‘สิงคโปร์’ ขึ้นแท่น “ราคาเช่า-ซื้อบ้าน” แพงสุดในเอเชียแปซิฟิก เฉลี่ยหลังละ 42 ล้านบาท!

อย่างที่รู้ว่าค่าครองชีพของ สิงคโปร์ แพงเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ล่าสุด ราคาเช่า-ซื้อบ้านของสิงคโปร์ก็แซง ฮ่องกง ขึ้นแท่นแพงสุดในภูมิภาค โดยราคาบ้านเฉลี่ยอยู่ที่หลังละ 42 ล้านบาท ส่วนค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 91,000 บาท/เดือน

ข้อมูลจาก Urban Land Institute (ULI) Asia Pacific Centre for Housing ที่รวบรวมจาก 45 เมือง ใน 9 ตลาดของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แสดงให้เห็นว่า ราคาเฉลี่ยของบ้านส่วนตัวของ สิงคโปร์ ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.2 ล้านดอลลาร์ (ราว 42 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นราว +8% แซงแชมป์เก่าอย่าง ฮ่องกง ที่เฉลี่ย 1.16 ล้านดอลลาร์ (ราว 40 ล้านบาท)

ที่ผ่านมา ราคาบ้านในฮ่องกงถือว่าสูงสุดในภูมิภาค แต่ในปีที่ผ่านมา ราคาบ้านก็ ลดลงอย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่เพิ่มขึ้น อีกปัจจัยก็คือ การไหลออกของประชากร และ มุมมองในแง่ลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ทำให้ราคาบ้านในปี 2021 ลดลง 8.7% จาก 1.27 ล้านดอลลาร์ เหลือ 1.16 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 โดยในช่วงเดือนตุลาคม 2022 ราคาบ้านของฮ่องกงถือว่า ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี

อย่างไรก็ตาม รายงานเสริมว่าหากเทียบเป็นราคาต่อตารางเมตร บ้านส่วนตัวของฮ่องกงยังคงแพงที่สุด โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 19,768 ดอลลาร์ (ราว 691,000 บาทต่อตารางเมตร)

ในส่วนของ ราคาค่าเช่าบ้านในสิงคโปร์ก็สูงสุดในภูมิภาคเช่นกัน โดยเฉลี่ยที่ 2,600 ดอลลาร์ (ราว 91,000 บาท/เดือน โดยเพิ่มขึ้นเกือบ +30% ในปี 2022 ซึ่งเกิดมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ย้ายถิ่นฐาน การชะลอตัวของการสร้าง และคนรุ่นใหม่ที่ย้ายออกจากบ้านของครอบครัว เพื่อต้องการพื้นที่และอิสระมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้บ้านส่วนตัวของสิงคโปร์จะแพงที่สุดในภูมิภาค แต่อัตราการเป็นเจ้าของบ้านของคนสิงคโปร์ก็สูงถึง 89.3% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลในปี 1960 ที่มีความมุ่งมั่นในการให้ประชากรได้มีบ้านในราคาที่เหมาะสม ขณะที่ปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์ก็พยายามแก้ไขปัญหาราคาบ้านที่สูงขึ้น อาทิ การเพิ่มอัตราภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านชาวต่างชาติเป็น 2 เท่า หรือ 60%

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของบ้านคิดเป็นเพียงประมาณ 20% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทุกประเภทในสิงคโปร์ โดยที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นห้องชุด ซึ่งราคาเฉลี่ยในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 409,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.2 ล้านบาท) เพิ่มจากปีก่อนหน้าราว +7.9% และมีค่าเฉลี่ยราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายได้ครัวเรือนอยู่ที่ 4.7 เท่า