‘องค์การอนามัยโลก’ (WHO) กำลังศึกษาถึงกรณีประเทศ ‘เซเชลส์’ ซึ่งเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สุดในโลก แต่ตอนนี้กำลังเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 ครั้งใหม่ แม้แต่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนก็ติดเชื้อ
‘เซเชลส์’ ถือว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการฉีดวัคซีน โดยมีอัตราผู้ที่ได้รับวัคซีน COVID-19 ถึง 60% มากที่สุดในโลก มากกว่าอิสราเอลและสหราชอาณาจักร โดย 57% ฉีดวัคซีน ‘Sinopharm’ ของจีน ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินโดย WHO ส่วนอีก 43% ฉีด ‘AstraZeneca shot’ หรือ ‘Covishield’ ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ผลิตในอินเดีย โดยรวมแล้วเซเชลส์ที่มีประชากรมากกว่า 97,000 คน มีสถิติผู้ป่วยต่ำกว่า 8,200 ราย เสียชีวิต 28 ราย
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขของเซเชลส์รายงานจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 120 รายในวันที่ 30 เมษายน และมีผู้ป่วยมากกว่า 300 ราย ในวันที่ 7-8 พฤษภาคมตามลำดับ และมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึง 500 รายภายในวันเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อ 63% ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือฉีดเพียงครั้งเดียว และ 37% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว โดย 80% ของผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบยังไม่มีผู้ใดเสียชีวิต
มีการคาดการณ์ว่าการระบาดรอบใหม่มาจากนักท่องเที่ยวหรือไม่ เนื่องจากเซเชลส์เป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพิงภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ธนาคารโลก (Wolrd Bank) ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเซเชลส์ลดลง 13.5% ในปี 2020 ที่ผ่านมา ดังนั้น หลังจากดำเนินมาตรการคุมเข้มเกี่ยวกับการเดินทางข้ามพรมแดนประเทศมานานเกือบ 1 ปี เซเชลส์ก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากมีการฉีดวัคซีนให้คนในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังเซเชลส์ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนถึงจะเดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องแสดงผลการตรวจหาการติดเชื้อ (PCR) ที่แสดงผลเป็นลบ ยืนยันว่าไม่พบการติดเชื้อไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และจากการระบาดดังกล่าวทำให้รัฐบาลออกมาจำกัดการพบปะสังสรรค์และการเว้นระยะห่างในพื้นที่สาธารณะเพื่อลดการติดเชื้อ ส่วนนักท่องเที่ยวยังคงเปิดรับตามเดิม
เคท โอไบรอัน ผู้อำนวยการด้านการสร้างภูมิคุ้มกันวัคซีนและชีวภาพขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนมาก จำเป็นต้องมีการประเมินอย่างละเอียด โดยเฉพาะ ‘สายพันธุ์ที่แพร่กระจาย’
“การประเมินเท่านั้นที่เราจะดูได้ว่ามันเป็นความล้มเหลวของวัคซีนหรือไม่หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ชาวเกาะเผชิญอยู่เป็นเครื่องเตือนใจว่า ไม่มีวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันการติดเชื้อ COVID -19 แต่มีประสิทธิผลอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้ออย่างรุนแรง และลดการเสียชีวิต
ทั้งนี้ WHO เตือนซ้ำว่าการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งการระบาดของโรคได้ แต่ควรเป็นอาวุธอื่นในคลังแสงเพื่อต่อสู้กับไวรัส ส่วนการเว้นระยะห่างทางสังคมตลอดจนสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดียังคงถูกมองว่าเป็นพื้นฐานของการป้องกันการแพร่กระจาย