นี่ไม่ใช่แค่ 5 TRENDs ของ ปี 2017 แต่เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องทำ

บทความโดย : สโรจ เลาหศิริ – Rabbit’s Tale/ Moonshot Digital

ผมเชื่อว่าทุกคนรวมถึงนักการตลาดทุกท่านติดตามเทรนด์มาตั้งแต่ 5 – 6 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่ๆ มีทั้งเรื่องที่ตรงบ้าง ผิดบ้าง เรื่องที่พูดซ้ำๆ กันมาหลายปีบ้าง ดิจิทัล หรือ มาร์เกตติ้ง เทรนด์ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องของ Content Marketing, Influencer, Video Content, Mobile First, e-commerce ช่วงหลังๆ มาก็พบว่า VR, Live Streaming หรือ Cashless Society ก็กลายมาเป็นเทรนด์แทน

ถ้าสังเกตดีๆ มันก็เริ่มมาจากที่เจ้าของแพลตฟอร์ม หรือเจ้าของนวัตกรรม เทคโนโลยี ทำข่าว PR ออกมา และเริ่มมีกระแส ก็ถูกนักการตลาดจับมาเป็นเทรนด์ และก็นำมาทำข่าว PR ทำนายเทรนด์ให้คนแชร์ไปอีกที จนส่วนตัวแอบคิดด้วยซ้ำว่า เทรนด์เกิดขึ้นจากความตั้งใจอะไรบางอย่างที่จะส่งเสริมหรือเอื้อให้บริการ สินค้า หรือนวัตกรรมของตนเป็นที่รู้จัก

แต่ถ้าเรามองความหมายของคำว่าเทรนด์จริงๆ ถ้าให้แปล คือ แนวโน้ม กระแส หรือทิศทางที่จะเกิดขึ้น บางอย่างก็เป็นกระแสมาหลายปีติดกันจนกระทั่งผมมองว่ามันไม่ใช่เทรนด์แล้ว แต่เป็นมาตรฐาน (Norm) ที่ต้องทำต่างหาก ซึ่งอันที่จริงแล้วส่วนที่เราต้องกลับมามองและพิจารณาไม่ใช่การตามกระแสให้ทัน แต่เป็นการจับกระแสให้เหมาะสมกับบริบทของสถานการณ์ตลาด และบริษัทของเรามากกว่า

ถ้าจะถามเทรนด์ของปี 2017 ผมขออนุญาตแนะนำสิ่งที่ Marketing ต้อง “ทำ” ในปีนี้มากกว่าว่า ว่าถ้าคุณไม่เริ่มทำ ศึกษาหรือเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ คุณอาจจะตามไม่ทันโลกหรือการแข่งขันแล้วก็ได้

1.ทำ Content Marketing อย่างถูกต้องได้แล้ว ว่ามันคือ มาตรฐาน (Norm) ที่ต้องทำ

2_5trend_marketing

เปรียบเสมือน Mobile Marketing ที่วันนี้ถ้าใครไม่ทำ จะถือว่าไม่สามารถทำการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำ Content Marketing ถูกพูดอย่างแพร่หลายมากว่า 5-6 ปีแล้ว แต่อันที่จริงนักการตลาดเองก็ยังใช้ผิดๆ ถูกๆ อยู่ โดยการทำ Content Marketing ไม่ใช้การทำ โพสต์โซเชียล, Advertorial หรือการทำ รีวิว [SR] ในพันทิป แต่เป็นการทำเนื้อหาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บทความ วิดีโอ รายการ อินโฟกราฟิก โมชั่นกราฟิก แต่ที่สำคัญคือมันต้องมีคุณค่าต่อผู้บริโภค ต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมีปัญหาอะไร และ Content ของเราจะแก้ปัญหาอะไรให้ และไม่ยัดเยียดขายโดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก และที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องมอง Content Marketing เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่รายจ่ายทางการโฆษณาระยะสั้น เพราะ Content Marketing ไม่เคยสำเร็จจากการทำแค่ 3-4 ชิ้น

2. ทำความรู้จัก Social Media Commerce

การทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเชื่อม e-commerce ให้เข้ากับ Social Media ได้เพื่อทำให้ทำธุรกรรมผ่านทาง Social Media ได้ และมันเป็นหน้าที่ขององค์กรคุณที่จะต้องใส่ใจเรื่องนี้ และเตรียมศึกษาแต่เนิ่นๆ เพราะมันจะเข้ามาแน่นอนและจะพัฒนาอย่างรวดเร็วไม่เกินปีหน้า ทุกวันนี้ Facebook, Instagram, Pinterst, Line เองต่างก็พัฒนา Business API หรือช่องทางด้านการขายให้มากขึ้น หรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่ตอบรับกับการซื้อขายออนไลน์ เช่น Product Tag ที่สามารถ https://www.businessoffashion.com/articles/news-analysis/instagram-introduces-shoppable-photo-tags ที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะคุ้นเคยการซื้อของออนไลน์มากขึ้นโดยเฉพาะคนเมือง ทำให้ทุกอย่างสามารถทำได้ทันที

1_5trend_marketing

3. ทำ Marketing to Machine ไม่ใช่แค่คน

ทุกวันนี้เราโดนหุ่นยนต์ควบคุมไม่รู้ตัว ครับ มันคือ Algorithm ต่างๆ บนโลกที่คัดกรองข้อมูลจำนวนมหาศาลมาแสดงผลให้เราเห็นนั่นเอง เช่น Facebook News Feed หรือ Google Search Algorithm ที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกๆ สองเดือน ถ้าเราผลิตแต่ Content ให้กับผู้บริโภคโดยลืมออกแบบรูปแบบ Content ให้สอดรับกับ Algorithm ของสิ่งเหล่านี้ เราก็อาจจะไม่โดนระบบ Algorithm เลือกมาแสดงผลก็ได้

4. Digital Crisis Management หรือ รู้จักการรับมือวิกฤตบนโลกโซเชียล

สิ่งเหล่านี้ คือ พื้นฐานที่ทุกคนต้องมี เรามีกรณีศึกษาจำนวนมากทั้งในแง่ของแบรนด์เอง และดราม่ากรณีล่าสุดอย่าง กราบรถกู ที่เห็นแล้วว่า เรามีโอกาสในการจัดการวิกฤตแค่ครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ของคุณไปตลอด ดังนั้น การเตรียมรับมือ จัดตั้งกระบวนการรับมือ จัดบุคลากร และทำการอบรมทุกฝ่ายรวมถึงผู้บริหารในองค์กรตั้งแต่วันนี้ เป็นสิ่งจำเป็น

5. กลับมาใส่ใจ Business Model ของคุณมากกว่า Tactics ทาง Digital

ทุกวันนี้การเติบโตขึ้นของ Startup การรุกรานของกลุ่ม Tech Disruption จากต่างประเทศ หรือเทคโนโลยีที่พัฒนาไวแบบก้าวกระโดดจะเข้ามาเปลี่ยนแปลง Business Model หรือโครงสร้างในการทำธุรกิจของคุณอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มาในวันนี้คุณอาจจะต้องมองกลับมาดูจุดขาย หรือโครงสร้างธุรกิจว่า สินค้าหรือบริการของคุณยังเป็นที่ต้องการอยู่หรือเปล่า หรือสามารถถูกทดแทนได้ด้วยการเข้ามาของดิจิทัล เทคโนโลยี หรือ Startup ในปีหน้าเป็นปีที่ เราต้องถามตัวเองอย่างจริงจังว่า “เราสู้กับใครอยู่ ?”

และสิ่งที่เราควรทำจริงๆ ในการทำการตลาดในยุคทีดิจิทัลครองเมือง คือการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด มองหาความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคในวันที่เทคโนโลยี และนวัตกรรมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมอันใหญ่หลวงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติ นั่นล่ะคือการนำเทรนด์ และแคมเปญการตลาดที่ดัง และสำเร็จ ไม่เคยมีแคมเปญไหน “ทำตามเทรนด์” แต่มันคือทำตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ถูกต้อง โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับตลาดและสินค้าของเราต่างหาก

pic_saroj_new2

Profile
สโรจ เลาหศิริ
นักการตลาดไฟแรง ที่ปัจจุบันสวมหมวกเป็นผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์แห่ง แรบบิทส์ ดิจิทัล กรุ๊ป (Rabbit’s Tale & Moonshot)

เติบโตมาในยุคดิจิทัล และหลงใหลในการตลาดตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ตั้งเป้าจะยกระดับการทำการตลาดในเมืองไทยให้ทัดเทียมสู่เวทีระดับโลกให้ได้

Digital Marketing by Saroj Laohasiri
สงวนลิขสิทธิ์ทางบทความให้ใช้เผยแพร่ที่นิตยสาร Positioning เท่านั้น