ไม่ไหวแล้ว! ช่อง 3 หั่นเวลา “เรื่องเล่าเช้านี้” 45 นาที เหตุเรตติ้ง-รายได้ตก 30% ดึงผู้หญิงถึงผู้หญิงเสียบแทน

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ประกาศปรับผังรายการ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 โดยไฮไลท์สำคัญ คือ ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไป ช่อง 3 จะลดเวลาออกอากาศ รายการข่าวเรื่องเช่าเช้านี้ลง 45 นาที จากเดิมที่เคยออกอากาศ จันทร์ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-09.30   เหลือเวลาออกอากาศ ตั้งแต่ 06.00-8.45 .

เวลาที่ถูกตัดไปนั้นตั้งแต่เวลา 8.45- 9.30  จะถูกแทนที่ด้วยรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง  ที่โยกจากที่เคยออกอากาศในช่อง 13 Family มาออกอากาศใน ช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 33 HD  พร้อมกับปรับเปลี่ยนพิธีกรยกชุด โดยนำพิธีกรเดิม กาละแมร์พัชรศรี เบญจมาศ, และพิธีกรใหม่ แพทณปา ตันตระกูล, ลูกแก้วกรกมล ชิตพงศ์,บูมสุภาพร วงษ์ถ้วยทอง,อาลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์ และพิธีกรภาคสนาม ลิลลี่ แม็คกร๊าธ  มาเป็นผู้ดำเนินรายการ

1_rong

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ปฏิบัติการแทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบุว่า สาเหตุที่ต้องลดเวลารายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ เนื่องจากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ขาดผู้ประกาศข่าวหลัก (สรยุทธ สุทัศนะจินดา) ส่งผลต่อเรทติ้งของรายการหายไปถึง 25% จากเดิมเคยได้ 2 กว่า เรทติ้งเวลานี้เหลือ 1.5-1.7 กระทบไปถึงรายได้จากค่าโฆษณาลดลงถึง 30% ประกอบเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมก็ลดลง และคู่แข่งก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงทำให้ช่อง 3 ต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนใหม่

การเลือกนำรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงมาออกอากาศเพราะถือเป็นต้นแบบของรายการวาไรตี้ผู้หญิงเป็นแบรนด์เก่าแก่อายุเกิน 10 ปี ซึ่งคนส่วนใหญ่จะรู้จักทันที ถือว่าเป็นแต้มต่อสำคัญที่ทีมงานช่อง 3 มั่นใจว่า จะมาช่วยดึงเรทติ้ง และแข่งขันกับช่องดิจิทัล ที่ล้วนแล้วแต่ก็มีรายการผู้หญิงเกือบทุกช่อง  ในขณะที่ช่อง 3 เอง ขาดรายการวาไรตี้ผู้หญิงอยู่ในผังมาได้พักใหญ่แล้ว 

นอกจากนี้ช่อง 3 ยังได้ย้ายเดิม รายการแจ๋ว  ที่ออกอากาศ ในช่อง 13 Family มาออกอากาศในช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 3 HD ฬฯช่วงบ่าย 14.45-15.30 น จันทร์ถึงศุกร์  เพื่อเติมผังรายการผู้หญิง  และเป็นอีกทางเลือกของเจ้าของสินค้าที่จะมาลงโฆษณา  โดยจะมีการปรับรายการใหม่ ด้วยการมี ผู้สื่อข่าว ออกไปทำข่าวผู้หญิงนอกสถานที่ และรายงานสดมาที่สถานี

3 ไตรมาส รายได้ติดลบ 9-10%

ขณะเดียวกันภาพรวมรายได้ของช่อง 3 ในช่วง 3 ไตรมาส (มกราคมกันยายน 2559 ) ที่ผ่านมา ยังคงติดลบ 9-10% เนื่องจาก รายได้จากรายการข่าว เรื่องเล่าเช้านี้ลดลงแล้ว ยังเป็นผลมาจากรายการในช่วงดึก หรือ เลทไนท์ ตั้งแต่ 23.00 . หายไป 30-40%  เพราะคนดูมีทางเลือกไปในรับชมอื่นๆ จากนิวมีเดีย แท็บเล็ท และสมาร์ทโฟน

ส่วนผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคมกันยายน 2559)  รายได้ยังคงติดลบ แต่ไม่มากนัก ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะดีกว่านี้ เพราะมีทั้งการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016 ถ่ายทอดสดโอลิมปิก  ละคร  แต่เนื่องจาก รายได้จากโอลิมปิกไม่เป็นไปตามขาด ทุกรายที่ร่วมกันถ่ายทดสดต้องประสบกับการขาดทุน  ประกอบกับ เจ้าของสินค้ารายใหญ่ (หนึ่งในนั้น คือ ยูนิลีเวอร์) ลดการใช้เงินโฆษณาในสื่อทีวีลง และหันไปทดลองลงโฆษณาในนิวมีเดีย  จึงเป็นดับเบิล อิมแพคส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของช่องลดลง