภาษีไม่เกิน 375,000 ดีแรห์ม (102,107 ดอลลาร์ หรือราว 3.3 ล้านบาท ) เพื่อสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและสตาร์ทอัพ

โดยถือว่าเป็นอัตราการเก็บภาษีนิติบุคคลที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เป็นศูนย์กลางการลงทุนโลก

นอกจากนี้รายได้ส่วนบุคคลที่มาจากการจ้างงาน อสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในตราสารทุน หรือรายได้ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าหรือธุรกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะยังคงไม่มีการจัดเก็บภาษีในส่วนดังกล่าว เเละระบบภาษีนี้จะไม่ถูกนำไปใช้กับนักลงทุนต่างชาติที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจในประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อปี 2018 UAE เริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ในอัตรา 5% เเละล่าสุดกับการประกาศใช้แผนเก็บภาษีนิติบุคคลเป็นครั้งแรกนี้ สะท้อนให้เห็นความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการกระจายแหล่งรายได้’ จากเเต่เดิมที่ต้องพึ่งพารายได้หลักจาก ‘น้ำมัน’ หันมามุ่งพัฒนาไปในด้านเทคโนโลยีเเละพลังงานสะอาดมากขึ้น

 

ที่มา : CNBC , Reuters 

]]>
1372597
รีบไปต่อ! UAE จัด ‘Booster Shot’ เตรียมฉีด ‘เข็มที่ 3’ ให้ผู้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็มเเล้ว https://positioningmag.com/1333006 Wed, 19 May 2021 12:42:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1333006 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE เริ่มเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ‘เข็มที่ 3’ ให้กับประชาชนผู้ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มครบ 2 เข็มเเรกเเล้ว ท่ามกลางข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของ UAE ประกาศว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนฟาร์ม (Sinopharm) จากจีน ครบ 2 เข็มแล้วรออีก 6 เดือนหลังจากนั้นให้มาเข้ารีบวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้นเป็นBooster Shot’ หนึ่งในกลยุทธ์ ‘เชิงรุก’ ต่อสู้กับโรคระบาด

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ของซิโนฟาร์ม เป็นการฉุกเฉิน นับเป็นวัคซีนชนิดที่ 5 ของโลก เเละเป็นชนิดเเรกจากฝั่งเอเชีย ที่ได้รับไฟเขียวจาก WHO

ซิโนฟาร์มพัฒนาโดย China National Pharmaceutical Group ของรัฐบาลจีน ซึ่งใช้ฉีดเป็นตัวหลักของประเทศ เเละส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เผยผลการทดลองวัคซีนซิโนฟาร์ม ระยะที่ 3 พบว่ามีประสิทธิภาพ 86% แต่การประกาศดังกล่าวมีรายละเอียดเพียงเล็กน้อย และไม่ได้เปิดเผยว่าตัวเลข 86% นั้นมีการคำนวณอย่างไร

Photo : Shutterstock

ตอนนี้ ข้อกังวลถึงความรวดเร็วในการกระจายวัคซีนเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อประเทศ ‘เซเชลส์’ หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สุดในโลก เเต่ต้องเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 ครั้งใหม่ แม้แต่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนทั้ง 2 โดสก็ยังติดเชื้อ

ซึ่งผู้อยู่อาศัยในเซเชลส์ส่วนใหญ่กว่า 57% ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ส่วนอีก 43% ฉีดแอสตราเซเนกา หรือ ‘Covishield’ ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ผลิตในอินเดีย

UAE อยู่ในกลุ่มประเทศที่สามารถกระจายวัคซีนได้เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับอัตราประชากร โดยเลือกใช้วัคซีนของซิโนฟาร์มเป็นหลัก เพราะเป็นวัคซีนที่ได้ร่วมทุนพัฒนากับจีน โดย UAE ยังเป็นฐานการผลิตที่อยู่นอกจีนแห่งแรกด้วย

ขณะเดียวกัน ก็มีการขยายวัคซีนทางเลือกให้ประชาชนทั้งจาก ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค แอสตราเซเนกา และสปุตนิกวี

โดยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เคยพุ่งสูงสุด 4,000 ตัวต่อวันในช่วงปลายเดือนมกราคม แต่ลดลงเหลือน้อยกว่า 1,500 รายต่อวัน หลังมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเเละเร่งฉีดวัคซีน ทำให้ขณะนี้เมืองสำคัญอย่างดูไบกลายเป็นพื้นที่แรกๆ ในโลก ที่กลับมาดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวและจัดประชุมสัมมนาได้

ในช่วงปลายเดือนเมษายน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศว่าจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวด เพื่อจำกัดการเดินทางของผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนหันมาฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้มีการฉีดไปเเล้วเกือบ 11.5 ล้านโดส จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 10 ล้านคน

 

 

ที่มา : CNBC , Alarabiya , Reuters 

]]>
1333006
“เอมิเรตส์ กรุ๊ป” เริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้พนักงาน รวมลูกเรือ นักบิน ทำงานแนวหน้า https://positioningmag.com/1315326 Wed, 20 Jan 2021 06:21:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315326 เอมิเรตส์ กรุ๊ป (Emirates Group) ได้เปิดตัวโครงการฉีดวัคซีน COVID-19 สำหรับบุคลากรจำนวนมากในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานด้านสุขภาพของดูไบและกระทรวงสาธารณสุขและการป้องกันโรค

การดำเนินการฉีดวัคซีนเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2564 โดยมีการจัดลำดับความสำคัญให้กับบุคลากรที่มีความจำเป็น ซึ่งรวมถึงลูกเรือบนเครื่องบิน นักบิน และหน่วยงานอื่นๆ ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติงานแนวหน้า

สายการบินเอมิเรตส์ พร้อมด้วย Dubai National Airline Travel Agency (dnata) ถือเป็นหนึ่งในองค์กรการขนส่งและบริการทางอากาศแห่งแรกๆ ในโลกที่เสนอทางเลือกให้พนักงานฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 ในช่วงของการแพร่ระบาด

โดยสายการบินเอมิเรตส์ และ dnata ได้ดำเนินมาตรการหลายด้านเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ ลูกค้า พนักงาน รวมถึงคนในชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยในระดับสูงสุด การเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ช่วยรักษาสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานสายการบิน ที่คอยให้บริการลูกค้าต้องเดินทางและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่จำเป็นไปทั่วโลก

เอมิเรตส์ กรุ๊ป ได้ดำเนินการให้พนักงานเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวกสบาย ในหลากหลายจุดของบริษัททั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการใช้วัคซีน Pfizer-BioNTech และ Sinopharm ซึ่งได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยการนัดหมายฉีดวัคซีนจะดำเนินการ 12 ชั่วโมงต่อวัน และ 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรของสายการบินได้เข้าถึงวัคซีนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นเดียวกับประชาชนและผู้อยู่อาศัยทุกคน พนักงานของเอมิเรตส์ กรุ๊ป ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังสามารถเลือกรับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์การแพทย์และคลินิกที่รัฐบาลกำหนดได้ เนื่องจากผู้บริหาร และหน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความตั้งใจที่จะให้ประชากรทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนฟรี

ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Our World In Data ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิจัยที่ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับสองของโลกในด้านอัตราการฉีดวัคซีน โดยมีปริมาณมากกว่า 19.04 โดสสำหรับประชากรทุก 100 คน และมีประชากร

รวมถึงผู้อยู่อาศัยที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเกือบ 1,900,000 ครั้ง นับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการในเดือนธันวาคม 2563 โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงดำเนินการฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย เพื่อครอบคลุมให้กับประชากรมากกว่า 50% ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

]]>
1315326
“ดูไบ” เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว 7 ก.ค.นี้ ต้องมีใบรับรองหรือพร้อมตรวจ COVID-19 ที่สนามบิน https://positioningmag.com/1284654 Mon, 22 Jun 2020 15:25:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284654  “ดูไบเตรียมจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 .. 2563 เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ที่ระบุผลการตรวจ COVID-19 เป็นลบ หรือพร้อมเข้ารับการตรวจเชื้อที่สนามบินดูไบ

ดูไบ เป็นเมืองสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มีเศรษฐกิจหลักพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและค้าปลีก ในปีที่เเล้วท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ มีนักเดินทางมาใช้บริการสูงถึง 16.7 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ดูไบต้องปิดรับนักท่องเที่ยวมาตั้งเเต่เดือน มี..ที่ผ่านมา ตามมาตรการสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ทำให้บรรดาธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้าและสถานบันเทิงในดูไบ เริ่มทยอยกลับมาเปิดทำให้บริการอีกครั้ง รวมไปถึงรัฐบาลได้อนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการพิจารณา

โดยตั้งแต่วันที่ 7 .. 2563 เป็นต้นไป ดูไบจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่จำเป็นต้องมีใบรับรองผลการตรวจ COVID-19 ว่ามีผลเป็นลบ หรือไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะต้องทำการทดสอบเเบบ PCR ด้วยความเเม่นยำสูงสุดภายใน 4 วัน (96 ชั่วโมง) ก่อนวันเดินทาง

ส่วนบุคคลที่ไม่มีใบรับรองก็สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อที่สนามบินได้ และหากมาถึงแล้วพบว่าติดเเชื้อไวรัสดังกล่าว ก็จะต้องเข้ารับการกักกันโรคตามทางการกำหนด เบื้องต้น 14 วันพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนเอง

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องดาวน์โหลดแอป DXV COVID-19 และลงทะเบียนรายละเอียด รวมถึงจะต้องมีประกันสุขภาพที่ถูกต้อง

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจะเดินทางกลับเข้าประเทศ มีข้อกำหนดว่าทุกคนต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส ที่สนามบิน

 

ที่มา :  timeoutdubai , thenational

]]> 1284654