โลตัส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 15 Mar 2024 11:32:55 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘โลตัส’ ชูจุดแข็งช่องทางออนไลน์ ส่งฟรี ส่งของสดภายใน 1-3 ชั่วโมง จูงใจลูกค้า ตั้งเป้าปีนี้โต 30% https://positioningmag.com/1466486 Fri, 15 Mar 2024 10:26:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466486 โลตัส (Lotus’s) ชูจุดแข็งช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าฟรีไม่มีขั้นต่ำ ส่งของสดภายใน 1-3 ชั่วโมง เพื่อที่จะจูงใจลูกค้า โดยตั้งเป้าปีนี้โต 30% ขณะเดียวกันก็ยังมีการปรับเปลี่ยนโปรแกรม My Lotus’s ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส ได้กล่าวถึงแอปพลิเคชัน Lotus’s ในปี 2023 ที่ผ่านมานั้นมียอดดาวน์โหลดแอปฯ รวมมากถึง 10 ล้านดาวน์โหลดแล้ว ซึ่งเขาชี้ว่าตัวเลขจำนวนการสั่งซื้อรวมแตะระดับ 1 ล้านครั้ง และเป็นครั้งแรกนั้นยากเสมอ บริษัทต้องใช้เวลาถึง 7 เดือนหลังจากบริษัทได้เปิดตัวแอปฯ ในปี 2022

ขณะที่จำนวนการสั่งซื้อรวมแตะระดับ 1.5 ล้านครั้งภายในเดือนมกราคมปี 2024 ที่ผ่านมา และในปี 2023 มียอดสั่งซื้อรวมกันมากถึง 1 หมื่นล้านบาทแล้ว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของโลตัส ยังกล่าวว่า บริษัทเป็นค้าปลีกรายแรกของไทยที่พร้อมจัดส่งสินค้าภายใน 1 ชั่วโมงหากเป็นการจัดส่งจากสาขาของโลตัสโกเฟรช และภายใน 3 ชั่วโมงหากเป็นการจัดส่งจากสาขาใหญ่ ส่วนถ้าเป็นสินค้าชิ้นใหญ่ จะจัดส่งภายในวันถัดไป หรือแม้แต่การรับสินค้าที่สาขา นอกจากนี้ยังมีค่าส่งที่ฟรีไม่มีจำกัดการสั่งซื้อขั้นต่ำ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เป็นตัวเร่งให้ลูกค้าใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

เขายังชี้ว่าจุดแข็งที่โลตัสสามารถพร้อมส่งสินค้าได้ เนื่องจากบริษัทมีสาขาเล็กและสาขาใหญ่รวมกันกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ และยังมีสินค้าถึง 30,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเสริมความงาม และสินค้าสำหรับแม่และเด็ก เป็นต้น

ธรินทร์ ธนียวัน – กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส / ภาพจากบริษัท

ออกแคมเปญใหม่

ขณะเดียวกันภายในเดือนมีนาคมนี้ Lotus’s ได้ออกแคมเปญมีโปรโมชั่น ให้ทุกคนที่เข้ามาสั่งสินค้านั้นมีความสุข ผ่านดีลพิเศษทุกวัน เช่น วันจันทร์ถ้าหากสั่งน้ำดื่ม มีแคมเปญซื้อน้ำแพ็คทุกวันอาทิตย์หรือทุกวันจันทร์  วันอังคารมีโปรโมชั่นอาหารสดถ้าหากสั่งถึงจำนวนหนึ่ง หรือถ้าสั่งเกินจะมีคูปองออนท็อปด้วย เป็นต้น

ผู้บริหารของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส ได้กล่าวว่า การที่บริษัทสามารถทำแคมเปญต่างๆ ได้ทุกวันเนื่องจากบริษัทได้เห็นข้อมูลการสั่งสินค้าของลูกค้า เช่น ปริมาณการสั่งน้ำดื่มในวันจันทร์ถือว่าเยอะเป็นพิเศษ ทำให้โลตัสได้ออกแคมเปญดังกล่าวออกมา

มองว่าเทรนด์ของผู้บริโภคจะมาช่องทางออนไลน์แน่นอน

ธรินทร์ ยังชี้ว่าปัจจุบันยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่เปิดตัวแอปฯ ในปี 2022 มีสัดส่วน 1% แต่ปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวกำลังจะแตะเลข 2 หลักในเร็วๆ นี้แล้ว และเขามองว่าเทรนด์การซื้อสินค้าของคนไทยจะคล้ายกับประเทศจีนที่มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และการไปซื้อสินค้าแบบปกตินั้นเหมือนมาซื้อสินค้าให้สนุก

นอกจากนี้ ธรินทร์ ได้ชี้ถึงว่า ในการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์นั้นมีดีลส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้า ซึ่งแตกต่างกับการไปซื้อที่สาขาที่จะไม่มีส่วนลด และโลตัสเตรียมนำสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้    ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อภายในแอปฯ ได้ด้วย โดยถ้าเป็นสินค้าใหญ่ๆ จะใช้เวลาจัดส่งไม่เกิน 7 วัน

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ – ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส / ภาพจากบริษัท

ปรับสิทธิประโยชน์ Lotus’s Reward Program ใหม่

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า นอกเหนือจากความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้นในการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว โลตัสยังมอบสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งกว่า ด้วยรีวอร์ดโปรแกรมมายโลตัส (My Lotus’s) ที่เปลี่ยนจากการเป็นเพียงบัตรสะสมคะแนน สู่ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มแบบปัจเจกบุคคล

เธอชี้ว่าโปรแกรม My Lotus’s พัฒนามาจาก Club Card สมัยที่ยังเป็น Tesco Lotus ซึ่งมีการสะสมแต้ม แต่ต้องรอคูปองนานถึง 3 เดือน ซึ่งโปรแกรมใหม่นั้นสามารถที่จะสะสมแต้มได้สะดวกมากกว่าเดิม

ตัวเลขในปี 2023 ที่ผ่านมาโปรแกรม My Lotus’s มีลูกค้ามากถึง 17 ล้านคน มีการแจก Coin ไปแล้วมากกว่า 1,600 ล้าน Coin นอกจากนี้ วรวรรณ ยังได้กล่าวเสริมว่าลูกค้าโปรแกรมดังกล่าวนั้นมีการใช้จ่าย 3 เท่าเยอะกว่าคนไม่ได้เป็นสมาชิกโปรแกรมดังกล่าวอีกด้วย

โปรแกรม My Lotus’s เองยังมีการทำโปรโมชั่นส่วนบุคคล ผ่านเทคโนโลยี AI และ Big Data และมีการทำโปรโมชั่นไปแล้วกว่า 150 ล้านโปรโมชั่น เช่น ในวันเกิดของสมาชิก ฯลฯ และการสั่งสินค้าผ่านแอปฯ Lotus’s ยังมีสิทธิพิเศษคือได้ Coin เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปแลกในภายหลังได้

โดย Lotus’s ตั้งเป้าที่จะมีการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปีนี้

]]>
1466486
“โลตัส” สร้างตำนานบทใหม่กับแคมเปญระดับชาติ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” ช่วยคนไทยลดค่าพี่วินมอไซค์ครึ่งหนึ่ง! https://positioningmag.com/1459602 Mon, 22 Jan 2024 09:51:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459602

“โลตัส” ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำค้าปลีกสินค้าแบรนด์ดังคุณภาพสูงในราคาสุดคุ้มค่า ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยแคมเปญใหญ่แห่งปีโรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง ลดราคาสินค้าจำเป็นกว่า 500 รายการตลอดปี 2567 เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค ที่โลตัสทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App ปีนี้ได้จัดเต็มด้วยกิมมิกสุดพิเศษ โลตัสช่วยคนไทยประหยัดค่าพี่วินมอเตอร์ไซค์ลงครึ่งราคา เพียงแค่ทำท่าหมุนมือ “โรลแบ็ค” ตอกย้ำสัญลักษณ์ Symbolic ประจำแคมเปญ

แคมเปญ “โรลแบ็ค” ขึ้นชื่อว่าเป็นแคมเปญคู่บุญของโลตัสมายาวนานถึง 20 ปี ที่เริ่มคิ๊กอ๊อฟตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ช่วยให้คนไทยได้ช้อปสินค้าราคาประหยัดจริงๆ ในแต่ละปีจะมีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

ในปีนี้โลตัสได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ เรียกได้ว่าเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์เลยทีเดียว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนที่สัญจรไปมาแถวย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม รวมไปถึงสีลม อาจจะได้เห็นผู้คนจำนวนมากทำท่ากำมือทั้ง 2 ข้าง และหมุนมือเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง จากนั้นก็ขึ้นวิมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปในทันที

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่านี่เป็นเบื้องหลังของแคมเปญอะไรหรือไม่ จนได้คำตอบที่ว่า ที่แท้จริงนั้นคือส่วนหนึ่งของแคมเปญโรลแบ็คของโลตัสนี่เอง โดยที่กิมมิกของแคมเปญนี้อยู่ที่ว่า  หากใครที่ทำท่าหมุนมือนี้ จะได้รับส่วนลดครึ่งราคาในการเดินทางไปกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปเลยทันที โดยราคาอีกครึ่งที่เหลือ ทางโลตัสจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เอง เพื่อเป็นการช่วยช่วยคนไทยในการประหยัดค่าครองชีพนั่นเอง

โดยปกติแล้วแคมเปญโรลแบ็คจะอยู่แค่ในสโตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จะเป็นการลดราคาสินค้า แต่ในปีนี้โลตัสได้นำเอาสัญลักษณ์การหมุนมือออกมานอกสโตร์ เปรียบเหมือนการลดราคาลง ออกมาใช้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น

ไม่ใช่แค่ทำท่าหมุนมือเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนไทยในการเดินทาง ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ค่าครองชีพในเมืองกรุงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โลตัสจึงทำการโรลแบ็คไปกับวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ในการลดครึ่งราคากันเลยทีเดียว เป็นการจุดกระแสสร้างการรับรู้แก่คนที่สัญจรไปมาใน 3 โลเคชั่นหลักอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม และสีลม ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีคนพลุกพร่านตลอดทั้งวัน


สำหรับแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” ในปีนี้ ได้จัดเต็มในการลดราคาสินค้ากว่า 500 รายการ อาทิ ข้าวสาร น้ำยาล้างจาน กางเกงผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป ของใช้ในชีวิตประจำวันจากแบรนด์ชั้นนำนำมาจัดโปรโมชั่นราคาโรลแบ็ค ลดแบบจัดหนัก เพื่อช่วยคนไทยประหยัดเพิ่มความคุ้มค่า และมอบความรู้สึกดีดีทุกวันให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังสอดรับกับมาตรการลดหย่อนภาษีของภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนช้อปลดหย่อนภาษีที่คุ้มขึ้นอีกขั้นและลูกค้าสามารถขอรับใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice ผ่านการจับจ่ายที่สาขาและแอปพลิเคชั่น Lotus’s SMART App โดยโปรโมชั่นราคาโรลแบ็คจะประเดิมจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 และมีแผนจะจัดราคาโรลแบ็คต่อเนื่องตลอดทั้งปีซึ่งจะสลับหมุนเวียนสินค้าจำเป็นที่ครอบคลุมต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสะสมแต้มสมาชิกมายโลตัส เพื่อรับสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย

นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด โลตัส กล่าวว่า

“โลตัส ในบทบาทผู้นำค้าปลีกที่ยืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่า ขอส่งความสุขให้ประชาชนฉลองการเริ่มต้นปี 2567 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการนำแคมเปญโด่งดังอย่าง “โรลแบ็ค” ที่เป็นภาพจำของโลตัสตั้งแต่ปี 2546 และอยู่คู่โลตัสมาหลายสิบปีอีกทั้งยังเป็นแคมเปญโดนใจลูกค้าเพราะช่วยลดราคาสินค้าลดภาระค่าครองชีพ พร้อมการันตีความประหยัดที่สุดที่โลตัส ซึ่งครั้งนี้โลตัสได้กลับมาเล่นใหญ่อีกครั้งผ่านการจัดแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง”

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งในปีนี้ โลตัสได้สร้างกิมมิกเล็กๆ ด้วยการ “โรลแบ็ค” นอกสถานที่ ลงพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯอย่างโซนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม และสีลม ทำการช่วยลดค่าโดยสารพี่วินมอเตอร์ไซค์ตั้งครึ่งราคา เพียงแค่แสดงท่าหมุนมือที่เป็นท่าประจำแคมเปญโรลแบ็ค เพื่อเป็นการตอกย้ำไอคอนของแคมเปญที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี”

สำหรับสินค้าที่ร่วมแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” มีหลากหลายกลุ่มสินค้า ที่ครอบคลุมในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น

  • เบญจรงค์ข้าวขาวหอมมะลิ 100% 5 กก. ราคาโรลแบ็ค 167 บาท จากราคาปกติ 198 บาท
  • มามี่โพโคแพ้นท์ แฮปปี้เดย์แอนด์ไนท์บางสบาย, แฮปปี้เดยแอนด์ไนท์ (ทุกไซซ์) ราคาโรลแบ็ค 355 บาท จากราคาปกติ 445 บาท
  • โดฟ แชมพู+แชมพู, แชมพู+ ครีมนวด 380 มล. แพ็กคู่ (สูตรที่ร่วมรายการ) ราคาโรลแบ็ค 198 บาท จากราคาปกติ 249 บาท
  • มาม่าบะหมี่ต้มยำกุ้ง 55 กรัม,เย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ 60 กรัม แพ็ก 10 ห่อ ราคาโรลแบ็ค 62 บาท จากราคาปกติ 65 บาท
  • โลตัส ขนมปังชนิดแผ่น 480 กรัม ราคาโรลแบ็ค 37 บาท จากราคาปกติ 40 บาท

สามารถพบกับ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” พบสินค้าราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ถึง 21 ก.พ. 2567

]]>
1459602
“โลตัส” เล่นใหญ่! ฉลองก้าวสู่ปีที่ 30 ผนึกกว่า 100 แบรนด์ดัง จัดแคมเปญ “คุ้มมโหฬาร สู่ปีที่ 30 ลด ล้น ล้าน” https://positioningmag.com/1445454 Tue, 26 Sep 2023 10:00:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445454
โดยปกติแล้วเราได้เห็น “โลตัส” จัดแคมเปญเพื่อส่งรอยยิ้มให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ แต่ปีนี้ที่สุดแสนจะพิเศษกว่าปีไหนๆ เพราะเป็นปีที่ก้าวสู่ปีที่ 30 ก็ต้องมีฉลองใหญ่กันหน่อย เรียกได้ว่ามีการจัดหนักจัดเต็มแบบไม่กั๊ก เพื่อคืนกำไร มอบความสุขให้แก่ผู้บริโภคอย่างเต็มที่ อย่างที่ได้มอบให้มาตลอด 30 ปี

ในปีนี้โลตัสได้เดินหน้าสร้างความรู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส จับมือกับพันธมิตรคู่ค้ากว่า 100 แบรนด์ดังจัดแคมเปญใหญ่แห่งปี “คุ้มมโหฬาร สู่ปีที่ 30 ลด ล้น ล้าน” เพื่อเฉลิมฉลอง และคืนกำไรให้ลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 25 ตุลาคม 2566 ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศและช้อปออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพสินค้าอาหารสด เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางอาหารและอาหารสดคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่าสำหรับประชาชน

นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด โลตัส กล่าวว่า

“โลตัส เป็นห้างค้าปลีกศูนย์รวมสินค้าคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่า ที่อยู่เคียงข้างคนไทยมา 29 ปีแล้ว เรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านคุณภาพสินค้า ความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาประหยัดสำหรับสมาชิกมายโลตัสการบริการเพื่อเป็น Smart Life Solutions ที่เติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบสมาร์ทให้ลูกค้า นับตั้งแต่การรีแบรนด์โลตัสลูกค้าจะเห็นว่าโลตัสมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ แบรนด์ใหม่ โลตัส พรีเว่ (Lotus’s Privé) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในสินค้าที่พรีเมียมมากขึ้นแต่ยังคงมีราคาที่เอื้อมถึง

การเปิดสาขารูปแบบใหม่และปรับพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิม เพื่อเป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน ที่มีพื้นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้เหมาะกับครอบครัวในแต่ละพื้นที่นั้นๆ พร้อมจัดกิจกรรมและแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันยิ่งขึ้น โลตัสพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความรู้สึกดีดีทุกวันที่โลตัส ให้กับลูกค้าของเรา ตลอดจนคนในชุมชน และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนต่อไป”

เนื่องในโอกาสที่โลตัสกำลังก้าวสู่ปีที่ 30 อย่างเป็นทางการ โลตัสจัดแคมเปญเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์ดัง ในแคมเปญโลตัส “คุ้มมโหฬาร สู่ที่ปี 30 ลด ล้น ล้าน” โดยมอบความคุ้มให้ลูกค้าถึง 3 ต่อ ได้แก่

  • “ลด” จัดทัพสินค้าลดราคาแรงที่สุดในรอบปี ครอบคุลมทุกกลุ่มทั้งของกิน, ของใช้ส่วนตัว, ของใช้ในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • “ล้น” โลตัสคอยน์มีค่าล้น 30 เท่า โดย 1 โลตัสคอยน์ แลกรับส่วนลด 30 บาททั้งในส่วนของห้างและร้านค้า
  • “ล้าน” รับเพิ่ม 30 โลตัสคอยน์ เมื่อซื้อครบ 299 หรือ 199 บาท กับกองทัพสินค้าแบรนด์ดังที่ฉลองร่วมกับโลตัสยิ่งใหญ่รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พร้อมรับโลตัสคอยน์คูณ 3 เมื่อช้อปผ่าน Lotus’s SMART App หรือจ่ายผ่าน TrueMoney Wallet

โดยพันธมิตรยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคที่ร่วมผนึกกำลังในแคมเปญโลตัส“คุ้มมโหฬาร สู่ปีที่ 30 ลด ล้น ล้าน” ได้แก่ กรีนสปอต, คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ,คาโอ อินดัสเตรียล,คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค,เค.ที.วาย.ฟู๊ด อินเตอร์เนชั่นแนล,จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์,เจ้านาง,เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง,ซี.พี. ฟู้ดสโตร์,ซีพี-เมจิ,ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น,ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด, ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์, เซ็ปเป้, เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป, ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น,ดีเคเอสเอช,แดรี่ พลัส,ตงฮั้ว บัวใหญ่, ตราแม่ครัว, ไทยน้ำทิพย์,ไทยเทพรส,เนสท์เล่, นีโอ คอร์ปอเรท, บางกอกดิสทริบิวเตอร์,เบทาโกร, เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, บุญรอด เทรดดิ้ง, ไบเออร์สด๊อรฟ, เป๊ปซี่-โคล่า,แปรงไทยแห่งแรก, พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง, พาภิญโญ กรุ๊ป,พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่นไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ), พิซซ่า ฮัท, ฟรีสแลนด์คัมพิน่า,ฟูจิครีมดอทคอม,ฟูเบิร์ก อินดัสเตรียล, มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน, มาลี เอ็นเตอร์ไพรส์, โมเดิร์นเทรด แมนเนจเม้นท์, ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล,ยาคอบส์ ดาวเออร์ เอ็กเบิร์กส์ ทีเอช, ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, ยูนิชาร์ม, ยูสตาร์,เรกคิทท์ เบนคีเซอร์, ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง, ลอรีอัล, สหพัฒนพิบูล,หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป,เอส.ซี.ยอห์นสัน แอนด์ ซัน, เอบี ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจส์, เอลิแอล อินเตอร์เนชั่นแนล, โอสถสภา, ไอ.พี. วัน, ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร

มาก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 กับโลตัส ที่ไม่หยุดในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า รับรองได้ว่ามีแต่ความคุ้มค่าอย่างมโหฬาร เพื่อเป็นค้าปลีกที่อยู่เคียงข้างคนไทย และเป็นศูนย์รวมพื้นที่รองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนในทุกชุมชนต่อไป ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าโปรโมชั่นสุดพิเศษในราคาคุ้มค่าที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ Lotus’s SMART App ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 25 ตุลาคม 2566

]]>
1445454
“โลตัส” ตอกย้ำความคุ้มค่า “ถูกยืน 1” รับประกันถูกจริงไม่ต้องเช็ก คัดสรรสินค้ายอดนิยมทั้งของกินของใช้ https://positioningmag.com/1439360 Tue, 01 Aug 2023 11:00:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439360

โลตัส ประกาศเจตนารมณ์ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกราคาคุ้มค่าที่สุด “โลตัสถูกยืน 1” เพราะโลตัสไม่ยอมให้ใครขายถูกกว่าในสินค้าของกินของใช้ยอดนิยมของชาวไทย รับประกันถูกจริงไม่ต้องเช็ก เพราะโลตัสเช็กมาให้แล้ว พร้อมการกลับมาของโรลแบ็คในกลุ่มสินค้าอาหารสด ผ้าอ้อมเด็ก (ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด) นมผงเด็ก (สูตร 3, 4 ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด ) ถูกลงกว่าเดิม ให้ผู้บริโภคสามารถมาช้อปได้แบบคุ้มค่าทุกวันที่โลตัสสาขาใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ Lotus’s SMART App

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่เราดำเนินธุรกิจ โลตัส มุ่งมั่นส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง เพื่อสร้างความคุ้มค่าและช่วยลูกค้าประหยัดค่าครองชีพเสมอมา และเราเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงในด้านราคาที่คุ้มค่ามาโดยตลอด ในอดีตเรามีแคมเปญโรลแบ็คที่อยู่คู่โลตัสหลายสิบปีและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า เพราะช่วยลดราคาสินค้าและตรึงราคาสินค้าบางรายการให้ต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดที่โลตัส ที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและการปรับขึ้นราคาของสินค้าหลายรายการ โลตัส มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะตัดและตรึงราคาสำหรับสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพเพื่อช่วยประชาชนชาวไทยประหยัด วันนี้ เราพร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านความคุ้มค่าและราคาประหยัดอีกครั้ง และได้ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นค้าปลีกที่ยืนหนึ่งเรื่องราคาคุ้มค่า ไม่ใช่เพียงเรื่องราคาถูก แต่เป็นการเพิ่มความคุ้มค่าทุกการจับจ่าย เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพสินค้าและราคา ซื้อที่โลตัสต้องคุ้มค่าที่สุดทุกวัน

โดยโลตัสถูกยืน 1 คัดสรรของกินของใช้จำเป็นยอดนิยมของคนไทย มารับประกันว่าถูกจริง ไม่ต้องเช็ก อาทิ ข้าวสารหอมมะลิ วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหาร น้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประกันถูกจริงไม่ต้องเช็กและโรลแบ็คที่ถูกลงกว่าเดิม เพื่อให้ทุกคนมั่นใจและสามารถมาช้อปแบบถูกลงได้ทุกวันที่โลตัส

และการกลับมาของโรลแบ็ค ในกลุ่มสินค้านมผงสูตร 3,4 ผ้าอ้อมเด็ก และอาหารสด ให้มีราคาถูกลงกว่าเดิม ให้คนไทยเข้าถึงสินค้าจำเป็นที่มีคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่ายิ่งขึ้น ที่สาขาของโลตัสในรูปแบบสาขาใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต ครอบคลุมทั่วไทย และยังสามารถช้อปได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Lotus’s SMART App”

การกลับมาของโลตัสในการเป็นค้าปลีกราคาถูกยืน 1 โลตัสได้ทุ่มจัดแคมเปญการตลาดสุดยิ่งใหญ่เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าทั่วประเทศ ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารแบบ 360 องศา มีการประกาศเจตนารมณ์โดยผู้บริหารผ่านช่องทางในทุกสาขาของโลตัสทั่วประเทศ พร้อมสร้างการรับรู้ในสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) เช่นป้ายบิลบอร์ด สื่อในสถานีรถไฟฟ้า สื่อโฆษณากลางแจ้งจัดเดินทรูป (Troop) ในกทม. และรถแห่ในพื้นที่ต่างจังหวัด และยังมีสื่อวิทยุโทรทัศน์ สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังมีการสร้างการรับรู้ผ่านอินฟลูเอนเซอร์และพนักงานอีกด้วย เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในทุกพื้นที่ ดึงดูดลูกค้าให้มาช้อปแบบคุ้มค่า ในราคาที่ถูกลง ให้ลูกค้ารู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส

]]>
1439360
“โลตัส” เตรียมพลิกโฉมสาขาทั่วไทย! ทรานส์ฟอร์มไฮเปอร์มาร์เก็ต สู่ SMART Community Center https://positioningmag.com/1438814 Tue, 25 Jul 2023 04:00:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438814

บิ๊กมูฟครั้งใหญ่ของ “โลตัส” เตรียมพลิกโฉมสาขาทั่วประเทศพัฒนาพื้นที่ศูนย์การค้าครั้งใหญ่กางโร้ดแมพสาขารูปแบบใหม่ สู่ SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของชุมชน หลังจากได้นำร่องสาขาแรกที่โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ ตั้งเป้าเปิดสาขารูปแบบใหม่ตามแผนงานนอกจากนี้ยังมีแผนขยายปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิม 31 สาขา ให้มีรูปแบบที่สมาร์ทยิ่งขึ้น

ต้องบอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วงการค้าปลีกในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ มาจากทั้งปัจจัยของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย อีกทั้งการมาของเทคโนโลยี และสื่อดิจิทัล ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์มีอิทธิพลมากขึ้น เรียกว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นค้าปลีกต่างๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้เท่าทันยุคสมัย

เราจึงได้เห็นการพัฒนาโมเดลใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้ รวมไปถึงการลงทุนด้านระบบดิจิทัลมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ “โลตัส” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โลตัสได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งการเปิดโมเดลใหม่ เพื่อรองรับโลเคชั่นที่หลากหลาย และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและครอบคลุมทุกวัย รวมถึงเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น หรือการปรับเพิ่มพื้นที่ในส่วนศูนย์การค้า พื้นที่เช่าร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อเป็นแม็กเน็ตในการดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น

เมื่อปลายปี 2565 โลตัสได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในวงการค้าปลีกด้วยการเปิดโครงการ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” จับทำเลทองแห่งยุค ความพิเศษของโครงการนี้มีหลายอย่างด้วยกัน เป็นอีกก้าวของการปรับลุคโลตัสให้ดูโมเดิร์นขึ้น ลบภาพความเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมๆ ใส่ความเป็นพรีเมียมไลฟ์สไตล์เข้ามา และโครงการนี้ยังเป็นสาขานำร่องต้นแบบ SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของทุกคนในชุมชนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนทุกเจเนอเรชั่น

หลังจากที่ได้ทดลองเปิดสาขารูปแบบใหม่ โลตัสก็วางแผนการเติบโตโชว์คอนเซ็ปต์ Transformational Growthเดินหน้าปรับโฉมศูนย์การค้าโลตัสทั่วประเทศไทย โดยกางโร้ดแมพแผนเปิดสาขาใหม่ขยายพื้นที่ศูนย์การค้าเดิม และปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้า เป็นการพลิกโฉมโลตัสจากไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมสู่การเป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของทุกคนในชุมชน ที่มีดีไซน์สาขา สินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้า รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัสโดยมีแผนปรับโฉมขยายพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาที่มีอยู่เดิมกว่า 31 แห่งทั่วประเทศ และเตรียมเปิดตัวโลตัสสาขาใหม่ที่จังหวัดยะลา ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า

นางสาวเบญจวรรณ อ่องศรี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารพื้นที่ศูนย์การค้า โลตัส กล่าวว่า

“โลตัส ไม่เคยหยุดพัฒนา เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เราเดินหน้ากลยุทธ์การเป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของทุกคนในชุมชน ผ่านการเปิดสาขารูปแบบใหม่ การขยายพื้นที่ศูนย์การค้าและปรับปรุงพื้นที่สาขาเดิม เพื่อปรับโฉมสาขาของโลตัสให้มีดีไซน์ สินค้าและบริการ ที่มีรูปแบบแตกต่างกันไปตามความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ โดยปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ สาขารูปแบบใหม่ที่เป็นต้นแบบของSMART Community Center และเรายังคงเดินหน้าพัฒนาสาขารูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อเป็นค้าปลีกที่เข้าถึงชุมชนและเข้าใจไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ และพร้อมเป็นศูนย์กลางชุมชนที่รองรับการใช้ชีวิตในทุกมิติของคนทุกเจเนอเรชั่น”

ก้าวต่อไปของโลตัส คือการเดินหน้าพลิกโฉมสาขาทั่วประเทศไทย ให้เป็น SMART Community Center ของทุกชุมชน ผ่านกลยุทธ์ Transformational Growth และมีแผนขยายพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิมจำนวน 31 สาขา เพื่อให้ทุกสาขาของโลตัสสามารถรองรับการใช้ชีวิตของคนในชุมชนและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ และช่วยเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขา สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของโลตัส

นอกจากการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้าให้มีศักยภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ส่งเสริมการขาย ทั้งการจัดโปรโมชั่นและแคมเปญพิเศษดึงดูดลูกค้า เพิ่มทราฟิกผู้ใช้บริการในศูนย์การค้า และการจัดแคมเปญทางการตลาดร่วมกับแบรนด์ร้านค้าเช่าในโลตัสอีกด้วย

]]>
1438814
ครั้งแรกในไทย! ร้านสะดวกซื้อ​ “หยิบของ เดินออกได้เลย” ที่ “โลตัส” พัฒนาระบบ AI โดย “ทรู” https://positioningmag.com/1436381 Mon, 03 Jul 2023 11:18:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1436381 เห็นการพัฒนาในต่างประเทศมานาน วันนี้เมืองไทยก็มีแล้วเหมือนกันสำหรับร้านสะดวกซื้อที่ลูกค้าสามารถ “หยิบของ เดินออกได้เลย” ใช้เทคโนโลยีตรวจจับและหักเงินชำระค่าสินค้าได้อัตโนมัติ ไม่ต้องมีแคชเชียร์ ไม่ต้องสแกนบาร์โค้ด สาขาแรกที่เกิดขึ้นในไทยอยู่ที่ Lotus’s PICK & GO by True Digital” ในศูนย์การค้า “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” โดยร่วมกับ “ทรู คอร์ปอเรชัน” เป็นผู้พัฒนาระบบ “True Virgo AI” เทคโนโลยีเบื้องหลังร้านไร้แคชเชียร์แห่งนี้

“มนต์ชัย อินทรพรอุดม” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาการปฏิบัติการธุรกิจ โลตัส ประกาศการเปิดตัวร้านสะดวกซื้อโมเดลใหม่ Lotus’s PICK & GO by True Digital” ร้านสะดวกซื้อแห่งแรกในไทยที่ลูกค้าสามารถ “หยิบของ เดินออกได้เลย” โดยไม่ต้องรอคิวสแกนบาร์โค้ดเพื่อชำระค่าสินค้า

Lotus’s PICK & GO สาขาแรกตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” เป็นโซนที่แยกจากพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยใช้พื้นที่ 30 ตารางเมตรวางจำหน่ายสินค้า 400 รายการ เน้นเฉพาะสินค้าสะดวกซื้อที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ 90% เป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม น้ำอัดลม นม ขนม อาหารแช่แข็ง และอีก 10% เป็นของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิชชู่ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน

Lotus's PICK & GO
ทางเข้าร้าน Lotus’s PICK & GO จะมีจอให้นำแอปฯ True Money มาสแกน QR CODE เพื่อผ่านแผงกั้นเข้าไปช้อปปิ้ง

วิธีการใช้งานมี 4 ขั้นตอน คือ

  1. เปิดแอปพลิเคชัน True Money สแกน QR CODE ณ แผงกั้นทางเข้าร้าน (*ต้องมีเงินในวอลเล็ตขั้นต่ำ 200 บาท)
  2. เดินเลือกสินค้าภายในร้าน หยิบสินค้าที่ถูกใจ
  3. เดินผ่านแผงกั้นทางออกร้าน ระบบจะหักเงินค่าสินค้าในวอลเล็ต True Money ที่ใช้สแกนเข้าร้านโดยอัตโนมัติ (ไม่ต้องหยิบมือถือสแกนซ้ำ)
  4. สแกน QR CODE หลังทางออกร้านเพื่อกรอกอีเมลรับใบเสร็จรับเงินจากโลตัส
หยิบสินค้าจากบนเชลฟ์ แล้วเดินออกแผงกั้นตรงทางออกได้เลย ไม่ต้องสแกนชำระเงิน

มนต์ชัยกล่าวว่า ร้านลักษณะหยิบสินค้า เดินออกได้เลยแบบนี้ในต่างประเทศมีการใช้งานมาแล้วหลายปี ไม่ว่าจะในจีน สหรัฐฯ หรือยุโรป  แต่ในประเทศไทยถือว่าโลตัสเป็นผู้นำการเปิดตัวสาขาแรก มีเป้าหมายเพื่อทำให้ลูกค้าสะดวกสูงสุดในการซื้อของกับโลตัส

“ต่อไปคำพูดที่ว่า ‘ขอแวะซื้อของแป๊ปเดียว’ จะแป๊ปเดียวจริงๆ เพราะลูกค้าสามารถสแกนเข้าร้าน หยิบของ เดินออกจากร้าน ซื้อของเสร็จได้ในเวลา 1 นาที ไม่ต้องเสียเวลารอคิวชำระเงินอีกแล้ว” มนต์ชัยกล่าว

 

AI ของ “ทรู” เบื้องหลังเทคโนโลยีร้านไร้แคชเชียร์

ด้านเทคโนโลยีของร้าน Lotus’s PICK & GO มาจากการพัฒนาของ “ทรู” นี่เอง โดย “เอกราช ปัญจวีณิน” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน กล่าวว่าทรูมีการพัฒนาระบบ “True Virgo AI” ซึ่งเป็น RetailTech เทคโนโลยีที่ใช้งานกับกลุ่มค้าปลีก และใช้ระบบนี้ทำงานร่วมกับโลตัสมานานหลายปี

ที่ผ่านมา True Virgo AI ใช้ทำงานได้หลายรูปแบบ เช่น ติดกล้องวงจรเพื่อทำ “Store Analytics” นำภาพที่ได้มาวิเคราะห์ทราฟฟิกลูกค้าที่เข้าออกร้าน และกล้องยังแจ้งเตือนพนักงานได้ด้วยว่าสินค้ากำลังจะหมดจากชั้นวาง ให้พนักงานนำสินค้ามาเติม เป็นต้น

(ซ้าย) “มนต์ชัย อินทรพรอุดม” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาการปฏิบัติการธุรกิจ โลตัส และ (ขวา) “เอกราช ปัญจวีณิน” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน

ล่าสุด True Virgo AI พัฒนาไปอีกขั้นคือการนำมาลงระบบในร้าน Lotus’s PICK & GO ทำให้เป็นร้านที่ไร้แคชเชียร์ สามารถหยิบของเดินออกได้ทันที

โดยเบื้องต้นร้านสาขาแรกนี้ยังมีแผงทางเข้าและทางออกฝั่งละ 1 เลนเท่านั้น และยังจำกัดคนเข้าใช้บริการพร้อมกันได้สูงสุด 6 คน เพราะต้องการทดลองความสามารถในการใช้งานจริงก่อน แต่ในอนาคตร้านโมเดลนี้สามารถเพิ่มเลนทางเข้า-ทางออกได้ เพิ่มจำนวนคนเข้าใช้บริการพร้อมกันได้อีกมาก และจะขยายขนาดร้านให้ใหญ่กว่า 30 ตร.ม.ก็ทำได้เช่นกัน

ส่วนกรณีที่หลายคนน่าจะกังวลว่า ร้านลักษณะนี้จะป้องกันการโกงหรือการขโมยของได้หรือไม่เนื่องจากไม่มีพนักงานเฝ้าร้าน เอกราชกล่าวว่า บริษัทได้ทดลองเป็นการภายในจนมั่นใจได้ว่าระบบนี้สามารถป้องกันขโมยได้ค่อนข้างสูงแล้วจึงนำมาใช้งานจริงที่โลตัส เชื่อว่าโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือการขโมยจะน้อยมาก

 

มีกล้องทุกย่างก้าว

Positioning ได้ทดลองใช้งานจริงที่ Lotus’s PICK & GO มาแล้ว และพบว่าในสถานการณ์ที่มีคนในร้านพร้อมกัน 6 คน (ตามลิมิตสูงสุดปัจจุบัน) ระบบสามารถคิดเงินค่าสินค้าได้อย่างถูกต้อง

จากการพูดคุยรายละเอียดทางเทคโนโลยีกับทีมงานทรู พบว่าทรูมีการศึกษาดูงานจากต่างประเทศ เช่น Amazon Go ในสหรัฐฯ, ซูเปอร์มาร์เก็ต เหอหม่า ในประเทศจีน จากนั้นจึงมาพัฒนาด้วยทีมงานคนไทยเอง รวบรวมข้อดีข้อเสียของระบบต่างๆ และนำมาปรับปรุงให้เหมาะกับบริบทของเมืองไทย เช่น ระบบของทรูมีความท้าทายคือต้องตรวจจับสินค้าที่วางเบียดกันเต็มชั้นวางให้ได้ตามโจทย์ของโลตัส ซึ่งจะไม่เหมือนกับใน Amazon Go ที่มีการวางสินค้าห่างกันเพื่อให้กล้อง AI ทำงานง่าย

โลตัส
สังเกตว่า มีกล้องวงจรซ่อนอยู่ทุกที่ ทั้งบนเพดานและบนเชลฟ์วางสินค้า

ความลับเบื้องหลังการทำงานของ AI มาจากการลงทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการทำระบบรองรับ เช่น

  • ติดตั้งกล้องวงจร 38 ตัว (ในร้านขนาด 30 ตร.ม.) แบ่งเป็นกล้อง 2 ประเภท คือ
    – กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกค้า ติดตั้งบนเพดานร้าน
    – กล้องตรวจจับภาพสินค้าบนชั้นวาง ติดตั้งด้านบนและด้านล่างของชั้นวางสินค้า
  • สินค้าทุกชิ้นที่เข้ามาวางขายในร้านจะผ่านการสแกนรอบตัวแบบ 360 องศา เพื่อให้ระบบจดจำหน้าตาของสินค้าได้จากทุกมุม
โลตัส
กล้องตรวจจับได้ว่าใครกำลังหยิบสินค้า

การทำงานของระบบคือ เมื่อลูกค้าสแกน True Money เข้ามาในร้าน กล้องจับความเคลื่อนไหวจะคอยติดตามลูกค้าทุกย่างก้าว เมื่อลูกค้าหยุดยืนหน้าชั้นวาง และกล้องจับภาพสินค้าพบว่ามีการหยิบของออกจากเชลฟ์ ระบบจะบันทึกข้อมูลไว้ว่าลูกค้ารายนี้หยิบสินค้าชิ้นนี้ไป

กรณีที่มีการหยิบสินค้ามาดูและวางคืนเชลฟ์ ระบบจะตัดรายการนั้นออกจากการรอชำระเงินทันที แม้แต่การวางคืนไม่ตรงล็อกที่เดิม AI ก็รู้ได้เพราะมีการสแกนหน้าตาสินค้าไว้แล้ว ทำให้ AI ทราบว่าลูกค้าคืนสินค้าอะไรกลับไปในเชลฟ์

เมื่อกล้องมีระบบตรวจจับในขั้นตอนการนำสินค้าเข้าหรือออกจากชั้นวางและบันทึกไว้ทั้งหมด ทำให้ไม่ว่าลูกค้าจะหยิบสินค้าแล้วใส่กระเป๋าทันทีหรือใส่ถุงที่เตรียมมา เมื่อถึงเวลาเดินออกจากแผงกั้นทางออก ระบบก็จะคิดเงินได้อย่างถูกต้อง ไม่สามารถแอบซ่อนไม่ชำระเงินได้

 

สาขาต่อไปมาแน่ แต่ต้องลุ้นว่าจะเป็นที่ไหน

ด้านการขยายสาขา Lotus’s PICK & GO มนต์ชัยแย้มว่ามีแผนจะขยายต่ออย่างแน่นอน เบื้องต้นจะเลือกลงในสาขาที่ประกบกับไฮเปอร์มาร์เก็ตเหมือนที่โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ก่อน เพราะต้องการให้มีทราฟฟิกลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาทดลองใช้บริการ Lotus’s PICK & GO ให้มากที่สุด

ส่วนการขยายไปใช้กับร้านสะดวกซื้อหรือค้าปลีกอื่นๆ ภายใต้อาณาจักรเจริญโภคภัณฑ์ เอกราชกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่จะเป็นเมื่อไหร่หรือกับร้านแบรนด์ไหนนั้นต้องรอติดตามกันในภายหลัง

]]>
1436381
มาแล้ว! “โลตัส พรีเว่” สาขาแรกกับคอนเซปต์ “พรีเมียมที่จับต้องได้” อัดสินค้านำเข้าดึงลูกค้า https://positioningmag.com/1415185 Wed, 11 Jan 2023 11:39:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415185 โลตัส พรีเว่ (Lotus’s Prive) สาขาแรกเปิดแล้วที่ ICS เจริญนคร มากับคอนเซปต์ “พรีเมียมที่จับต้องได้” (Premium Inclusive) เปลี่ยนลุคใหม่ยกระดับแบรนด์ เพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้า 4 เท่า แต่ทำราคาเอื้อมถึง แย้มกำลังหาทำเลเปิดเพิ่มอีกในกรุงเทพฯ

“สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย” ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เปิดตัวโลตัสสาขาใหม่ “โลตัส พรีเว่ (Lotus’s Prive)” ในศูนย์การค้า ICS เจริญนคร ซึ่งถือเป็นโลตัสคอนเซปต์ใหม่สาขาแรก เน้นสินค้าระดับ “พรีเมียม” มากกว่าโลตัสสาขาปกติ

สมพงษ์ให้นิยามว่า โลตัส พรีเว่ เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบ Premium Inclusive คือเป็นสินค้า “พรีเมียมที่จับต้องได้” จับช่องว่างระหว่างค้าปลีกทั่วไปกับค้าปลีกระดับบนซึ่งราคาค่อนข้างสูง เอื้อมถึงยาก

ภายในโลตัส พรีเว่ สาขาเจริญนคร มีพื้นที่ 2,900 ตารางเมตร เล็กกว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตปกติเล็กน้อย (ปกติโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต จะลงพื้นที่อย่างน้อย 3,000 ตารางเมตร) แต่ลงสินค้าได้ถึง 27,000 รายการ พร้อมระบบพรีออร์เดอร์สินค้าบางชนิด เช่น อาหารทะเล

โลตัส พรีเว่
โซนสุขภาพและความงาม ภายในโลตัส พรีเว่ เจริญนคร

ความแตกต่างที่ทำให้โลตัส พรีเว่เกิดความพรีเมียม สมพงษ์กล่าวว่า มาจากดีไซน์ งานบริการ และสินค้า โดยเฉพาะสินค้าจะแตกต่างชัดเจน ด้วยสัดส่วนสินค้านำเข้าเพิ่มเป็น 40% จากปกติมีไม่เกิน 10% หรือเพิ่มมากว่า 4 เท่า ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอาหารสด เช่น สตรอว์เบอร์รี่จากเกาหลี/ญี่ปุ่น บลูเบอร์รี่จากเปรู แอปเปิ้ลญี่ปุ่น เนื้อวัวออสเตรเลีย เครื่องปรุงรส ชา กาแฟ ขนมจากต่างประเทศ

รวมถึงมีกลุ่มอาหารทะเลที่ส่งตรงจาก จ.ระนอง ทุกวัน และกลุ่มสินค้าออร์แกนิกส์ ไข่ไก่ cage-free ซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย

โลตัส พรีเว่
ตัวอย่างสินค้าในโลตัส พรีเว่ มีความพรีเมียมสูงขึ้น

“เป็นการปรับตัวตามความชอบของลูกค้าซึ่งต้องการของพรีเมียมมากขึ้น แต่ราคาไม่ควรแพงมาก และลูกค้าต้องการประสบการณ์การเดินเลือกชมสินค้า หากไม่มีประสบการณ์ตรงนี้ ลูกค้าจะหันไปสั่งของออนไลน์แทน” สมพงษ์กล่าว

Positioning มีโอกาสเยี่ยมชมโลตัส พรีเว่ เจริญนคร ในวันเปิดตัว จะเห็นได้ว่าดีไซน์จะแตกต่างจากโลตัสปกติ ด้วยการจัดโซนให้มีความสวยงาม วางสินค้าในลักษณะจัดแสดงให้เดินชม งานป้ายมีการออกแบบให้พรีเมียมขึ้น ใช้โทนสีเขียวเข้มตัดเหลืองเข้ม แทนสีปกติที่เป็นสีเขียวอ่อน รวมถึงยูนิฟอร์มพนักงานก็เปลี่ยนสีและแบบชุดด้วยเช่นกัน

ด้วยดีไซน์และสินค้าที่ลงจำหน่าย โลตัส พรีเว่น่าจะเป็นแบรนด์ที่ท้าชนกับซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างท็อปส์ หรือ กูเมต์ มาร์เก็ต ได้

ดีไซน์แตกต่างจากโลตัสปกติ โลตัส พรีเว่จะใช้สีเขียวเข้ม ป้ายและการตกแต่งสวยงาม

สมพงษ์กล่าวว่า จากราคาสินค้าที่มีกลุ่มพรีเมียมเข้ามาขายมากขึ้น จึงคาดหวังว่าการใช้จ่ายต่อบิลของสาขานี้จะอยู่ที่ 600 บาทขึ้นไป จากปกติโลตัสจะมียอดต่อบิลเฉลี่ยที่ 500 บาท

ส่วนการขยายโลตัส พรีเว่สาขาอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ว่าบริษัทมีการมองหาโลเคชันอยู่เสมอ โดยจะต้องเป็นย่านที่มีลักษณะประชากรไลฟ์สไตล์คนเมือง และคู่แข่งยังมีน้อย โดยโลตัสอาจจะพิจารณาได้ทั้งเปิดสาขาใหม่ หรือปรับปรุงสาขาเดิมให้เป็นโลตัส พรีเว่ เบื้องต้นน่าจะขยายสาขาต่อไปในกรุงเทพฯ ก่อน

ด้านการลงทุนปีนี้ของโลตัส ตั้งงบการลงทุนไว้ 11,000 ล้านบาท ประมาณครึ่งหนึ่งของงบจะเป็นการเปิดสาขาใหม่และการรีโนเวต เป้าเปิดสาขาโลตัสขนาดเล็ก 200 สาขา และโลตัสขนาดใหญ่ 5 สาขา

โดยการลงทุนปี 2566 ของโลตัสถือว่าสูงมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอึมครึมก็ตาม “เรามองภาพระยะยาวว่าค้าปลีกไทยยังโตได้อีกมาก ทำให้เรามั่นใจที่จะลงทุนตั้งแต่ตอนนี้” สมพงษ์กล่าว

]]>
1415185
“โลตัส” คืนความสุขให้คนไทย จับแคมเปญ “ราคามหาชน” คัมแบ็ก ตัดและตรึงราคาสินค้านาน 77 วัน https://positioningmag.com/1414793 Tue, 10 Jan 2023 10:00:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414793

เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาแบบหมาดๆ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สร้างความสุขแก่คนทั่วโลก หลายคนได้เฉลิมฉลองช่วงเวลานี้กับครอบครัว และคนรักกันอย่างเต็มที่ “โลตัส” เองก็ไม่น้อยหน้า ขอมอบของขวัญปีใหม่เพื่อส่งความสุขแก่คนไทยทั่วประเทศ ด้วยการนำแคมเปญ “ราคามหาชน” กลับมาอีกครั้ง งานนี้ได้จัดหนักจัดเต็มยิ่งกว่าเดิม

สำหรับแคมเปญ “ราคามหาชน” เป็นอีกหนึ่งแคมเปญใหญ่ของโลตัส เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพให้ประชาชนคนไทย ได้เข้าถึงสินค้าอุปโภค บริโภคได้ในราคาคุ้มค่า และช่วยคนไทยแบ่งเบาภาระในหลายสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งช่วงสภาวะเศรษฐกิจ และวิกฤตไวรัส COVID-19 ซึ่งในครั้งนั้นแคมเปญราคามหาชนได้คัดเลือกสินค้าที่เป็นขวัญใจมหาชน หลังจากนั้นก็ได้ทำการตัด และตรึงราคาสินค้าสูงสุดถึง 50%

ในปีนี้โลตัสไม่เพียงแค่นำแคมเปญสุดยิ่งใหญ่กลับมาเพื่อคนไทยเพียงอย่างเดียว แต่พร้อมฟัง “เสียงมหาชน” เสียงที่เป็นความต้องการของคนไทย โดยจัดเซอร์ไพร์ซใหญ่ Real Man Billboard ตู้ใส่พนักงานจริงไปรับฟังความต้องการของประชาชนกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อคัดสรรสินค้าจำเป็นที่คนไทยต้องการให้ลดราคา เพื่อนำมาตัด และตรึงราคาสินค้ากว่า 677 รายการ ยาวนานขึ้น 77 วัน

สินค้าราคามหาชนครอบคลุมทั้งของกิน ของใช้ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สอดรับมาตรการช้อปดีมีคืน เพิ่มความคุ้มค่าให้คนไทย โดยสามารถช้อปได้ที่สาขาโลตัสทั่วประเทศ และแพลทฟอร์มออนไลน์ Lotus’s SMART App ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม– 22 มีนาคม 2566

นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า

“โลตัสเดินหน้าส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า พร้อมขานรับมาตรการช้อปดีมีคืนของภาครัฐ และมอบของขวัญรับปีใหม่เพิ่มความคุ้มค่าให้คนไทย โดยนำแคมเปญราคามหาชนกลับมาอีกครั้ง ลดครั้งใหญ่ที่พิเศษกว่าเดิม ตัดและตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นกว่า 677 รายการ ยาวนาน 77 วัน โดยครอบคลุมทั้งของกิน ของใช้ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สอดคล้องกับมาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน เพิ่มความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สำหรับประเภทสินค้าที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย โดยโลตัสสามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปได้ทั้งรูปแบบกระดาษ รวมทั้งรูปแบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ของกรมสรรพากรด้วย ลูกค้าโลตัสจึงสามารถซื้อสินค้าตามเงื่อนไขมาตรการช้อปดีมีคืนและนำไปลดหย่อนได้เต็มจำนวน 40,000 บาทตามที่ภาครัฐกำหนด

สำหรับแคมเปญราคามหาชนในครั้งนี้ มีความพิเศษขึ้น นอกจากเพิ่มจำนวนรายการสินค้าและตรึงราคายาวนานขึ้นแล้ว ยังจัดกิจกรรมเพื่อรับฟังทุกเสียงความต้องการของประชาชน ส่ง Real Man Billboard ตู้ใส่พนักงานจริงไปรับฟังความต้องการของมหาชนกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเก็บข้อมูลรายการสินค้าที่ผู้บริโภคอยากให้จัดราคาพิเศษ

นอกจากนั้นยังเก็บข้อมูลการซื้อสินค้ายอดนิยมของลูกค้าโลตัส นำมาวิเคราะห์และจัดรายการสินค้าจำเป็นที่เป็นที่ต้องการของมหาชน มาจัดโปรโมชั่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อออกแบบแคมเปญการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัย โดยประชาชนสามารถมาช้อปสินค้าในแคมเปญราคามหาชนนี้ได้ ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ และช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ Lotus’s SMART App และสมาชิกมายโลตัสยังสามารถสะสมแต้มสมาชิกเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส”

แคมเปญราคามหาชน จัดสินค้าราคาพิเศษกว่า 677 รายการ อาทิ

  • CLEO พัดลมสไลด์ 16 นิ้ว รุ่น CSF-5162 ราคาปกติ 799 บาท ราคามหาชน 469 บาท
  • ฉัตร ข้าวหอมผสม 5 กก. ราคาปกติชิ้นละ 155 บาท ราคามหาชน 139 บาท
  • ดัชมิลล์คิดส์ นมเปรี้ยว 90 มล. แพ็ก 4 กล่อง ทุกรสชาติ ราคาปกติ 50 บาท ราคามหาชน 22 บาท
  • มามีโพโค แพ้นท์ ไซซ์ S แพ็ก 78 ชิ้น ราคาปกติ 445 บาท ราคามหาชน 355 บาท
  • คอมฟอร์ท อัลตร้า ผ้านุ่มฟ้า 480 มล. แพ็ก 2+1 ราคาปกติ 158 บาท ราคามหาชน 139 บาท

เงื่อนไขอาจเปลี่ยนแปลงตามที่บริษัทกำหนด สามารถตรวจสอบรายการสินค้าและสอบถามข้อมูลได้ที่จุดบริการลูกค้าในสาขา หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook: Lotus’s – โลตัส

]]>
1414793
“โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” New Chapter ของโลตัสกับบทบาท New Smart Retail   https://positioningmag.com/1408963 Fri, 18 Nov 2022 05:40:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1408963 เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” โมเดลใหม่ของโลตัสที่หมายมั่นปั้นมือให้เป็นสาขาแฟลกชิปต้นแบบของ SMART Community Center โดยทาง CEO ได้เคยประกาศว่าโลตัสจะพลิกโฉมสู่การเป็น New Smart Retail สาขานี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็น New Chapter บทใหม่ของโลตัสเลยก็ว่าได้

ปักหมุดทำเลทอง “ราชพฤกษ์”

หลังจากที่มีการประกาศลงทุนโครงการใหม่ของโลตัส กับโมเดลใหม่ที่ไม่เหมือนไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งอื่นๆ ก็สร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย มาพร้อมกับชื่อ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” แน่นอนว่าสาขานี้ต้องปักหมุดที่ “ราชพฤกษ์” ทำเลสุดเนื้อหอมแห่งยุค

ราชพฤกษ์กลายเป็นทำเลที่ถูกสปอตไลท์ฉายอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นถนนที่มีทางเชื่อมเข้าในเมือง และออกนอกเมือง เชื่อมยาวตั้งแต่สาทร วงเวียนใหญ่ บรมราชชนนี ยาวไปยังนนทบุรี และปทุมธานี ที่สำคัญราชพฤกษ์ยังหมู่บ้านจัดสรรเกิดใหม่เยอะมาก ด้วยเทรนด์การขยายของเมือง ทำให้ผู้คนที่อาศัยในย่านนี้มีกำลังซื้อ

Developer ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นบ้านจัดสรร หรือค้าปลีก ต่างรีบจับจองพื้นที่กันยกใหญ่ กลายเป็นว่าผู้เล่นค้าปลีกรายใหญ่ๆ ล้วนมีโครงการตั้งอยู่ในโซนราชพฤกษ์ “เซ็นทรัล” เองก็เตรียมผุดศูนย์การค้า “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ด้วยเช่นกัน

โลตัสที่ในช่วงหลังพยายามทรานส์ฟอร์มสู่ความเป็น New Smart Retail ได้พลิกโฉมจากความเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมๆ แล้วดีไซน์ศูนย์ใหม่ มีทั้งการเพิ่มพื้นที่เช้า เพิ่มร้านเช่าใหม่ๆ ให้หลากหลายขึ้น พร้อมกับการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ จึงกลายเป็นสาขาแฟลกชิปต้นแบบของ New Smart Retail เป็นอาคาร สูง 2 ชั้น โมเดล Semi-Outdoor มีพื้นที่สีเขียวทั้งภายใน และภายนอกอาคาร บนพื้นที่ 16 ไร่ พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 47,000 ตารางเมตร มีพื้นที่ขายในไฮเปอร์มาร์เก็ต 4,500 ตร.ม. และพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 10,953 ตร.ม.

lotus

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับโลตัสไซส์ใหญ่ที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต จะมีพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต และพื้นที่เช่าที่เป็นร้านอาหารชื่อดังในระดับแมส แต่ที่ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ มีร้านค้าเช่า 130 ร้านค้า โดย 73 ร้านเป็นร้านอาหาร และเครื่องดื่ม และส่วนมากเป็นพันธมิตรรายใหม่ที่เพิ่งเปิดสาขาในโลตัสเป็นครั้งแรก

มีโซน Lotus’s Eats มีร้านอาหารชื่อดัง เน้นในระดับพรีเมียม อาทิ ภัตตาคารเชียงการีล่า ภัตตาคารกวนอา The Bibimbab รสสยามนู้ดเดิ้ล Okonomiyaki Takuya และ จกโต๊ะเดียว นอกจากนั้น ยังมีร้านกิน ดื่ม เที่ยว ที่ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไลต์ สายบุฟเฟ่ต์พบกับ MoMo Paradise, Kouen บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารสำหรับครอบครัว อาทิ เจิ้งโต่ว ภัตตาคารอาหารจีนสุดพรีเมียม เมนูอาหารจีนหลากหลายรวมถึงติ่มซำ สำหรับสายกิน-ดื่มกับร้าน Red Rabbit และ ชงจู by ชงเจริญ

ไม่ใช่แค่สาขาใหม่ แต่เป็น New Chapter

โดยปกติแล้วการเปิดสาขาใหม่ก็อาจจะธรรมดาทั่วไป แต่การเปิดโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ในครั้งนี้ ทางโลตัสใช้คำว่า ถือว่าเป็น New Chapter ใหม่ของโลตัส หรือเป็นการยกระดับไปอีกขั้น โดยก่อนหน้านี้ทาง สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ได้เคยประกาศไว้ว่า อยากพลิกโฉมโลตัสให้เป็น New Smart Retail

lotus

“การเปิดตัว โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ นับเป็นการก้าวสู่ Chapter ใหม่ของโลตัส ตามพันธสัญญาของแบรนด์ ในการเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ท ที่ส่งมอบความรู้สึกดีดีทุกวันให้กับชุมชน โดยมีเสาหลัก 4 ข้อคือ

1) Inspiring fresh & food destination การเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับอาหาร และอาหารสดคุณภาพสูง

2) Smart life solutions ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตรอบด้าน ทั้งความบันเทิง กิจกรรม รวมถึงการให้บริการแบบ omni-channel กับชุมชนใกล้เคียง

3) Personalized value beyond price ความคุ้มค่าที่ตรงใจและมากกว่าราคาประหยัด ออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับลูกค้าในระดับปัจเจกโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ และ big data

4) Everyday sustainability ความยั่งยืนในทุกมิติที่ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจในทุกๆ วัน”

รวมวัตถุดิบพรีเมียม

สินค้าที่จำหน่ายในโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต ได้รับการคัดสรรมาให้เหมาะกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในย่านราชพฤกษ์ ซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรชั้นนำหลายโครงการและมีกำลังซื้อสูง แผนกอาหารสดมีสินค้าเกรดพรีเมียม ทั้งสินค้านำเข้า ไปจนถึงสินค้าที่คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วประเทศไทย อาทิ เนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย อเมริกา ญี่ปุ่น ปลาแซลมอน และปลาเทร้าท์จากนอร์เวย์ ปลาทะเลสดส่งตรงจากจังหวัดระนอง องุ่นไชน์มัสแคตพรีเมียมจากเกาหลี เชอร์รี่จัมโบ้จากชิลี สตรอว์เบอร์รีจากออสเตรเลีย ผักออร์แกนิค และผักพื้นบ้านที่รับตรงจากเกษตรกรไทยในโครงการ direct sourcing เป็นต้น

ส่วนแผนกอาหารแห้ง มีเครื่องปรุงสำหรับอาหารนานาชาติ ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ วัตถุดิบคัดสรรที่ครบครันสำหรับทุกความต้องการ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการประกอบอาหารทั้งไทยและนานาชาติ

lotus

นอกเหนือจากสินค้าประเภทอาหารแล้ว ภายในไฮเปอร์มาร์เก็ตยังมีแผนกอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ด้วยสินค้ากว่า 2,000 รายการ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้ทดลองอุปกรณ์ Internet of Things (IOT) เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

แผนกเครื่องใช้ภายในบ้าน ถูกจัดให้เป็นสตูดิโอจำลองทั้งห้องนอน และห้องครัว ตอบโจทย์ความต้องการทุกระดับ ตั้งแต่สินค้าคุณภาพสูงไปจนถึงสินค้าซูเปอร์พรีเมียม อาทิ ผ้าเช็ดตัวจากผ้าฝ้ายอียิปต์ (Egyptian cotton)

นอกจากนี้ไฮเปอร์มาร์เก็ตยังทำหน้าที่เป็น fulfillment center สามารถจัดส่งสินค้าที่มีจำหน่ายทั้งหมดที่มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์ ให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Lotus’s SMART app บริการส่งในรัศมี 10 กิโลเมตรจากสาขา

lotus

ในส่วนของศูนย์การค้า มีพื้นที่สำหรับชุมชนในการทำกิจกรรมมากมาย สำหรับสายกิจกรรม E-gokart by Monowheel สนามโกคาร์ทไฟฟ้ากลางแจ้ง ด้วยพื้นที่สนามแข่งมากกว่า 700 ตารางเมตร สำหรับสายสุขภาพ สามารถมาออกกำลังกายได้บนพื้นที่สีเขียวรอบอาคาร นอกจากนั้นยังมี true health ศูนย์บริการสุขภาพย่อยนอกพื้นที่โรงพยาบาล พร้อมให้บริการสุขภาพพื้นฐานอาทิ เจาะเลือด x-ray รับวัคซีน

โดยโลตัสเตรียมขยายโมเดลนี้ไปอีก 2 แห่ง ได้แก่ ยะลา และเชียงราย จะเป็น New Smart Retail เช่นกัน ปัจจุบันโลตัสมีสาขาที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ 223 สาขา ปีหน้าตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 4-5 สาขา

]]>
1408963
โลตัส ประกาศนโยบายด้านความยั่งยืน “Vision 2030. Actions every day.” วางรากฐานความยั่งยืนทุกมิติของธุรกิจ New SMART Retail ขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกวัน สู่เป้าหมาย UN SDGs 2030 https://positioningmag.com/1405518 Wed, 26 Oct 2022 10:00:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1405518

โลตัส ประกาศนโยบายด้านความยั่งยืน “Vision 2030. Actions every day.” วางแผนงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจค้าปลีก ในฐานะผู้นำ New SMART Retail เน้นขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกวันอย่างยั่งยืนครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) มุ่งสู่วิสัยทัศน์การพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ United Nations Sustainable Development Goals 2030

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “พื้นฐานที่สำคัญของการเป็นผู้นำ New SMART Retail คือนโยบายและแผนงานด้านความยั่งยืน โดยโลตัสได้ดำเนินงานตามแนวทางด้านความยั่งยืนมาโดยตลอด และด้วยสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โลตัส จึงได้ทบทวนและยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สู่นโยบายที่เราประกาศในวันนี้ คือ Vision 2030. Actions every day. ที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนจากการดำเนินงานในทุก ๆ วัน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ภายในปี ค.ศ. 2030

นโยบายด้านความยั่งยืนของโลตัส สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั้ง 15 ข้อภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยจากการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน (Materiality Assessment) ล่าสุด เราได้กำหนดประเด็นสำคัญ 5 ด้าน ที่ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) คือ การสนับสนุนการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Health & Well-being) การสร้างคุณค่าและประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่สังคม (Social impact & economic contribution) ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate resilience) และ การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ (Responsible supply chain management) โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานที่ชัดเจนสำหรับแต่ละประเด็นสำคัญ เพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ภายในปี ค.ศ. 2030

ประเด็นด้านสังคม (Social)

การสนับสนุนการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Health & Well-being)

ในฐานะธุรกิจค้าปลีกแบบ omni-channel ที่จำหน่ายสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทอาหาร ที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ผ่านช่องทางทั้งในสาขาและออนไลน์ โลตัส มุ่งมั่นในการสนับสนุนการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของคนไทย โดยได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ทุกตะกร้าสินค้าของลูกค้าจะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดี และเพื่อขับเคลื่อนไปสู่วิสัยทัศน์ (vision) ดังกล่าว โลตัสได้วางแผนดำเนินการ (actions) ใน 4 ด้าน คือ

1. ผลิตภัณฑ์ (Products) มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของโลตัสที่ดีต่อสุขภาพ ปรับสูตรผลิตภัณฑ์เดิมให้ดีขึ้น อาทิ ลดหวาน มัน เค็ม การมีฉลากผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น

2. ราคา (Prices & promotions) ทำให้สินค้าที่ดีต่อสุขภาพมีราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

3. แพลทฟอร์ม (Platforms) ใช้ช่องทาง omni-channel ในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ทั้งการให้ความรู้และข้อมูล รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่ดี และ

4. ความร่วมมือ(Partnerships) กับทั้งคู่ค้าและพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ โดยในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา โลตัส ได้เป็นผู้นำในการเสนอสินค้าที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ลูกค้า อาทิ เป็นค้าปลีกรายแรกที่ไม่ใช้ไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหารที่โลตัสผลิตทุกชนิด การริเริ่มโครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร ทำให้มั่นใจในคุณภาพความปลอดภัยของอาหารสดที่จำหน่ายแก่ลูกค้า


การสร้างคุณค่าและประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่สังคม (Social impact & economic contribution)

โลตัส ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 จะสามารถสร้างงานได้จำนวน 200,000 ตำแหน่ง และสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร โดยเป็นการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้กับกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม อาทิ ขยายผลการจ้างงานเยาวชน และผู้สูงอายุ ที่ปฏิบัติงานในสาขา รวมทั้ง โลตัส ยังเป็นแพลทฟอร์มแห่งโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย โดยใช้แพลทฟอร์มของโลตัส ทั้งในสาขา ศูนย์การค้า และออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการไทย

 

 


ประเด็นด้านการกำกับดูแลกิจการ (Governance)

การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ (Responsible supply chain management)

ในฐานะธุรกิจค้าปลีก ห่วงโซ่อุปทานของ โลตัส ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ และเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เป้าหมายของเราภายในปี ค.ศ. 2030 คือ สินค้าแบรนด์ของโลตัสที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน มีระบบตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ และ คู่ค้าสำคัญลำดับที่ 1 (critical tier 1 suppliers) รวมถึงผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ของโลตัสทุกรายได้รับการประเมินความเสี่ยงประเด็นด้านความยั่งยืนและการทวนสอบ 100% โดยครอบคลุมมิติที่หลากหลายตั้งแต่ คุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า กระบวนการผลิตสินค้า แรงงาน สิทธิมนุษยชน สวัสดิภาพสัตว์ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เป็นต้น


ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)

การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate resilience)

เป้าหมายของโลตัส คือ การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2030 และองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งได้มีการจัดทำแผนการดำเนินการ (actions) เพื่อมุ่งสู่ทั้งสองเป้าหมาย หลายรูปแบบ รวมถึง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยในปี ค.ศ. 2021 โลตัส ในประเทศไทยและมาเลเซีย สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจลง กว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 2020 ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึง การติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาสาขาและศูนย์กระจายสินค้า โดยมีแผนงานติดตั้ง 1,042 สาขา มีกำลังผลิตรวม 135mw ภายในปี ค.ศ. 2024, การใช้รถไฟฟ้า (EV) ในการขนส่งสินค้า เป็นต้น นอกจากนั้น โลตัส จะเดินหน้าปลูกต้นไม้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มเติมจากการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 20 ล้านต้น ในช่วงเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา และจะยังผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานต่อไป

 


ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy)

เป้าหมายของโลตัส คือ ลดปริมาณของเสียในการนําไปฝังกลบและลดขยะอาหารเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2030 และบรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์ของโลตัสทั้งหมด 100% ผลิตจากวัสดุที่รีไซเคิลได้ภายในปี ค.ศ. 2025

สำหรับการดำเนินงาน (actions) ในด้านการลดขยะอาหารนั้น โลตัส ประสบความสำเร็จในการลดปริมาณขยะอาหารอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ โลตัส เป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยที่เริ่มวัดและเปิดเผยข้อมูลขยะอาหาร โดยปัจจุบันได้บริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดแต่ยังรับประทานได้ให้กับผู้ยากไร้และองค์กรการกุศลรวมกว่า 2.87 ล้านมื้อ และได้บริจาคอาหารที่รับประทานไม่ได้แล้วกว่า 51,000 กิโลกรัม เพื่อเป็นอาหารสัตว์และทำปุ๋ย เพื่อขับเคลื่อนการลดขยะอาหารในธุรกิจให้เป็นศูนย์ตามวิสัยทัศน์ โลตัส จะดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Farm to Fork เพื่อลดขยะอาหารตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งรวมถึงการวางแผนการเพาะปลูกร่วมกับเกษตรกร การขนส่งสินค้าด้วยรถควบคุมอุณหภูมิ การบริหารจัดการอาหารสดอย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ ขยายการบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดในแต่ละวันร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ตลอดจนถึงการสร้างการรับรู้ในภาคครัวเรือนเกี่ยวกับขยะอาหารและการแยกขยะที่ถูกต้อง

สำหรับการดำเนินงาน (actions) ด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โลตัส ได้ตั้งเป้าหมายให้บรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์ของโลตัสทั้งหมด 100% ผลิตจากวัสดุที่รีไซเคิลได้ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจนเกือบบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยบรรจุภัณฑ์ประเภทอาหารสดและสินค้าอุปโภคทั้งหมด 100% สามารถรีไซเคิลได้แล้ว และหากดูในภาพรวมทั้งหมดความคืบหน้าอยู่ที่ 98.8% อีกส่วนสำคัญของแผนงานด้านบรรจุภัณฑ์คือการรีไซเคิล ทั้งการรีไซเคิลขยะที่เกิดจากการดำเนินงานภายในธุรกิจของโลตัสเอง และที่สำคัญคือการช่วยให้ลูกค้าและประชาชนสามารถแยกและรีไซเคิลขยะได้อย่างสะดวกผ่านสาขาของโลตัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินการตั้งจุดรับขยะเพื่อนำไปรีไซเคิล โลตัส สามารถรวบรวมขวดพลาสติกได้เกือบ 3 ล้านขวด พลาสติกยืดกว่า 1.5 ล้านกิโกรัม และกล่องและลังกระดาษกว่า 157 ล้านกิโลกรัม เพื่อนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด และพร้อมจะเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรเพิ่มเติม รวมถึงซัพพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ เพื่อเก็บรวมรวมบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำไปรีไซเคิลให้ได้ต่อไป

“โลตัส เน้นการลงมือปฏิบัติในทุก ๆ วันเพื่อสร้างความยั่งยืน ซึ่งเป็นการทำงานที่บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนภายในธุรกิจของเรา รวมถึงการทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง โดยจะมีการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสในทุกปี

การเป็นผู้นำ New SMART Retail คือการเป็นผู้ประกอบการค้าปลีก ที่ดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืน ธุรกิจใดก็ตามจะไม่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ หากไม่คำนึงถึงการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้สามารถเติบโตไปได้พร้อม ๆ กัน ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน ก่อนประโยชน์ของธุรกิจเสมอ” นายสมพงษ์ กล่าวสรุป

]]>
1405518