Spotify Podcast – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 17 Nov 2023 02:34:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Spotify ประกาศใช้ AI ของ Google เพื่อแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้โดนใจผู้ฟังมากขึ้น https://positioningmag.com/1452278 Thu, 16 Nov 2023 17:39:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452278 Spotify ได้ประกาศขยายความร่วมมือกับ Google ในการนำระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อที่จะแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้นำเทคโนโลยี AI มาเป็น DJ ช่วยแนะนำในการฟังเพลงมาแล้ว

Spotify ได้ประกาศขยายความร่วมมือกับ Google ในการนำระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อที่จะแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น

บริษัทสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้ใช้ระบบ Google Cloud’s LLMs โดยระบบดังกล่าวจะวิเคราะห์ Podcast จำนวน 5 ล้านชุด และ Audiobooks ถึง 350,000 ชุด เพื่อที่จะนำข้อมูลไม่ว่าจะเป็นผู้จัดทำ หรือแม้แต่คำบรรยาย ไปประมวลผลเพื่อที่จะส่งผลลัพธ์ให้กับผู้ใช้งานได้แม่นยำมากขึ้น

นอกจากนี้ระบบ AI ดังกล่าวยังช่วยระบุเนื้อหาที่เป็นอันตราย แต่ Spotify ไม่ได้กล่าวลงรายละเอียดแต่อย่างใด

สำหรับความร่วมมือดังกล่าวของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ Spotify ประกาศใช้บริการระบบ Cloud ของ Google แต่เพียงเจ้าเดียวมาแล้วนับตั้งแต่ปี 2016 นอกจากนี้ยักษ์ใหญ่บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้ใช้บริการอื่นๆ ของ Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เพียงเท่านี้ทั้ง 2 บริษัทประกาศว่าจะมีความร่วมมือด้านวิศวกรรมเพื่อที่จะทำให้บริการของ Spotify ดีมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้ Cloud ของ Google ด้วย

โดย Spotify ได้เริ่มต้นนำอัลกอริธึมแนะนำเพลงให้กับผู้ใช้งานเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำเทคโนโลยี AI มาเป็น DJ โดยใช้ข้อมูลจากเพลงที่ผู้ใช้งานฟังบ่อยๆ

ขณะเดียวกัน Spotify ได้มองหาวิธีการเพิ่มรายได้อื่นๆ นอกจากการสตรีมมิ่งเพลง ซึ่งการนำระบบ AI มาแนะนำ Podcast รวมถึง Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดังกล่าวดัวย

ที่มา – Reuters, The Verge

]]>
1452278
“Spotify” เปิดฟีเจอร์ใหม่ใช้ AI เลียนเสียงนักจัด “พอดคาสต์” เพื่อแปลงรายการเป็นภาษาอื่น https://positioningmag.com/1445638 Tue, 26 Sep 2023 12:21:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445638 สตรีมมิ่งเจ้าดัง “Spotify” ประกาศเปิดใช้ฟีเจอร์ใหม่ ใช้ AI เลียนเสียงพิธีกรรายการ “พอดคาสต์” เพื่อใช้เสียงสังเคราะห์ของพิธีกรในการแปลรายการเป็นภาษาอื่น ทำให้เข้าถึงผู้ฟังได้กว้างขึ้น โดยจะเริ่มจากการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส

Spotify ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยีของ OpenAI (บริษัทเจ้าของ ChatGPT) ซึ่งสามารถ “เลียนเสียง” ได้ผ่านการฟังผู้พูดเพียงไม่กี่ประโยค ทำให้ Spotify เลือกนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับการแปลพอดคาสต์ พร้อมกับเลียนเสียงของนักจัดพอดคาสต์ด้วย เพื่อให้ผู้ฟังยังสัมผัสได้ถึงลักษณะเฉพาะและธรรมชาติของพิธีกรรายการ

เบื้องต้นบริษัทจะทดลองฟีเจอร์นี้กับนักจัดพอดคาสต์จำนวนหนึ่ง เช่น Dax Shepard, Monica Padman, Lex Fridman,  Steven Bartlett และ Bill Simmons และจะมีการแปลทั้งตอนที่จัดไปแล้วและตอนใหม่

Spotify แจ้งว่า จะมีการแปลพอดคาสต์ภาษาอังกฤษเหล่านี้เป็นภาษาสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส โดยเลือก 3 ภาษานี้เพราะเป็นภาษาที่มีคนฟังพอดคาสต์มากที่สุด หากไม่นับภาษาอังกฤษ

ฟีเจอร์ฟังพอดคาสต์เวอร์ชันแปลและเลียนเสียงโดย AI จะเปิดฟังได้ทั้งสมาชิกที่ใช้งานฟรีและชำระเงิน

Spotify ขอสงวนไม่แจ้งมูลค่าการลงทุนกับฟีเจอร์นี้ แต่โปรเจกต์นี้จะเป็นโปรเจกต์ใหญ่ จะมีการนำไปใช้บริการนักจัดพอดคาสต์ทั่วโลก

ที่มา: CNBC

 

เพิ่มเติม:
Dax Shepard และ Monica Padman จัดรายการพอดคาสต์ชื่อ Armchair Expert เป็นรายการสัมภาษณ์คนดัง นักข่าว และนักวิชาการ
Lex Fridman เริ่มต้นจัดรายการพอดคาสต์เกี่ยวกับ AI ก่อนจะผันตัวมาทำรายการสัมภาษณ์คนดังทุกแขนง ตั้งแต่นักร้อง นักการเมือง จนถึงนักธุรกิจ
Steven Bartlett ผู้ประกอบการที่ผันตัวมาทำพอดคาสต์รายการชื่อ The Diary of a CEO สัมภาษณ์นักธุรกิจ ในปี 2021 รายการนี้เป็นพอดคาสต์เกี่ยวกับธุรกิจที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในทวีปยุโรป
Bill Simmons เจ้าของเว็บไซต์ The Ringer รายการพอดคาสต์ของเขาเติบโตมาจากการพูดคุยเกี่ยวกับวงการกีฬา

]]>
1445638
ปรับโครงสร้างอีก! “Spotify” เลย์ออฟพนักงานเพิ่ม 200 คนในแผนก “พอดคาสต์” https://positioningmag.com/1433253 Tue, 06 Jun 2023 11:53:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433253 เพียงไม่กี่เดือนหลัง Spotify ประกาศปรับโครงสร้างเลย์ออฟพนักงานไปในรอบก่อน รอบนี้จะมีการปลดพนักงานอีกครั้งจำนวน 200 คน โดยปลดเฉพาะในแผนก “พอดคาสต์”

Sahar Elhabashi หัวหน้าแผนกพอดคาสต์ของ Spotify ส่งแจ้งเตือนภายในบริษัทว่า บริษัทกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้ต้องปลดพนักงาน 2% ของบริษัท หรือคิดเป็นจำนวน 200 ตำแหน่ง โดยขณะที่มีการแจ้งเตือนนี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับจดหมายแจ้งให้ติดต่อแผนกบุคคลเรียบร้อยแล้ว

“เรากำลังพยายามขยายความเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตพอดคาสต์ชั้นนำทั่วโลก โดยจะมีการดูแลพัฒนาแต่ละรายการและครีเอเตอร์แต่ละคนอย่างใกล้ชิด โครงสร้างพื้นฐานเช่นนี้จะทำให้เราสนับสนุนชุมชนครีเอเตอร์ได้ดีขึ้น” Elhabashi เขียนในแจ้งเตือน

“อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ในหลายเดือนที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของเราทำงานร่วมกับฝ่ายบุคคลเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรสำหรับนโยบายที่จะทำต่อจากนี้ ผลจากการปรับเปลี่ยน ทำให้เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างยากยิ่งในการปรับทีมและลดตำแหน่งในแผนกพอดคาสต์ทั่วโลกประมาณ 200 ตำแหน่ง หรือประมาณ 2% ของจำนวนพนักงานทั้งบริษัท”

Spotify สัญญาว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบถูกเลย์ออฟทั้งหมด จะได้แพ็กเกจชดเชยการให้ออกที่เหมาะสม และได้รับการสนับสนุนการช่วยหางานใหม่

ย้อนไปเมื่อปี 2019 แอปพลิเคชันแห่งนี้เคยเสี่ยงครั้งใหญ่ในการลงทุนกับ “พอดคาสต์” โดยเน้นเรื่องการดึงเอ๊กซ์คลูซีฟคอนเทนต์มาลงในแอปฯ ในปีนั้นบริษัทเข้าซื้อกิจการเครือข่ายพอดคาสต์ชื่อดังคือ Parcast และ Gimlet Media โดยใช้เม็ดเงินเทกโอเวอร์ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) และ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,900 ล้านบาท) ตามลำดับ ถือเป็นการลงทุนที่สูงมากสำหรับ Spotify

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Spotify ดูจะเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านการทำออริจินอล คอนเทนต์ที่ลงเฉพาะในแอปฯ ตนเองแล้ว โดยมีการรวบบริษัททั้ง Parcast และ Gimlet เข้ามารวมกับ Spotify Studios ไปเลย บางรายการที่เป็นที่นิยมจะยังได้รับการสนับสนุนให้ไปต่อ แต่มี 11 รายการที่ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และทำให้พนักงานแผนกพอดคาสต์ถูกเลย์ออฟไปแล้ว 5% ของแผนก

จากการประกาศเลย์ออฟ ทำให้บริษัทแย้มข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับแผนกพอดคาสต์ว่า ปัจจุบันมีผู้ฟังพอดคาสต์บน Spotify กว่า 100 ล้านคนทั่วโลก โดยมีรายการอยู่บนแอปฯ มากกว่า 5 ล้านรายการ รวมถึงรายได้จากโฆษณาบนพอดคาสต์เติบโตได้แบบ “ดับเบิลดิจิต” ในช่วงระหว่างปี 2021-2022

Elhabashi บอกว่า เป้าหมายต่อไปของแผนกพอดคาสต์คือต้องการจะสร้างคุณค่าให้กับครีเอเตอร์ (และผู้ฟัง) ได้มากขึ้น และจะต้องเริ่มจากการสร้างฐานผู้ฟังขนาดใหญ่ มีการบริโภคคอนเทนต์พอดคาสต์ให้มากที่สุดที่ทำได้ ด้วยการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ รวมถึงทำให้ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้

Source

]]>
1433253
กลยุทธ์การบุก “พอดคาสต์” ของ Spotify กำลังไปผิดทางหรือเปล่า? https://positioningmag.com/1314559 Fri, 15 Jan 2021 16:35:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314559 Citi เตือนการลงทุนของ Spotify ในกลุ่มคอนเทนต์ “พอดคาสต์” ว่าอาจจะกำลังไปผิดทางและไม่ได้ผลอย่างที่คิด หลังจากบริษัททุ่มทุนรวมไปมากกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจะเป็นเจ้าตลาดพอดคาสต์ โดยเชื่อว่าคอนเทนต์กลุ่มนี้จะช่วยดึงให้สมาชิกสมัครระบบพรีเมียมเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปีก็เหมือนจะยังไม่เกิดผล

Citi ร่อนบทวิเคราะห์ให้ลูกค้านักลงทุนเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2021 ถึงกลยุทธ์ของ Spotify ที่ทุ่มลงทุนซื้อบริษัทผลิตคอนเทนต์พอดคาสต์ไปหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐมาตั้งแต่ปี 2019 ว่าอาจจะไม่ได้ผล

“แนวโน้มกำไรจากการสมัครสมาชิกประเภทพรีเมียม (ช่วงไตรมาส 3/2020) และยอดดาวน์โหลดแอปฯ (ช่วงไตรมาส 4/2020) ไม่ได้แสดงให้เห็นประโยชน์อย่างชัดเจนจากการลงทุนในพอดคาสต์ (ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 2019)” บทวิเคราะห์รายงาน และบริษัทยังเคาะ “ขาย” หุ้นตัวนี้จากเดิมที่แนะนำให้ “เก็บ” ทั้งนี้ ราคาหุ้น Spotify ปรับลงมาแล้ว 3.5%

บริษัท Spotify เริ่มทุ่มซื้อกิจการ “พอดคาสต์” ในช่วงต้นปี 2019 เริ่มจากการไล่ซื้อกิจการ Gimlet Media,  Anchor และ Parcast กลุ่มนี้เป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์พอดคาสต์ โดยใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 396 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นเข้าซื้อบริษัท The Ringer ซึ่งทำคอนเทนต์ข่าวกีฬาและบันเทิงด้วยเม็ดเงิน 196 ล้านเหรียญ ตามด้วยการซื้อ Megaphone ในราคา 235 ล้านเหรียญ โดยบริษัทนี้จะมาเสริมทัพด้านเทคโนโลยี “โฆษณา” ในพอดคาสต์

สิริรวมการลงทุนในธุรกิจพอดคาสต์ของ Spotify พุ่งไปมากกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ทั้งที่ในปี 2019 บริษัทเพิ่งจะมีกำไร 107 ล้านเหรียญเท่านั้น นี่ยังไม่นับการเข้าเซ็นสัญญา ‘exclusive’ กับคนดังจำนวนมากให้มาลงพอดคาสต์ใน Spotify เพียงแห่งเดียว เช่น คิม คาร์เดเชียน เวสต์, มิเชล โอบามา, เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ซึ่งคาดกันว่าจะต้องใช้เงินทำสัญญาอีกหลายล้านเหรียญทีเดียว

ตัวอย่างคอนเทนต์ exclusive จาก มิเชล โอบามา อดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐฯ

กลยุทธ์แต่ดั้งเดิมของ Spotify ในการกว้านซื้อธุรกิจพอดคาสต์คือ บริษัทมองว่าพอดคาสต์ ‘กำลังมา’ และถ้าบริษัทมีคอนเทนต์ระดับ exclusive แต่เพียงผู้เดียว บริษัทจะมีฐานรายได้โฆษณาที่แข็งแรงขึ้น พร้อมกับการดึงสมาชิกให้
สมัครพรีเมียมได้มากขึ้นด้วย

ครั้งนั้นนักลงทุนพอใจในกลยุทธ์ของบริษัท ทำให้หุ้นราคาพุ่งขึ้น 31.76% ในปี 2019 และยิ่งทะยานขึ้นอีก 110.4% ในปี 2020

เริ่มแรกดูเหมือนกลยุทธ์จะสำเร็จ เพราะมีรายงานจาก Voxnest พบว่า รอบ 5 เดือนแรกของปี 2020 นั้น Spotify วิ่งแซงเป็นผู้นำในตลาดพอดคาสต์ประมาณ 60 ประเทศทั่วโลก แทนที่เจ้าตลาดเดิมคือ Apple Podcasts

แต่ขณะนี้นักวิเคราะห์เริ่มร้อนรนที่จะเห็นความสำเร็จที่แท้จริง นั่นคือ “ตัวเลข” ผลประกอบการที่ดีขึ้น “จนถึงบัดนี้ เรายังไม่เห็นการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในแง่ของจำนวนสมาชิกพรีเมียมหรือยอดดาวน์โหลดเลย” นักวิเคราะห์จาก Citi เขียนในรายงาน

“เรากังวลว่า ถ้าหากการลงทุนพอดคาสต์ไม่สามารถเปิดเส้นทางใหม่ให้ Spotify เปลี่ยนตัวเองจากการพึ่งพิงเฉพาะคอนเทนต์ดนตรี นักลงทุนตลาดหุ้นน่าจะมีการปรับการตีมูลค่าบริษัทใหม่ และนั่นจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายของ Spotify” Citi กล่าว

Source

]]>
1314559
มาถูกทาง ‘Podcast’ ของ ‘Spotify’ แซง ‘Apple’ เรียบร้อย หลังทุ่มเงินกว่า 6 พันล้านบาทเพื่อลงทุน https://positioningmag.com/1283795 Tue, 16 Jun 2020 12:02:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1283795 ในปีที่ผ่านมา Spotify เจ้าของแพลตฟอร์ม Music Steaming รายใหญ่ของโลกได้ทำการเดิมพันครั้งใหญ่กับธุรกิจ Podcast โดยทุ่มเงินถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 6,000 ล้านบาท เข้าซื้อ Gimlet Media สตาร์ทอัพที่ผลิตรายการ Podcast รวมถึง Anchor ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับช่วยผลิต สร้างรายการและเผยเเพร่ Podcast ทั้งที่บริษัททำกำไรได้เพียง 107 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท เรียกได้ว่า กลับไปขาดทุนเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม บริษัทรับรู้ว่าการซื้อเหล่านั้นมีความเสี่ยง พร้อมบอกว่าไม่มีการรับประกันว่าจะสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการซื้อ ขณะที่ปี 2020 บริษัทยังลงทุนอย่างต่อเนื่องใน Podcast เช่น ซื้อ The Ringer ของ Bill Simmons ซึ่งเป็นเจ้าของ Podcast นับสิบ และแต่ดูเหมือนการลงทุนนี้จะมีภาพที่สดใสมากขึ้น โดยเฉพาะภาพในปี 2020 นี้

เพราะจากการระบาดใหญ่ของ Covid-19 การบริโภค Podcast ก็เปลี่ยนไปทันที โดย Spotify สังเกตเห็นการฟัง Podcast ผ่านอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ทีวี, ลำโพง มากขึ้น ขณะที่การฟังผ่านรถยนต์และหูฟังกลับลดลง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเพราะผู้บริโภคไม่ได้เดินทางไปทำงานอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็มักจะหาอะไรฟังเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำอาหาร, ทำงานบ้าน และเวลาที่อยู่กับครอบครัว โดย Podcast ที่ได้รับความนิยมจะเป็นประเภทสุขภาพและการทำสมาธิ

“มันชัดเจนจากข้อมูลของเราว่ากิจวัตรตอนเช้าเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทุกวันดูเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์”

การเปลี่ยนแปลงกะทันหันนั้นไม่ใช่สิ่งที่บริษัทคาดการณ์ไว้ และอาจเป็นเรื่องน่ากังวล แต่ Dawn Ostroff หัวหน้าเจ้าหน้าที่ธุรกิจคอนเทนต์และโฆษณาของ Spotify กล่าวว่า บริการสตรีมมิ่งนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

“เมื่อสิ่งต่าง ๆ กลับสู่ภาวะปกติและผู้คนเริ่มเดินทางอีกครั้ง แต่นิสัยที่พวกเขาใช้ชีวิตในตอนกักตัวจะติดตัวพวกเขาไป เชื่อว่าพวกเขาจะหาเวลามากขึ้นในการบริโภค Podcast ในเวลาที่ต่างกันและวิธีการต่างจากเดิม โดยที่ผ่านมา ผู้ใช้ Spotify ที่ฟัง Podcast จะฟังมากขึ้นในวันต่อไป และพวกเขากำลังฟังผ่านอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์และเครื่องเล่นเกม นอกจากนี้ ผู้คนฟังเป็นกลุ่ม ซึ่งชัดเจนว่ามีโอกาสในการบริโภคของครอบครัว”

ในไตรมาสที่ผ่านมา มีประมาณ 19% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Spotify ฟัง Podcast เพิ่มขึ้นจาก 16% ในไตรมาสก่อน หรือผู้ใช้กว่า 286 ล้านราย มีประมาณ 54.3 ล้านคนที่ฟัง Podcast

ด้านของ Apple ที่มีชื่อเสียงในตลาด Podcast มานาน แต่ก็ถูก Spotify แซงหน้าในกว่า 60 ตลาด Spotify ชี้ไปที่ข้อมูลที่ติดตามโดยบริษัท Voxnest ที่แสดงให้เห็นว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม Podcast ของ Spotify ถูกใช้บ่อยกว่า Apple Podcast ในประเทศต่าง ๆ เช่น แคนาดา, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เม็กซิโก และสเปน

เพราะการระบาดของ Covid-19 จะทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป และบริโภค Podcast เติบโตทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดย Jonathan Gill ซีอีโอของ Backtracks บริษัทวิเคราะห์กล่าวว่า แพลตฟอร์มของเขามีการรับฟังโดยรวมเพิ่มขึ้น 2.78% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์

“Podcast เป็นวิธีที่ผู้คนใช้เวลามากขึ้น เพื่อพยายามที่จะหาความรู้ด้วยตนเอง และใช้เป็นเพื่อนแก้เหงาในช่วงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว”

ปัญญาประดิษฐ์ใน Spotify จะเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้และจัดเพลย์ลิสต์ให้เราอัตโนมัติ

สำหรับ Spotify การเติบโตของอุตสาหกรรมถือเป็นข่าวดี โดยบริษัท ยังคงลงทุนใน Podcast เมื่อเดือนที่แล้วได้ลงนามซื้อหนึ่งใน Podcast ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเรื่อง “Joe Rogan Experience” โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหรียญสหรัฐ

“เรารู้สึกว่าเราจำเป็นต้องมี Podcaster หมายเลขหนึ่งบนแพลตฟอร์มของเราเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะในสื่อนี้” Ostroff กล่าว

Ostroff กล่าวว่า Spotify กำลังเห็นการสร้าง Podcast เพิ่มขึ้น โดยในเดือนมีนาคมมี Podcast เพิ่มใหม่ถึง 150,000 รายการเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์

Source

]]>
1283795