แบนแอปจีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 10 Jun 2024 00:45:36 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ยกแผง! “CapCut” – “Lemon8” อีกสองแอปฯ ดังของ ByteDance อาจโดนแบนในสหรัฐฯ ตาม TikTok https://positioningmag.com/1477227 Sat, 08 Jun 2024 06:49:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1477227 หลังฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ออกกฎหมายบีบให้ปิดกิจการหรือขาย “TikTok” มีการประเมินว่าแอปฯ อื่นอาจจะโดนร่างแหจากกฎหมายนี้ไปด้วยก็ได้ เช่น “CapCut” แอปฯ ตัดต่อชื่อดัง หรือ “Lemon8” แอปฯ โซเชียลมีเดีย ที่อยู่ภายใต้บริษัท ByteDance เช่นกัน รวมไปถึงแอปฯ อีคอมเมิร์ซจีนบริษัทอื่นที่กำลังเติบโตในสหรัฐฯ เช่น Alibaba, Temu

Axios ชี้รายละเอียดร่างกฎหมายแบน TikTok ที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ที่ให้ผ่านออกมานั้น ข้อความในกฎหมายกว้างและครอบคลุมมากทีเดียว เพราะมีการระบุว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถแบนแอปพลิเคชันใดก็ได้ที่มีการควบคุมโดยหน่วยงานที่เป็นภัยจากต่างประเทศ” รวมถึงแอปฯ ที่ “ดำเนินการไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านบริษัทแม่หรือบริษัทลูกของหน่วยงานที่เป็นภัยจากต่างประเทศ”

นั่นทำให้ถ้ากฎหมายนี้ถูกบังคับใช้จริง ก็เป็นไปได้ว่าแอปฯ ที่ได้รับผลกระทบจะไม่ใช่แค่ TikTok แต่หมายถึงแอปฯ ที่อยู่ภายใต้บริษัท ByteDance ทั้งหมด

แอปฯ อื่นที่เป็นที่นิยมในสหรัฐฯ เช่นกันคือ “CapCut” แอปฯ ตัดต่อวิดีโอสั้นเบื้องหลังคลิปมากมายที่นำไปโพสต์ลงใน TikTok รวมถึงแอปฯ วิดีโอสั้นอื่นๆ ด้วย หากมีการแบน CapCut ก็จะกระทบครีเอเตอร์มากมายที่ใช้แอปฯ นี้เป็นหลักในการตัดต่อ

รวมถึงแอปฯ “Lemon8” แอปฯ โซเชียลคู่แข่ง Pinterest ที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์และสุขภาพ ก็อาจจะโดนแบนไปด้วย

ภายใต้บริษัท ByteDance ยังมีแอปฯ อื่นที่ทำธุรกิจในสหรัฐฯ อีก เช่น “Lark” แอปฯ ที่รวมฟีเจอร์สำหรับทำงาน ทำเอกสาร แชทในออฟฟิศ หรือ “Hypic” แอปฯ สำหรับตัดต่อรูป เป็นต้น

สำนักข่าว Mashable ยังประเมินด้วยว่า ไม่ใช่แค่ ByteDance ที่จะถูกแบน แต่กฎหมายนี้อาจจะใช้ครอบคลุมบริษัทจีนอื่นด้วยก็ได้ เช่น กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Alibaba หรือ Temu

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า ByteDance จะไม่ยอมง่ายๆ และน่าจะเตรียมสู้ในทางกฎหมาย แต่ถ้าสุดท้ายแล้วแพ้คดี บริษัทอาจจะเลือกที่จะปิดกิจการไปเลยมากกว่าขายหุ้นให้กับบริษัทอื่น

Source

]]>
1477227
ไม่จบง่าย ๆ ‘อินเดีย’ สั่งแบนแอปจีนเพิ่มอีก 54 แอป อ้างภัยคุกคามด้านความมั่นคง https://positioningmag.com/1373849 Mon, 14 Feb 2022 07:32:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373849 ย้อนไปเมื่อปี 2563 ทหารอินเดียและทหารจีนจำนวนหนึ่งได้ปะทะกันอย่างรุนแรงในหุบเขากัลวัน ทางตะวันออกของลาดักห์ ส่งผลให้มีทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย จนเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับจีน และต้นเดือนมิถุนายน 2563 อินเดียสั่งแบนแอปพลิเคชันมือถือของจีน 59 รายการ แม้จะผ่านไปกว่า 1 ปี ล่าสุด อินเดียก็สั่งแบนแอปจากจีนเพิ่ม โดยให้เหตุผลว่าเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ

ไม่รอด! อินเดียประกาศแบน PUBG, Baidu และ Alipay ตามหลัง ‘TikTok’

แอปส่วนใหญ่ที่ถูกแบนในวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น TikTok, WeChat และ Helo เนื่องจากมีความกังวลว่าพวกเขากำลังรวบรวมข้อมูลผู้ใช้และอาจส่งไปยัง ‘นอกประเทศ’ มาในเดือนกรกฎาคม รัฐบาลได้สั่งห้ามแอปประมาณ 47 แอป ที่ส่วนใหญ่เป็นโคลนหรือบางเวอร์ชันของแอปที่ถูกแบนไปแล้ว ตามมาด้วยคำสั่งอื่นที่รัฐบาลสั่งห้าม 118 แอปและเกม ซึ่งรวมถึง PUBG Mobile และ PUBG Mobile Lite

มาเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลอินเดียยังคงแบนแอปที่เชื่อมโยงกับจีน โดยประกาศแบนแอปเพิ่มเติม 43 แอป ในจำนวนนั้นมี AliExpress, CamCard และ Taobao Live ล่าสุด ปี 2022 กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และไอทีของอินเดียได้แบนการใช้งานแอปพลิเคชันอีก 54 รายการ ที่อาจคุกคามความมั่นคงของอินเดีย

โดยแอปต่าง ๆ ที่โดนแบนนั้นมีบางส่วนที่เป็นของบริษัทเทคโนโลยีจากจีน อาทิ เทนเซ็นต์, อาลีบาบา และ เน็ตอีส โดยรายชื่อของแอปที่โดนแบนหลัก ๆ ได้แก่ Beauty Camera: Sweet Selfie HD, Beauty Camera – Selfie Camera, Equalizer & Bass Booster, CamCard for SalesForce Ent, Isoland 2: Ashes of Time Lite, โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Viva, Tencent Xriver, Onmyoji Chess, Onmyoji Arena, AppLock , Dual Space Lite.

เพื่อบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้สั่งให้ Google และ Apple บล็อกการเข้าถึงแอปผ่านระบบปฏิบัติการณ์ทั้ง Android และ iOS จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้แอปจีนเกือบ 300 แอป ในประเทศอินเดีย

“เมื่อได้รับคำสั่งชั่วคราวที่ส่งผ่านภายใต้มาตรา 69A ของพระราชบัญญัติไอที ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ เราได้แจ้งให้นักพัฒนาที่ได้รับผลกระทบทราบและได้บล็อกการเข้าถึงแอปที่ยังคงมีอยู่ใน Play Store ในอินเดียเป็นการชั่วคราว” โฆษกของ Google กล่าว

อย่างไรก็ตาม จีนคัดค้านการตัดสินใจของอินเดียในการสั่งห้ามแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของจีนต่อไป และกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดหลักการไม่เลือกปฏิบัติขององค์การการค้าโลก

จีนค้านหนักกรณี “อินเดีย” สั่งแบน 118 แอปพลิเคชันจีน

Source

]]>
1373849