Rockstar – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 02 Jul 2024 14:27:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดสถิติความปัง ‘Lisa x Rockstar’ ที่กวาด Engagement ฉ่ำทะลุ 40 ล้านครั้ง! https://positioningmag.com/1480752 Tue, 02 Jul 2024 09:39:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1480752 เชื่อว่าเพื่อนหลาย ๆ คนบนโซเชียลมีเดียจะต้องไปเหยียบ เยาวราช ทั้งไปเองจริง ๆ หรือไม่ก็ตัดต่อตัวเองลงไปใน MV เพลง Rockstar ของ ลิซ่า ที่เขย่าโลกโซเชียลไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย Wisesight Kirin AI ได้ทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่ระยะเวลา 13  มิ.ย. – 1 ก.ค. 2024

เจาะลึกสถิติ บอกเลยว่าปังไม่ไหว!

มิวสิควิดีโอ Rockstar สร้างปรากฏการณ์สุดร้อนแรงบนโลกโซเชียล ยอดวิวทะลุล้านครั้งภายในเวลาแค่ 30 นาทีหลังปล่อยเพลง แถมยังทำลายสถิติศิลปินเดี่ยวประจำปี 2024 นับตั้งแต่เปิดตัวเพลงจนถึงวันที่ 1 มิ.ย. กวาดยอด Engagement ไปแบบถล่มทลายถึง 43,735,834 ครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละโพสต์จะมี Engagement อยู่ที่ 320 ครั้ง 

อย่างไรก็ตาม แต่ก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละโพสต์ บางโพสต์มียอด Engagement พุ่งสูงถึง 5,504,471 ครั้ง ช่องทางแพลตฟอร์มที่ได้รับ Engagement มากที่สุดคือ 

  • Instagram โดยกวาดยอด Engagement ไปได้มากที่สุดถึง 15,848,540 ครั้ง ด้วยจำนวนข้อความ 5,093 Messages (3.72%) 
  • X (Twitter) ที่ได้รับ Engagement 10,887,279 ครั้ง ด้วยจำนวนข้อความ 118,776 ข้อความ (86.85%) 
  • Facebook ที่ได้รับ Engagement ที่ 8,766,188 ครั้ง ด้วยจำนวนข้อความ 9,180 ข้อความ (6.7%)
  • Youtube ที่ได้รับ Engagement ที่ 6,131,215 ครั้ง ด้วยจำนวนข้อความ 3,498 ข้อความ (2.62%)

เจาะลึกแต่ละแพลตฟอร์ม

เมื่อวิเคราะห์ Engagement บนแพลตฟอร์มต่างๆ พบว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่กวาดยอด Engagement ไปได้มากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละโพสต์บน Instagram มียอด Engagement อยู่ที่ 3,119 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอด Engagement บน Instagram พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ แสดงให้เห็นถึงพลังของ Instagram ในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วน X กลับเป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนข้อความเกี่ยวกับมิวสิควิดีโอมากที่สุดถึง 118,776 ข้อความ แสดงให้เห็นว่า X เป็นพื้นที่ที่แฟน ๆ นิยมใช้พูดคุยและแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับมิวสิควิดีโออย่างรวดเร็วและแพร่หลาย ตอกย้ำสถานะแพลตฟอร์มแห่งการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล

TikTok Engagement สูง แต่จำนวนโพสต์น้อย โดยเฉลี่ยต่อโพสต์สูงที่สุดถึง 8,577 ครั้ง แต่กลับมียอด Engagement รวมเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 7,882,388 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าแม้เนื้อหาเกี่ยวกับ “Rockstar” บน TikTok จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้เป็นอย่างดี

วิเคราะห์ Hashtag

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ Hashtag และ Keyword ช่วยให้เข้าใจถึงประเด็นหลัก ๆ ที่แฟน ๆ พูดถึงเกี่ยวกับมิวสิควิดีโอ โดย Hashtag ยอดนิยมอย่าง “lisaxrockstar” กวาดยอด Engagement ไปได้ถึง 22,777,702 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นของแฟนๆ ที่มีต่อศิลปินคนโปรดและผลงานใหม่ของเธอ เช่นเดียวกับ Keyword “lisa+rockstar” ที่มียอด Engagement สูงถึง 38,943,473 ครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างชื่อศิลปินกับชื่อเพลงในการพูดคุยของแฟนๆ

ที่น่าสนใจคือ Hashtag และ Keyword ภาษาไทยก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดย Hashtag “ลิซ่า มียอด Engagement 5,904,681 ครั้ง และ Keyword “ลิซ่า+เยาวราช” มียอด Engagement 5,875,235 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในประเทศไทย และตอกย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยอด Engagement ของ Keyword “lisa+mv” ที่พุ่งสูงถึง 13,385,949 ครั้ง และมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงสูง ในช่วงเวลาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าแฟน ๆ ให้ความสนใจและกระตือรือร้นในการค้นหามิวสิควิดีโอบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการเผยแพร่มิวสิควิดีโอผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมอย่าง YouTube

Influencer คนสำคัญ และ Sentiment ของแฟนๆ

ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใช้งาน “LISA” ซึ่งเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการของศิลปิน จะมียอด Engagement สูงที่สุดถึง 10,932,790 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีบัญชีอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น “LISANATIONS”, “gukoiiz”, “เรื่องเล่าเช้านี้” และ “ตุ๊ดย่อยข่าว” ซึ่งล้วนเป็น Influencer และ Potential Partner ที่น่าสนใจสำหรับแคมเปญในอนาคต

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชี “Gukoiiz” ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง มียอด Engagement เฉลี่ยต่อโพสต์สูงถึง 1,120,871 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและความสามารถในการเข้าถึงแฟนคลับได้เป็นอย่างดี

เมื่อเราวิเคราะห์ Sentiment ของแฟน ๆ โดยดูจาก “จำนวนข้อความ” ในแต่ละ Sentiment พบว่า Sentiment ด้านบวกมีจำนวนมากที่สุดถึง 15,184 ข้อความ ในขณะที่ Sentiment ด้านลบ มีเพียง 1,717 ข้อความ แสดงให้เห็นว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่มีปฏิกิริยาเชิงบวกต่อมิวสิควิดีโอ “Rockstar” สอดคล้องกับ Sentiment เป็นกลาง ที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 119,770 ข้อความ ซึ่งบ่งชี้ว่าแฟน ๆ ส่วนใหญ่เน้นการแชร์ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นแบบกลาง ๆ

เข้าใจ Fandom ให้มากขึ้น

การวิเคราะห์ Audience Size Label เผยให้เห็นว่าบัญชี “กลุ่มอีลิท” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีผู้ติดตามจำนวนมากที่สุด มียอด Engagement สูงสุดอยู่ที่ 12,360,284 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของบัญชีที่มีชื่อเสียงในการสร้างการรับรู้และกระแสให้กับมิวสิควิดีโอ “Rockstar”

ขณะเดียวกัน การวิเคราะห์ Account Category พบว่าหมวดหมู่ “นักร้อง::ความบันเทิง” มียอด Engagement รวมสูงสุด (10,981,841 ครั้ง) และ Engagement เฉลี่ยสูงสุด (378,684 ครั้ง) ตอกย้ำว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของลิซ่ายังคงเป็นกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบดนตรีและความบันเทิง นอกจากนี้ ยอด Engagement ที่สูงในหมวดหมู่ “ความงามและแฟชั่น” (Engagement รวม 2,177,600 ครั้ง) ชี้ให้เห็นถึงความสนใจในเรื่องแฟชั่นของแฟนคลับลิซ่า

นอกจากนี้ ข้อมูล Image Label เผยให้เห็นว่าภาพประเภท “เสื้อผ้า”, “ผู้หญิง” และ “ใบหน้ามนุษย์” เป็น 3 อันดับแรกที่มียอด Engagement สูงสุด อยู่ที่ 35,864,708, 28,986,107 และ 25,821,199 ครั้ง ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าแฟน ๆ ชื่นชอบภาพสวย ๆ ที่โชว์สไตล์การแต่งตัวสุดปังของลิซ่า ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการสร้างสรรค์ Content ในอนาคต

นำเสนอวัฒนธรรมไทยอย่างมีชั้นเชิง

จุดเด่นที่ทำให้มิวสิควิดีโอ Rockstar กลายเป็นกระแส Talk of the town ภายในเสี้ยววินาที คือ ความสวยงามของภาพและการนำเสนอวัฒนธรรมไทยอย่างมีชั้นเชิง โดยทีมงานเลือกใช้โลเคชั่นถ่ายทำแบบจัดเต็มในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ถนนเยาวราช สุดคึกคักใจกลางกรุงเทพฯ หรือ โรงละครออสการ์ สุดคลาสสิกในจังหวัดเพชรบุรี แถมยังมีท่าเต้นสุดพลิ้วที่ออกแบบโดยนักเต้นมืออาชีพชาวไทย

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์อย่างแก๊งมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน และที่พิเศษสุด ๆ คือการปรากฏตัวของ ชินนี่ ชินรวดี นางแบบข้ามเพศเจ้าของมงกุฎ มิสทรานส์สตาร์อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 สะท้อนภาพความหลากหลายและการยอมรับในสังคมไทยยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ดังนั้น Rockstar ไม่ได้เป็นแค่เพลงฮิตติดหูเท่านั้น แต่ยังเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโลกเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมทำลายสถิติศิลปินเดี่ยวประจำปี 2024 ตอกย้ำอิทธิพลระดับโลกของลิซ่าได้อย่างชัดเจน ความลับที่ซ่อนไว้เบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ เรื่องราวสุดประทับใจของทีมงานชาวไทย และความตั้งใจของลิซ่าในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ล้วนเป็นส่วนผสมที่ทำให้ “Rockstar” สร้างความเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็วขึ้นไปอีก

สรุปแล้ว ข้อมูล Social Listening ชี้ชัดว่ามิวสิควิดีโอ “Rockstar” ของลิซ่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:

  • กลยุทธ์การใช้แพลตฟอร์ม: การใช้จุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์มอย่างชาญฉลาด เช่น การสร้าง Engagement สูงบน Instagram และการใช้ Twitter กระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว
  • Content คุณภาพ: ภาพสวย เนื้อหาโดนใจ ดึงดูดให้แฟนๆ อยากดูและแชร์ต่อ
  • แฟนคลับเหนียวแน่น: แฟนคลับของลิซ่ามีส่วนร่วมกับ Content อย่างแข็งขัน สร้างกระแสและการพูดถึงอย่างกว้างขวาง
  • Content หลากหลาย: การสร้าง Content ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น เช่น การใช้ภาษาไทย
]]>
1480752
“ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” วางเป้า 5 ปีต่อไปชิงแชร์ “น้ำอัดลม” เพิ่มปีละ 1% บุกหนักกลุ่ม “No Sugar” https://positioningmag.com/1425031 Mon, 27 Mar 2023 13:57:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425031 ครบรอบ 5 ปีการจับมือร่วมทุน “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” พร้อมไปต่ออีก 5 ปีข้างหน้า (2566-2570) วางเป้าชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาด “น้ำอัดลม” ปีละ 1% โดยจะบุกหนักในกลุ่ม “ไม่มีน้ำตาล” (No Sugar) ซึ่งเป็นเทรนด์แรงของตลาด พร้อมผลักดันเครื่องดื่มชูกำลัง “Rockstar” สร้างดีมานด์ใหม่เป็นเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์

“อชิต โจชิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมผู้บริหารแถลงครบรอบ 5 ปีการเป็นพันธมิตรร่วมทุนของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค และก้าวต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้าของบริษัท

หลังจากมีการร่วมทุนกันของสองบริษัท ทำให้พอร์ตโฟลิโอของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคครบเครื่องยิ่งขึ้นด้วยเครื่องดื่มรวม 9 แบรนด์ในมือ

ปัจจุบันพอร์ต 75% ของบริษัททำรายได้จากกลุ่มน้ำอัดลม ได้แก่ เป๊ปซี่, มิรินด้า, เซเว่นอัพ และ 25% มาจากกลุ่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม ได้แก่ ชาลิปตัน, ชา TEA+, กาแฟ BOSS, น้ำดื่มอะควาฟินา, เครื่องดื่มเกลือแร่เกเตอเรด และน้องใหม่ล่าสุด เครื่องดื่มชูกำลังระดับพรีเมียม Rockstar

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค
เครื่องดื่มในพอร์ตของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค

รวมถึงการผนึกกำลังทำให้ในรอบ 5 ปีบริษัทมีเครือข่ายร้านค้าจำหน่ายเพิ่มเป็น 2 เท่า และมีกำลังผลิตจากโรงงาน 2 แห่งรวม 600 ล้านลิตรต่อปี

อชิตกล่าวต่อว่า สำหรับระยะ 5 ปีต่อไป (2566-2570) ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค วางกลยุทธ์ใหญ่ไว้ 5 ข้อ ดังนี้

  1. เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจ “น้ำอัดลม” ปีละ 1% point
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้านวัตกรรม value-added
  3. ส่งสินค้าที่เหมาะสมไปถึงลูกค้าด้วยประสบการณ์ที่เหมาะสม
  4. สานต่อเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยปีนี้จะเริ่มเปิดตัวขวดที่ทำจาก rPET (ขวดที่ทำจากพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว)
  5. พัฒนาองค์กรต่อเนื่อง โดยเน้นประเด็นความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร

เป้าหมายปลายทางคือ ต้องการทำให้รายได้ต่อปีเติบโต “ดับเบิ้ล” ค่าเฉลี่ยของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น ปี 2566 นี้บริษัทตั้งเป้าโต 4-6% จากคาดการณ์ตลาดน่าจะโต 2-3% ส่วนในอนาคตหวังว่าบริษัทจะสามารถโตได้ปีละ 8-10% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในแต่ละปีด้วย

ทีมงาน บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด: (จากซ้าย) เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์, อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ อนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

 

ศึก “น้ำอัดลม” ปักเป้าชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่มปีละ 1%

ในรอบ 5 ปีก่อน ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคสามารถขยับสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ในตลาดน้ำอัดลมขึ้นมาได้อีก 2.6% point ซึ่งทำให้เมื่อปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 37% เป็นรองจากอันดับ 1 คือ โคคา-โคล่า ที่ยังยึดหัวหาดไว้ถึง 51%

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายจากนี้ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคต้องการจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ปีละ 1% point นั่นแปลว่าถ้าทำสำเร็จ ในปี 2570 เราอาจได้เห็นเป๊ปซี่ขึ้นไปมีส่วนแบ่งแตะ 42% ของตลาด และลดช่องว่างความห่างกับโคคา-โคล่าได้มากขึ้นอีก

น้ำอัดลม No Sugar ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค
น้ำอัดลม No Sugar ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค

หนทางเจาะตลาดที่ทางซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเล็งอยู่นั้น คือการยึดฐานเดิมของน้ำอัดลมสูตรปกติไว้ให้มั่น พร้อมกับการบุกหนักกลุ่มน้ำอัดลม “No Sugar”

“อนวัช สังขะทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทรนด์รักสุขภาพของชาวไทยที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 นั้นยังคงเป็นเทรนด์ต่อเนื่องแม้โรคระบาดจะคลายความรุนแรง ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลอย่างมาก

“ปัจจุบันสินค้ากลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของตลาดน้ำอัดลมโดยรวม ปีนี้คาดว่าจะเติบโตอีกประมาณ 30% และหากเทรนด์การเติบโตยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง 5 ปี จะทำให้สัดส่วนกลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลขึ้นไปใกล้เคียงครึ่งหนึ่งของตลาดรวม” อนวัชกล่าว

น้ำอัดลม No Sugar จึงเป็นตลาดที่สำคัญมากในการต่อสู้ชิงส่วนแบ่งตลาด “ความท้าทายปัจจุบันนี้คือคนยังมองว่าน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลไม่ค่อยอร่อย เราจึงต้องทลายความคิดเรื่องนี้ให้ได้” อนวัชกล่าว

 

“Rockstar” สร้างดีมานด์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

อีกส่วนที่จะส่งให้รายได้โตคือการเจาะตลาด “เครื่องดื่มชูกำลัง” ซึ่งซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มาเมื่อปีที่แล้วในชื่อ “Rockstar” เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแบบกระป๋อง ด้วยรูปลักษณ์ระดับพรีเมียม เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

อนวัชกล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 20,000 ล้านบาท จะเป็นหนึ่งในประเภทเครื่องดื่มที่เติบโตดีที่สุดในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคแบบเดิมและกลุ่มใหม่ที่บริษัทกำลังสร้างดีมานด์ขึ้น

Rockstar เครื่องดื่มชูกำลังระดับพรีเมียม เริ่มออกจำหน่ายปี 2565

“เรากำลังพยายามส่ง Energy Drink ไปในทิศทางใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ นอกจากดื่มเพื่อชูกำลังแล้ว ยังเป็นไลฟ์สไตล์ได้ ถือแล้วดูดี ซึ่งปกติกลุ่มที่ดื่มในลักษณะนี้ยังมีเพียง 6-7% ของตลาด แต่เราคิดว่าสามารถสร้างเพิ่มได้” อนวัชกล่าว

ส่วนตลาดเครื่องดื่มประเภทอื่น เช่น ชาพร้อมดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม บริษัทจะยึดตำแหน่งในตลาดไว้ให้ได้เช่นกัน พร้อมกับการสร้างสินค้าใหม่ๆ ในลักษณะที่เป็นฟังก์ชันนอลดริงก์เพิ่ม เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมสินค้าเติมฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ

“ปีนี้งบประมาณการตลาดรวมทั้งบริษัทเราตั้งไว้ที่ 1,000 ล้านบาท มีแผนการตลาดแล้ว 22 แคมเปญซึ่งมากกว่าปีก่อน และจะเน้นเรื่องอีเวนต์ on-ground เตรียมแจกชิม 10 ล้านขวด พร้อมกลยุทธ์ราคาและโปรโมชันโดนๆ เพื่อดึงให้ผู้บริโภคที่ชิมแล้วชอบ เข้ามาซื้อสินค้าจริง” อนวัชกล่าวปิดท้าย

]]>
1425031