United Kingdom – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 19 Jun 2024 08:50:28 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘เศรษฐีสหราชอาณาจักร’ แห่หนีออกนอกประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ หลังกังวลการ ‘เก็บภาษีคนรวยเพิ่ม’ https://positioningmag.com/1478867 Wed, 19 Jun 2024 08:45:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478867 เศรษฐีสหราชอาณาจักร จำนวนมากเป็นประวัติการณ์อาจเดินทาง ออกจากประเทศ ในปีนี้ เนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองและการเก็บภาษีที่สูงขึ้นในอนาคต ทำให้สหราชอาณาจักร ไม่ใช่ปลายทางอันดับต้น ๆ สำหรับคนรวยอีกต่อไป

ตามรายงานของ Henley Private Wealth Migration Report คาดว่ามีจำนวน เศรษฐี 9,500 คน ที่จะ ย้ายออกจากสหราชอาณาจักร ในปีนี้ ซึ่งจำนวนดังกล่าวมากกว่าจำนวนเศรษฐีที่ย้ายออกในปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า โดยสหราชอาณาจักร ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนเศรษฐีไหลออกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก จีน ที่คาดว่าจะสูญเสียเศรษฐี 15,200 คน ในปีนี้

 “ผลกระทบจากการออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ที่เกิดขึ้นหลายปีก่อน ยังคงเกิดขึ้น โดยที่เมืองลอนดอนไม่ได้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกอีกต่อไป” ฮันนาห์ ไวท์ ซีอีโอของสถาบันเพื่อรัฐบาล เขียนในรายงาน

การประเมินดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษจะมีการ เลือกตั้ง ในอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งพรรคแรงงานฝ่ายค้านที่สนับสนุนการ เก็บภาษีคนรวยเพิ่มขึ้น มีคะแนนนำเหนือพรรคอนุรักษ์นิยมประมาณ 20 คะแนน นอกจากนี้ ผลกระทบของ Brexit ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัย รวมไปถึงการเพิ่มอุปสรรคใหม่ต่อการค้าและการลงทุน และผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น สงครามในยูเครน และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นตามมา ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ หลายสิบปีที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศปลายทางของเศรษฐีในหลายทวีป ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ลอนดอน

Source

]]>
1478867
Shein สนใจ IPO ในตลาดหุ้นลอนดอน สิงคโปร์ หรือฮ่องกง แทนที่สหรัฐฯ เนื่องจากมีโอกาสโดนขวางสูง https://positioningmag.com/1464148 Wed, 28 Feb 2024 03:44:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464148 Shein แบรนด์เสื้อผ้า Fast Fashion จากประเทศจีนสนใจที่จะ IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยเปลี่ยนเป้าจากเดิมในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมแผนสำรองในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รวมถึงฮ่องกงด้วย

Shein แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นชื่อดังจากจีน สนใจที่จะเข้า IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยเปลี่ยนเป้าจากเดิมในสหรัฐอเมริกา และถ้าหากแผนดังกล่าวเกิดขึ้นจริงคาดว่าจะเป็นดีลการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษในรอบเกือบ 20 ปี

คาดว่า Shein จะระดมทุนมากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ดีลการระดมทุนดังกล่าวใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษนับตั้งแต่ปี 2005 ที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft เคยระดมทุน

สำหรับ Shein นั้นก่อตั้งโดย Chris Xu ในปี 2012 ปัจจุบันธุรกิจฟาสต์แฟชั่นจากประเทศจีนรายนี้คาดว่ามีมูลค่าสูงมากถึง 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.3 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจนั้นเน้นขายเสื้อผ้า Fast Fashion เน้นราคาถูก ซึ่งสามารถเจาะตลาดในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาได้

ในปี 2023 ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนมีมูลค่าการระดมทุนเพียงแค่ 790 ล้านปอนด์เท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปีด้วย การที่ Shein สนใจเข้าระดมทุนนั้นทำให้สร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอีกทาง

นอกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนแล้ว Shein เองยังดูตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ หรือแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เป็นทางเลือกด้วย

สาเหตุที่ทำให้ Shein เลือกตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือ Nasdaq เองนั้นมีโอกาสที่จะโดนขวาง แม้ว่าบริษัทจะยื่นไฟลิ่งแล้วก็ตาม แต่นักการเมืองสหรัฐฯ หลายรายได้พยายามขวางบริษัทไม่ให้เข้า IPO เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่าบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์

ไม่เพียงแค่ข้อกล่าวหาในการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ แต่ Shein ยังมีข้อกล่าวหาที่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์อื่นๆ และบริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด

ขณะเดียวกัน Donald Tang ซึ่งเป็นประธานบริษัท ได้เข้าพูดคุยกับ Jeremy Hunt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ ว่าบริษัทสนใจที่จะเข้าระดมทุนในเกาะอังกฤษ

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการคลังของอังกฤษ ได้กล่าวว่า “รัฐบาลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นเพียงแต่ละบริษัทเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่าจะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นที่ไหน” และยังกล่าวเสริมว่าอังกฤษนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทต่างๆ เข้ามาระดมทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น

ที่มา – Bloomberg, The Guardian, Business Insider

]]>
1464148
Standard Chartered พิจารณาแผนยกเครื่องปรับโครงสร้างธุรกิจวาณิชธนกิจ เพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น https://positioningmag.com/1462606 Wed, 14 Feb 2024 02:04:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1462606 สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) สถาบันการเงินรายใหญ่จากอังกฤษ มีแผนที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น ล่าสุดกำลังพิจารณาที่จะแผนแยกธุรกิจวาณิชธนกิจออกมาเป็นบริษัทใหม่

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Standard Chartered กำลังพิจารณาแผนแยกธุรกิจวาณิชธนกิจออกมาเป็นบริษัทใหม่ เพื่อที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น หลังจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาราคาหุ้นของสถาบันการเงินรายดังกล่าวได้ตกลงมาโดยตลอด

Bill Winter ซึ่งเป็น CEO ของ Standard Chartered กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะแยกธุรกิจวาณิชธนกิจออกมาจากกลุ่มธุรกิจการธนาคารสำหรับสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดีในการแยกธุรกิจดังกล่าวออกมานั้นอาจมีการปรับลดพนักงานด้วย

ในช่วงที่ผ่านมา Standard Chartered ประสบปัญหาในการตั้งสำรองหนี้เนื่องจากมีการปล่อยสินเชื่อให้กับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (CRE) ในประเทศจีนจำนวนมาก ซึ่งรายได้จากจีนและฮ่องกงคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมดที่สถาบันการเงินรายนี้ทำได้

ปัญหาดังกล่าวยังทำให้ราคาหุ้นของ Standard Chartered เมื่อนับจากต้นปี 2024 นั้นตกลงไปแล้วถึง 13.35% และถ้าหากนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมาราคาหุ้นตกไปแล้วไม่น้อยกว่า 30%

แผนการของ Standard Chartered คือต้องการที่จะเพิ่มสัดส่วนอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ให้ได้มากกว่า 10% ภายในสิ้นปี 2024 อย่างไรก็ดีแผนการดังกล่าวยังช้ากว่าคู่แข่งอย่าง HSBC ที่มีอัตราส่วนดังกล่าวมากกว่าตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023 แล้ว

ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Standard Chartered ได้จ้าง CFO รายใหม่ซึ่งเคยทำงานเป็นวาณิชธนกรให้กับ Bank of America และเคยนั่งเป็นคณะกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร (Non-Executive Director) ของสถาบันการเงินในอิตาลีอย่าง Unicredit โดยการจ้าง CFO รายใหม่นี้เพื่อที่จะปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อที่จะเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ดีโฆษกของ Standard Chartered ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวกับ Bloomberg นอกจากนี้แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวยังชี้ว่าแผนการดังกล่าวมีความเป็นไปได้หลายแนวทาง รวมถึงยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย

]]>
1462606
SoftBank นำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้า IPO ช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดมูลค่าบริษัทสูงถึง 2 ล้านล้านบาท https://positioningmag.com/1440223 Tue, 08 Aug 2023 11:44:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440223 สื่อธุรกิจของญี่ปุ่นอย่าง Nikkei Asia รายงานว่า SoftBank เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปจากประเทศอังกฤษเข้า IPO ในตลาดหุ้นช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดว่ามูลค่าธุรกิจจะสูงมากถึง 2 ล้านล้านบาท

Nikkei Asia รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า SoftBank บริษัทด้านโทรคมนาคมและยังเป็นบริษัทลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆ เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยคาดว่ามูลค่าบริษัทจะสูงมากถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2 ล้านล้านบาท

โดย Arm จะยื่นเอกสารไฟลิ่งให้กับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าบริษัทออกแบบชิปรายนี้จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple Samsung Intel Nvidia เตรียมตบเท้าเข้าร่วมลงทุนในบริษัทออกแบบชิปรายดังกล่าวด้วย

สำหรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นของ Arm นั้นประกอบไปด้วย SoftBank ถือหุ้นในสัดส่วน 75% และกองทุน Vision Fund ถือหุ้นอีก 25% คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะขายหุ้นออกมาสัดส่วน 10-15% หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว

Arm ซึ่งบริษัทสัญชาติอังกฤษ นั้นเป็นผู้ออกแบบชิปประมวลผล มีผู้ที่ใช้การออกแบบชิปทั่วโลกตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงประเทศจีน มีลูกค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple Samsung Qualcomm หรือแม้แต่ Huawei ซึ่งชิปที่บริษัทเหล่านี้ใช้งานจากการออกแบบพิมพ์เขียวของ Arm มีทั้งชิปประมวลผล ไปจนถึงชิปใช้งานเฉพาะทาง

ปัจจุบันมีการใช้การออกแบบของ Arm ในชิปโทรศัพท์มือถือในท้องตลาดเป็นสัดส่วนสูงมากถึง 90%

SoftBank ได้ซื้อกิจการของผู้ออกแบบชิปรายนี้ออกจากตลาดหุ้นอังกฤษในปี 2016 มูลค่ามากถึง 31,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความสำคัญของบริษัทในอนาคต

ในปี 2020 นั้น SoftBank มีความพยายามขายกิจการให้กับผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia เป็นมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ท้ายที่สุดบริษัทโดนหน่วยงานกำกับดูแลจากหลายประเทศขวางไว้ รวมถึงคู่แข่งหรือแม้แต่ลูกค้าอย่าง Qualcomm ไปจนถึง Huawei เนื่องจากกังวลว่าเมื่อ Arm ตกอยู่ภายใต้ยักษ์ใหญ่ Nvidia จะทำให้การเข้าถึงการออกแบบชิปยากมากขึ้น

เรื่องของปัจจัยการออกแบบดังกล่าวนี้ที่เชื่อกันว่า เป็นเหตุผลหลักทำให้ SoftBank ซื้อกิจการ Arm จนกลายเป็นดีลมูลค่ามหาศาล จนท้ายที่สุดบริษัทก็ได้นำกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นอีกรอบภายในระยะเวลา 7 ปี ซึ่งคาดว่ามูลค่าการระดมทุนนั้นจะมากที่สุดบริษัทหนึ่งในปี 2023 นี้

]]>
1440223
สหราชอาณาจักรเข้าร่วม CPTPP แล้ว หลังสมาชิก 11 ประเทศไฟเขียวเป็นเป็นที่เรียบร้อย https://positioningmag.com/1425780 Fri, 31 Mar 2023 06:56:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425780 สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ประเทศสมาชิก 11 ประเทศได้ไฟเขียวให้เข้าร่วม หลังใช้เวลาการเจรจามากกว่า 1 ปี อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเข้า CPTPP อาจปิดโอกาสไม่ให้เข้าสหภาพยุโรปหลังจากนี้

ปัจจุบันสมาชิก 11 รายของ CPTPP นั้นประกอบด้วย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เม็กซิโก ญี่ปุ่น ชิลี แคนาดา เปรู มาเลเซีย รวมถึงเวียดนามด้วย

สำหรับการที่สหราชอาณาจักรเข้าร่วมใน CPTPP ตามมาหลังจากการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยการเจรจาเพื่อเข้าร่วมใช้เวลานับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา และได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวกจาก ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฯลฯ ที่จะได้ประเทศอื่นเข้าร่วม และสหราชอาณาจักรถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เช่นกัน

ขณะที่สหราชอาณาจักรถ้าหากเข้าร่วม CPTPP ได้ก็จะช่วยทำให้ปริมาณการค้าระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มการส่งออก กระจายความเสี่ยงในการพึ่งพิงการค้าขายกับทวีปยุโรปในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกระจายความเสี่ยงเรื่อง Supply Chain มายังทวีปเอเชียมากขึ้น

ตัวเลขการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับหลายประเทศในกลุ่ม CPTPP ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 นั้นมีปริมาณการค้ามากถึง 60,500 ล้านปอนด์ ทำให้สหราชอาณาจักรตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าว

รายงานของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ มองว่า CPTPP ถือเป็นหนึ่งใน FTA สมัยใหม่ที่ข้อตกลงครอบคลุมมากกว่าด้านการค้า การลงทุน โดยข้อตกลงดังกล่าวนี้ยังขยายขอบเขตไปถึงภาคบริการ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา

ผลกระทบโดยรวมของข้อตกลงการค้าถูกกำหนดให้อยู่ในระดับปานกลาง สหราชอาณาจักรกล่าวว่าการเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP จะลดภาษีรถยนต์ สุรา และผลิตภัณฑ์นม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 1,800 ล้านปอนด์ต่อปีในระยะยาว ซึ่งเป็นตัวเลขที่อาจเพิ่มขึ้นเมื่อมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมข้อตกลงนี้มากขึ้น

หลังจากนี้สหราชอาณาจักรจะลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการที่การประชุมระดับรัฐมนตรีในช่วงเดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ดี The Guardian ได้รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าบางคนกล่าวว่าการเข้าร่วม CPTPP จะส่งผลเสียต่อความสามารถของสหราชอาณาจักรในการกลับเข้าร่วมสหภาพยุโรปในภายหลัง โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงการค้ากับกลุ่มประเทศ CPTPP จะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้ในภายหลัง

ที่มา – The Guardian, CNA, Reuters

]]>
1425780
CEO โรลส์-รอยซ์ ชี้เศรษฐียังซื้อรถหรูอยู่ หลังยอดขายทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 119 ปี https://positioningmag.com/1414893 Tue, 10 Jan 2023 07:53:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414893 รถหรูอย่าง Rolls-Royce นั้นยังขายได้เติบโตในปี 2022 แม้สภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มจะไม่เป็นใจ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำยอดขายสถิติสูงสุดใหม่ ขณะเดียวกันเหล่ามหาเศรษฐีทั่วโลกยังต้องการรถหรูจากแบรนด์ดังกล่าวอยู่ และไม่มีทีท่าลดลงด้วยซ้ำ

Torsten Müller-Ötvös ซึ่งเป็น CEO ของผู้ผลิตรถยนต์หรูจากอังกฤษอย่าง โรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ชี้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเหล่ามหาเศรษฐียังซื้อรถหรูอยู่ในปี 2022 ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทได้รายงานยอดขายทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 119 ปี

ในปี 2022 ที่ผ่านมา Torsten ได้ชี้ว่ายอดขายรถยนต์ของบริษัทนั้นสูงถึง 6,021 คัน มากกว่าในปี 2021 ที่บริษัททำยอดขายได้ 5,586 คัน ซึ่งถือว่าทำลายสถิติยอดขายสูงสุด 119 ปีของบริษัท

รายได้สำคัญของบริษัทนั้นยังมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 35% ขณะที่ประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งรายได้อันดับ 2 ของ Rolls-Royce กลับมียอดขายลดลง สาเหตุสำคัญมาจากเศรษฐกิจในประเทศจีนจากผลกระทบของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แต่บริษัทได้ยอดขายจากพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกมาทดแทน

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังเตรียมที่จะออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Spectre ภายในปลายปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวสามารถทำความเร็วๆ 0-100 กิโลเมตรได้ภายในระยะเวลา 4.5 วินาที

ราคาเฉลี่ยรถยนต์ของบริษัทที่ขายในปี 2022 นั้นอยู่ที่ 534,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 17.9 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากลูกค้าของบริษัทต้องการที่จะปรับเปลี่ยนสเปคของรถให้เหมาะสมกับตัวเอง ตั้งแต่วัสดุภายในรถยนต์ไปจนถึงสีของรถยนต์

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมที่จะเปิดโชว์รูมแบบพิเศษที่บริษัทจะเชิญลูกค้าเท่านั้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการไปแล้วที่ดูไบ และจะขยายรูปแบบบริการดังกล่าวทั่วโลกในภายหลัง

CEO รายดังกล่าวยังชี้ว่ายอดจองรถยนต์หรูในปี 2023 นี้ยังแข็งแกร่ง นอกจากนี้แม้บริษัทจะไม่จำหน่ายรถยนต์ในประเทศรัสเซียจากมาตรการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตก ก็ยังไม่ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก แม้ว่ายอดขายรถหรูในรัสเซียของบริษัทจะมากถึงปีละ 250-300 คันต่อปีก็ตาม

ที่มา – Reuters, CNBC

]]>
1414893
PwC ในอังกฤษเปลี่ยนนโยบายใหม่ ไม่ต้องจบเกียรตินิยมก็มีสิทธิ์เข้าทำงานได้แล้ว https://positioningmag.com/1396327 Tue, 16 Aug 2022 08:57:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396327 PwC หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก ล่าสุดสำนักงานในประเทศอังกฤษได้เปลี่ยนนโยบายใหม่คือ ยกเลิกเงื่อนไขในการสมัครงานที่ต้องการว่าถ้าหากจะฝึกงานหรือแม้แต่เข้าทำงานที่บริษัทจะต้องจบเกียรตินิยม โดยหวังว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้บริษัทได้คนเก่งเข้าทำงานเพิ่ม

บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำรายดังกล่าวได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่าจะยกเลิกเงื่อนไขในการสมัครงานที่ต้องการว่าถ้าหากจะฝึกงานหรือแม้แต่เข้าทำงานที่บริษัทจะต้องจบเกียรตินิยม 2:1 ซึ่งเป็นอันดับรองจากเกียรตินิยมอันดับ 1 โดยบริษัทมองว่าจะเพิ่มความหลากหลายด้านสังคมในบริษัทมากขึ้น

โดยประเทศอังกฤษนั้นมีระบบเกียรตินิยมเป็น First และ Upper Second Class (2:1) รวมถึง Lower Second Class (2:2) ตามลำดับ ด้วยระบบดังกล่าวทำให้โอกาสในการหางานนั้น First และ 2:1 จะมีโอกาสในการหางานในบริษัทดีๆ มากกว่าผู้ที่จบ 2:2

การยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวทำให้บริษัทยังมีโอกาสที่จะหาพนักงานใหม่ๆ ได้มากกว่า 70,000 รายด้วยกัน โดยแต่ละปีนั้นผู้ที่จบการศึกษาต่ำกว่าเกียรตินิยม 2:1 มีสัดส่วนราวๆ 17% นอกจากนี้ PwC ยังมองว่าแบบทดสอบเรื่องความถนัดและการทดสอบพฤติกรรมของบริษัทจะสามารถประเมินศักยภาพของผู้ที่เข้าสมัครงานรวมถึงนักศึกษาที่ต้องการฝึกงานในบริษัทมากกว่า

นอกจากนี้การยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวยังทำให้ PwC สามารถหาผู้สมัครงานรายใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งตลาดแรงงานในอังกฤษนั้นมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 นั้นมีความต้องการตำแหน่งงานที่สูง ส่งผลทำให้การแข่งขันของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นด้วย

ก่อนหน้านี้ในปี 2015 คู่แข่งรายสำคัญของ PwC อย่าง EY ได้ยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าผู้ที่มีความสำเร็จจากมหาลัยจะมีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในด้านการทำงาน ขณะที่ Deloitte และ KPMG ที่มีความยืดหยุ่นในเงื่อนไขด้านการศึกษามากขึ้น แม้ว่าในเงื่อนไขจะต้องจบเกียรตินิยม 2:1 ก็ตาม

ที่มา – BBC, The Guardian

]]>
1396327
‘สหราชอาณาจักร’ ปักเป้าเป็น ‘ผู้นำโลกคริปโต’ พร้อมเตรียมสร้าง NFT ของตัวเอง https://positioningmag.com/1380560 Tue, 05 Apr 2022 10:10:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1380560 ในช่วง 2-3 ปีมานี้คงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าตลาด คริปโตเคอร์เรนซี และ NFT อีกแล้ว เพราะถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในการลงทุนเป็นจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศเริ่มให้ความสำคัญอย่างจริงจัง รวมไปถึง รัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่วางโรดแมปพาประเทศไปสู่ ผู้นำระดับโลกของตลาดคริปโต

รัฐบาลยูเครน ระดมทุนขาย ‘NFT’ ได้มากกว่า 6 แสนดอลลาร์ นำไปฟื้นฟูเมือง-พิพิธภัณฑ์

รัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผนการที่จะสร้าง NFT ของตัวเอง ซึ่งแผนเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ประเทศกลายเป็น ‘ผู้นำระดับโลก’ ในตลาดสกุลคริปโตเคอร์เรนซี โดย Rishi Sunak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอให้โรงกษาปณ์ Royal Mint ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลที่รับผิดชอบในการผลิตเหรียญสำหรับสหราชอาณาจักร ให้จัดทำและออก NFT ในช่วงซัมเมอร์นี้ และจะแถลงถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่แสดงถึงการเป็นเจ้าของไอเทมเสมือน เช่น อาร์ตเวิร์กหรืออวาตาร์วิดีโอเกมโดยใช้มีเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เบื้องหลัง โดย NFT ได้รับความสนใจอย่างมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการยอมรับเพิ่มขึ้นจากคนดังและองค์กรขนาดใหญ่

ยิ่งกว่าก้าวกระโดด! ตลาด ‘NFT’ โตพุ่ง 21,000% มูลค่าทะลุ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรกำลังศึกษาถึงมาตรการในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาอยู่ภายใต้การตรวจสอบด้านกฎระเบียบเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงแผนการที่จะสร้าง Stablecoins เพื่อใช้ในการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์, การตรวจสอบการรักษาทางภาษีของสินเชื่อการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการออกตราสารหนี้ รวมถึงปรึกษาเกี่ยวกับกฎการเทรดคริปโตกับบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Bitcoin เป็นต้น

“เราไม่ควรคิดว่ากฎระเบียบเป็นสิ่งที่เข้มงวดและไม่ยืดหยุ่น แต่เราควรคิดให้กฎระเบียบเป็นเหมือนโค้ดคอมพิวเตอร์ ที่สามารถปรับแต่งและเขียนขึ้นใหม่ได้เมื่อจำเป็น” John Glen รัฐมนตรีเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง

John Glen รัฐมนตรีเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง

สำหรับ Stablecoins ที่เป็นคริปโตที่อ้างอิงมูลค่าตามสกุลเงิน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กำลังมีข้อกังวลเกี่ยวกับมีเหรียญ Tether ซึ่งเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอุปทานหมุนเวียนมากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากการขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับเงินสำรองที่สนับสนุนเหรียญอยู่ ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักพร้อมที่จะนำ Stablecoin เข้าสู่ระบบการกำกับดูแล

ไม่ใช่แค่เรื่องของคริปโต แต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังศึกษาเรื่อง Web3 ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน โดย Web3 นั้นจะเป็นอีกขั้นของอินเตอร์เน็ตโดยจะกระจายอำนาจมากขึ้น

“ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า Web3 จะเป็นอย่างไร แต่มีโอกาสที่บล็อกเชนจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา ซึ่งเราต้องการให้ประเทศนี้เป็นผู้นำแถวหน้าในการแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

Source

]]>
1380560
อังกฤษออกแคมเปญ ‘Eat out to help out’ ให้ส่วนลดค่าอาหาร 50% ตลอดเดือนส.ค. หวังกระตุ้นทานอาหารนอกบ้าน https://positioningmag.com/1290883 Tue, 04 Aug 2020 04:02:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1290883 เป็นที่รู้กันว่าร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 เพราะประชาชนไม่สามารถออกไปนั่งทานอาหารที่ร้านได้เหมือนปกติ ต้องสั่งทานที่บ้านเท่านั้น และแม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ร้านอาหารยังคงต้องจำกัดพื้นที่การให้บริการ ขณะที่ผู้บริโภคเองอาจยังไม่มั่นใจ ดังนั้น ประเทศอังกฤษจึงออกแคมเปญ ‘Eat out to help out’ เพื่อช่วยเหลือเหล่าร้านอาหารที่ได้ผลกระทบนี้

สำหรับแคมเปญ Eat out to help out’ หรือ ‘ชิม ช่วย ชาติ’ โดยรัฐบาลอังกฤษจะมอบส่วนลด 50% ให้กับเหล่านักชิมในทุกวันจันทร์ถึงพุธตลอดเดือนสิงหาคม โดยสามารถใช้ได้ไม่จำกัดมื้อผ่านร้านอาหารกว่า 72,000 แห่ง โดยไม่มีขั้นต่ำ แต่มีข้อแม้ว่าส่วนลดจะจำกัดที่ไม่เกิน 10 ปอนด์ต่อคน หรือราว 410 บาท ไม่สามารถใช้ได้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สามารถใช้สำหรับซื้อกลับบ้านได้ โดยนักชิมสามารถใช้ส่วนลดได้บ่อยเท่าที่ต้องการในวันที่มีสิทธิ์และสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คูปองหรือโค้ดใด ๆ เพราะร้านจะหัก 50% จากบิลและเรียกเก็บส่วนลดจากรัฐบาลเอง

ที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารของอังกฤษถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 โดยร้านอาหารและธุรกิจบริการกว่า 80% ต้องปิดตัวลง ส่งผลให้ในเดือนเมษายนมีคนกว่า 1.4 ล้านคนต้องตกงาน ส่งผลให้รัฐบาลได้ออกแบบแคมเปญดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนไปเยี่ยมชมร้านอาหาร, ร้านกาแฟและผับ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกล็อกดาวน์ ซึ่งผลตอบรับในสัปดาห์แรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์ถึง 3.3 ล้านครั้ง

“เป้าหมายของเราคือ การส่งเสริมให้ประชาชนออกไปทานอาหารนอกบ้าน เพื่อช่วยปกป้องงานกว่า 1.8 ล้านตำแหน่ง และธุรกิจร้านอาหารถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของเรา ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 ดังนั้นเพลิดเพลินกับฤดูร้อนอย่างปลอดภัยด้วยการไปสถานที่โปรดที่คุณให้การสนับสนุน และเราจะช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง” ริชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

ริชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม มีร้านเชนฟาสต์ฟู้ดหลายรายที่เข้าร่วมในโครงการนี้ อาทิ พิซซ่าเอ็กซ์เพรส, คอสต้าคอฟฟี่, และแมคโดนัลด์ ส่งผลให้นักวิจารณ์มองว่าร้านอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพควรถูกกีดกันออกจากโครงการ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ เนื่องจากว่าการเริ่มต้นของโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาลในการรับมือกับโรคอ้วน

“รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรกและแยกออกจากมื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนทำให้เกิดโรคอ้วนเราไม่สามารถที่จะเสี่ยงชีวิตในขณะที่เราเปิดเศรษฐกิจใหม่”

Source

]]>
1290883