อิตาลี – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 02 Jun 2023 06:33:11 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ฟลอเรนซ์” เมืองในอิตาลี เตรียมแบนการปล่อยเช่าบ้านผ่าน Airbnb เพื่อให้คนท้องถิ่นมีที่อยู่อาศัย https://positioningmag.com/1432913 Fri, 02 Jun 2023 06:14:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1432913 เมืองประวัติศาสตร์อย่าง “ฟลอเรนซ์” ในประเทศอิตาลี กำลังวางแผนเตรียม “แบน” การปล่อยเช่าบ้านระยะสั้นผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Airbnb หวังให้คนท้องถิ่นกลับมาเข้าถึงที่อยู่อาศัยอีกครั้ง

ดาริโอ นาร์เดลลา นายกเทศมนตรีเมืองฟลอเรนซ์ เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของอิตาลี เปิดเผยว่าเมืองนี้กำลังจะมีกฎหมายท้องถิ่นฉบับใหม่ซึ่งเข้มงวดกว่าร่างกฎหมายระดับประเทศที่กำลังพิจารณากันอยู่

โดยกฎหมายใหม่ของฟลอเรนซ์จะเป็นไปตามแนวคิด “ปกป้องศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์” ผ่านการ “แบน” ไม่ให้มีการปล่อยเช่าบ้านระยะสั้น และจะส่งเสริมการปล่อยเช่าบ้านระยะยาวด้วยการลดภาษีการปล่อยเช่าลักษณะนี้

ฟลอเรนซ์มีปัญหาที่คล้ายกับประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ด้วยปัจจัยรุมเร้าหลายประการ ด้วยสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาดแคลนซัพพลาย แต่มีดีมานด์จากการเช่าระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยวเข้ามา ขณะที่ฐานรายได้ประชากรท้องถิ่นไม่สูงพอ แถมยังเผชิญวิกฤตเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มประชากรที่มีรายได้ต่ำและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาคือกลุ่มคนที่หาที่อยู่อาศัยได้ยากยิ่ง

สำหรับร่างกฎหมายระดับชาติของอิตาลีที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่าระยะสั้น ตามที่สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานพบว่า กฎหมายจะบังคับให้เจ้าของที่พักอาศัยที่ปล่อยเช่าระยะสั้นแก่นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนเพื่อรับรหัสประจำตัว เป็นการจัดระเบียบให้ภาครัฐดูแลและติดตามการปล่อยเช่าได้ดีขึ้น โดยใครที่ฝ่าฝืนกฎข้อนี้จะต้องถูกปรับครั้งละ 5,000 ยูโร

นอกจากนี้ กฎหมายจะเปิดช่องให้เมืองท่องเที่ยวต่างๆ สามารถกำหนดจำนวนคืนเข้าพักขั้นต่ำต่อครั้งได้เองด้วย

Airbnb ยังไม่มีความเห็นตอบโต้โดยตรง แต่มีแถลงการณ์ที่ระบุว่าบริษัทต้องการจะเห็นกฎหมายที่ชัดเจนและเรียบง่ายในอิตาลี

ไม่ใช่แค่ฟลอเรนซ์เท่านั้นที่เริ่มกีดกันการเช่าระยะสั้น ก่อนหน้านี้ “นิวยอร์ก” ก็ออกกฎหมายฉบับหนึ่งออกมา โดยบังคับให้เจ้าของที่พักระยะสั้นต้องลงทะเบียนกับภาครัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบก่อนว่าที่พักอาศัยถูกต้องตามระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่

รวมถึงยังกำหนดให้เจ้าของที่พักต้องแจ้งผังห้องและรายชื่อผู้พักอาศัยทั้งหมดด้วย และทางแพลตฟอร์มกลาง เช่น Airbnb จะต้องร่วมรับผิดชอบตรวจสอบว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง มิฉะนั้นจะมีโทษปรับครั้งละ 1,500 เหรียญสหรัฐ

กฎหมายนี้อนุมัติผ่านไปเมื่อเดือนมกราคม 2023 และจะเริ่มบังคับใช้จริงเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ระหว่างนี้มีการต่อต้านทั้งจาก Airbnb เองและกลุ่มผู้ปล่อยเช่าที่พักผ่าน Airbnb ซึ่งระบุว่า กฎหมายนี้ “เหมือนเป็นการแบนไปโดยปริยาย” เพราะทำตามได้ยากมาก ตัวอย่างเช่น การขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปล่อยเช่าระยะสั้น ปัจจุบันมีเจ้าของที่ผ่านการตรวจสอบแค่ 9 ราย จากผู้ปล่อยเช่ากับ Airbnb ในนิวยอร์ก 38,500 ราย

นับเป็นปีที่ท้าทายของ Airbnb ในเมืองหลายเมืองที่เคยปล่อยเช่าได้อย่างเสรี จะเริ่มมีกฎระเบียบเข้าควบคุมมากขึ้นแล้ว

ที่มา: Reuters, New York Post

]]>
1432913
ต้นตำรับไม่ปลื้ม? ‘Domino’s Pizza’ ปิดกิจการใน ‘อิตาลี’ หลังทำตลาดมาได้ 7 ปี https://positioningmag.com/1396072 Sun, 14 Aug 2022 04:26:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396072 พูดถึง พิซซ่า หลายคนก็คงจะรู้ว่าต้นฉบับมาจาก อิตาลี และดูเหมือนว่า ชาวอิตาเลียน จะไม่ปลื้มกับแฟรนไชส์พิซซ่าสัญชาติอเมริกันอย่าง โดมิโน่พิซซ่า (Domino’s Pizza) เท่าไหร่ เพราะเพียง 7 ปีหลังจากเปิดตัวในสาขาแรกมิลาน ล่าสุดก็ยกธงขาวยอมแพ้ออกจากอิตาลี

Domino’s Pizza ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันที่มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 12,000 แห่ง โดยในปี 2015 Domino ก็ได้เปิดสาขาแรกในอิตาลี ประเทศต้นกำเนิดพิซซ่า แม้ในตอนแรกที่ Domino จะมีแผนที่จะเอาชนะใจลูกค้าด้วย วัตถุดิบอิตาลีล้วน เช่น ใช้ซอสมะเขือเทศ 100% และมอสซาเรลล่า และผลิตภัณฑ์อย่าง Prosciutto di Parma, Gorgonzola, Grana Padano และ Mozzarella di bufala Campana

แต่ล่าสุด Domino จำต้องปิดสาขาทั้งหมด 29 แห่ง ถอนตัวออกจากอิตาลี เนื่องจากเจอการแข่งขันที่สูงจาก ร้านพิซซ่าท้องถิ่น โดยเฉพาะหลังจากที่ร้านเหล่านั้นได้ขยายบริการเดลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ อีกทั้ง ผู้บริโภคกว่าครึ่งยังคงสั่งอาหารหรือผ่านทางโทรศัพท์ผ่านร้านประจำ ทำให้จุดแข็งในบริการเดลิเวอรี่ใช้ไม่ได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าข่าวการถอนตัวออกจากตลาดอิตาลีนี้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนอดที่จะไม่แซวไม่ได้ อย่างใน Twitter ก็มีคนทวิตว่า “การเปิด Domino’s Pizza ในอิตาลี ก็เหมือนกับการพยายามขายหิมะในขั้วโลกเหนือ” หรือ ในหนังสือพิมพ์ของอิตาลี ก็พาดหัวว่า “คนอิตาลีไม่ชอบพิซซ่าหน้าสับปะรด”

Source

]]>
1396072
‘อิตาลี’ สั่งปรับ ‘Amazon’ กว่า 1.28 พันล้านเหรียญฯ ฐานผูกขาดบริการขนส่ง https://positioningmag.com/1366638 Mon, 13 Dec 2021 15:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1366638 กลุ่มเฝ้าระวังต่อต้านการผูกขาดของมิลาน ประเทศอิตาลี ได้สั่งปรับ ‘อเมซอน’ (Amazon) เป็นเงิน 1.13 พันล้านยูโร (1.28 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากละเมิดการผูกขาดตลาด ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่ใหญ่ที่สุดของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในยุโรป

ตามแถลงการณ์ของ กลุ่มเฝ้าระวังต่อต้านการผูกขาดของประเทศอิตาลี ระบุว่า อเมซอน ได้ใช้ประโยชน์จากสถานะความเป็น ‘เจ้าตลาด’ ในการสนับสนุนการนำบริการโลจิสติกส์ของตนเอง หรือ Fulfillment by Amazon (FBA) ให้กับร้านค้าผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon.it ใช้

โดยองค์กรระบุว่า อเมซอนจะปิดกั้นสิทธิพิเศษต่าง ๆ กับผู้ขายที่ไม่ได้ใช้งานบริการ FBA โดยจะปิดกั้นการของเห็นของลูกค้า Prime label หรือสมาชิก Amazon Prime ที่มีกว่า 7 ล้านราย ซึ่งร้านที่ใช้ อเมซอนจะช่วยเพิ่มการมองเห็นซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มยอดขาย

“ที่ผู้ขายเลือก FBA ก็เพราะมันมีประสิทธิภาพ สะดวก และแข่งขันได้ในแง่ของราคา”

อย่างไรก็ตาม อเมซอน “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” กับการตัดสินใจของผู้กำกับดูแลของอิตาลี และจะอุทธรณ์ โดยระบุว่า FBA เป็นแค่บริการทางเลือก และผู้ขายบุคคลที่ส่วนใหญ่ในอเมซอนไม่ได้ใช้บริการดังกล่าว และ “การปรับนั้นไม่ยุติธรรมและไม่สมส่วน”

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านการแข่งขันของอิตาลีในคดีนี้ภายในกรอบการทำงานของเครือข่ายการแข่งขันของยุโรป เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับการสอบสวนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของอเมซอนอีก 2 คดี

โดยคดีแรกเกิดในเดือนกรกฎาคม 2019 ที่มีการประเมินว่าการใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของอเมซอนจากผู้ค้าปลีกที่ขายในตลาดของตนนั้นละเมิดกฎการแข่งขันของสหภาพยุโรปหรือไม่ คดีที่ 2 เกิดช่วงปลายปี 2020 ที่เน้นไปในส่วนการปฏิบัติต่อผู้ขายในตลาดที่ใช้บริการโลจิสติกส์และการจัดส่งของอเมซอน

Source

]]>
1366638
รู้จัก “Stevanato” บริษัทอิตาเลียนผู้ผลิต “ขวดแก้ว” วัคซีน COVID-19 มากที่สุดในโลก https://positioningmag.com/1344298 Tue, 27 Jul 2021 14:19:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1344298 “Stevanato” บริษัทอิตาเลียนผู้ผลิต “ขวดแก้ว” และกระบอกฉีดยา เบื้องหลังขวดแก้วถึง 90% ที่ใช้ในการบรรจุวัคซีนป้องกัน COVID-19 เข้าจดทะเบียน IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์กแล้ว โดยบริษัทนี้เป็นธุรกิจครอบครัวที่ตั้งขึ้นเมื่อ 72 ปีก่อน

บริษัทสัญชาติอิตาลี Stevanato Group ไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนักจนกระทั่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2021 ระดมทุนได้ 672 ล้านเหรียญสหรัฐในวันแรกที่เข้าตลาด (ประมาณ 22,140 ล้านบาท) นับเป็นการเปิด IPO ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจากอิตาลีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่ที่ Ferrari เคยเข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2015

การเข้าตลาดของบริษัททำให้ครอบครัว Stevanato ผู้ก่อตั้ง ยิ่งร่ำรวยขึ้นอีก โดยผู้ก่อตั้งคือ Giovanni Stevanato ตั้งบริษัทนี้ขึ้นเมื่อปี 1949 ปัจจุบันบริษัทคือผู้ครองส่วนแบ่งตลาด 90% ของการผลิตขวดแก้วและกระบอกฉีดวัคซีน COVID-19 รวมถึงเป็นเจ้าตลาดหลอดและปากกาฉีดยาอินซูลินอีกด้วย

ขณะนี้ผู้กุมบังเหียนบริษัทคือ Franco Stevanato วัย 48 ปี เขาเป็นหลานชายของ Giovanni เขาคือผู้นำบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่จากการเปิด IPO ในวอลล์สตรีท

Franco Stevanato ประธานกรรมการ Stevanato Group รุ่น 3 ของครอบครัว

Franco กล่าวกับนิตยสาร Forbes ว่า ปู่ของเขาก่อตั้งบริษัทนี้ในแบบ “สตาร์ทอัพ” เพราะช่วง 3-4 ทศวรรษแรกของบริษัท พวกเขาไม่ทำเงินเลย

ปู่ Giovanni ตั้งบริษัทที่เมืองเวนิซ เริ่มแรกผลิตขวดแก้วบรรจุไวน์กับน้ำหอม จนถึงต้นทศวรรษ 1970s ที่บริษัทเปลี่ยนมาบุกตลาดเวชภัณฑ์ และเติบโตจนเป็นผู้นำตลาดนี้ จากนั้นก็ทยอยขยายตัวไปตั้งโรงงานในเม็กซิโกเมื่อปี 2007 และในจีนเมื่อปี 2012 ตามด้วยสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2016 (ขณะนี้มีโรงงาน 14 แห่งใน 4 ประเทศ)

จนกระทั่ง ปี 2020 นี้เองที่บริษัทเติบโตก้าวกระโดด ทำกำไรเป็นเท่าตัวแตะ 94 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท) และทำให้ Sergio Stevanato รุ่น 2 ของบริษัทในวัย 79 ปีกลายเป็นมหาเศรษฐีโลก ยิ่งเปิด IPO แล้ว หุ้นที่เขายังถืออยู่ในบริษัทสัดส่วน 53% ทำให้เขามีสินทรัพย์ถึง 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท) ยังไม่รวมเงินสดและการลงทุนอื่นๆ อีก เช่น ไร่องุ่นทำไวน์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี

หลอดและปากกาฉีดยา หนึ่งในผลิตภัณฑ์สร้างรายได้หลักของ Stevanato

การระดมทุนในตลาดครั้งนี้ Stevanato Group จะนำไปขยายโรงงาน เปิดสายการผลิตขวดแก้ว กระบอกฉีดยา และหลอดยา บริษัทจะบุกเปิดโรงงานใหม่ที่รัฐอินเดียนา สหรัฐฯ จากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราว 2.9 ล้านเหรียญ (ประมาณ 96 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการสร้างงานในพื้นที่ราว 200 ตำแหน่ง

จริงๆ แล้ว บริษัท Stevanato เน้นการผลิตหลอดและปากกาฉีดยาเป็นหลัก สินค้านี้คิดเป็น 45% ของยอดขายบริษัทเมื่อปี 2020 จนกระทั่งเกิดวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ในอิตาลี บริษัทจึงกลายเป็นหัวหอกในการผลิตขวดแก้วและกระบอกฉีดยาสำหรับรองรับการผลิควัคซีน

อย่างไรก็ตาม แม้จะผลิตมากที่สุดในโลก แต่สินค้ากลุ่มขวดแก้ววัคซีนคิดเป็นเพียง 4% ของรายได้บริษัท โดย Franco ระบุว่า COVID-19 ยังเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ธุรกิจที่บริษัททำ

“เราจะลงทุนวิจัยและพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างไปป์ไลน์ของสินค้าให้ต่อเนื่องและยกระดับให้ดียิ่งขึ้น” Franco กล่าว

Source

]]>
1344298
“อิตาลี” ยอดติดเชื้อลดฮวบ 80% หลังฉีดวัคซีนแอสตราฯ/ไฟเซอร์/โมเดอร์นา https://positioningmag.com/1332384 Sun, 16 May 2021 15:53:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1332384 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สถาบันสุขภาพแห่งชาติและกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี รายงานว่าหลังดำเนินโครงการฉีดวัคซีนในระยะแรก 5 สัปดาห์ พบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อ COVID-19 ในประชากรทุกกลุ่มอายุของอิตาลีลดลงถึง 80%

รายงานระดับชาติว่าด้วยประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ที่ถูกนำมาใช้งานจริง บันทึกข้อมูลตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่อิตาลีเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในประเทศจนถึงวันที่ 3 พ.ค.

รายงานระบุว่าความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับโรค COVID-19 เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีนครั้งแรก ทั้งยังรายงานสถิติ “การติดเชื้อลดลง 80% การรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง 90% และการเสียชีวิตลดลง 95%” หลังการฉีดวัคซีนโดสแรก 35 วัน โดยแนวโน้มรูปแบบดังกล่าวพบได้ในกลุ่มคนทุกเพศ และช่วงอายุ

“ข้อมูลข้างต้นยืนยันถึงประสิทธิภาพของโครงการฉีดวัคซีน และความจำเป็นในการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรจำนวนมากโดยเร็วเพื่อยุติภาวะฉุกเฉิน” ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ประธานสถาบันฯ กล่าว

Photo : Shutterstock

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) หรือโมเดอร์นา (Moderna) โดสแรกนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนระบุว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนโดสที่สองตามหลัง 3-12 สัปดาห์ (ระยะห่างขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน) เพื่อให้วัคซีนสามารถป้องกันการเกิดโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ถูกกำหนดให้ฉีดเพียง 1 โดสก็มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ อิตาลีดำเนินการฉีดวัคซีน COVID-19ให้ประชาชนทั่วประเทศกว่า 26.6 ล้านโดสแล้ว โดยมีประชาชน 8.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 14.1% ที่ได้รับวัคซีนครบโดส เมื่อนับถึงวันเสาร์ที่ 15 พ.ค.

]]>
1332384
‘ยุโรป’ กำลังเผชิญการระบาด ‘ระลอก 3’ จากโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม https://positioningmag.com/1324398 Mon, 22 Mar 2021 05:23:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324398 การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณใน ‘เยอรมนี’ และการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ใน ‘ปารีส’ เป็นเวลา 1 เดือนได้ตอกย้ำสถานการณ์เลวร้ายทั่วยุโรปว่าเชื้อไวรัส COVID-19 ระบาดอีกครั้ง โดยไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบในสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นสาเหตุของการระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์นี้มีรายงานว่ารุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิมมาก

เมืองหลวงของฝรั่งเศสและทางตอนเหนือของประเทศจะเข้าสู่การล็อกดาวน์ใหม่ในวันศุกร์ แม้ว่าโรงเรียนและร้านค้าสำคัญ ๆ จะยังคงเปิดให้บริการอยู่ โดยค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่มีสูงถึง 25,000 รายในช่วงเวลา 7 วัน โดยเป็นการติดเชื้อที่สูงสุดหลังจากเดือนพฤศจิกายน

ส่วนใน ‘เยอรมนี’ จากที่ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ได้ประกาศผ่อนคลายการล็อกดาวน์ในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ 65 รายต่อ 100,000 คน แต่ตอนนี้ตัวเลขนั้นทะลุ 100 คนเรียบร้อย ซึ่งเกินกว่าระดับ 100 รายที่ห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นั้นสามารถรองรับได้สูงสุด ทำให้รัฐบาลเยอรมันเตรียมประกาศขยายระยะเวลาใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเดือนที่ 5

“ตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอาจหมายความว่าเราไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการเปิดตัวเพิ่มเติมได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในทางกลับกันเราอาจต้องก้าวถอยหลังด้วยซ้ำ” นายเจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าว

(Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images )

‘อิตาลี’ ได้ระงับแผนเทศกาลอีสเตอร์ไว้แล้วด้วยการประกาศปิดประเทศครั้งใหม่โดยนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี โดยอิตาลีมีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 103,855 ราย นอกจากนี้ ‘โปแลนด์’ ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยประมาณ 52% ของผู้ป่วยรายใหม่ที่เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อจากสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน โปแลนด์มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดกว่า 2 ล้านราย

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของการระบาดหนักมาจากแคมเปญการฉีดวัคซีนของประเทศในสหภาพยุโรปมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีปัญหาการจัดหาและการจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีน AstraZeneca-Oxford ที่ถูกเบรกลงเนื่องจากพบผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดลิ่มเลือดที่กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะที่เยอรมนีได้เตือนว่าปัจจุบันมีวัคซีนไม่เพียงพอในยุโรปที่จะป้องกันการระบาดรอบ 3 นี้

Source

]]>
1324398
สนไหม? หลายเมืองในอิตาลีประกาศขายบ้าน ราคาเท่าแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น! https://positioningmag.com/1303385 Sat, 20 Mar 2021 04:22:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303385 โรคระบาดใหญ่ไวรัส COVID-19 ช่วยดันราคาที่อยู่อาศัยตามหมู่บ้านต่างๆ แถบชนบทอันมีเสน่ห์แบบโบราณๆ ในสหราชอาณาจักร ถีบตัวสูงขึ้น แต่ไม่น่าเชื่อว่าคุณยังคงสามารถหาซื้อบ้านในราคาเท่ากับแฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ 1 ชิ้นในอิตาลี

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายเมืองอิตาลีประกาศขายบ้านร้างในราคาแค่ 1 ยูโร (ราว 36 บาท) แต่เวลานี้สถานการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับเมืองซาเลมี ในแคว้นซิซิลี เช่นกัน หลังจากฝ่ายบริหารของเกาะแห่งนี้นำเสนอที่พักอาศัยมากกว่า 30 แห่ง ที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ ในราคาพอๆ กับแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นของแมคโดนัลด์

ก่อนหน้านี้หลายเมืองของอิตาลีก็เคยประกาศขายบ้านพักในราคาถูก 1 ยูโรมาแล้ว ในนั้นรวมถึงเมือง Sambuca di Sicilia บนเกาะเดียวกันนี้ เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างน่าใจหาย เพราะชาวเมืองต่างย้ายออกไปหางานทำ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่เป็นจำนวนมาก

ในส่วนของเมืองซาเลมี อาคารที่พักอาศัยจำนวนหนึ่งของเมืองถูกทิ้งร้างมานานหลายทศวรรษแล้ว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่เมื่อปี 1968 ก่อความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นฝ่ายบริหารได้ดำเนินการอย่างมากมายในความพยายามฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานระดับท้องถิ่น และหวังว่าผู้คนจะหันกลับมามองเมืองแห่งนี้ในฐานะสถานที่ที่เหมาะแก่การลงทุน

โดโมนิโก เวนูติ นายกเทศมนตรีของเมือง ให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็น ทราเวล ว่า “ทุกอาคารเป็นของสภาเมือง และทางสภากำลังเร่งการขาย และลดกฎระเบียบที่ยุ่งยากล่าช้าของทางราชการ เพื่อดึงดูดนักลงทุน”

“ก่อนเริ่มโครงการนี้ สิ่งแรกที่เราทำคือฟื้นฟูพื้นที่เก่าของเมืองซาเลมี ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักอาศัย ปรับปรุงยกระดับโครงการพื้นฐานและการบริการต่างๆ ไล่ตั้งแต่ท้องถนน โครงข่ายไฟฟ้าและท่อน้ำทิ้ง ตอนนี้เมืองพร้อมแล้วสำหรับขั้นต่อไป” เขากล่าว

แม้แคว้นซิซิลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดของอิตาลี แต่มันกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โรงแรมสไตล์บูติคเปิดให้บริการจำนวนหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมืองซาเลมี เป็นแหล่งที่ตั้งของปราสาทนอร์แมน, พิพิธภัณฑ์ศีลจุ่มแบบชนบท และพิพิธภัณฑ์พลเมืองซาเลมี นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านกาแฟอีกจำนวนหนึ่งซึ่งล้วนเป็นร้านค้าในราคาประหยัด

นอกจากเมืองซาเลมี และ Sambuca di Sicilia แล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมือง Cinquefrondi ในแคว้นคาลาเบรีย ทางภาคใต้ของอิตาลี ก็ประกาศขายบ้านที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ในราคาแค่ 1 ยูโรเช่นกัน

กระนั้นก็ตาม ผู้เป็นเจ้าของจำเป็นต้องจ่ายเงินประกันเพิ่มอีก 250 ยูโรต่อปี เพื่อรับประกันว่าจะซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ได้หลังการซื้อขาย ภายในเวลาที่กำหนด

Source

]]>
1303385
“อิตาลี” ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ หลัง COVID-19 ตัวกลายพันธุ์ระบาดหนัก https://positioningmag.com/1323392 Sun, 14 Mar 2021 15:41:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323392 อิตาลีกำลังเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ด้วยรัฐบาลหวังควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่โหมกระพือรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ ผลจากการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์

ราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 20 แคว้นของอิตาลี ในนั้นรวมถึงแคว้นซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโรม เมืองมิลาน และเมืองเวนิซ จะเข้าสู่ข้อจำกัดรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มี.. และมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน จากร่างกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ในภูมิภาคต่างๆ ที่ถูกกำหนดในฐานะโซนสีแดง (red zone)” ประชาชนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ยกเว้นแต่ออกมาทำงานหรือเหตุผลด้านสุขภาพ ร้านค้าต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นจะถูกปิด ส่วนโซนสีส้ม (orange zone)” ประชาชนจะถูกห้ามเดินทางออกจากเมืองและแคว้นของตนเอง ยกเว้นแต่ไปทำงานหรือเหตุผลทางสุขภาพ โดยบาร์และร้านอาหารจะสามารถเปิดบริการได้เฉพาะแบบส่งถึงบ้านและสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น

แคว้นต่างๆ จะถูกกำหนดเป็นโซนสีแดงหรือสีส้มขึ้นอยู่กับระดับของการแพร่ระบาด โดยภูมิภาคใดก็ตามที่มีเคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่รายสัปดาห์ มากกว่า 250 คนต่อประชากร 100,000 คน จะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าแคว้นอื่นๆ ก็มีโอกาสดำดิ่งเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า เป้าหมายของมาตรการนี้คือฉุดค่า R อัตราความสามารถที่ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งๆ แพร่กระจายไวรัสสู่คนอื่นๆ ให้ลดลงเหลือ 1

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี

นอกจากนี้แล้วในช่วงสุดสัปดาห์วันอีสเตอร์ รัฐบาลอิตาลีกำลังพิจารณากำหนดให้ทั่วประเทศเป็นโซนสีแดงและจะอยู่ภายใต้มาตการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 5 เมษายน

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี บอกว่ามาตรการรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีความจำเป็น เพราะว่าเคราะห์ร้ายที่เรากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่หนึ่งปีหลังจากโรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น

เวลานี้ค่า R ของประเทศอยู่ที่ 1.6 เนื่องจากตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสหนักหน่วงยิ่งขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า ตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ซึ่งพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศ ขณะเดียวกันพวกเขาก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพบกลุ่มก้อนเล็กๆ ของผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์จากบราซิล

เบื้องต้นพบว่าตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรแพร่ระบาดง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า ก่อนผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร ซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์บริติช (British Medical Journal) จะระบุว่ามันมีความร้ายแรงมากกว่าด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในบราซิล หรือที่เรียกว่า P.1 แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม 2.2 เท่า และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการเคยติด COVID-19 ได้ถึง 61% อ้างอิงจากโมเดลการศึกษาหนึ่ง ที่เผยแพร่โดยคณะวิจัยในบราซิลและสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

อิตาลีเคยล็อกดาวน์ทั่วประเทศมาแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2020 และนับตั้งแต่นั้นก็มีการล็อกดาวน์ระดับท้องถิ่นตามแคว้นต่างๆ เป็นระยะๆ ทั่วประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 150,175 คน เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นเกือบ 15%

ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มี.. อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 25,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก่อนเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 26,000 เคสในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ควบคู่ไปกับมาตรการล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีอิตาลีให้สัญญาว่าจะเร่งโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ แม้ดินแดนแห่งนี้ได้ระงับใช้วัคซีนล็อตหนึ่งของแอสตร้าเซนเนก้า หลังพบชายคนหนึ่งในซิซิลี เสียชีวิตจากอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หนึ่งวันหลังได้รับวัคซีนโดสแรก

Source

]]>
1323392
“อิตาลี” เตรียมสร้างพาวิลเลียนจุดรับวัคซีน COVID-19 ปูพรม 1,500 แห่งทั่วประเทศ https://positioningmag.com/1310820 Thu, 17 Dec 2020 05:51:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1310820 วัคซีนแห่งความหวังของมนุษยชาติวิจัยสำเร็จ ขั้นตอนต่อไปคือการระดมฉีดให้กับประชาชน ทำให้ “อิตาลี” ออกแบบพาวิลเลียนชั่วคราวขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เตรียมติดตั้ง 1,500 แห่งทั่วประเทศ เริ่มเดือนมกราคม 2021 สร้างแรงกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน COVID-19

สเตฟาโน โบเอรี สถาปนิกโครงการพร้อมทีมที่ปรึกษา แถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ทีมงานได้ออกแบบภาพเบื้องต้นและโลโก้ของพาวิลเลียนชั่วคราวที่จะใช้เป็นจุดรับวัคซีนป้องกัน COVID-19 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพาวิลเลียนดังกล่าวจะก่อสร้างทั้งหมด 1,500 แห่งทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะตั้งในจัตุรัสใจกลางเมืองต่างๆ

พาวิลเลียนนี้ออกแบบเป็นรูปวงกลม โดยใช้ไม้และผ้าเป็นส่วนประกอบหลัก ใช้โลโก้รูปดอกพริมโรสสีชมพูสดใส ซึ่งทางสถาปนิกอธิบายว่า คอนเซ็ปต์ของงานจะให้ความรู้สึก “เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยและความสงบสุข”

การมารับวัคซีนจะเป็นการทำเพื่อสังคม เพื่อความรักต่อเพื่อนมนุษย์ และเพื่อการค้นพบชีวิตใหม่ ไวรัสนี้ทำให้เราถูกล็อกดาวน์อยู่กับบ้านหรือโรงพยาบาล แต่วัคซีนได้ช่วยให้เราได้กลับสู่ชีวิตและธรรมชาติรอบตัวเราอีกครั้ง” โบเอรีกล่าว

(Photo : Stefano Boeri Architetti)

โบเอรีเป็นหนึ่งในสถาปนิกชื่อก้องของอิตาลี มีผลงานที่โดดเด่นที่สุดชื่อ “อิล บอสโก เวอร์ติคาเล” หรือ “ป่าแนวตั้ง” ซึ่งเป็นอาคารที่มี facade ภายนอกเป็นต้นไม้และพื้นที่สีเขียวทั้งหมด เขายังเคยได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรในงานสัมมนา ACT Forum 2019 ที่ประเทศไทยด้วย

สำหรับงานครั้งนี้ โบเอรีและทีมอุทิศผลงานให้กับภาครัฐฟรี เพื่อช่วยเหลือประเทศ โดยอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกไวรัสโคโรนาคุกคามหนักที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยสถิติผู้เสียชีวิตมากถึง 65,000 คน (ข้อมูลจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins) ซึ่งมากที่สุดในทวีปยุโรป

การรณรงค์และสร้างแรงกระตุ้นให้ประชาชนอิตาลีเข้ารับวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะอิตาลีมีกระแสความไม่เชื่อมั่นต่อวัคซีนป้องกันโรคมาแล้วหลายปี แม้ว่าจะเป็นกระแสในกลุ่มเล็กๆ ก็ตาม นอกจากนี้ รัฐบาลอิตาลียังประกาศยกเลิกการบังคับฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนไปเมื่อปี 2018

กระแสต่อต้านวัคซีนในบางประเทศเป็นสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าจะทำให้โรคระบาด COVID-19 ถูกควบคุมได้ช้ากว่าที่คาด โดยประเทศที่มีกลุ่มต่อต้านวัคซีนอย่างชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร (พื้นที่เวลส์เป็นหลัก), โรมาเนีย แต่ละกลุ่มย่อยมีเหตุผลต่างกันไป ตั้งแต่ความไม่เชื่อมั่นในการพัฒนาวัคซีนว่าจะไม่มีผลข้างเคียง ประสบการณ์เลวร้ายจากการฉีดวัคซีน จนถึงเหตุผลด้านศาสนา

Source

]]>
1310820
“อิตาลี” วิจัยพบ COVID-19 วนเวียนในประเทศตั้งแต่ ก.ย. 19 ก่อนระบาดในจีน https://positioningmag.com/1306636 Fri, 20 Nov 2020 14:23:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306636 ผลการศึกษาจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (INT) ในนครมิลานของอิตาลี ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. ระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ก่อโรค COVID-19 อาจวนเวียนอยู่ในอิตาลีตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 ซึ่งนับเป็นเวลา 3 เดือนก่อนเชื้อไวรัสฯ จะถูกพบในจีนครั้งแรก

หากข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง นั่นหมายความว่าเชื้อไวรัสฯ อาจปรากฏในอิตาลีนาน 3 เดือนก่อนจีนรายงานการพบเชื้อไวรัสฯ ครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2019 และนาน 5 เดือนก่อนอิตาลีตรวจพบผู้ป่วยรายแรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.พ. 2020

งานวิจัยของสถาบันฯ ระบุว่า 11.6% ของอาสาสมัครสุขภาพแข็งแรง จำนวน 959 คน เข้าร่วมการทดลองตรวจคัดกรองมะเร็งปอดระหว่างเดือนกันยายน 2019 ถึงมีนาคม 2020 มีแอนติบอดีโรค COVID-19 ตั้งแต่ก่อนเดือนกุมภาพันธ์

จิโอวานนี อะโพโลน ผู้เขียนร่วมของงานวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่ามีผู้ป่วยจากการศึกษาข้างต้นป่วยตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมปีก่อน จำนวน 4 ราย ซึ่งหมายความว่ากลุ่มคนเหล่านี้ติดเชื้อตั้งแต่เดือนกันยายนแล้ว

ก่อนหน้านี้แคว้นลอมบาร์ดีทางตอนเหนือ มีนครมิลานเป็นเมืองเอก และเป็นสถานที่ที่เกิดการระบาดใหญ่แห่งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ รายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดรุนแรง และปอดอักเสบมากผิดปกติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 บ่งชี้ว่าโรค COVID-19 อาจวนเวียนอยู่ในอิตาลีนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

Source

]]>
1306636