Kitkat – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 17 Oct 2024 14:23:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ยักษ์ใหญ่พลาดเป้า! “Nestle” คาดปีนี้โตเพียง 2% กดราคาสู้คู่แข่งไม่ไหว-ดีมานด์ผู้บริโภคอ่อนแอ https://positioningmag.com/1494883 Thu, 17 Oct 2024 12:10:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1494883 “Nestle” ปรับเป้าคาดการณ์การเติบโตของยอดขายปี 2024 ลงอีกครั้งเหลือเพียง 2% หลังผลประกอบการ 9 เดือนแรกไม่โตเท่าที่คิด คาดเป็นเพราะถูกคู่แข่งตีตลาดหลังบริษัทไม่สามารถกดราคาลงมาสู้ได้ ขณะที่ดีมานด์ผู้บริโภคอ่อนแอลง

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Nestle ประกาศเมื่อวันพฤหัสดีที่ผ่านมาว่าบริษัทกำลังปรับโครงสร้างทีมผู้บริหารระดับสูงและโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัท พร้อมทั้ง “ลดการคาดการณ์ยอดขายทั้งปี” หลังจากยอดขายในช่วงเก้าเดือนแรกของปีต่ำกว่าคาด

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปต่างประสบปัญหาเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งจากต้นทุนราคาน้ำมันดอกทานตะวัน ค่าขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ ราคาธัญพืช และราคาพลังงานที่แพงขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และหลังจากการบุกโจมตีของรัสเซียในยูเครน

ในปีนี้เมื่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง คู่แข่งหลายรายของ Nestle เลือกที่จะชะลอการปรับราคาเพราะหวังที่จะดึงดูดลูกค้าให้หันไปหาผลิตภัณฑ์ราคาถูกกว่าของตน แต่บริษัท Nestle กลับเลือกที่จะไม่ปรับลดราคาอย่างรวดเร็ว และนักวิเคราะห์ยังมองว่า Nestle ตัดงบประมาณด้านการตลาดและนวัตกรรมมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

KitKat ขนมเวเฟอร์ที่ถือเป็นสินค้าชูโรงของ Nestle

สภาวะยอดขายอ่อนแอต่อเนื่องหลายไตรมาสของ Nestle ยังทำให้เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 “มาร์ค ชไนเดอร์” ซีอีโอคนก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่ง

Nestle กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทคาดการณ์อัตราการเติบโตของยอดขายในปี 2024 จะอยู่ที่ประมาณ 2% และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (UTOP) จะอยู่ที่ประมาณ 17%

การคาดการณ์นี้ถือเป็นการปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 บริษัทก็เพิ่งจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยอดขายลงเหลืออย่างน้อย 3% แต่ครั้งนั้นบริษัทคาดว่าจะเห็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (UTOP) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากที่เคยทำได้ 17.3% ในปี 2023

“นี่เป็นการปรับตัวครั้งใหญ่และเจ็บปวดสำหรับ Nestle ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของบริษัท” เจฟฟ์-ฟิลิปป์ เบิร์ตชี่ นักวิเคราะห์จาก Vontobel กล่าว “มันยากที่จะเข้าใจว่าทำไมบริษัทถึงคาดการณ์การเติบโตของยอดขายที่ประมาณ 4% จนถึงเดือนกรกฎาคมจึงค่อยยอมปรับลงมา สำหรับยักษ์ใหญ่ระดับ Nestle ความผิดพลาดแค่ไม่กี่เดือนนั้นถือว่าใหญ่มาก”

Maggi หนึ่งในผู้เล่นหมวดเครื่องปรุงอาหารรายใหญ่ (Photo: Facebook@Nestle)

ซีอีโอคนใหม่ “ลอเรนต์ เฟร็กซ์” กล่าวว่า เขามีแผนที่จะลดขนาดของคณะกรรมการบริหารของ Nestle รวมถึงการรวมหน่วยธุรกิจของบริษัทในละตินอเมริกาและอเมริกาเหนือเข้าด้วยกัน การรวมธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชีย รวมหน่วยธุรกิจในโอเชียเนียและแอฟริกา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่จะตามมา

ความท้าทายของเฟร็กซ์ไม่ใช่แค่จัดองค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูนวัตกรรมและการตลาด และการเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในแบรนด์หลักๆ ของบริษัท เช่น กาแฟ Nescafe และขนมเวเฟอร์ KitKat

 

ผู้บริโภคอ่อนแอลง

ยอดขายของ Nestle ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2024 (ไม่รวมผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนและการเข้าซื้อกิจการ) เพิ่มขึ้นเพียง 2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 2.5%

“ความต้องการของผู้บริโภคอ่อนแอลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเราคาดว่าภาวะความต้องการจะยังคงอ่อนแอต่อไป” เฟร็กซ์กล่าว

การปรับราคาในช่วงเก้าเดือนของ Nestle เพิ่มขึ้น 1.6% ต่ำกว่าการประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 1.7%

หากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Unilever นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทนี้จะรายงานการปรับราคาพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1% ในไตรมาสที่สาม และยอดขายน่าจะเติบโตที่ 3.2% โดยคาดว่าบริษัทจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า

“ต้นทุนของคู่แข่งของเรานั้นแตกต่างอย่างมาก” แอนนา แมนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nestle กล่าวกับนักข่าวในการพูดคุยทางโทรศัพท์ “สภาพแวดล้อมการตั้งราคาสำหรับคู่แข่งนั้นง่ายกว่ามาก”

แมนซ์ชี้ให้เห็นถึงราคากาแฟและโกโก้ที่ที่ทำสถิติขึ้นไปแตะระดับสูงสุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา

Nestle กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทยังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ค้าปลีกและตัวแทนจำหน่ายลดการสต็อกสินค้าลง เพราะผู้บริโภคปลายทางไม่ค่อยซื้อสินค้ามากเท่าเดิม โดยเฉพาะในประเทศที่เศรษฐกิจอ่อนแอเช่นในละตินอเมริกา

Source

]]>
1494883
KitKat ออสเตรเลีย จะเปลี่ยนมาใช้ซองทำจาก “พลาสติกรีไซเคิล” นำร่องขนมอื่น ๆ ของ Nestle https://positioningmag.com/1387903 Mon, 06 Jun 2022 11:46:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1387903 Nestle ผลักดันนโยบายสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ KitKat ในออสเตรเลียให้ผลิตจาก “พลาสติกรีไซเคิล” 30% ของตัวแพ็กเกจจิ้ง โดยจะเป็นการนำร่องสำหรับขนมแบรนด์อื่นๆ ในเครือ

บริษัท Nestle ประกาศนโยบายนี้เพื่อต้อนรับ “วันสิ่งแวดล้อมโลก” วันที่ 5 มิถุนายน 2022 โดยขนมช็อกโกแลต KitKat ขนาด 45 กรัมมีการจำหน่ายในออสเตรเลียถึงปีละ 40 ล้านชิ้น และบริษัทเตรียมเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ผสมพลาสติกรีไซเคิลตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป พร้อมกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ

การปรับมาใช้พลาสติกรีไซเคิลของขนม KitKat จะทำให้บริษัทลดการใช้พลาสติกใหม่ได้ 250,000 ตารางเมตร เทียบเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิก 200 สระรวมกัน

มาร์กาเร็ต สจ๊วต ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและความยั่งยืน Nestle Oceania กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัทต้องการจะลดการใช้พลาสติกใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2025 รวมถึงมีเป้าให้พลาสติกทำแพ็กเกจจิ้งเหล่านี้สามารถรีไซเคิลหรือนำไปใช้ใหม่ได้ทั้งหมด

“เราหวังว่าห่อบรรจุภัณฑ์นี้จะไม่เพียงแต่ลดการใช้พลาสติกใหม่ แต่ยังหวังว่าจะเป็นเครื่องเตือนใจว่าการวนกลับมาใช้ใหม่ของพลาสติกประเภทอ่อนนั้นทำได้ รวมถึงความสำคัญของการรีไซเคิลแพ็กเกจจิ้งของคุณด้วย” สจ๊วตกล่าว

“เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้นก็จริง แต่เราอยากจะเห็นอนาคตที่ออสเตรเลียสามารถนำขยะพลาสติกอ่อนมาเปลี่ยนกลับเป็นแพ็กเกจจิ้งอาหารที่เป็นพลาสติกอ่อนได้อีก”

KitKat พลาสติกรีไซเคิล
ด้านหลังซองขนม KitKat ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 30%

เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่บริษัทใหญ่อย่าง Nestle จัดซื้อและใช้พลาสติกรีไซเคิล จะทำให้มีบริษัทจำนวนมากขึ้นลงทุนผลิตวัตถุดิบแพ็กเกจจิ้งประเภทนี้ และนำไปสู่การรีไซเคิลมากขึ้น

ในกรณีพลาสติกอ่อนตัวนั้น การนำมารีไซเคิลยังไม่แพร่หลาย และเทคโนโลยีเพื่อจะนำมันมารีไซเคิลหรือใช้ใหม่ก็ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก

“เราต้องตามหาไปทั่วเพื่อจะให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ แต่เราก็ได้ส่งข้อความออกไปด้วยว่ามันเป็นเรื่องสำคัญในการจัดเก็บและรีไซเคิลพลาสติกอ่อน เพราะเรารู้ว่าผู้บริโภคจะต้องการสินค้าที่ยั่งยืน” สจ๊วตกล่าว

“การจะใช้วัสดุรีไซเคิล 100% นั้นเป็นไปได้แต่ยังทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่เราเองจะเดินต่อในการใช้พลาสติกรีไซเคิลในซองบรรจุภัณฑ์สินค้าของเราทั้งหมด” โดยบริษัท Nestle จะศึกษาบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดที่มีว่าสามารถพัฒนากับสินค้าไหนได้บ้างอย่างเหมาะสม

คริส โอดอนเนล ผู้จัดการทั่วไปแผนกขนมและของหวาน กล่าวว่า การเปลี่ยนวัสดุซองห่อขนมจะไม่มีผลต่อสินค้า KitKat จะยังคงสดใหม่และกรอบเหมือนปกติ

“ขณะที่ทุกคนเคยชินกับขวดพลาสติกที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลแล้ว พลาสติกอ่อนที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลแบบนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ในวงการ” โอดอนเนลกล่าว

“คำมั่นของเราต่อการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราต่อความยั่งยืน ประเด็นอื่นของเรา เช่น การสนับสนุนฟาร์มและชุมชนผลิตโกโก้ รวมถึงการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2025”

ในออสเตรเลียนั้นมีเครือข่ายองค์กรที่เรียกว่า REDcycle ซึ่งผนึกกำลังกับร้านค้ารีเทลในการตั้งถังรับพลาสติกอ่อน เช่น ซองห่อไอศกรีมแท่ง ซองขนม ถุงขนมปังแถว บับเบิ้ลกันกระแทก ถุงใส่ของสด ฯลฯ เพื่อนำไปรีไซเคิล โดยองค์กรนี้จะรณรงค์ให้ผู้บริโภคช่วยกันนำพลาสติกอ่อนมาคืน และติดต่อให้บริษัท/ราชการนำพลาสติกอ่อนไปรีไซเคิลใช้งาน

Source

]]>
1387903
“คิทแคท” ลุยตลาดวัตถุดิบ ส่ง Made with KitKat ขยายฐานร้านขนม https://positioningmag.com/1370482 Mon, 17 Jan 2022 07:55:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1370482 คิทแคท เปิดตัวธุรกิจ Made with KitKat ส่งไลน์สินค้ากลุ่มวัตถุดิบสำหรับทำขนม เพื่อขยายฐานสู่กลุ่ม B2B มากกว่าการเป็นแค่ช็อกโกแลตบาร์ สำหรับบริโภคในครัวเรือนเพียงอย่างเดียว

หากพูดถึงสโลแกนสินค้าติดหูแล้ว จะต้องมี คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท หรือ ‘Have a break, have a KITKAT’ ของแบรนด์คิทแคทขึ้นมาในใจใครหลายคนอย่างแน่นอน ตอนนี้แบรนด์อายุได้ 85 ปี ยังคงเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตในใจของหลายๆ คน

ในช่วงปีที่ผ่านมากระแสการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ต่างๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ด้วยจุดประสงค์เพื่อต้องการจะนำเสนอเมนูที่หลากหลาย เป็นเอกลักษณ์ และสร้างความสนใจให้กับผู้บริโภค

ด้วยเหตุนี้ คิทแคท จึงต่อยอดความสุข ส่งต่อความอร่อยให้กับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการเปิดตัวธุรกิจ Made with KitKat ส่งไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับโพรเฟชชันนัล นำเสนอวัตถุดิบหลากหลายรูปแบบเพื่อรังสรรค์เมนูใหม่ที่แสนอร่อย ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่กับรสชาติและรสสัมผัสที่ทุกคนคุ้นเคยในสไตล์คิทแคท เพิ่มความสะดวกพร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มรวมถึงโอกาสในการสร้างธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน

เครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า

สำหรับคิทแคทแล้ว เรานับว่าเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตอันดับหนึ่งของโลกที่อยู่มายาวนานเกือบร้อยปี โดยในประเทศไทยเรามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12% ด้วยจุดเด่นของรสชาติและเอกลักษณ์ของรสสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เราครองใจคอช็อกโกแลตและขนมหวานทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกได้อย่างไม่น่าสงสัย ในช่วงปีที่ผ่านมาเรามองเห็นถึงโอกาสการต่อยอดธุรกิจของคิทแคทให้ไปได้ไกลมากขึ้น และทำให้คิทแคทเป็นได้มากกว่าช็อกโกแลตแท่ง ที่พร้อมจะสร้างความอร่อยให้กับทุกเมนูผ่านธุรกิจ Made with KitKat เพื่อบุกตลาดในกลุ่ม B2B ที่เป็นธุรกิจอาหารซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้ารวมถึงสร้างสรรค์แนวคิดทางธุรกิจใหม่

โดยคิทแคทได้มองเห็นเทรนด์การทำธุรกิจในลักษณะ co-branding ที่สามารถเพิ่มมูลค่า และสร้างโอกาสทางธุรกิจไปพร้อมกัน จึงได้จับมือกับร้านและแบรนด์ชื่อดังต่างๆ อย่าง Burger King, Gram, Krispy Kreme, Coffee Arigato, Café Amazon

ล่าสุดคือ ปังสยาม ที่นำ “เค้กโบราณหน้าคิทแคท” ตัวใหม่เข้าขายทางร้านสะดวกซื้อ โดยเค้กโบราณหน้าคิทแคทของปังสยามสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 65% ภายใน 1 เดือนที่ออกสินค้ามา

Made with KitKat มาพร้อมผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นวัตถุดิบทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ

  1. KitKat Spread สเปรดช็อกโกแลตรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคย พร้อมเวเฟอร์ผสานความลงตัว ไม่ทิ้งรสสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์คิทแคท
  2. KitKat Big Chunk Mix-in จากคิทแคทแบบแท่งนำมาบดพร้อมโรยหน้า เพิ่มความพิเศษให้กับคุณในทุกเมนู
  3. KitKat 2 Finger Unwrap รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ชิ้นพอดีคำ มาในฟอร์มที่ไม่ใส่ห่อแยกชิ้น ช่วยลดโลกร้อนพร้อมเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
  4. KitKat Bites Mix-in ช็อกโกแลตบอลขนาดกำลังดี โรยหน้าตกแต่ง หรือใส่ในส่วนประกอบขนม ก็อร่อยได้เต็มคำ
]]>
1370482
KitKat เปิดช็อปใหม่ให้ลูกค้าทำรสตัวเอง ดัน Chocolatory ช่วยแบรนด์เจาะกลุ่ม Gen Z https://positioningmag.com/1290585 Mon, 03 Aug 2020 13:32:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1290585 Photo : Nestlé

ร้าน KitKat ที่ได้ชื่อว่า make-your-own KitKat shop แห่งแรกของโลกกำลังเปิดให้บริการในโตเกียว ความพิเศษคือ แม้ญี่ปุ่นจะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วย KitKat รสพิเศษ แต่ร้านนี้จะเปิดกว้างให้ลูกค้าออกแบบและทำ KitKat ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นกระบวนการ เรียกกระแสตื่นเต้นให้กับแฟนคลับ KitKat ได้มากพอดู

ญี่ปุ่นไม่ใช่พื้นที่เดียวที่ KitKat ปักหลักเปิดร้านหรือที่ KitKat เรียกว่า Chocolatory เพราะยังมีเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ในออสเตรเลียที่ KitKat ปักหลักเปิดสาขาใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 63 ด้าน Chocolatory ในออนแทริโอก็เปิดบริการอีกครั้งที่แคนาดา ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ตอกย้ำว่า KitKat กำลังโฟกัสเรื่องการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่ทุกคนจะได้สัมผัสลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ถามว่าทำไม KitKat จึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ คำตอบคือ KitKat เป็นแบรนด์เก่าแก่อายุเกิน 84 ปี คุณปู่อย่าง KitKat จึงต้องฟิตร่างกายเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่หรือกลุ่ม Gen Z ให้ได้ เพราะหากทำไม่ได้ KitKat ก็มีโอกาสพ่ายแพ้ในสมรภูมิ

4 ช็อปในญี่ปุ่น

KitKat Chocolatory ร้านใหม่ที่ Miyashita Park ย่านชิบุยะของโตเกียวเป็นแห่งที่ 4 ที่ KitKat เปิดให้บริการ ดังนั้น KitKat จึงจำเป็นต้องหาลูกเล่นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน เช่น การวางจำหน่าย KitKat Waffles แบบเครป ที่จะมีให้บริการเฉพาะที่ร้านสาขาใหม่เท่านั้น

แต่สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดสำหรับ Miyashita Park Chocolatory คือบริการ My KitKat ที่ลูกค้าจะได้ลงมือทำ KitKat ด้วยตัวเองครั้งแรกของโลก ลูกค้าสามารถเลือกชนิดของช็อกโกแลตที่ต้องการเช่น ช็อกโกแลตนม ดาร์กช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตสีชมพู จากนั้นลูกค้าสามารถเทช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงในแม่พิมพ์ ก่อนจะสอดไส้ขนมด้วยเวเฟอร์กรอบ แล้วตกแต่งหน้าตาเพื่อให้ My KitKat เป็นขนมที่กำหนดได้เองทั้งรสชาติและหน้าตา ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งถั่วเฮเซลนัท มะพร้าว ราสเบอรี่แห้ง มาร์ชเมลโลว์ เพรทเซิล และแม้กระทั่งดอกไม้ที่กินได้

My KitKat ใช้เวลาประมาณ 70 นาที รวมเวลาแช่เย็นและบรรจุสำหรับนำกลับบ้าน ให้บริการ 6 รอบต่อวัน ค่าใช้จ่าย 2,000 เยน หรือประมาณ 600 บาทโดยต้องจองล่วงหน้า

ปักหลักซิดนีย์ครั้งแรก

ในขณะที่ปูพรมเปิดบริการ 4 แห่งที่โตเกียว ร้าน KitKat Chocolatory แห่งแรกของซิดนีย์ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 63 จุดเด่นของร้านคือการจัดมุมชิมขนม ส่วนจำหน่าย KitKat รุ่นพิเศษ และบริการให้ความรู้เรื่องช็อกโกแลต ทั้งหมดเป็นการประยุกต์และนำเสนอรสชาติใหม่จากท้องถิ่นและนานาชาติ เพื่อขยายประสบการณ์ของลูกค้า

Chris O’Donnell ผู้จัดการทั่วไปของ Nestlé ต้นสังกัด KitKat ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Inside FMCG ว่าเป้าหมายของ KitKat Chocolatory คือเพื่อ “ว้าว” ผู้บริโภค ซึ่งความตั้งใจของ KitKat คือการนำความคิดสร้างสรรค์ของ KitKat มาสู่ชีวิตจริง และยกระดับแบรนด์ว่ายังดื่มด่ำกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง

แนวคิดของ Chocolatory นั้นมีพื้นฐานมาจากสตูดิโอ KitKat ที่เคยเปิดชั่วคราวเป็นเวลา 4 สัปดาห์ในซิดนีย์ช่วงปี 58 โดย KitKat Chocolatory สาขาแรกนั้นเปิดให้บริการในเมลเบิร์น ก่อนจะขยายมายังพื้นที่อื่นเพราะทีมวิจัยพบว่าป็นประสบการณ์ที่ผู้บริโภคกำลังมองหา

ประเด็นนี้ O’Donnell บอกว่าการยกระดับประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในปัจจุบัน และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคก็กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเพราะส่วนผสมทางการตลาดมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นแบรนด์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้จริง ก็จะจำเป็นต้องสร้างการเชื่อมต่อที่อิงจากประสบการณ์ มากกว่าคำบอกเล่าของโฆษณา

เส้นทางของ KitKat นับจากนี้จึงเป็นการนำเสนอเนื้อหาที่อิงกับประสบการณ์เป็นส่วนตัวมากขึ้น และนำเสนอสิ่งที่ผู้บริโภคไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ทั้งหมดนี้จะทำคู่ไปกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของ KitKat ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์พิเศษให้กับผู้บริโภคออนไลน์เช่นกัน เบื้องต้นพบว่าร้านออนไลน์ของ KitKat นั้นมีการเติบโตก้าวกระโดด

ที่สำคัญ O’Donnell บอกว่า KitKat สามารถใช้ร้านนี้เป็นศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรม เพราะสามารถทดลองสินค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับวงการค้าปลีกที่ต้องใช้เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่นาน 6-12 เดือน แต่ที่ร้านสามารถทำได้ในเวลา 6-12 ชั่วโมง ก็สามารถประเมินผลตอบรับหรือการตอบสนองจากผู้บริโภคได้ทันใจ ทำให้ KitKat สามารถปฏิวัติตัวเองในธุรกิจค้าปลีกได้

ในภาพรวม Chocolatory ยังทำให้ KitKat เชื่อมต่อกับลูกค้าอายุน้อยที่ยังไม่ได้เป็นแฟนคลับ KitKat แถมยังช่วยเชื่อมโยงกับผู้บริโภคที่แยกตัวออกจากแบรนด์ KitKat ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยผู้บริหารเผยว่า ร้าน Chocolatory ในเมลเบิร์นพบลูกค้าราว 30-40% ที่เข้ามาในร้านเป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยลองชิม KitKat มาก่อนหรือไม่ได้ซื้อ KitKat รับประทานประจำ ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์ KitKat ผ่าน Chocolatory ก็เริ่มกลับมาซื้อและมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นกว่าเดิม.


ที่มา : 

]]>
1290585
Nestlé เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้ง KitKat ในญี่ปุ่นมาเป็นกระดาษที่พับเป็น “โอริกามิ” หวังช่วยลดการใช้พลาสติกปีละ 380 ตัน https://positioningmag.com/1245607 Sat, 07 Sep 2019 09:59:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1245607 Photo: Nestlé Japan

ธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรมจำนวนมากมาย ต่างก็ให้คำมั่นว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่วางขายยั่งยืนยิ่งขึ้น ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมจนธุรกิจต่างๆ ไม่สามารถตกขบวนได้

หนึ่งในที่ออกมาให้คำมั่นดังกล่าวคือยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ประกาศในเดือนมกราคมว่า บริษัท มุ่งมั่นที่จะออกบรรจุภัณฑ์์รีไซเคิลได้ 100% ในปี 2025 โดยหนึ่งในจุดออกสตาร์ทคือการเปิดตัว KitKat ซึ่งตอนนี้จะถูกห่อด้วยกระดาษแทนพลาสติก

Photo: Nestlé Japan

สำหรับกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหารจำนวนมากเช่น Nestlé การขยับแม้แต่บางส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อรีไซเคิลวัสดุ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น Statista รายงานว่าเครื่องดื่มของบริษัททำรายได้ 21.7 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ซี่งที่ผ่านมา Nestlé ผลิตเครื่องดื่มที่หลากหลายทั้งในรูปแบบผงและแบบเหลวพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น เช่น อาหารสำหรับเด็กและซีเรียลอาหารเช้า

ในความพยามเพื่อรักโลกและดึงให้ผู้บริโภคหันมาสนใจบรรจุภัณฑ์ที่มีสีสันน้อยกว่าพลาสติก Nestlé ได้เพิ่มกิมมิกเพื่อดึงดูดคนรัก KitKat ด้วยออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถพับให้เป็น “โอริกามิ” ซึ่งตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น โอริกามิคือผู้ส่งสารแห่งความคิดและความปรารถนา

KitKat ในหีบห่อกระดาษจะเปิดตัวปลายเดือนนี้ด้วยรสชาติ เช่น ออริจินัล มัทฉะ และโอโตนาโนะอามาซา หรือ “ความหวานสำหรับผู้ใหญ่”

ทั้งนี้ Nestlé เชื่อว่าการเปลี่ยนมาใช้กระดาษจะช่วยลดการใช้พลาสติกปีละประมาณ 380 ตันเลยทีเดียว.

Source

]]>
1245607
Nestle สร้าง “ช็อกโกแลต” แบบใหม่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เห็นแน่กับ KitKat ในญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ร่วงนี้ https://positioningmag.com/1239299 Tue, 16 Jul 2019 22:59:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1239299 Nestle ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของโลก ประสบความสำเร็จในการค้นพบวิธีการทำช็อกโกแลตที่หวานได้โดยไม่ต้องเติมน้ำตาลผ่านกระบวนการที่อาศัยวัสดุที่เหลือจากผลโกโก้เพื่อทำให้หวาน บนแรงกดดันที่ผู้บริโภคมองหาอาหารที่ทำจากธรรมชาติและมีสุขภาพดี

บริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินค้ามากกว่า 2,000 แบรนด์ ได้ใช้เทคนิคที่จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โดยเปลี่ยนเยื่อสีขาว ที่ครอบคลุมเมล็ดโกโก้ให้เป็น ผงที่มีน้ำตาลตามธรรมชาติ” ซึ่งที่ผ่านมาเยื่อที่ว่านี้ยังไม่เคยถูกใช้เป็นสารให้ความหวานสำหรับช็อกโกแลต และมักจะถูกทิ้งเสียเป็นส่วนใหญ่

“เยื่อสีขาว” ที่ถูก Nestle เปลี่ยนมาเป็นผงที่มีน้ำตาลตามธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้วิธีการใหม่นี้จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ ผ่านแบรนด์ KitKat โดยใช้ชื่อว่า “KitKat Chocolatory Cacao Fruit Chocolate” เป็นดาร์กช็อกโกแลต 70% ภายใต้สูตรใหม่ซึ่งไม่ได้เติิมน้ำตาลทรายเข้าไป ที่สำคัญสูตรนี้จะมีน้ำตาลน้อยกว่า 40% เมื่อเทียบกับสินค้าของ KitKat

ขณะเดียวกัน Nestle สามารถใช้กระบวนการเดียวกันนี้ในการทำนมหรือไวท์ ช็อกโกแลตในอนาคต โดยคาดว่าจะได้เห็นจากแบรนด์ชื่อดังอื่นๆ ภายในปีหน้า Alexander von Maillot หัวหน้าธุรกิจขนมของเนสท์เล่กล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ Bloomberg

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผู้บริโภคและรัฐบาลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพท่ามกลางความกังวลเรื่องโรคอ้วนและโรคเบาหวาน การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของ Nestle อาจหนุนตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ปี ในการหาวิธีที่จะเปลี่ยนโครงสร้างของน้ำตาลเพื่อเพิ่มพลังความหวาน

Source

Source

]]>
1239299
ไม่ใช่แค่หวานเป็นลม แต่หวานก็ยังเป็นยา !! คิทแคท ออกรสชาติใหม่ รสยาอมแก้เจ็บคอ https://positioningmag.com/1137264 Wed, 23 Aug 2017 10:59:26 +0000 http://positioningmag.com/?p=1137264 ภาพจาก : PR Times

คิทแคท ถือเป็นแบรนด์ขนมที่มีรสชาติให้เลือกหลากหลายมากกว่า 200 รสชาติ ตั้งแต่ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ ชาเขียว เมลอน มันม่วง พริกญี่ปุ่น และล่าสุดได้ออกรสชาติใหม่ รสยาอมแก้เจ็บคอ เอาใจผู้ที่มีอาการระคายเคืองคอ

เนสท์เล่ เจ้าของแบรนด์ขนมคิทแคท ได้เปิดตัวคิทแคทรสชาติใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรสชาติเป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า คิทแคท โนโด ะอาเมะ อาจิ (Kit Kat Nodo Ame Aji) หรือรสชาติยาอมแก้เจ็บคอ

โดยมีการใส่ผงยาอมบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ในปริมาณ 2.1% ลงไปในไวท์ช็อกโกแลตที่อยู่ระหว่างชั้นเวเฟอร์ของขนม ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคที่ทานได้มีความรู้สึกสดชื่นและชุ่มคอ

ทั้งนี้ คิทแคทรสชาติยาแก้เจ็บคอ จะวางจำหน่ายแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นในวันที่ 21 สิงหาคม ถึงวันที่ 10 กันยายน นี้เท่านั้น โดยมีราคาขายอยู่ที่อันละ 140 เยน หรือ 42 บาท

ภาพจาก : PR Times

ในส่วนแพ็กเกจที่วางขาย ก็สร้างความแตกต่างจากแพ็กเกจแบบเดิมๆ ของคิทแคทที่ผ่านมา โดยการนำภาพของ ยาสุทาโระ มัทซึกิ อดีตนักฟุตบอล และอดีตผู้จัดการทีมชาติญี่ปุ่น ที่กำลังออกแรงใช้เสียง มาใช้เป็นภาพของแพ็กเกจจิ้งสินค้า เพื่อสื่อถึงสรรพคุณของรสชาติ

ซึ่งคาดว่า คิทแคทรสชาติยาอมแกเจ็บคอนี้ น่าจะผลิตมาขายในช่วงที่คนญี่ปุ่นกำลังให้ความสนใจกับการเชียร์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ปี 2018 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

]]>
1137264